ตอนที่ 136 กระบี่อาญาสิทธิ์
ถ้าจะขอให้แจกรางวัลภารกิจ ก็ย่อมต้องทำภารกิจขั้นสุดท้ายให้เรียบร้อยก่อน
ภารกิจที่พวกเยี่ยเว่ยหมิงรับมา เดิมทีต้องการให้ติดตามของกลางกลับมาและจับกุมหัวขโมย เนื่องจากข้อตกลงลับระหว่างสำนักมือปราบเทพกับลู่ติ่งกงก่อนหน้านี้ รายการจับกุมหัวขโมยจึงถูกลบไปแล้ว แต่ของกลางที่ยึดได้ในระหว่างปฏิบัติการครั้งนี้ก็ยังต้องส่งมอบขึ้นมา
เยี่ยเว่ยหมิงนำหีบสมบัติใส่ของกลางออกมาวางตรงหน้าเหวยเสี่ยวเป่าก่อน จากนั้นจึงปลดหยกพกเฟยเทียนที่เคยยืมใช้ชั่วคราวโยนลงหีบสมบัติ ซานเย่ว์กับสะพานสวรรค์น้อยเลียนแบบเขา ต่างคนต่างถอดสร้อยคอที่ตัวเองเลือกสรรมาอย่างดี แล้ววางกลับเข้าไปในหีบสมบัติอย่างอาลัยอาวรณ์
จากนั้นสะพานสวรรค์น้อยก็วางกระบี่จินสยาเข้าไปด้วย แต่ครั้งนี้การเคลื่อนไหวของนางช้าลงมาก
สร้อยคอที่สวยขนาดนั้นก็ยังคืนกลับไปแล้ว คืนกระบี่อีกสักเล่มจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดไหนเชียว
เพียงแต่ตอนที่ควงกระบี่เล่มนี้ ลำแสงที่แพรวพราวออกมาสวยงามมาก แม้จะสวยไม่เท่าสร้อยคอ แต่มันก็เป็นอุปกรณ์คุณภาพสูงสุดที่หาได้ยาก
น่าเสียดายมาก!
╥﹏╥…
ของทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าครบแล้ว เหวยเสี่ยวเป่าไม่ได้นับ เพียงยิ้มแล้วปรบมือสามครั้ง แปะๆๆ!
วินาทีถัดมา NPC หลายคนที่แต่งกายเหมือนทหารยามประจำวังหลวงก็วิ่งออกมาจากที่ลับ ในมือกำลังถือของสองสิ่ง บนของแต่ละชิ้นมีผ้าเหลืองคลุมอยู่ มองจากข้างนอกไม่รู้ว่าข้างในคือสิ่งของอะไรกันแน่
“อย่างแรกคือรางวัลภารกิจของสหายเยี่ย” ขณะที่พูด สีหน้าของเหวยเสี่ยวเป่าก็เริ่มเปลี่ยนเป็นจริงจัง ดูมีกลิ่นอายความเผด็จการของขุนนางบรรดาศักดิ์กงขั้นหนึ่งเพิ่มขึ้นหลายส่วน เพียงแต่รู้สึกเหมือนขาดสง่าราศีอะไรไปสักอย่าง แต่ความโอ้อวดที่เขาคุ้นเคยกลับชัดเจนมาก
ขณะที่กำลังวางมาด เหวยเสี่ยวเป่าก็บอกเยี่ยเว่ยหมิงว่า “ประการแรก หนังสือเลื่อนขั้นของสหายเยี่ยได้รับการอนุมัติแล้ว ตอนนี้ฐานะของเจ้าคือหัวหน้ามือปราบ นี่คือเครื่องแบบขุนนางของเจ้า”
ขณะที่พูด เหวยเสี่ยวเป่าก็เปิดผ้าเหลืองบนถาดใบแรกออก เครื่องแบบขุนนางแบบครบชุดปรากฏตรงหน้าทุกคนทันที
มองจากภายนอก เครื่องแบบขุนนางชุดนี้ไม่แตกต่างกับเครื่องแบบมือปราบขั้นเจ็ดของสำนักมือปราบเทพมากนัก เป็นชุดเฟยอวี๋สีน้ำเงินเข้ม หมวกขุนนางกับรองเท้าขุนนางสีดำที่เข้าชุดกัน เพียงแต่ปักเย็บได้ประณีตกว่าเล็กน้อยเท่านั้นเอง
