บทที่ 149 ซากโบราณสถานของอารยธรรมโบราณ!
“โอกาส?” “ร่วมมือ?”
เย่เทียนมองหวังเยี่ยนด้วยความประหลาดใจเขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเดินทางมาเพราะเรื่องนี้นอกจากนี้หวังเยี่ยนเดาได้ถูกต้องเขาไม่ใช่สิทธิ์ของใครและไม่ได้มีภูมิหลังใดๆนี่ทําให้เธอดูออกว่าข้อได้เปรียบของเขามีเพียงพรสวรรค์เท่านั้น
ในยุคนี้พรสวรรค์เป็นสิ่งสําคัญที่สุดและมีความสําคัญมากกว่าการสืบทอดใดๆ
แต่การมีพรสวรรค์สูงไม่ได้หมายความว่าจะไม่จําเป็นต้องมีความรู้หรือคําแนะนํา
หากเย่เทียนไม่ได้รับประสบการณ์ในการบ่มเพาะของราชาฉีฟง เขาคงจะไม่สามารถสร้าง
รากฐานที่สมบูรณ์แบบขึ้นมาได้ ถึงแม้เขาจะสามารถคัดลอกพรสวรรค์ระดับลึกลับของคนอื่นได้แต่มันก็เท่านั้น หากไม่มีรากฐานที่สมบูรณ์แบบเขาก็จะไม่สามารถทําลายขีดจํากัด 100 เท่าได้พรสวรรค์ในการคัดลอกไม่ใช่พลังที่จัดการทุกสิ่งอย่างได้ มันไม่สามารถช่วยให้เขาทําลายขีด
จํากัดร้อยเท่า มีเพียงอัจฉริยะที่มีรากฐานสมบูรณ์แบบเท่านั้นที่จะสามารถทําลายมันดังนั้น
สําหรับโอกาสบางอย่างก็จําเป็นต้องต่อสู้และพยายามเพื่อที่จะได้มันมา
“พี่หวัง พี่ต้องการร่วมมือกับผมเรื่องอะไร?”
เย่เทียนถามออกมาตรงๆ
“ฉันมีโควต้าที่สามารถเข้าไปยังซากโบราณสถานของอารยธรรมโบราณที่คล้ายกับหอคอย
เทพสงคราม แต่ฉันรู้ดีว่าความแข็งแกร่งของฉันนั้นไม่สามารถเดินทางไปยังที่นั่นได้หากยังฝืนเข้าไปไม่เพียงแต่ฉันจะไม่ได้รับอะไรเลยแต่บางทีฉันก็อาจจะต้องเอาชีวิตไปทิ้งที่นั่นเลยก็ได้มี อัจฉริยะจากขุมกําลังใหญ่มากมายที่ต้องการโควต้านี้แต่ฉันก็ไม่ได้มอบให้พวกเขาตอนนี้ฉันจะมอบโควต้านี้ให้แก่นายแลกกับคําขอเดียวของฉันซึ่งก็คือนายต้องหาสมบัติที่สามารถปรับแต่ง
จิตวิญญาณได้มาให้ฉัน”หวังเยี่ยนบอกจุดประสงค์ของตัวเองออกมา
“ซากโบราณสถานปรักหักพังของอารยธรรมโบราณ?”
เย่เทียนถามด้วยความประหลาดใจ”มันคืออะไร?”
หวังเยี่ยนไม่แปลกใจเลยที่เย่เทียนไม่รู้เกี่ยวกับโบราณสถาน แม้แต่ในฐานจงไห่ก็มีเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้
“หอคอยเทพสงครามเป็นสมบัติที่หลงเหลือจากซากปรักหักพังของอารยธรรมโบราณ!”
หวังเหยี่ยนเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะอธิบายต่อว่า “ซากปรักหักพังของอารยธรรมโบราณคุณ
สามารถตีความได้ว่าเป็นมรดกที่ทิ้งไว้มาอย่างช้านานอาจจะหลายพันปีหลายหมื่นปีหรืออาจจะนานกว่านั้น”
“หรือว่ามีอารยธรรมของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นก่อนอารยธรรมมนุษย์?”
เย่เทียนตกใจ
เขาเองก็เคยสงสัยเหมือนกันว่าสมบัติล้ำค่าอย่างหอคอยเทพสงครามนั้นมาจากไหนตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว
หอคอยเทพสงครามเป็นสมบัติของอารยธรรมโบราณที่ถูกสร้างมานานเท่าไหร่แล้วไม่มีใครรู้เห็นได้ชัดว่าอารยธรรมที่สามารถสร้างหอคอยเทพสงครามขึ้นมาได้นั้นต้องมีความก้าวหน้าและ
ทรงพลังอย่างมาก
“แล้วคนของอารยธรรมเหล่านั้นล่ะ?”
