บทที่ 173 เจตจํานงแห่งดาบ วิถีดาบ!
เย่เทียนไม่ได้รออยู่นอกหอคอยสงครามมิฉะนั้นมันคงจะทําให้คนอื่นสงสัย
เขาเดินเข้าไปในหอคอยเทพสงครามพื้นที่ของหอคอยเทพสงครามนั้นมีขนาดใหญ่มากเขาสามารถเดินไปรอบๆโดยที่ไม่ผิดสังเกต
เสวี่ยนเฟิงท้าทายบททดสอบของหอคอยเทพสงครามยังไม่นาน ผ่านไป 2 ชั่วโมงการท้าทายก็สิ้นสุดลง
“อันดับที่ 37 ของประกาศศักดิ์สิทธิ์:เสวี่ยนเฟิง(หอทหารรับจ้างขวานสงครามศึก),ชั้นที่ 11ของหอคอยเทพสงครามพลังการต่อสู้ระดับมหาปราชญ์”
เมื่อการจัดอันดับนี้ปรากฏขึ้น หลายคนก็เริ่มพูดคุยกัน
“อันดับของเสวี่ยนเฟิงต่ำกว่าเย่เทียนฉันจําได้ว่าเสวียนเฟิงและเย่เทียนเกือบทะลวงเข้าสู่ระดับศักดิ์สิทธิ์เกือบจะพร้อมๆกันทําไมความแข็งแกร่งของพวกเขาถึงห่างชั้นกันมากขนาดนนี้?ก่อนหน้านี้เสวี่ยนเฟิงเป็นอันดับ 1 ของการจัดอันดับรายชื่อราชาแต่เย่เทียนอยู่ในอันดับ 7!” “อันดับของการจัดอันดับราชานั้นไม่นับว่าเป็นอะไร อันดับที่หนึ่งและเจ็ดของการจัดอันดับ
ราชานั้นไม่ได้มีช่องว่างระวังกันมากนักพวกเขาล้วนมีพลังการต่อสู้ราชาเจ็ดดารานอกจากนี้เย่เทียนยังเป็นผู้ที่สามารถทําลายสถิติการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดอีกด้วยฉันคิดว่าความเร็วของเขาอาจจะไม่มากนักดังนั้นอันดับในระดับราชาของเขาจึงไม่ได้สูงเท่าเสงี่ยนเฟิงแต่หากพูดถึงการ
โจมตีพลังโจมตีของเย่เทียนน่ากลัวกว่าเสวียนเฟิงเสียอีก!ว่ากันว่าหลังจากก้าวเข้าสู่ระดับศักดิ์สิทธิ์จําเป็นต้องเปิดพื้นที่สมองส่วนลึกเพื่อยกระดับการบ่มเพาะเย่เทียนอาจจะมีสมบัติบาง
อย่างที่ช่วยในการเปิดพื้นที่สมองดังนั้นการบ่มเพาะของเย่เทียนจึงเร็วกว่าเสวี่ยนเฟิง!”
“ใช่แล้ว ทุกครั้งที่สามารถเปิดพื้นที่สมองได้ 1% ความแข็งแกร่งจะพุ่งสูงขึ้นมาก!ไม่ว่าจะเป็นเย่เทียนหรือเสวี่ยนเฟิงเส้นทางระดับศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาเพิ่งเริ่มต้นขึ้นในอนาคต,เขาทั้งสองจะเข้าสู่อันดับต้นๆของการจัดอันดับระดับศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอนจนถึงตอนนั้นใครเร็วกว่ากันพวกเราก็จะได้แต่คอยดูหรภายในหอคอยเทพสงคราม
เสวี่ยนเฟิงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยในขณะที่ก้าวออกจากมิติเสมือนจริง
ในช่วงเวลานี้ภายใต้ทรัพยากรของหอทหารรับจ้างขวานเขาได้รับสมบัติมากมายที่ช่วยเปิด
พื้นที่สมองในที่สุดเขาก็เปิดสมองได้ถึง 3%เขาได้ยินมาว่าเย่เทียนท้าทายหอคอยเทพสงครามและสามารถผ่านชั้นที่สิบสองได้ เขาก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยหลังจากออกจากการปิดการฝึกฝน
เขาจึงมุ่งหน้ามายังหอคอยเทพสงครามเพื่อท้าทายในทันที
แต่ผลที่ได้กลับไม่เป็นดังที่หวัง!
แม้ว่าเขาจะสามารถผ่านชั้นที่ 11 มาได้ แต่เมื่อเข้าสู่ชั้นที่ 12 เขาก็ถูกนักรบชุดด่าฆ่าภายใน 3 กระบวนท่าโดยที่ไม่สามารถต้านทานอะไรได้เลย
เย่เทียนสามารถสังหารนักรบชุดดําในขั้นที่สิบสองได้ นั่นหมายความว่าเย่เทียนสามารถฆ่าเขาได้อย่างง่ายดาย
เขาถูกอัจฉริยะระดับราชาเจ็ดดาราเช่นเดียวกับเขาเอาชนะได้อย่างง่ายดาย จึงทําให้เขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
“ฮ่ม เจ้าหมอนั้นต้องได้รับสมบัติล้ําค่ามากมายในมิติวิหารแห่งแสงอย่างแน่นอนบางทีเขาอาจเพิ่มพรสวรรค์ด้านความแข็งแกร่งระดับลึกลับปลอมเป็นพรสวรรค์ด้านความแข็งแกร่งระดับ
ลึกลับที่แท้จริง แต่เราก็ยังมีสมบัติมากมายที่ช่วยเปิดพื้นสมองบางที่ในอนาคตเราอาจจะเอาชนะเขาได! ”
เสวี่ยนเฟิงคิดเช่นนี้
แต่เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าแท้จริงแล้วพรสวรรค์ด้านพละกําลังของเย่เทียนยังเป็นระดับลึกลับปลอมแต่พรสวรรค์ด้านดาบของเย่เทียนนั้นแข็งแกร่งเกินไปและเย่เทียนยังฝึกฝนทักษะดาบระดับทองอีก 2 ทักษะและยังมีพรสวรรค์อื่น ๆ อีกมากมายให้เลือกใช้
ความห่างชั้นระหว่างเสวี่ยนเฟิงกับเย่เทียนนั้นแตกต่างกันราวกับคนธรรมดาและอัจฉริยะถ้าเย่เทียนต้องการเขาสามารถผ่านชั้นที่สิบสามหรือแม้แต่ขั้นที่สิบสี่ได้อย่างง่ายดาย
เย่เทียนเห็นเสวี่ยนเฟิงออกมาแต่เขาไม่คิดว่าเสวี่ยนเฟิงจะมุ่งหน้าเข้าไปในมิติศิลาเทพสงครามต่อ
เมื่อเห็นดังนั้นเย่เทียนจึงจําเป็นต้องเข้าไปในมิติศิลาเทพสงครามอย่างช่วยไม่ได้
เย่เทียนนั่งอยู่บนแผ่นหินในมิติศิลาเทพสงครามและครุ่นคิดถึงสิ่งที่ตัวเองควรจะทําความเข้าใจรูปแบบค่ายกล?
แม้ว่าเขาจะสามารถเรียนรู้ต่อไปได้แต่เขาก็ไม่ได้ต้องการพัฒนาด้านค่ายกลอีกต่อไปและเขาก็ยังไม่ได้คัดลอกพรสวรรค์ด้านค่ายกลระดับดาราของหลินอี้อี้
ในอนาคตเย่เทียนวางแผนที่จะฝึกฝนหลินอี้อี้ให้กลายเป็นจอมเวทย์ค่ายกลที่แข็งแกร่งและปล่อยให้หลินอี้อี้ดูแลรับผิดชอบเรื่องค่ายกลในอนาคต
“หรือควรจะทําความเข้าใจเจตจํานงแห่งดาบ?”
