ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ – ตอนที่ 219 พ่อค้าเร่อุปกรณ์คนไหนเก่งสุด

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 219 พ่อค้าเร่อุปกรณ์คนไหนเก่งสุด

ตอนที่ 219 พ่อค้าเร่อุปกรณ์คนไหนเก่งสุด

จู่ๆ ได้ยินเยี่ยเว่ยหมิงเอ่ยถึงเรื่องเงิน หนิวจื้อชุนก็ขนลุกทันที ดวงตาที่เดิมทีสงบนิ่งเปลี่ยนเป็นระแวดระวังขึ้นมาแล้ว เขาใช้สีหน้าที่เหมือนป้องกันโจรมองเยี่ยเว่ยหมิง “เจ้าคิดจะทำอะไร”

เห็นท่าทางเขาเป็นอย่างนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็อดรู้สึกขำไม่ได้

เยี่ยเว่ยหมิงไม่พูดพร่ำทำเพลง ส่งลิงก์อุปกรณ์เข้าไปในช่องทีมหกคนที่สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วทันที

[ทวนเถี่ยเจียงประตูปีศาจ (ทองคำ)]

อาวุธที่พญามังกรประตูปีศาจซาทงเทียนใช้บ่อย เป็นอาวุธมีด้าม

โจมตี +280

ป้องกัน +50

กำลังภายใน +10%

……

“โอ้แม่เจ้า!” เมื่อเห็นค่าสเตตัสของทวนเถี่ยเจียงด้ามนี้ หนิวจื้อชุนก็กระโดดขึ้นจากเก้าอี้อย่างตื่นเต้นทันที “สหายเยี่ย เจ้าขายทวนเถี่ยเจียงนี้อย่างไร”

เยี่ยเว่ยหมิงยิ้มอย่างสุขุม “เสนอราคามาเอง โอกาสมีเพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น เจ้าคิดว่าเจ้าจ่ายไหวเท่าไร เดี๋ยวข้าค่อยบอกว่าจะขายหรือไม่ขาย”

ตอนนี้หนิวจื้อชุนเริ่มลำบากใจทันที

จะว่าไปแล้วเขาก็ชอบอาวุธชนิดนี้จริงๆ ค่าสเตตัสสูงกว่ากระบองขยะคุณภาพสีฟ้าในมือเขามากกว่าหนึ่งเท่า

กอปรกับตอนนี้เขาย้ายสกิลต่อสู้หลักจาก ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ ไปเป็น ‘วิชาไม้เท้าสยบมาร’ ที่ดุดันโหดเหี้ยมกว่า และถึงขั้นถูกจริตกับเขามากกว่าวิชาพื้นฐานของสำนักฉวนเจินในสายตาเขาด้วย

เขาย่อมต้องมีไม้เท้าดีๆ สักด้ามหนึ่ง ถึงจะแสดงประสิทธิภาพของวิชาที่เขาฝึกออกมาได้อย่างที่ควรจะเป็น

ของดีก็ยังเป็นของดี แต่ถ้าถามว่าต้องจ่ายเงินเท่าไรเพื่อซื้อ กลับเป็นคำถามที่ทำให้เขาค่อนข้างปวดใจ

ถ้าเยี่ยเว่ยหมิงเสนอราคาออกมาเลยก็ยังดีกว่า เดี๋ยวเขาจะพิจารณาเองว่าได้หรือไม่ได้ แต่พอเยี่ยเว่ยหมิงให้เขาเสนอราคา สิ่งนี้ทำให้เขาค่อนข้างรู้สึกแย่

ถ้าเสนอราคาน้อยไป ก็กลัวว่าเยี่ยเว่ยหมิงก็ส่ายหน้าแล้วยกเลิกการซื้อขายนี้

ถ้าเสนอราคามากไป เขาก็กลัวว่าจะขาดทุน

หลังจากคิดวนไปวนมาอยู่นาน ในที่สุดหนิวจื้อชุนก็ถามอย่างเชิงว่า “เจ้าคิดว่าสามร้อยห้าสิบเหรียญทองเป็นอย่างไร”

ราคานี้ต่ำกว่าราคาตลาดนิดหน่อย แต่ราคาตลาดก็มีขึ้นมีลงเช่นกัน เถี่ยเจี้ยงแท่งนี้ถ้านำออกไปประมูลขาย ส่วนใหญ่ขายสามร้อยเจ็ดสิบถึงสี่ร้อยเหรียญทองก็ไม่มีปัญหา แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะขายได้แค่ประมาณสามร้อยยี่สิบ

หนิวจื้อชุนรู้สึกว่าขาดไปแค่สิบยี่สิบหรียญทองเยี่ยเว่ยหมิงก็คงไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเขา…มั้ง?

