บทที่ 239 บดขยี้จ้าวแห่งสัตว์อสูร!
เย่เทียนปลดเปลื้องพรสวรรค์ล่องหนและปลดปล่อยกลิ่นอายของเขาออกมา
ตูม!!
ทะเลสาบโลหิตเดือดพล่านศรีษะวัวขนาดใหญ่โผล่ออกมาจากทะเลสาบ
เหนือศีรษะมีเขาทั้งสิบเปล่งแสงเย็นเยียบออกมาดวงตาคู่โตสีโลหิตฉายแววอันน่าสยดสยองหากคนทั่วไปหันมองแค่เพียงแวบเดียวจะต้องสั่นไปทั้งตัวจ้าวอสูรกระทิงเขียวโผล่ออกมาจากทะเลสาปโลหิตเผชิญหน้ากับเย่เทียน
“มนุษย์!”
กระทิงเขียวเปล่งเสียงทางจิตสํานึกออกมาระลอกคลื่นจิตสํานึกนี้สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งภูเขา
“จ้าวอสูรกระทิงเขียว!
เย่เทียนเรียกดาบระดับดาราออกมาพร้อมปลดปล่อยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่เดือดพล่าน
ตูม!!!!
จ้าวอสูรกระทิงเขียวไม่พูดพร่ำทําเพลงพรสวรรค์ด้านแรงโน้มถ่วงระดับสูงสุดถูกเปิดใช้งาน
แรงโน้มถ่วงอันมหาศาลแผ่ปกคลุมทั่วบริเวณราวกับว่ามันสามารถทําให้พื้นที่ทั้งหมดแทบจะพังทะลายลงแม้แต่ระดับจักรพรรดิทั่วไปเมื่อต้องเผชิญหน้ากับพรสวรรค์ด้านแรงโน้มถ่วงระดับสูงสุดของจ้าวอสูรกระทิงเขียวคงไม่แม้แต่จะสามารถขยับตัวได้
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเย่เทียนพรสวรรค์ด้านแรงโน้มถ่วงระดับสูงสุดกลับกลายเป็นเพียงขยะ!
“กักขังมิติ!”
ตูม!
พลังแห่งมิติกระเพื่อมออกมาและยังเป็นพรสวรรค์ด้านมิติระดับลึกลับปลอมเย่เทียนใช้มันออกมาโดยไม่ได้ออมมือเลแม้แต่น้อย
วินาทีนั้น พื้นที่ทั้งหมดล้วนถูกแช่แข็งแม้แต่แรงโน้มถ่วงก็ยังมิอาจที่จะทําอะไรได้ภายใต้ห้วงมิติที่ถูกแช่แข็งนี้
“อะไรกัน? เจ้ามีพรสวรรค์ด้านมิติระดับสูงสุด?ไม่สิมันเป็นพลังลึกลับ เจ้ามีพรสวรรค์ด้านมิติระดับลึกลับ!!!!”จ้าวอสูรกระทิงเขียวตกตะลึงไปในทันที
นี่เป็นครั้งที่สองที่มันได้พบกับเจ้าของพรสวรรค์ด้านมิติระดับสูงสุด ครั้งแรกเป็นอสูรมายาและครั้งที่สองคือเย่เทียนที่เป็นมนุษย์
อย่างไรก็ตามสัตว์อสูรมายาที่มันเคยเจอก็คือเย่เทียนที่ปลอมตัวเป็นอสูรมายาแต่จ้าวอสูรกระทิงฟ้าไม่รู้เรื่องนี้
“มนุษย์ แม้ว่าเจ้าจะมีพรสวรรค์ด้านมิติระดับลึกลับแล้วยังไง? ข้าเป็นจ้าวแห่งสัตว์อสูรที่สามารถเปลี่ยนแปลงสายเลือดได้ถึง 11 ครั้งเจ้าสามารถทําลายขีดจํากัดของร่างกายได้แค่แปดครั้งเท่านั้น ยังไม่แม้แต่เปลี่ยนแปลงร่างกายครั้งใหญ่เจ้าไม่มีสิทธิ์แม้แต่ยืนอยู่ตรงหน้าข้า ข้าได้ยินมาว่าเลือดเนื้อของมนุษย์นั้นรสชาติดีเป็นอย่างมากตัวข้านั้นยังไม่เคยได้ลิ้มลองมาก่อนแต่วันนี้ข้าจะได้ลิ้มลองรสชาติของมนุษย์ระดับจักรพรรดิ!”