เย่เทียนครุ่นคิด
ระดับเจตจํานงดาบของเขาบรรลุถึงสิบส่วนกลายเป็นขั้นที่สมบูรณ์แบบแล้วแต่หลังจากเจตจํา
นงดาบแล้วยังมีขอบเขตอื่นอยู่อีกหรือไม่เขาก็ไม่รู้เช่นกัน
แต่เย่เทียนก็คิดว่ามันมีโอกาสที่จะเป็นไปได้ถึงอย่างไรพรสวรรค์ด้านดาบของเขาก็เป็น
พรสวรรค์ระดับดาราบางทีอาจจะมีพรสวรรค์ด้านดาบระดับจันทราหรือแม้แต่ระดับตะวันก็เป็นได้
แต่เท่าที่เขารู้พรสวรรค์ด้านดาบระดับสูงสุดสามารถบรรลุเจตจํานงแห่งดาบขั้นสมบูรณ์แบบได้แต่จําเป็นต้องใช้เวลา
ถ้าเช่นนั้น ในเมื่อมีพรสวรรค์ด้านดาบระดับที่สูงขึ้นจะไม่มีขั้นต่อไปของเจตจํานงค์แห่งดาบหรอกหรือ?เลย
เช่นนั้นพรสวรรค์ด้านดาบระดับดาราจะมีประโยชน์อะไร?ของตกแต่ง?มันไม่สมเหตุสมผล
เย่เทียนรู้สึกว่าเหตุผลที่ฐานจงไห่ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็เพราะว่าในฐานจงไห่นั้นไม่มีผู้มีพรสวรรค์ด้านดาบระดับดารา
“ในเมื่อไม่มีงั้นเราจะหาคําตอบด้วยตัวเอง!
เย่เทียนตัดสินใจ
ดังนั้น
เขาเปิดใช้งานพรสวรรค์ด้านเวลาเร่งเวลาขึ้น 3 เท่าและใช้ประโยชน์จากศิลาเทพสงครามเพื่อทําความเข้าใจขอบเขตเหนือกว่าเจตจํานงแห่งดาบหนึ่งวันผ่านไป!
หาวันผ่านไป!
สิบวันผ่านไป!
เย่เทียนดูเหมือนจะลืมเลือนทุกสิ่งลืมแม้กระทั่งเป้าหมายของเขาในการเดินทางมายังหอคอยเทพสงครามครั้งนี้จิตสํานึกของเขาทั้งหมดทุ่มเทให้กับการทําความเข้าใจทุกสิ่งที่เกี่ยวกับดาบ
พรสวรรค์ด้านดาบระดับดาราอันทรงพลังได้ช่วยเขา ความเข้าใจใหม่เริ่มปรากฏขึ้นเจตจํานงดาบ 100% ดูเหมือนจะมีความลึกลับบางอย่างทําให้เย่เทียนสัมผัสได้ถึงธรณีประตูบานใหม่อีกสามวันผ่านไป
เย่เทียนค่อยๆเปิดตาของเขาขึ้นดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความปิติยินดี
“ทะลวงผ่านแล้วหลังเจตจํานงแห่งดาบสิบส่วนยังมีขอบเขตใหม่อยู่จริงๆระดับนี้เรียกว่าคือขอบเขตแห่งดาบ!ซึ่งก็คือเต๋าแห่งดาบ!”