เยี่ยเว่ยหมิงทำสีหน้าจริงจัง ไม่ตอบอะไรสักคำ เพียงส่งคำขอซื้อขายไปให้เขาเท่านั้น

หนิวจื้อชุนเห็นแล้วดีใจมาก รีบวางเงินสามร้อยห้าสิบเหรียญทอง ทั้งสองซื้อขายกันสำเร็จอย่างราบรื่น

เมื่อได้ทวนเถี่ยเจี้ยงมาไว้ในมือแล้ว บนใบหน้าหนิวจื้อชุนก็เผยความปลาบปลื้มทันที เขารู้สึกว่าถ้ามีอาวุธชิ้นนี้อยู่ในมือ ตัวเองก็จะลองท้าสู้กับ ‘กระบี่คู่ผนึกรวม’ เวอร์ชันลดประสิทธิภาพของสะพานสวรรค์น้อยประสิทธิภาพได้อีกครั้ง

แต่ตอนนี้กลับได้ยินเยี่ยเว่ยหมิงกล่าวอย่างสบายๆ ว่า “ที่จริงแล้ว ตัวข้าเองนับว่าปฏิบัติต่อสหายเป็นอย่างดี ทวนนี่ไม่ว่าเจ้าจะเสนอราคาเท่าไร ข้าก็ขายให้เจ้าอยู่ดี”

พอได้ยินประโยคนี้ของเยี่ยเว่ยหมิง หนิวจื้อชุนก็เรากับถูกคริติคอลดาเมจของไท้ซัวเป็นไฉน อยากจะนำศีรษะของตัวเองไปชนกับเถี่ยเจี้ยงในมือสักที

เพื่อระบายความกลัดกลุ้มในใจตัวเอง หนิวจื้อชุนพลันหันไปบอกสะพานสวรรค์น้อย “แม่นางสะพานสวรรค์น้อย ก่อนหน้านี้ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้า รู้สึกว่าเป็นเพราะใช้อาวุธไม่เหมาะมือ ครั้งนี้ได้รับอาวุธดีๆ มาแล้ว พวกเรามาสู้กันอีกสักครั้งเป็นอย่างไร”

ไม่รอให้สะพานสวรรค์น้อยตอบ จู่ๆ เยี่ยเว่ยหมิงก็พูดกับนางว่า “สะพานสวรรค์น้อย ในเมื่อตอนนี้สุดยอดทักษะของเจ้าคือ ‘กระบี่คู่ผนึกรวม’ เช่นนั้นก็ควรจะมีกระบี่สักสองเล่มหรือเปล่า”

สะพานสวรรค์น้อยพยักหน้า ตอบคำถามของเยี่ยเว่ยหมิงอย่างไม่ลังเล “ที่จริงแม้จะเป็นกระบี่คู่ผนึกรวมที่ใช้คนเดียว แต่ก็ต้องพยายามทำให้ประสิทธิภาพของเคล็ดกระบี่สองมือเท่าเทียมกัน ในนั้นไม่ใช่แค่เลเวลของเคล็ดกระบี่สองวิชา อาวุธที่ใช้ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยตัดสินที่สำคัญเช่นกัน…

…กระบี่อีกเล่มที่ข้าใช้ ค่าสเตตัสต่างจากกระบี่จินสยามาก ทำให้ประสิทธิภาพของ ‘กระบี่คู่ผนึกรวม’ ได้รับผลกระทบไม่น้อย!”

เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้า แล้วส่งคำขอซื้อขายให้อีกฝ่ายเสียเลย เป็นกระบี่มังกรคำรามที่เขาคัดทิ้งก่อนหน้านี้ “นี่เป็นกระบี่ที่มีค่าสเตตัสไม่ต่างกับกระบี่จินสยามากนัก ถึงขั้นดีกว่าหนึ่งระดับด้วย นำไปใช้เถอะ”

“แต่ตอนนี้ในมือข้าไม่ได้มีเงินเยอะขนาดนั้น”

เยี่ยเว่ยหมิงยักไหล่อย่างไม่ถือสา “เช่นนั้นก็ติดไว้ก่อน อย่างไรเสียตอนนี้ข้าก็ไม่ขาดเงิน รอให้เจ้ามีเงินก่อนแล้วค่อยคืนข้าก็ได้”

สะพานสวรรค์น้อยยิ้มหวาน “เงินที่ข้าซื้อกระบี่จินสยาก่อนหน้านี้ ข้าเพิ่งคืนไปไม่กี่วันเอง ครั้งนี้ติดเงินเจ้าอีกแล้ว อืม รางวัลของภารกิจครั้งนี้ ถ้าแบ่งกันตามโหมดแบ่งไอเทม ส่วนของข้ายกให้เจ้าเลยก็แล้วกัน”

พอพูดจบ ดวงตาที่แวววาวดุจน้ำของนางก็พลันย้ายไปที่หนิวจื้อชุน แล้วเอ่ยด้วยความอยากรู้อยากลองว่า “นักพรตหนิว ข้าจำได้ว่าก่อนหน้านี้เจ้าอยากจะท้าสู้ข้าใช่ไหม ข้าเองก็ได้กระบี่ล้ำค่าเล่มใหม่มาเช่นกัน อีกประเดี๋ยวพวกเราประลองกันอีกสักสนามดีไหม”

หนิวจื้อชุนได้ยินแล้วเงยหน้ามองฟ้าทันที “เหอะๆ เจ้าฟังผิดแล้ว ข้าจะพูดเช่นนั้นได้อย่างไร เจ้าฟังผิดแน่นอน เหอะๆ…”

เจ้าหมอนี่…

สำหรับมุกตลกของหนิวจื้อชุน ทุกคนได้แต่ยิ้มสวยๆ ให้ สะพานสวรรค์น้อยก็ล้มเลิกความคิดที่จะรังแกเขาแล้วเช่นกัน

ตอนนี้บนสังเวียนกำลังมีการประลองระหว่างซานเย่ว์กับโหยวโหยว

หลังจากผ่านการประลองเพื่อรู้จักศักยภาพของสมาชิกใหม่สองคนก่อนหน้านี้ การประลองก็เปลี่ยนจากกึ่งบันเทิงมาเป็นความบันเทิงเต็มตัวแล้ว ทุกคนคิดว่าต่อให้แพ้ก็ไม่ถูกลงโทษด้วยการตาย จึงเริ่ม ‘เล่น’ กันบนสังเวียนแล้ว

ตอนนี้เอง น้องดาบที่เพิ่งถูกเยี่ยเว่ยหมิงตบตายด้วยฝ่ามือเดียวเพิ่งเดินออกมาจากเงามืดแห่งความพ่ายแพ้ ปณิธานแห่งการต่อสู้กลับมาอีกครั้งแล้ว

เมื่อเห็นเยี่ยเว่ยหมิงเริ่มขายอุปกรณ์ตรงนี้ นางก็กลอกตาแล้วเอ่ยว่า “ในเมื่อเจ้าชอบขายอุปกรณ์ขนาดนั้น เหตุใดไม่นำทวนยาวล้ำค่าที่ได้ตอนสังหารโหวทงไห่ออกมาขายเอาเปรียบลูกค้าด้วยเสียเลยล่ะ หากทำอย่างนั้นจะเพิ่มศักยภาพให้ทีมได้ เพิ่มโอกาสชนะให้มากขึ้นไม่ใช่หรอกหรือ”

ผู้หญิงคนนี้ มองเจตนาดีของข้าเป็นเรื่องร้ายเสียแล้ว!

นำของดีไปขายเพื่อให้คนอื่นได้ผลประโยชน์ตามสบาย นั่นไม่เรียกว่าใจบุญสุนทาน นั่นเรียกว่าถูกเอาเปรียบ!