จ้าวอสูรกระทิงเขียวกล่าวอย่างเย็นชาริมฝีปากของมันมีน้ําลายไหลออกมา
“แกจะกินฉัน? งั้นก็ต้องดูก่อนพวกแกมีความสามารถนั้นหรือไม่!”
เย่เทียนเปิดใช้งานทักษะหนามวิญญาณทันที
วู๊ซ!
หนามวิญญาณถูกปลดปล่อยออกไปโดยที่จ้าวอสูรกระทิงเขียวไม่สามารถสัมผัสได้ถึงการโจมตีของหนามวิญญาณเลยแม้แต่น้อย แต่เมื่อมันสัมผัสได้หนามวิญญาณก็พุ่งเข้าสู่วิญญาณ
ของมันไปแล้ว
เมื่อมันสัมผัสได้ถึงการโจมตีทางวิญญาณในตอนนี้มันสายเกินไปที่จะหลบ พราะหนามวิญญาณได้มาถึงอาณาเขตวิญญาณของมันแล้ว
ตูม!!
ภายในอาณาเขตวิญญาณของจ้าวอสูรกระทิงเขียว มีร่างวิญญาณกระทิงเขียวสิบเขาขนาดใหญ่ปะทะกับหนามวิญญาณ
จั๊ววว!
หนามวิญญาณพุ่งทะลุร่างวิญญาณของจ้าวอสูรกระทิงเขียว พลังวิญญาณจํานวนมากก็พังทลายลง
พริบตาเดียว วิญญาณของจ้าวอสูรกระทิงฟ้าก็หดเล็กลง
“อ๊าากกกกกกก!!”
จ้าวอสูรกระทิงเขียวกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและความโกรธเกรี้ยว
“พรสวรรค์หนามวิญญาณไม่สามารถฆ่ามันได!”
เย่เทียนไม่ได้แปลกใจนัก ทักษะหนามวิญญาณสามารถฆ่าระดับจักรพรรดิได้ในพริบตาแต่จ้าวอสูรกระทิงเขียวเป็นถึงจ้าวแห่งสัตว์อสูรที่ผ่านการเปลี่ยนแปลงทางสายเลือดมามากถึง 11
ครั้ง พลังวิญญาณของมันจึงแข็งแกร่งกว่าสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิทั่วไปถึงสิบเท่าแม้แต่ความแข็งแกร่งของวิญญาณเย่เทียนก็ไม่สามารถเทียบได้กับจ้าวอสูรกระทิงเขียว
นอกเสียจากว่าเย่เทียนจะทําลายขีดจํากัดของร่างกายถึง 10 ครั้ง และหลังจากเสร็จสิ้นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เขาก็จะสามารถทําลายวิญญาณของจ้าวอสูรกระทิงเขียวได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
มิฉะนั้นเขาจะต้องใช้ทักษะหนามวิญญาณโจมตีจ้าวอสรูกระทิงเขียวอย่างต่อเนื่องจึงจะสามารถทําลายวิญญาณของจําวอสูรกระทั่งเขียวได้
แต่เขาไม่สามารถปลดปล่อยทักษะหนามวิญญาณออกไปโจมตีได้มากมายขนาดนั้นต้องใช้เวลาประมาณ 10 วินาทีเขาจึงจะสามารถปลดปล่อยหนามวิญญาณออกไปได้อีกครั้ง
แม้ว่าสิบวินาทีอาจจะดูเหมือนว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่สําหรับเย่เทียนและจําวอสูรกระทิงเขียวสิบวินาทีก็สามารถตัดสินเป็นตายได้
แต่เย่เทียนไม่ได้มีแค่พรสวรรค์หนามวิญญาณระดับสูงสุดเท่านั้น เขายังมีพรสวรรค์หอกวิญญาณระดับสูงสุดอีกด้วยท็อปอีกด้วย!
พรสวรรค์หอกวิญญาณเดิมทีมันเป็นพรสวรรค์ระดับสูง แต่เย่เทียนได้ใช้หยดนําเซียนพรสวรรค์เพื่อยกระดับมันให้อยู่ในระดับสูงสุด พลังโจมตีของมันจึงไม่ได้ด้อยไปกว่าหนามวิญญาณเลย
ตูม!