เย่เทียนพึมพาในใจ
เต๋าแห่งดาบเต็มไปด้วยพลังแห่งกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวกับดาบนี้เป็นขอบเขตเริ่มต้นของวิถีแห่งดาบราวกับว่าเขานั้นได้เปิดประตูบานใหม่ออก
อย่างไรก็ตาม เต๋าแห่งดาบนั้นลึกลับจนเกินไป อย่างน้อยการจะทําความเข้าใจเต๋าแห่งดาบได้จะต้องมีพรสวรรค์ระดับดารา
แต่มันแตกต่างกับพรสวรรค์ระดับลึกลับหลายคนสามารถใช้สมบัติเพื่อยกระดับพรสวรรค์และเร่งความเร็วในการทําความเข้าใจความลึกลับของพรสวรรค์เพื่อบรรลุในขั้นที่สูงขึ้นทีละน้อย
ในโลกและในนั้น พรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับดาราและพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับจันทรามีส่วนช่วยในการทําความเข้าใจเป็นอย่างมากบวกกับสมบัติต่างๆคนเหล่านั้นจึงมีโอกาสสูงที่จะ สามารถยกระดับพรสวรรค์ลึกลับปลอมของพวกเขาให้ถึง 70%
เมื่อระดับราชาเลื่อนขั้นเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์พรสวรรค์ของพวกเขาจะกลายเป็นพรสวรรค์ลึกลับที่แท้จริง
การถือกําเนิดของพรสวรรค์ระดับลึกลับนั้นสามารถเรียนรู้จากผู้อื่นได้ แต่การถือกําเนิดของเต๋าแห่งดาบไม่ได้มีเส้นทางที่ชัดเจน และเย่เทียนก็เป็นผู้ฝึกยุทธเพียงคนเดียวในฐานจงไห่ที่มี
พรสวรรค์ด้านดาบระดับดารา
เขาเพิ่งเข้าใจเต๋าแห่งดาบเพียงเส้นขนเท่านั้น แต่ในเบื้องต้นเขาก็รู้ในส่วนของเส้นทางต่อไปแล้วแต่นี้ยังถือว่าเพิ่งจะก้าวข้ามผ่านธรณีประตูมาเท่านั้นยังต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าจะก้าว
ข้ามได้ 10% ของวิถีแห่งดาบ
แต่ถึงแม้จะเข้าใจเต๋าแห่งดาบแล้วมันก็ยังไม่มีประโยชน์กับเขามากนักเพราะเขายังไม่มีทักษะระดับที่เหนือกว่าระดับทอง
ถึงแม้ว่ามีความเป็นไปได้ที่เขาสามารถสร้างทักษะดาบระดับที่เหนือกว่าระดับทองขึ้นมาด้วยตนเอง แต่มันยังคงต้องใช้เวลานานเกินไป
หลังจากทําความเข้าใจเต๋าแห่งดาบสี่วันเย่เทียนก็เข้าสู่เต๋าแห่งดาบอย่างสมบูรณ์
ในเวลานี้เขาพบว่าเสวี่ยนเฟิงยังคงทําความเข้าใจเจตจํานงขวานอยู่ที่นี่แสดงให้เห็นว่าเสวี่ยนเฟิงเพิ่งได้รับคะแนนสะสมมามากมาย คงจะเก็บตัวที่นี่อยู่อีกสักระยะแต่เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ที่นี่นานเกินไป
ในเมื่อเพิ่งทะลวงเข้าสู่ขอบเขตจะดับศักดิ์สิทธิ์จำเป็นต้องเปิดพื้นที่สมองและทุกครั้งที่เปิดพื้นที่สมองได้ 1% ความแข็งแกร่งของเขาจะพุ่งสูงขึ้นเสวียนเฟิงย่อมรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้วเขาคงไม่
ทําความเข้าใจเจตนารมณ์แห่งขวานนานเกินไป
เป็นอย่างที่คาดไว้
เมื่อถึงวันที่ 18
เสวี่ยนเฟิงก็ลุกขึ้นหันหลังเดินจากไป และเย่เทียนก็จากไปเช่นกัน
เมื่อทั้งสองเดินออกจากหอคอยเทพสงครามเสวียนเฟิงก็มองไปที่เย่เทียนด้วยความสงสัยเขาเริ่มเอะใจว่าเย่เทียนจงใจออกมาพร้อมเขาหรือไม่
“มหาปราชญ์เย่เทียน!”
“มหาปราชญ์เสวี่ยนเฟิง!
เสียงตะโกนดังมาจากนอกหอคอยเทพสงคราม
เย่เทียนดูเหมือนจะไม่สนใจเสวี่ยนเฟิงเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าเขาออกมาพร้อมกันโดยบังเอิญและมุ่งหน้าออกไปยังทิศทางอื่น และเสวียนเฟิงก็ไม่ได้ทักทายเย่เทียนเช่นกันเขาเดิน
ตรงไปยังสํานักงานใหญ่ของหอทหารรับจ้างขวานสงคราม
แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือเย่เทียนได้แอบคัดลอกพรสวรรค์ด้านพละกําลังระดับลึกลับของเขาไปแล้วและยังคัดลอกพรสวรรค์ด้านความเร็วระดับลึกลับปลอม 40%ของเขาอีกด้วย