สาเหตุที่ก่อนหน้านี้เยี่ยเว่ยหมิงยอมให้หนิวจื้อชุนเอาเปรียบเล็กน้อย ให้สะพานสวรรค์น้อยติดหนี้ไว้ก่อนได้ นั่นก็เป็นเพราะทุกคนสนิทสนมกัน ด้วยมิตรภาพของสหายร่วมรบอันแน่นแฟ้นระหว่างเยี่ยเว่ยหมิงกับสะพานสวรรค์น้อยซึ่งร่วมงานกันมาหลายครั้งแล้ว อย่าว่าแต่ให้นางติดเงินเลย ต่อให้มอบกระบี่ให้นางโดยไม่คิดเงินจริงๆ เยี่ยเว่ยหมิงก็จะไม่ลังเลอยู่ดี

ส่วนหนิวจื้อชุน มิตรภาพยี่สิบเหรียญทองก็ยังมีอยู่

ทว่าเขากับฉางซิงอวี่วันนี้เพิ่งพบกันเป็นครั้งแรก ไม่มีพื้นฐานมิตรภาพใดๆ จะให้อาศัยอะไรมาขายของให้ล่ะ

ถ้าเขาไม่ยอมหลีกทางให้ในด้านราคา ความใจกว้างก่อนหน้านี้กลับจะดูปลอมด้วยซ้ำ ถึงขั้นทำให้คนเข้าใจผิดว่าการที่เขาทำดีกับสะพานสวรรค์น้อยขนาดนี้ เป็นเพราะมีเจตนาอื่นต่อนางหรือเปล่า

แบบนั้นจะกลายเป็นกับดักที่ทำให้เขากลายเป็นคนไร้คุณธรรมแล้ว!

ได้แต่ถลึงตามองน้องดาบแวบหนึ่ง เยี่ยเว่ยหมิงรู้สึกพูดไม่ออกมากเช่นกัน

ข้าก็แค่ทำเจ้าตายไปสองครั้งเองไม่ใช่หรือ

ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้!

ถึงขั้นต้องใช้วิธีการร้ายกาจขนาดนี้มาล้างแค้นเชียวหรือ

ขณะที่เยี่ยเว่ยหมิงกำลังกลุ้มใจ ฉางซิงอวี่กลับส่งคำขอเป็นเพื่อนให้เยี่ยเว่ยหมิงอย่างแนบเนียน

หลังจากกดรับเป็นเพื่อนแล้ว ก็ใช้วิธีแชทส่วนตัวส่งลิงก์อุปกรณ์ให้เยี่ยเว่ยหมิง

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

Status: Ongoing
ไหนๆ ก็โดน NPC หลอกมาเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแล้ว อย่างน้อยก็ขอสกิลดีๆ หน่อยแล้วกัน!นิยายแฟนตาซีแนวเกมออนไลน์ที่จะพาคุณไปท่องยุทธภพและไขคดีสไตล์มือปราบขั้นเทพ!เยี่ยเว่ยหมิง หนึ่งในเด็กหนุ่มที่ลงทะเบียนสมัครใจอพยพไปต่างโลกเพื่อป้องกันสมองตายระหว่างหลับจำศีลตอนเดินทางในอวกาศเขาจึงต้องร่วมเล่นเกมออนไลน์ที่มีฉากหลังเป็นยุทธภพก่อนจะโดน NPC ลึกลับหลอกเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าสำนักมือปราบจะไม่มีอะไรเลยเพราะหลังจากที่เยี่ยเว่ยหมิงทำแบบทดสอบของใต้เท้าซ่งผ่านเขาก็ได้รับสกิลตัดสินคดีที่พ่วงมาด้วยเวทชันสูตรศพและเวทบรรจุศพซึ่งเวทบรรจุศพนี้เองทำให้เขาสามารถรับของที่ซ่อนไว้บนตัวผู้ตายได้รวมถึงดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายได้อีกด้วยเยี่ยมเลย! ตอนนี้เขาพร้อมที่จะออกไปไขคดีทั่วยุทธภพแล้ว!…[ติ๊ง! เปิดใช้พาสซีฟสกิล ‘เวทชันสูตรศพ’ คุณพบ…][ติ๊ง! สกิลพิเศษ ‘เวทบรรจุศพ’ : สามารถดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายโดยการจัดการศพ BOSS][ติ๊ง! จัดการศพผู้อาวุโสสำนักไท่ซาน ได้รับ ‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ เพิ่มค่าประสบการณ์เคล็ดกระบี่ 5000 แต้ม]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท