บทที่ 258 เผ่ามังกรจากไปเป้าหมายใหม่ของเย่เทียน!
สมาชิกเผ่ามังกรจับสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิมา และปลดปล่อยแรงกดดันของระดับพระเจ้าออกมา
“บอกมาว่าเกิดอะไรขึ้นกับโลกนี้? ท่าไมไม่มีจ้าวแห่งสัตว์อสูรแม้แต่ตัวเดียว?”
ยอดฝีมือเผ่ามังกรถาม
ภายใต้แรงกดดันของระดับพระเจ้าสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิตัวนี้หวาดกลัวจนตัวสั่นพลังนี้นากลัวเกินไป!
กลิ่นอายของยอดฝีมือเผ่ามังกรนั้นเกินกว่าที่มันจินตนาการไว้ ความแข็งแกร่งของทั้งสองเปรียบได้กับความแตกต่างระหว่างมดปลวกกับหุบเหวลึกราวกับว่าตัวตนนี้เกินระดับความแข็งแกร่งของโลกใบนี้ไปแล้ว
“นายท่าน ข้าก็ไม่ค่อยแน่ใจนักข้าได้ยินมาว่าจักรพรรดิแมวเก้าชีวิตได้สังหารจ้าวอสูรพยัคฆ์ทมิฬและจ้าวมังกรดําไปเมื่อไม่นานมานี้!”สัตว์อสูรระดับจักรพรรดิกล่าวตามตรง
“เจ้าแห่งมังกรด่า? ในโลกนี้มีมังกรอยู่ด้วยหรอ?”
สมาชิกเผ่ามังกรถาม
“จ้าวอสูรมังกรดําาไม่ใช่มังกรตัวจริงมันเป็นสัตว์อสูรที่มีสายเลือดของมังกรเล็กน้อยเท่านั้น!”สัตว์อสูรระดับจักรพรรดิอธิบาย
“กึ่งมังกร? ฮึม! กล้าดียังไงถึงเรียกตัวเองว่ามังกรดํา?ช่างหยิ่งยโสจริงๆ ถ้ามันยังไม่ตาย ข้าจะเป็นผู้ที่สังหารมันเอง!เป็นแค่เพียงเลือดผสมกลับกล้าท้าทายความน่าเกรงขามของเผ่ามังกร!” สมาชิกเผ่ามังกรแค่นเสียงเย็นชาพลังแห่งมังกรแผ่กระจายออกไปเป็นพันลี้
สัตว์อสูรระดับจักรพรรดินั้นหวาดกลัวเป็นอย่างมากมันคาดเดาได้คร่าวๆว่าบุคคลตรงหน้ามันคือใครการที่มีมังกรที่แท้จริงมาปรากฏขึ้นตรงหน้ากลับไม่ได้ทําให้มันตื่นเต้นเลยในใจของมันมีเพียงแต่ความหวาดกลัวเท่านั้น
“นอกเหนือจากนี้แล้วในโลกนี้ยังมีความผิดปกติอะไรอีกไหม?พูดออกมาทั้งหมด!”สมาชิกเผ่ามังกรถามอีกครั้ง
สัตว์อสูรระดับจักรพรรดิรีบบอกทุกอย่างที่มันรู้อย่างรวดเร็วไม่ว่าสิ่งที่มันพูดจะมีประโยชน์หรือไม่มันก็กล่าวออกมาทั้งหมด
เมื่อยอดฝีมือของเผ่ามังกรได้ยินสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิพูดถึงรอยแยกของมิติ สีหน้าของมันก็เปลี่ยนไป
“เจ้ากําลังบอกว่าบนโลกใบนี้เกิดรอยแยกมิติขึ้นและยังเป็นรอยแยกที่ระดับจักรพรรดิสามารถผ่านได๋? อีกฟากของรอยแยกเป็นโลกมนุษย์?”
ยอดฝีมือของเขามังกรกล่าวด้วยความประหลาดใจ
“ขอรับ นายท่าน!
