บทที่ 157 เปิดสมอง!
เมื่อเย่เทียนรู้ว่าเขาไม่สามารถได้รับสมบัติได้อีกต่อไปดังนั้นเขาจึงเลิกค้นหาสมบัติเพราะถึงอย่างไรอาคาร 1 หลังก็สามารถได้รับสมบัติได้เพียงชิ้นเดียวด้วยเวลาที่เหลือของนิตินี้เขาคงจะไม่ได้รับสมบัติมากมายนักดังนั้น
เย่เทียนจึงทุ่มเทไปกับการฝึกฝน
เขาฝึกฝนทักษะดาบระดับทอง เขตแดนดาบสวรรค์ ด้วยระดับความเข้าใจในเจตจํานงแห่งดาบของเขาเขาสามารถที่จะฝึกฝนทักษะนี้ไปจนถึงขั้นแรกได้
นอกจากการฝึกทักษะดาบระดับทองแล้ว เย่เทียนยังเริ่มบ่มเพาะอีกด้วย
ระดับศักดิ์สิทธิ์นั้นแตกต่างจากระดับราชา ระดับราชาเป็นการทะลวงจุดชีพจร ส่วนระดับศักดิ์สิทธิ์คือการเปิดสมอง จิตสํานึกศักดิ์สิทธิ์ของเขาเป็นพื้นฐานในการเปิดสมองหากไม่มีจิตสํานึกศักดิ์สิทธิ์ และดันทุรังที่จะเปิดสมองนั้นอาจส่งผลให้พิการหรืออาจจะร้ายแรงจนถึงชีวิต
ในศตวรรษที่ 21 ผู้เชี่ยวชาญหลายคนคิดว่ามนุษย์ปกติสามารถพัฒนาสมองได้เพียง 6 ถึง 10% แต่ในความเป็นจริงมนุษย์พัฒนาสมองได้เพียง 1%
มนุษย์สมัยก่อนมีความรู้เกี่ยวกับสมองน้อยเกินไป พวกเขาใช้งานสมองได้ไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์และนั่นเป็นเพียงแค่บางส่วนของสมองเท่านั้น ส่วนอื่นๆพวกเขาไม่มีความรู้เกี่ยวกับมันการจะเปิดสมองได้นั้นต้องกระทําการผ่านการฝึกฝนเมื่อผ่านกระบวนการแล้วทั้งความทรงจํา และความเข้าใจของเขาจะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ระดับศักดิ์สิทธิ์ต้องเปิดสมองส่วนลึก!
ทุกครั้งที่เปิดสมองได้ 1% พลังความเร็ว และการป้องกันของร่างกายจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่อ เปิดสมอง 100% ความแข็งแกร่งทางร่างกายจะเพิ่มขึ้นเป็น 10 มังกร!
ดังนั้น ยอดฝีมือระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุดหากไม่มีพรสวรรค์พิเศษพลังโจมตีของพวกเขาที่แข็งแกร่งที่สุดจะเทียบเท่ากับ 20 มังกร ซึ่งยังด้อยกว่าเย่เทียนในตอนนี้มาก
และถ้าหากผู้ฝึกยุทธ์ไม่เพิ่มพรสวรรค์ในตอนที่อยู่ในระดับราชา มันจะเป็นเรื่องยากมากที่จะเพิ่มพรสวรรค์เมื่ออยู่ในระดับศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่ยาพรสวรรค์ก็ไม่สามารถเพิ่มพรสวรรค์ให้กับระดับศักดิ์สิทธิ์ได้ราชา
ระดับศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีพรสวรรค์พิเศษ สถานะของพวกเขายังด้อยกว่าอัจฉริยะในการจัดอันดับแน่นอนว่าผู้ฝึกยุทธในระดับศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีพรสวรรค์พิเศษนั้นมีอยู่น้อยมากเพราะการจะฝึกฝนไปจนถึงระดับศักดิ์สิทธิ์ได้นั้นจะต้องมีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับดาราหรือสูงกว่า
หากอัจฉริยะเหล่านั้นไม่สามารถเพิ่มพรสวรรค์ของเขาได้ อาจจะกล่าวได้ว่าพวกเขาเป็นเพียงแค่คนที่ล้มเหลว
สามวันต่อมา
เย่เทียนได้ฝึกฝนทักษะดาบระดับทองไปจนถึงขั้นเล็ก สิบวันต่อมา ทักษะดาบระดับทองของเขาก็บรรลุถึงขั้นต้น
จนถึงตอนนี้ทักษะดาบระดับทองของเย่เทียนได้เข้าสู่คอขวดชั่วคราวและยากที่จะทะลวงผ่านอีกครั้ง
แต่ถึงอย่างนั้น เย่เทียนก็ยังรู้สึกพึงพอใจอย่างมาก เพราะทักษะดาบระดับทอง- เขตแดนดาบสวรรค์สามารถเพิ่มพลังโจมตีได้ถึง 15 เท่า แม้ว่าพลังโจมตีจะเพิ่มขึ้นไม่มากนักแต่ทักษะนี้ก็สามารถโจมตีแบบกลุ่มได้
ทักษะดาบชั้นนี้มีประโยชน์อย่างมากเมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูจํานวนมากด้วยพลังโจมตี 15 เท่า พลังการต่อสู้ของเย่เทียนก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก
เขาลองคํานวณดู ตอนนี้ความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาเท่ากับ 100,000 ช้างหากใช้พลังปราณจะเพิ่มขึ้นเป็น 200,000 ช้าง หรือก็คือ 0.2 มังกร เมื่อก้าวขึ้นเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์เมื่อเพิ่มพรสวรรค์ด้านพละกําลังระดับลึกลับ 90% พลังโจมตีของเขาจะเพิ่มขึ้น 80 เท่าบวกกับทักษะดาบสวรรค์อีก 15 เท่า เมื่อรวมกันแล้วพลังโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาจะเท่ากับ 240 มังกรเขาสามารถฆ่ากลุ่มผู้ฝึกยุทธระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุดได้ในพริบตา “เรานี้ช่างแข็งแกร่งจริงๆ!”