หลังจากเยี่ยเว่ยหมิงรับเครื่องแบบขุนนางมาจากมือเหวยเสี่ยวเป่าแล้ว ก็กดตรงแถบอุปกรณ์ทันที ทำให้การแต่งกายเปลี่ยนไปในคราเดียว
ก่อนหน้านี้เป็นรองเท้าขุนนาง หมวกขุนนางกับชุดนักพรตเต๋าที่ไม่เข้าชุดกัน ตอนนี้กลับมาเป็นเครื่องแบบขุนนางครบชุดที่สง่างามเหมือนเดิมแล้ว ทั้งยังเป็นชุดที่ระดับสูงขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ด้วย
ท่ามกลางสายตาฉงนของเพื่อนร่วมทีม เยี่ยเว่ยหมิงส่งลิ้งก์อุปกรณ์เข้าไปในกลุ่มอย่างใส่ใจ
[อุปกรณ์]
[ชุดเซ็ทขุนนาง (อุปกรณ์ภายนอก)]
ใช้คลุมอุปกรณ์ที่อยู่บนตัวได้ ทั้งยังเปลี่ยนคุณภาพไปตามยศขุนนางของผู้สวมใส่ด้วย ปรับแต่งรูปลักษณ์ภายนอกอัตโนมัติ นำไปซื้อขายไม่ได้ ทิ้งไม่ได้ ทำให้เสียหายไม่ได้ (ผูกมัดกับผู้ใช้แล้ว: เยี่ยเว่ยหมิง)]
……
เครื่องแบบขุนนางทั้งชุดที่ได้มาตรฐาน ไม่มีเพิ่มเติมค่าสเตตัสใดๆ หลังจากทุกคนมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ความสนใจก็ไปอยู่บนของอีกชิ้นที่มีลักษณะยาว
ตามที่เยี่ยเว่ยหมิงบอกไว้ก่อนหน้านี้ รางวัลภารกิจของเขาเป็นอุปกรณ์คุณภาพสูงสุดชิ้นหนึ่ง
และอุปกรณ์คุณภาพสูงสุดชิ้นนี้ ก็เห็นได้ชัดว่าดึงดูดให้ผู้เล่นอยากรู้อยากเห็นมากกว่าอุปกรณ์ภายนอกอย่างเครื่องแบบขุนนาง
เหวยเสี่ยวเป่าไม่ได้ให้ทุกคนรอนาน หลังจากเยี่ยเว่ยหมิงเปลี่ยนมาใส่เครื่องแบบขุนนางตัวใหม่แล้ว ก็เดินมาตรงหน้าของชิ้นที่สองทันที “ตำแหน่งขุนนางของพี่ใหญ่เยี่ยสูงขึ้นก็เพราะอาศัยผลงานของตัวเอง น้องชายเพียงทำให้ขั้นตอนของเรื่องนี้ราบรื่นขึ้นก็เท่านั้นเอง แน่นอนว่าไม่นับเป็นรางวัลของภารกิจครั้งนี้ ของชิ้นต่อไปเป็นสิ่งที่ข้าทูลขอมาจากฝ่าบาท หวังว่าพี่ใหญ่เยี่ยจะโปรดปราน”
ขณะที่กล่าวเช่นนั้น เหวยเสี่ยวเป่าก็ดึงผ้าที่คลุมอยู่ด้านบนออก เผยให้เห็นสมบัติที่อยู่ในกล่องไม้ลักษณะยาว ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นกระบี่วิเศษที่เป็นสีทองทั้งเล่ม แสงทองอร่ามตา!
“พี่ใหญ่เยี่ย ลองมือดูหน่อยเป็นอย่างไร”
เยี่ยเว่ยหมิงกุมกระบี่ไว้ในมือ จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างควบคุมไม่ได้ เผยสีหน้าดีใจอย่างบ้าคลั่งทันที เขารีบบอกเหวยเสี่ยวเป่าว่า “อุปกรณ์ชิ้นนี้ล้ำค่าเกินไปแล้ว สหายเหวยสร้างความประหลาดใจให้ข้าจริงๆ!”
“หึหึ ขอเพียงพี่ใหญ่เยี่ยดีใจก็พอแล้ว”
คนหนึ่งกล่าวขอบคุณ อีกคนกล่าวตามมารยาท แต่กลับทำให้สหายร่วมทีมที่อยู่ข้างๆ ร้อนใจแทบแย่อยู่แล้ว
เจ้าพวกที่มีจิตใจสอดรู้สอดเห็นอย่างแรงกล้า ตอนนี้เริ่มส่งอิโมติคอนในช่องทีมแล้ว เร่งให้เยี่ยเว่ยหมิงอวดอุปกรณ์
สำหรับพฤติกรรมอิจฉาและหาเรื่องของพวกเขา เยี่ยเว่ยหมิงย่อมต้องทำให้พวกเขาพึงพอใจอยู่แล้ว
ดังนั้น เขาจึงส่งสองลิงก์อุปกรณ์ไปในช่องทีม [‘กระบี่อาญาสิทธิ์’ ‘กระบี่มังกรคำราม’]
[อุปกรณ์]
[กระบี่อาญาสิทธิ์ (อุปกรณ์ภายนอก)]
ประหารก่อนรายงานความผิดทีหลัง ได้อำนาจพิเศษจากจักรพรรดิ นี่ก็คือกระบี่อาญาสิทธิ์! (เมื่อใช้กระบี่นี้ จะฆ่าคนได้โดยไม่ถูกหักค่าวีรบุรุษ!)
……
[กระบี่มังกรคำราม (ทองคำ)]
กระบี่วิเศษคุณภาพสูงสุดที่ได้ช่างชื่อดังแห่งยุคหลอมสร้างอย่างพิถีพิถัน เสียงคำรามของกระบี่เหมือนเสียงมังกรคำราม!
โจมตี +325
ป้องกัน +50
กำลังภายใน +30%!]
……
เมื่อเห็นค่าสเตตัสของอุปกรณ์สองชิ้นนี้ ในดวงตาของเฟยอวี๋กับถังซานไฉ่ก็ฉายแววอิจฉาริษยาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
โคตรอิจฉา!
บอกว่าอุปกรณ์ชิ้นเดียวไม่ใช่หรือ
อย่าบอกนะว่าอุปกรณ์ภายนอกของเจ้าหนึ่งชุดบวกอุปกรณ์ทองคำหนึ่งชิ้น เป็นเพราะติดตั้งในตำแหน่งที่ซ้อนกันได้ เจ้าก็เลยนับเป็นชิ้นเดียว
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นสำคัญก็คือค่าสเตตัสของอุปกรณ์สองชิ้นนี้!
ค่าสเตตัสของกระบี่มังกรคำรามสูงสุดในบรรดาอุปกรณ์ทองคำจริงๆ เมื่อเทียบกับกระบี่ชิงจู๋ที่เป็นอุปกรณ์ทองคำเหมือนกัน ไม่ได้เหนือกว่าเพียงหนึ่งเท่า!
ส่วนกระบี่อาญาสิทธิ์ก็ยิ่งเจ๋งสุดๆ ไปเลย
แม้จะเป็นอุปกรณ์ภายนอกชิ้นเดียว แต่กลับเป็นอุปกรณ์ภายนอกที่มีค่าสเตตัสดี!
ทั้งยังมีคุณสมบัติสุดก้าวร้าวอย่างการฆ่าคนโดยไม่โดนหักค่าวีรบุรุษด้วย!
ลองจินตนาการถึงคนหน้าเนื้อใจเสืออย่างเยี่ยเว่ยหมิงดูสิ พอมาเจอกับกระบี่อาญาสิทธิ์ที่ใช้ประหารก่อนรายงานความผิดทีหลังได้ หลังจากนี้ยุทธภพจะสงบสุขได้อย่างไร
ที่ยิ่งกว่านั้นก็คือ อุปกรณ์คุณภาพสูงสุดสองชิ้นนี้ถูกเหวยเสี่ยวเป่านับเป็นอุปกรณ์รางวัล ‘หนึ่งชิ้น’ ให้เยี่ยเว่ยหมิงแล้ว
แล้วจะไม่ให้คนอิจฉาริษยาได้อย่างไร
อาจเพราะมองออกว่าในใจของทุกคนกำลังอิจฉา หลังจากเหวยเสี่ยวเป่าแจกรางวัลอุปกรณ์ให้เยี่ยเว่ยหมิงเสร็จแล้ว ก็เอ่ยต่อว่า “ปฏิบัติการครั้งนี้ทุกคนล้วนมีผลงาน เพื่อเป็นการชมเชย ฝ่าบาททรงมีราชโองการมาแล้ว ว่าให้วีรบุรุษทุกท่านเลือกอุปกรณ์หนึ่งชิ้นจากของกลางเพื่อเป็นรางวัลเพิ่มเติมของภารกิจครั้งนี้ ทุกคนไม่ต้องเกรงใจ เลือกได้เลย”
การเลือกอุปกรณ์ครั้งนี้ ย่อมไม่นับรวมเยี่ยเว่ยหมิงอยู่แล้ว เพราะเขาได้ผลประโยชน์มามากพอแล้ว รางวัลภารกิจก็ต้องมีความสมดุลในระดับหนึ่งสิ ถูกไหมล่ะ
ครั้งนี้ทุกคนเลือกอุปกรณ์เร็วมาก ถึงขนาดเร็วกว่าตอนที่ทั้งสามเลือกตอนอยู่ในห้องลับของโรงเตี๊ยมก่อนหน้านี้เสียอีก เนื่องจากสองสาวเลือกของที่ตัวเองชอบไว้นานแล้ว ของที่พวกนางต้องการก็คือสร้อยคอขยะที่ไม่เพิ่มค่าสเตตัสสองเส้นนั้น
ใครมาโน้มน้าวข้า ข้าก็จะโกรธคนนั้น!