สัตว์อสูรระดับจักรพรรดิกล่าว
“รอยแยกมิติ เมื่อครู่ตอนที่ข้าใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ตรวจสอบน่าจะพลาดพื้นที่นั้นไป!”
ยอดฝีมือของเผ่ามังกรคิดในใจ
สําหรับโลกมนุษย์นั้นมันมีความเข้าใจไม่มากนัก แต่มันรู้ว่าในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวมีดาวเคราะห์ที่มีมนุษย์อาศัยอยู่เป็นจํานวนมากท่ามกลางทางช้างเผือกอันกว้างใหญ่พลังโดยรวมของมนุษย์นั้นถือว่าแข็งแกร่งกว่าเผ่ามังกรมากหากไม่ใช่เพาะความสามัคคีของเผ่าพันธุ์มังกร เผ่ามังกรคงไม่ไม่สามารถกลายเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งในกาแล็กซี่ได้พรสวรรค์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ส่วนใหญ่นั้นไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก แต่จํานวนของมนุษย์มีมาก
เกินไป นอกจากนี้เผ่าพันธุ์มนุษย์ยังมีต้นกําเนิดมาจากการเรียนรู้และมีสติปัญญาที่สูงมากนี่เป็นสิ่งที่เผ่าพันธุ์อื่นไม่มี
“น่าสนใจ เผ่ามังกรของเราไม่เคยกล้าเข้าไปในอาณาเขตของเผ่ามนุษย์แต่ข้าไม่เคยคิดเลยว่าดาวเคราะห์สัตว์อสูรดวงนี้จะเชื่อมต่อกับดาวเคราะห์ของมนุษย์หากข่าวนี้ถูกส่งกลับไปยังเผ่า
เกรงว่าจะทําให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ ไม่แน่ว่าพวกตาแก่บางคนอาจจะเกิดความคิดบางอย่างขึ้นมาก็ได้””
สมาชิกเผ่ามังกรคิดในใจ
“นายท่าน ข้าบอกเรื่องที่รู้หมดแล้ว ท่านปล่อยข้าไปได้ไหม?”
สัตว์ร้ายระดับจักรพรรดิถามอย่างระมัดระวัง
“ปล่อยเจ้าไป?” สีหน้าของยอดฝีมือเผ่ามังกรเปลี่ยนไปในทันที จากนั้นเขาก็กล่าวด้วยน้ำเสียงมืดมน “หากเจ้าไม่พูดเรื่องรอยแยก ข้าอาจจะปล่อยเจ้าไปก็ได้แต่ตอนนี้ข้าไม่อยากให้ใครรู้การมาถึงของข้าเพื่อที่จะไม่ดึงดูดความสนใจของมนุษย์ดังนั้นวันนี้เจ้าจะต้องตาย!”
กรงเล็บของมังกรบยับ!
ทันใดนั้นสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิก็กลายเป็นเถ้าถ่าน
รูปป!