เย่เทียนถาม
“บางทีมันอาจถูกล้างเผ่าพันธุ์ หรืออาจจะไปยังโลกอื่นใครจะรู้?” หวังเยี่ยนยักไหล่และแสดงให้เห็นว่าเธอก็ไม่รู้เหมือนกัน
เย่เทียนไม่ได้ถามอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้หวังเยี่ยนยังคงเล่าเกี่ยวกับโบราณสถานของอารยธรรมดังกล่าว”โบราณสถานแห่งนี้เรียกว่าวิหารแห่งแสงมันอยู่ในรอยแยกมิติมีสมบัติมากมายซ่อนอยู่อย่างเช่นสมบัติที่ช่วยเพิ่มพรสวรรค์อีกทั้งยังมีแม้กระทั่งสมบัติที่ช่วยรวบรวม พลังจิตปรับแต่งให้กลายเป็นห้วงจิตสํานึกเหตุผลที่ฐานจงไห่สามารถปลูกฝังผู้มีพรสวรรค์ระดับสูงมากมายก็เพราะว่าพวกเขาพึ่งพาสมบัติเหล่านี้มิฉะนั้นความแข็งแกร่งของฐานจงไห่จะทํากว่า
นี้ 1-2”
“ที่แห่งนั้นมีทักษะหรือไม่?”
เย่เทียนถามอย่างไม่ใส่ใจ
ตอนแรกเขาไม่ได้คาดหวังกับมันมากนัก แต่หวังเยี่ยนกลับพูดขึ้นมาว่า
“มี!! ทักษะการบ่มเพาะทักษะดาบทักษะกระบี่ทักษะหอกและสมบัติอื่นๆอีกมากมายของฐานทัพระดับสุดยอดก็ได้มาจากโบราณสถานของอารยธรรมโบราณวิหารแห่งแสงต้องมีทักษะดาบอย่างแน่นอนแม้แต่ทักษะดาบระดับทองก็ยังมีแต่ไม่ใช่ว่าจะหาเจอกันได้ง่ายๆ ”
“มีแม้แต่ทักษะดาบระดับทอง?”
เย่เทียนใจเต้นแรงเขาต้องการทักษะดาบระดับทองมาก หากเขามีทักษะดาวประดับทอง
ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างมาก”คุณจะให้โควต้านี้แก่ผมจริงๆเหรอ?
แม้ว่าเย่เทียนจะไม่รู้ว่ามีโควต้านี้มีมากเท่าไหร่แต่มันจะต้องล้ำค่ามากอย่างไม่ต้องสงสัย”แน่นอน!”หวังเยี่ยนยืนยัน”ฉันเชื่อในความแข็งแกร่งของนายและนี่คือการแลกเปลี่ยนที่เทียบเท่าเทียมซึ่งเป็นหลักการของพันธมิตรพเนจรของพวกนายใฝ่ฝันหามาโดยตลอดไม่ใช่หรอ?
ฉันมอบโควตานี้ให้นาย นายหาสมบัติที่ช่วยปรับแต่งจิตวิญญาณให้ฉันนี่คือการแลกเปลี่ยนฉันมีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับหลุดพ้นยากที่จะบรรลุถึงขอบเขตศักดิ์สิทธิ์ได้แต่หากมีสมบัติที่ช่วยปรับแต่งจิตวิญญาณมันจะช่วยฉันได้อย่างมากสมบัติเช่นนี้หายากเกินไปแม้แต่หลานชายของผู้ก่อตั้งหอทหารรับจ้างขวานสงคราม ยังไม่สามารถหามันมาได้ฉันจึงจําเป็นต้องตั้งความหวังไว้ที่ซากอารยธรรมโบราณแห่งนี้”
“ดี ผมตกลง!
เย่เทียนตอบตกลง
ทําไมเขาจะต้องปฏิเสธเรื่องนี้ในเมื่อมันได้ประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย?
หลังจากนั้นบอกข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิหารแห่งแสงหวังเยี่ยนก็จากไป
สิ่งที่ทําให้เย่เทียนสนใจก็คือผู้ที่สามารถเข้าไปในโบราณสถานของอารยธรรมโบราณนี้ไม่ได้มีเพียงคนของฐานจงไห้เท่านั้นแต่ยังมีผู้ฝึกยุทธจากฐานทัพระดับสุดยอดอื่นด้วย
ฐานระดับสุดยอดแห่งนั้นเรียกว่าฐานแม่น้ำแยงซีฐานนี้ถูกสร้างขึ้นที่ริมชายฝั่งของแม่น้ำแยงซีจึงตั้งชื่อนี้ขึ้นมา
ผู้ฝึกยุทธจักรฐานแม่น้ำแยงต้องต่อสู้กับสัตว์อสูรในแม่น้ำแยงซีทุกวัน และบริเวณใกล้เคียงยังมีรอยแยกมิติระดับห้าดาวถึงสองแห่ง แม้ว่าจํานวนคนของฐานทัพแม่น้ำแยงซีจะมีเพียงแค่ 20 ล้านคน ซึ่งน้อยกว่าฐานทัพจงไห่ถึง 10 ล้านคนแต่พลังต่อสู้ของพวกเขานั้นก็แข็งแกร่งมากเพราะพวกเขาต้องปะทะกับสัตว์อสูรนับไม่ถ้วนอยู่ตลอดเวลาในขณะที่ฐานจงไห้ไม่ได้ปะทะกับ
สัตว์อสูรเหล่านั้นบ่อยนัก
ก่อนจะกลับไปหวังเยี่ยนเตือนเขาว่า”ระวังผู้ฝึกยุทธ์คนอื่นให้ดีเมื่อเข้าไปในมิติวิหารแห่งแสงแม้แต่คนที่รู้จักก็อาจจะต่อสู้กันเองเพื่อแย่งสมบัตินับประสาอะไรกับคนแปลกหน้า”
เย่เทียนพยักหน้าเขารู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้วธรรมชาติของมนุษย์คือความเห็นแก่ตัวและความโลภผู้ฝึกยุทธที่มีคุณธรรมเกินไปไม่สามารถอยู่รอดได้ในยุคนี้
ผู้อ่อนแอจะถูกกลืนกินโดยผู้แข็งแกร่ง มีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอดผู้อ่อนแอจะถูกคัดออกนี่คือกฎของยุคสมัยปัจจุบัน
แม้แต่ตัวหวังเยี่ยนเขาก็ไม่ได้ไว้ใจทั้งหมด เขายังคงระมัดระวังตัวอยู่
เมื่อหวังเยี่ยนจากไปเธอได้ทิ้งเหรียญตราไว้ซึ่งเป็นหนึ่งในกุญแจสู่วิหารแห่งแสงกุญแจของวิหารแห่งแสงนี้มีทั้งหมด 365 ดอกซึ่งฐานจงไห่มีเพียง 108 ดอกเท่านั้น
ฐานทัพของจงไห่มีขุมกําลังระดับสูงมากมาย แต่กุญแจเข้าวิหารแห่งแสงนั้นมีเพียง 108 ดอกแต่ละกองกําลังครอบครองกุญแจเหล่านี้ไม่มากนักเห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้ล้ำค่าเป็นอย่างมากถึงแม้ว่าเย่เทียนจะเข้าร่วมกองกําลังชั้นนําอื่นๆผู้มีอํานาจเหล่านั้นก็ไม่มีทางให้โควต้าแก่เขาในฐานะสมาชิกใหม่
ถ้าไม่ใช่เพราะหวังเยี่ยนต้องการร่วมมือกับเขา เขาไม่มีทางที่จะได้รับกุญแจนี้มา
“ยังเหลือเวลาอีก 2 เดือน ตามที่หวังเยี่ยนกล่าวเหตุผลที่เหล่ายอดฝีมือที่ติดอันดับต้นๆของระดับราชายังอยู่ในระดับราชาต้องเป็นเพราะว่าข้อจํากัดในการเข้าสู่มิติวิหารแห่งแสงนี้อย่าง
แน่นอน! ”
เย่เทียนคาดเดา
ด้วยค่าเตือนของหวังหยาน เขาจึงยังไม่ทะลวงเข้าสู่ระดับศักดิ์สิทธิ์เขาสามารถทะลวงเข้าสู่ระดับศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อเขารู้ความลับของระดับราชาความเข้าใจของเขาก็เพิ่มขึ้น
อย่างมาก แต่ตัวของเย่เทียนนั้นไม่เหมือนกับคนอื่นเขาสามารถคัดลอกพรสวรรค์ของคนอื่นได้แต่แม้ว่าเขาจะสามารถคัดลอกพรสวรรค์ของคนอื่นได้แต่พรสวรรค์ระดับลึกลับที่แท้จริงนั้นหายากเกินไป
พรสวรรค์ในการป้องกันของเขาถึง 70% แล้วและเมื่อเขาไปถึงระดับศักสิทธ์พรสวรรค์ด้านการป้องกันของเขาจะกลายเป็นระดับลึกลับที่แท้จริง
แต่เขาก็ยังต้องการที่จะทําให้พรสวรรค์ระดับลึกลับปลอมอื่นๆ กลายเป็นพรสวรรค์ระดับลึกลับ
ที่แท้จริงด้วยเช่นกัน
“เป้าหมายต่อไปคือการคัดลอกพรสวรรค์ระดับความลึกลับปลอมเพื่อทําให้พรสวรรค์ของเรา
ไปถึง 70% !”
เย่เทียนตั้งเป้าหมายเล็กๆอีกเป้าหมายหนึ่ง