วันนี้ถังซานไฉ่ไม่ได้ลงหลุมศพเป็นเพื่อน BOSS จึงอารมณ์ดีมาก หลังจากเกี่ยงกับเฟยอวี๋ครู่หนึ่ง ก็เลือกหยกพกเฟยเทียนที่เยี่ยเว่ยหมิงเคยใช้ก่อนหน้านี้
ส่วนเฟยอวี๋ก็เลือกแหวนวงหนึ่งที่ช่วยเพิ่มพละกำลัง
ตอนนี้ทุกคนปลาบปลื้มดีใจมาก
หลังจากเลือกอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว รางวัลที่เป็นค่าประสบการณ์กับค่าตบะก็ย่อมขาดไม่ได้ ในบรรดาพวกเขา ค่าประสบการณ์ของเยี่ยเหวยหมิงใกล้ถึงจุดที่จะอัปเลเวลมาตั้งนานแล้ว ครั้งนี้จึงได้อัปเลเวลแล้ว
ค่าสเตตัสที่เปลี่ยนไปหลังจากการอัปเลเวลครั้งนี้ แตกต่างกับก่อนหน้านี้ชัดเจนมาก
[เยี่ยเว่ยหมิง เลเวล: 20]
……
พลังชีวิต: 7400/7400
กำลังภายใน: 3370/3370
ความแข็งแกร่ง: 292
พละกำลัง: 292
ท่าร่าง: 298
ความว่องไว: 192
สติปัญญา: 40
ค่าตระหนักรู้: 41
……
ก่อนหน้านี้ ทุกครั้งที่เยี่ยเว่ยหมิงอัปหนึ่งเลเวล ค่าสเตตัสต่างๆ จะเพิ่มขึ้นสองแต้ม แต่ตอนนี้กลับเพิ่มขึ้นห้าแต้มในครั้งเดียว!
ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ แม้แต่ค่าสเตตัสพื้นฐานอย่างค่าสติปัญญากับค่าตระหนักรู้ก็เพิ่มขึ้นห้าแต้มด้วยเช่นกัน!
อย่าบอกนะว่าหลังจากถึงเลเวลยี่สิบแล้ว จะเกิดความเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
เป็นเรื่องที่น่าดีใจเหนือความคาดหมายจริงๆ!
……
หลังจากแจกรางวัลภารกิจเรียบร้อยแล้ว เหวยเสี่ยวเป่าก็ให้เหตุผลว่าต้องไปรายงานผลการปฏิบัติงานต่อฝ่าบาท สั่งให้ลูกน้องเก็บของที่เหลือแล้วกล่าวอำลาพวกเขา
เยี่ยเว่ยหมิงเห็นแล้วกลับเตือนว่า “ตรงนี้ยังมีกระบี่จินสยาอีกเล่ม”
“นั่นไม่ใช่ของที่ถูกขโมยจากพระราชวัง ถือเป็นรางวัลจากการต่อสู้ก็แล้วกัน พวกเจ้าไปจัดการกันเองได้เลย” เหวยเสี่ยวเป่าได้ยินแล้วตอบพร้อมรอยยิ้ม
เมื่อกล่าวจบแล้ว เขาก็พากลุ่มทหารประจำวังหลวงจากไปอย่างรวดเร็ว