หอกวิญญาณทะลุผ่านวิญญาณของจ้าวอสูรกระทิงเขียวอีกครั้ง
การโจมตีนี้ทําให้วิญญาณของจ้าวอสูรกระทิงเขียวถูกทําลายไปอีกเล็กน้อยทันใดนั้นมันก็กรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดอีกครั้งกลิ่นอายของมันเริ่มลดลงเล็กน้อยแต่ความแข็งแกร่งของมันลดลงอย่างมาก
“มนุษย์ ข้าจะฆ่าเจ้า!”
เมื่อจ้าวอสูรกระทิงเขียวเริ่มเคลื่อนไหวล ภูเขาทั้งลูกก็พังทลายลง
ตูม !!!!
ความโกรธของมันระเบิดออกมาขณะที่มันพุ่งเข้าใส่เย่เทียน
เย่เทียนไม่กล้าดูถูกพลังโจมตีของจ้าวอสูรกระทิงเขียว เพราะอีกฝ่ายเป็นถึงจ้าวแห่งสัตว์อสูรที่เปลี่ยนแปลงสายเลือดมากถึงสิบเอ็ดครั้ง ความแข็งแกร่งของมันย่อมไม่สามารถประมาทได้
เขาเปิดใช้งานพรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับลึกลับและพรสวรรค์เบญจธาตุผันแปร-เกราะเหล็กระดับพระเจ้า
ด้วยพรสวรรค์ทั้งสองนี้พลังป้องกันของเขาเพิ่มขึ้น 600 เท่าแม้ว่าเย่เทียนจะโดนจ้าวอสูรกระทิงเขียวโจมตีแต่เขาก็จะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสนอกจากนี้เขายังมีทักษะเคลื่อนย้ายพริบตา
พรสวรรค์ด้านเวลาและพรสวรรค์อื่นๆการเปิดใช้งานพรสวรรค์ด้านการป้องกันเป็นเพียงการรับประกันว่าเขาจะปลอดภัยเท่านั้น
“พรสวรรค์ด้านพละกําลัง เปิด!”
“ทักษะดาบตัดดารา !
ทักษะดาบระดับตํานาน ตัดดาราที่ฝึกฝนมาจนถึงขั้นสมบูรณ์แบบแล้ว มันสามารถเพิ่มพลังโจมตีให้แก่เขาได้ถึง 80 เท่า บวกกับพรสวรรค์ด้านพละกําลังระดับลึกลับที่สามารถเพิ่มพลังโจมตีได้ 100 เท่า พรสวรรค์ทั้งสองนี้เพียงพอที่จะทําให้พลังโจมตีของเย่เทียนเพิ่มขึ้นถึง 8,000 เท่าเมื่อรวมกับพละกําลัง 800 มังกร และพละปราณพลังโจมตีทั้งหมดของเขาจะเพิ่มขึ้นเป็น12.8 ล้านมังกร
นี่มันพลังโจมตีที่น่ากลัวขนาดไหนกัน!
ในแง่ของพลังโจมตี พลังโจมตีของจ้าวอสูรกระทิงเขียวไม่ได้น่ากลัวเท่าเขาแต่พลังป้องกันของมันนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เพราะพรสวรรค์ด้านการป้องกันของจ้าว
อสูรกระทิงเขียวนั้นอยู่ในระดับลึกลับ แม้ว่าพลังป้องกันของเย่เทียนจะเพิ่มขึ้นถึง 600 เท่าแต่ระดับการบ่มเพาะของเขานั้นย่ําแย่เกินไปแม้แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์แม้ว่าพลังป้องกันของเขาจะเพิ่มขึ้นถึง 600 เท่าก็ยังด้อยกว่าเจ้าอสูรกระทิงเขียวอยู่มาก
ดังนั้นการโจมตีเพียงครั้งเดียวของเย่เทียนจึงเพียงทําให้จ้าวอสูรกระทิงเขียวได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น
ตูมมม!!
ความเร็วของทักษะดาบตัดดารานั้นรวดเร็วมากและร่างของจ้าวอสูรกระทิงเขียวนั้นมีขนาดใหญ่มากจึงเป็นไปไม่ได้ที่มันจะหลบทักษะดาบของเย่เทียนได้ทันดาบนี้จึงโจมตีโดนมันอย่าง
จัง ทิ้งรอยดาบจํานวนมากไว้บนร่างของจ้าวอสูรกระทิงเขียว โลหิตสดๆจํานวนมากหลั่งไหลออกมาแต่เมื่อเทียบกับร่างกายอันใหญ่ยักษ์ของมันแล้วอาการบาดเจ็บเพียงแค่นี้ไม่นับว่าเป็นอะไรเลย
พรูดดดด !!!!
เย่เทียนฟันดาบออกไปพร้อมๆกับใช้ทักษะเคลื่อนย้ายพริบตาเพื่อหลบการโจมตีของจ้าวอสูรกระทิงเขียวครั้งแล้วครั้งเล่า
นอกจากนี้บางครั้งเย่เทียนยังโจมตีมันด้วยการโจมตีทางวิญญาณซึ่งสร้างความเสียหายให้กับวิญญาณของจ้าวอสูรกระทิงเขียวเป็นอย่างมาก
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเย่เทียนจ้าวอสูรกระทิงเขียวไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาผลลัพธ์ถูกกําหนดไว้แล้วเวลาผ่านไปทุกวินาทีอาการบาดเจ็บของจ้าวอสูรกระทิงเขียวยิ่งรุนแรงขึ้นมากในทางกลับกันเย่เทียนไม่มีอาการบาดเจ็บใดๆ แน่นอนว่าจ้าวอสูรกระทิงเขียวไม่สามารถสร้าง
บาดแผลให้กับเย่เทียนเลยแม้แต่น้อย
“เป็นไปไม่ได้ ท่าไมเจ้าถึงมีพรสวรรค์มากมายขนาดนี้!!!!
จ้าวอสูรกระทิงเขียวค่ารามออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
เย่เทียนไม่ได้ตอบอะไรเขามีพรสวรรค์ด้านเวลาพรสวรรค์ด้านมิติ และพรสวรรค์การโจมตีทางวิญญาณพลังการต่อสู้ของเขาไม่ใช่สิ่งที่จ้าวอสูรกระทิงเขียวจะจินตนาการได้แม้ว่าจ้าวอสูรกระทิงเขียวจะประสบความสําเร็จในการเปลี่ยนแปลงทางสายเลือดอีกครั้งแต่เย่เทียนก็ยังคงได้เปรียบมันอยู่ดี
ยิ่งเขาแข็งแกร่งเท่าไหร่เขาก็ยิ่งน่ากลัวขึ้นเท่านั้น เขาแข็งแกร่งมากเสียจนจักรพรรดิดาบหักไม่สามารถทําอะไรเขาได้จ้าวอสูรกระทิงเขียวย่อมยังคงอยู่ห่างไกลเกินกว่าจะทําอะไรเขาได้
น่าเสียดายที่พลังการโจมตีของเย่เทียนยังคงด้อยกว่าจักรพรรดิดาบหักอยู่มากหากจักรพรรดิดาบหักอยู่ที่นี่เขาคงจะสามารถจัดการจ้าวอสูรกระทิงเขียวในกระบวนท่าเดียว
อย่างไรก็ตามเย่เทียนก็ยังสามารถเอาชนะจักรพรรดิดาบหักได้ เพราะพรสวรรค์ของเขามีมากมายเกินไปมันเพียงพอที่จะชดเชยความต่างชั้นของพลังโจมตีได้
เว้นเสียแต่ว่าจะมีผู้ที่สามารถผนึกพรสวรรค์ด้านมิติด้านเวลาและพรสวรรค์การโจมตีทางวิญญาณของเย่เทียนไม่เช่นนั้นเย่เทียนก็แทนที่จะไร้คู่ต่อสู้
ด้วยพรสวรรค์ด้านเวลาพรสวรรค์ด้านมิติและพรสวรรค์ด้านวิญญาณทําให้เย่เทียนมีความมั่นใจที่จะมาตรวจสอบโลกของสัตว์อสูรเพียงลําพัง
ตราบใดที่ไม่มีสัตว์อสูรระดับพระเจ้าเขาก็ไม่มีอะไรต้องกลัว!