เย่เทียนสูดหายใจเข้าลึกๆ
แต่เขาก็รู้ดีว่าเขายังพึ่งทะลวงผ่านเข้าสู่ระดับศักดิ์สิทธิ์และสมองส่วนลึกของเขาเพิ่งเปิดไปเพียง 1% เท่านั้นและเมื่อเขาเปิดสมองอย่างต่อเนื่องความแข็งแกร่งของเขาจะยิ่งน่ากลัวมากขึ้น
ในวันหนึ่งระดับศักดิ์สิทธิ์หรือแม้แต่ระดับจักรพรรดิคนเหล่านั้นจะกลายเป็นเพียงมดปลวก
เวลาผ่านไปจนครบกําหนด 1 เดือน
เย่เทียนถูกส่งออกจากมิติและปรากฏตัวขึ้นในห้องโถงใหญ่ของวิหารแห่งแสงอย่างไรก็ตามในตอนนี้เขาไม่ได้ใช้พรสวรรค์การปลอมตัวแล้ว
ฝึกยกระดับราชาคนอื่นๆก็ถูกส่งออกมาเช่นกันแต่
ทันทีที่เขาออกมา จิตสังหารก็แผ่กระจายออกมาในอากาศ
“ซุนชิงเหอ แกหมายความว่าอย่างไร? แกกล้าไล่ล่าสังหารผู้ฝึกยุทธของฐานจงไห่!”
เฟิงเสวียน(ง้าวโลหิตวายุ)เคลื่อนตัวเข้าหาซุนชิงเหอทีละก้าว ๆ พลังของเขากดทับซุนชิงเหอทําให้สีหน้าของซุนชิงเหอเปลี่ยนไป
เพราะตอนนี้ฟงเสวียนก็อยู่ในระดับศักดิ์สิทธิ์แล้วเช่นกัน!
แน่นอนว่าเฟิงเสวียนไม่เหมือนกับซุนชิงเหอเขาได้รับสมบัติในมิติวิหารแห่งแสงและประสบความสําเร็จในการยกระดับพรสวรรค์ระดับลึกลับปลอมของเขาให้ไปถึง 70 เปอร์เซ็นต์ได้ก่อนที่
จะทะลวงผ่านไปยังระดับศักดิ์สิทธิ์ ในตอนนี้พรสวรรค์ด้านพละพละกําลังของเขาจึงกลายเป็นระดับลึกลับที่แท้จริงแล้ว
ด้วยเหตุนี้ พลังการต่อสู้ของเฟิงเสวียนจึงเพิ่มขึ้นหลายเท่าซึ่งเหนือกว่าซุนชิงเหอมาก “ฮ่มคนอ่อนแอถูกล่าโดยคนที่แข็งแกร่งกว่ามันก็ถูกแล้วหนิแล้วยังไงถ้าฉันฆ่าพวกมัน?คนของฐานจงไห่ฆ่าอัจฉริยะจากฐานแม่น้ําแยงซีของเราและยังขโมยสมบัติของพวกเราไปอีกด้วย! ‘
ซุนชิงเหอกล่าวอย่างโกรธเคือง
ในเวลานี้ดวงตาของเขากวาดมองไปทั่วทั้งห้องโถงใหญ่ แต่ไม่พบชายหนุ่มคนนั้น?
เห็นได้ชัดว่าคนทั้งหมดถูกส่งออกมาหมดแล้ว แต่คนที่เขาตามหากลับหายไป?
ก่อนที่ซุนชิงเหอจะทันได้คิด เฟิงเสวียนก็กล่าวออกมาอีกครั้ง
“เช่นนั้น ฉันแข็งแกร่งกว่าแก ฉันก็สามารถฆ่าแกได้ใช่หรือไม่?”
เมื่อซุนชิงเหอสัมผัสได้ถึงจิตสังหารเขาตกใจและรีบกล่าวว่า “เฟิงเสวียนแกบ้าไปแล้วหรือ?แกกล้าสังหารฉันที่นี่?คนที่อยู่เบื้องหลังฉันจะไม่ปล่อยแกไปแน่”
“แกคิดว่าฉันไม่มีจักรพรรดิ์อยู่เบื้องหลังหรอ?”
เฟิงเสวียนกล่าวอย่างเย็นชา
ณ จุดนี้เอง
อัจฉริยะอื่น ๆ –
ก็ช่วยกันพยายามเกลี้ยกล่อมคนทั้งสอง
เย่เทียนยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ
ซุนชิงเหอกลายเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์แล้วเขาจึงไม่ได้รับสมบัติใดๆเลยแม้แต่ชิ้นเดียวดังนั้นเขาจึงไล่ฆ่าอัจฉริยะจากฐานจงไห่เพื่อขโมยสมบัติของพวกเขาแต่สุดท้ายก็กลายเป็นเรื่องร้ายแรงดังนั้น
เฟิงเสวียนจึงเริ่มไล่ล่าซุนชิงเหอ หากไม่ใช่เพราะเขาถูกส่งออกมาจากมิติซุนชิงเหอคงตายไปแล้ว
ในขณะเดียวกัน
วิหารแห่งแสงก็เริ่มสั่นสะเทือน
“วิหารแห่งแสงกําลังจะหายไปแล้ว ทุกคนรีบออกไปจากที่นี้เถอะ!”
เมื่อได้ยินดังนั้นผู้ฝึกยุทธทั้งหมดจึงพุ่งออกจากวิหาร
จากนั้นราชาแต่ละคนก็เริ่มจากไป แต่เฟิงเสวียนกลับไม่ยอมให้ซุนชิงเหอจากไป เพราะหนึ่งในคนที่ซุนซิงเหอสังหาร มาจากหอทหารรับจ้างขวานสงคาม
ขณะที่เย่เทียนเห็นว่าเฟิงเสวียนกําลังจะเปิดฉากต่อสู้กับซุนชิงเหอเงาร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นเป็นผู้ฝึกยุทธระดับจักรพรรดิ์
“ท่านปู!”
เมื่อซุนชิงเหอเห็นจักรพรรดิ์คนนั้น เขาก็ตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น
“จักรพรรดิชิงหยุน(เมฆามรกต)!”
เมื่อเฟิงเสวียนเห็นจักรพรรดิ์ชิงหยุนสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
แต่ไม่นานจักรพรรดิ์จากหอทหารรับจ้างขวานสงครามก็ปรากฏตัวขึ้นเช่นกัน
เมื่อจักรพรรดิ์ผู้นั้นปรากฏตัวเขาก็กล่าวขึ้นว่า”จักรพรรดิเมฆามรกตหินปราณ 100,000 ก้อน
สมบัติ 10 ชิ้นที่ช่วยเพิ่มพรสวรรค์พิเศษระดับราชานี่คือค่าชดเชย ไม่อย่างนั้นข้าจะเปิดโปงเรื่องนี้ซะ
“จักรพรรดิเสวียน ข้ายินดีมอบหินปราณและสมบัติตามที่ท่านต้องการ!”
จักรพรรดิ ชิงหยุดยอมรับความพ่ายแพ้
“จักรพรรดิเสวียน!”
สีหน้าของเย่เทียนเปลี่ยนไป เขารู้ถึงเบื้องหลังของจักรพรรดิ์คนนี้ เขาเป็นหนึ่งใน 36 จักรพรรดิในการจัดอันดับแม้ว่าเขาจะอยู่ในอันดับที่ 17 แต่ความสามารถของเขาก็น่ากลัวเป็นอย่างมาก
ตัวตนของเขาต้องเหนือกว่าจักรพรรดิชิงหยุนอย่างแน่นอน
เย่เทียนตรวจสอบพรสวรรค์ของพวกเขาในใจ แล้วตอนนี้เขารู้สึกเสียดายเป็นอย่างมากพรสวรรค์ในการคัดลอกของเขายังคงคูลดาวน์อยู่ มิฉะนั้นเขาคงจะคัดลอกพรสวรรค์ของจักรพรรดิทั้ง 2 แล้ว
เฟิงเสวียนมีพรสวรรค์ด้านความแข็งแกร่งระดับลึกลับที่แท้จริง จักรพรรดิเสวียนมีพรสวรรค์โลหิตคลั่งระดับลึกลับที่แท้จริง
“ช่างมันเถอะ ไว้ค่อยคัดลอกมันทีหลังก็ได้!”
เย่เทียนพูดอย่างจนปัญญา