ร่างของสมาชิกทองมังกรเปล่งแสงวูบวาบอยู่ครู่หนึ่งทันใดนั้นเขาบนหัวก็หายไปในตอนนี้รูปร่างของเขาไม่ได้ต่างไปจากมนุษย์ จากนั้นเขาก็เปลี่ยนเสื้อผ้ากลายเป็นชายหนุ่มรูปงามจากนั้นเขาก็สํารวจทิศทางอยู่ชั่วครู่และบินไปยังฐานทัพชั่วคราวของฐานจงไห่
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็มาถึงรอยแยกมิติระดับห้าดาวที่ลอยเด่นอยู่กลางอากาศ
“รอยแยกมิติระดับ 5 ดาว ระดับสูงสุดที่จะผ่านรอยแยกนี้ได้คือระดับจักรพรรดิเท่านั้นข้าต้องจํากัดระดับของตัวเองทว่าก็ยังไม่สามารถเคลื่อนไหวได้มากเกินไปอีกครั้งแต่ละโรคก็ยังมีกฎของมัน หากโลกใบนั้นไม่อนุญาตให้มีการคงอยู่ของระดับพระเจ้า แน่นอนว่าข้าจะถูกผนึกไว้เช่นนั้นมันอันตรายเกินไป ” ยอดฝีมือของเผ่ามังกรขมวดคิ้วและกล่าว
ระดับพระเจ้าไม่ได้อยู่ยงคงกระพัน
ในฐานะยอดฝีมือคนหนึ่งของเผ่ามังกรเขาจึงเข้าใจเรื่องนี้ดี
ยกตัวอย่างเช่น ดาวเคราะห์บางดวงที่ดูเหมือนอ่อนแอเมื่อระดับพระเจ้าบุกรุกเข้าไปยังที่นั่นแม้แต่พลังในระดับจักรพรรดิก็ไม่สามารถแสดงออกมาได้เพราะกฎของโลกใบนั้นกดทับระดับ
พระเจ้าเอาไว้
โลกของดาวเคราะห์เช่นนี้มักจะเป็นเขตหวงห้ามของระดับพระเจ้า เว้นเสียแต่ว่าจะมีตัวตนที่ไร้เทียมทานในระดับเดียวกันจึงจะกล้าเดินทางไปยังดาวเคราะห์เช่นนั้น
และตัวเขานั้นเป็นเพียงแค่คนธรรมดาเขาไม่ใช่แม้แต่อัจฉริยะในเผ่ามังกรการบุกไปยังโลกของมนุษย์ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่ไม่คุ้นเคย เป็นการรนหาที่ตายอย่างแท้จริง
สมาชิกเผ่ามังกรได้สังเกตนอกฐานและเห็นค่ายกลของฐานรวมไปถึงอุปกรณ์ตรวจจับต่างๆ
มนุษย์เรานี้จะรู้ทันทีหากเขาผ่านรอยแยกไป ตัวตนของเขาจะถูกเปิดเผยอย่างแน่นอนเขาหยิบสมบัติชิ้นหนึ่งออกมาทันใดนั้นร่างกายของเขาก็เข้าสู่สภาวะล่องหน
สถานะล่องหนนี้มีระยะเวลาไม่นานนะแต่มันก็เพียงพอแล้วที่เขาจะผ่านรอยแยกไปได้
เขาไม่ได้เข้าไปในฐานแต่เดินอ้อมฐานและมาถึงบริเวณใกล้เคียงกับรอยแยกของมิติระดับ 5ดาว เขาค่อยๆสํารวจอีกด้านของรอยแยก
ทันใดนั้น!
ตูม!
มิติสันสะเทือนไม่หยุด อีกด้านของโลกก็เกิดลมกระโชกแรง และนิมิตซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“แย่แล้ว ต้องรีบหนี!”
สมาชิกเผ่ามังกรรีบหนีไปทันที พริบตาเดียวร่างของเขาก็หายวับไป
หลังจากนั้น กลุ่มจักรพรรดิก็มาถึง แต่พวกเขาก็ไม่เห็นใครเลย แต่เรื่องนี้ก็ถูกส่งออกไปอย่างรวดเร็วไกลออกไป
สมาชิกเผ่ามังกรเผยสีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“มันเป็นดาวเคราะห์ที่เพิ่งฟื้นตัวได้ไม่นาน แต่ดาวเคราะห์ดวงนี้ก็ไม่ธรรมดาด้วยการฟื้นตัวไม่นานก็เพียงพอที่จะเทียบได้กับโลกของสัตว์อสูรนี้แล้วศักยภาพของมันไร้ขีดจํากัด”
สมาชิกเผ่ามังกรกล่าวด้วยความตกตะลึง
ดาวเคราะห์ที่เพิ่งฟื้นตัวเป็นดาวเคราะห์ที่มีค่ามากภายในจักรวาล และในดาวเคราะห์เหล่านั้นจะมีสมบัติล้ำค่ามากมายที่กําลังถูกฟูมฟัก
โชคไม่ดีที่ดาวเคราะห์ดวงนี้มีอํานาจปราบปรามระดับพระเจ้า
เมื่อสักครู่เขาเพียงส่งจิตสํานึกของเขาออกไปทําให้เกิดการปราบปรามของเจตจํานงแห่งโลก
ถ้าเขาเข้าสู่โลกใบนั้นความแข็งแกร่งของเขาจะเหลือเพียงแค่ระดับจักรพรรดิ์ เว้นแต่ว่าเขาจะมีพลังมากพอที่จะต่อกรกับเจตจํานงของโลกโดยไม่สนมันอีกต่อไป
แต่ตัวตนที่สามารถต้านทานเจตจํานงของโลกได้นั้น คือตัวตนที่แข็งแกร่งไร้ที่เปรียบในจักรวาล แน่นอนว่าตัวตนเรานั้นไม่มีทางที่จะเสียเวลาบุกดาวเคราะห์ขนาดเล็กเช่นนี้
นอกจากนี้ดาวเคราะห์ดวงนี้ก็เป็นดาวเคราะห์ของมนุษย์ กองกําลังทั่วไปจะกล้าล่วงเกินได้อย่างไร!
“ไม่ได้ข้าต้องรายงานเรื่องนี้!”
สมาชิกเผ่ามังกรมุ่งหน้ากลับไปยังตําหนักมังกร เปิดใช้งานอุปกรณ์เทเลพอร์ตและจากไป
โดยที่เราผู้ฝึกยุทธของฐานจงไห่ไม่ได้ล่วงรู้ถึงเรื่องนี้เลย รวมถึงเย่เทียนที่เก็บตัวอยู่เช่นกันและในวันนี้
เย่เทียนออกจากการเก็บตัว เขายังไม่ถึงขีดจํากัดของร่างกายครั้งที่สิบ คาดว่าคงต้องใช้เวลาอีกซักระยะหนึ่งเหตุผลที่เขาออกจากการเก็บตัวก็เพราะตอนนี้พลังของหินเกิงจินหมดลงแล้ว
เดิมทีหินเกิงจนเพียงพอที่จะทําลายขีดจํากัดของร่างกายครั้งที่สิบได้ แต่เนื่องจากเขาใช้มัน
เพื่อควบแน่นร่างวิญญาณดาบต้นกําเนิดจึงทําให้พลังของมันลดลงอย่างมาก
อย่างไรก็ตามเย่เทียนก็อยู่ไม่ไกลจากการทําลายขีดจํากัดของร่างกายครั้งที่สิบแล้วตอนนี้เย่เทียนเตรียมพร้อมที่จะทะลวงเต๋าแห่งกรุงเล็บ
หลังจากผ่านการฝึกฝนมาเป็นเวลานาน ด้วยพรสวรรค์ด้านกรงเล็บระดับจันทราและพรสวรรค์
ด้านความเข้าใจระดับสูงสุด ในที่สุดเต๋าแห่งกรงเล็บของเขาก็ไล่ตามเต๋าดาบได้ทันบรรลุถึง 20%
ของเต่าแห่งกรงเล็บ
ตอนนี้เย่เทียนพร้อมที่จะทะลวงเข้าสู่เต๋าแห่งกรงเล็บ 30% เมื่อเขาบรรลุมัน เขาจะสามารถฝึกทักษะกรงเล็บระดับตํานานได้จนถึงขั้นสมบูรณ์แบบ และถ้าเขาก้าวไปอีกขั้นเขาก็จะสามารถฝึกฝนทักษะกรงเล็บระดับพระเจ้าได้!
ทักษะกรงเล็บระดับพระเจ้าเป็นทักษะระดับพระเจ้าทักษะแรกของเขา!เขาประทับใจมากเกี่ยวกับเรื่องนี้!