ตอนที่ 236 ดรรชนีวชิระทรงพลัง
สำหรับถังซานไฉ่ผู้มีคุณธรรมขนาดนี้ เยี่ยเว่ยหมิงยังจะว่าอะไรได้อีก
เขาทำได้เพียงเหยียบบนหน้าอกของอาซาน งอนิ้วคำนวณเงียบๆ จากนั้นใช้ฝ่ามือ ‘มังกรซ่อนกบดาน’ ตบไปบนหัวกะโหลกของอาซาน
-57835!
ตอนนี้เอง ในที่สุดมือธนูทั้งแปดก็พุ่งเข้ามาในวัด
จากนั้นพวกเขาทั้งแปดก็ถูกน้องดาบ สะพานสวรรค์น้อย หนิวจื้อชุนและฉางซิงอวี่ล้อมไว้แล้ว
บรรดานักธนูพวกนี้ เมื่ออยู่ในสถานที่แคบเช่นนี้ ถูกนักรบคลั่ง (หนิวจื้อชุน) นักกระบี่คู่ (สะพานสวรรค์น้อย) มือสังหาร (น้องดาบ) และทหารม้า (ฉางซิงอวี่) ล้อมไว้ ผลการต่อสู้เป็นอย่างไร แค่คิดก็รู้แล้ว
แต่พวกเขาสี่คนก็ใช่ว่าไม่เคยคิดจะชิงโจมตีอาซานเป็นครั้งสุดท้าย เพียงแต่หลังจากได้เห็นดาเมจจากการโจมตีฝ่ามือนั้นของเยี่ยเว่ยหมิง พวกเขาก็ย้ายเป้าหมายไปบนตัวนักธนูพวกนั้นยังไม่ลังเล
พวกเราตีพลังชีวิตได้ไม่กี่พัน แต่เจ้าหมอนี่ทำคริติคอลดาเมจไปห้าหมื่นกว่า!
จะไปแย่งซีนเขาเหรอ
แย่งก็บ้าแล้ว!
[ติ๊ง! ทีมของคุณโจมตีสังหาร BOSS เลเวล 65 อาซาน ยอดฝีมือของท่านอ๋องหรู่หยางแห่งมองโกล ได้รับค่าประสบการณ์ 250000 แต้ม ค่าตบะ 80000 แต้ม!]
[ติ๊ง! ทีมของคุณโจมตีสังหาร BOSS เลเวล 35 จางอีซาง ยอดฝีมือท่านอ๋องหรู่หยางแห่งมองโกล ได้รับค่าประสบการณ์…]
[ติ๊ง! ทีมของคุณ…เฉียนเอ้อร์ไป้…]
[ติ๊ง!…ซุนซานหุ่ย…]
ต้องกล่าวว่ายอดฝีมือของจวนท่านอ๋องหรู่หยางแต่ละคนตั้งชื่ออย่างขอไปทีจริงๆ
ไม่รู้เหมือนกันว่าผู้ออกแบบเกมที่ตั้งค่าภารกิจนี้ขี้เกียจขนาดไหน บอสใหญ่ชื่ออาซานก็ว่าธรรมดาแล้ว ชื่อของนักธนูแปดคนนั้นแต่ละคนก็ยิ่งไม่ตั้งใจ จางอีซาง (แปลว่าบาดเจ็บหนึ่งครั้ง) เฉียนเอ้อร์ไป้ (แพ้สองครั้ง) ซุนซานหุ่ย (ทำลายสามครั้ง) หลี่ซื่อชุย (ทลายสี่ครั้ง) โจวอู่ซู (แพ้ห้าครั้ง) อู๋ลิ่วพั่ว (แตกหกครั้ง) เจิ้งชีเมี่ย (ดับเจ็ดครั้ง) หวังปาไซ ว(ซวยแปดครั้ง)…
อย่าบอกนะว่าเจ้าแปดคนนี้เป็นฝาแฝดคนละพ่อคนละแม่กัน
ไม่กี่คนแรกยังดีหน่อย แต่คนสุดท้ายที่ชื่อหวังปาไซว…
จะว่าไปแล้วผู้ออกแบบเกมมีสภาพจิตใจเป็นอย่างไรกันแน่ ถึงได้ตั้งชื่อแบบนี้ออกมาได้
……
เป็นไปตามธรรมเนียม หลังจากมีแจ้งเตือนว่าโจมตีสังหารแล้ว ก็จะมีประกาศระบบดังขึ้นตามมาเป็นพรวน
[ประกาศระบบ: ผู้เล่นสำนักมือปราบ เยี่ยเว่ยหมิง ผู้เล่นสำนักอู่ตัง ฉางซิงอวี่ ผู้เล่นสำนักสุสานโบราณสะพานสวรรค์คริสตัล…(ชื่อน้องดาบกับหนิวจื้อชุนละไว้)]
[ประกาศระบบ: สำนักมือปราบ…]
……
ประกาศระบบดังสามรอบอย่างที่เคยเป็น ในจำนวนนั้นประกาศแรกที่บอกว่าฆ่าบอสเลเวลหกสิบห้าสะเทือนไปถึงข้างนอก ส่วนบอสเลเวลสามสิบห้าที่เหลือ สำหรับผู้เล่นในตอนนี้ การฆ่าพวกเขาได้ไม่ถือว่าประสบความสำเร็จอะไรแล้ว
แต่…
บอสประเภทที่ไม่สร้างความรู้สึกประสบความสำเร็จแบบนี้ เมื่อนำมารวมอยู่ด้วยกัน ผลที่ตามมากลับเปลี่ยนโฉมไปเลย!
ทำเฟิร์สคิล BOSS เก้าคน แต่ละคนประกาศสามครั้ง รวมแล้วเป็นประกาศระบบทั้งหมดยี่สิบเจ็ดครั้ง!
และเมื่อมีประกาศระบบเยอะขนาดนี้ต่อเนื่องกันภายในเวลาสั้นๆ ก็เกิดสถานการณ์อีกอย่างขึ้นแล้ว
ประกาศระบบ ล้างหน้าจอแล้ว!
ชั่วขณะนั้น เยี่ยเว่ยหมิง สะพานสวรรค์น้อย ฉางซิงอวี่ น้องดาบ หนิวจื้อชุนห้าชื่อนี้อยู่ในขอบเขตสายตาของทุกคนแล้ว
ถึงอย่างไรก็มีประกาศระบบหลายแถวไหลผ่านหน้าจอ ถ้าจะไม่ให้สังเกตเห็นก็คงยาก!
จากนั้นทันที ก็มีเพื่อนในเกมจากที่ต่างๆ มาร่วมกันแสดงความยินดี ชั่วขณะนั้นในวัดร้างมีนกพิราบบินมารวมกัน ประเดี๋ยวเดียวก็กลายเป็น…แค่กๆ ถึงอย่างไรก็มีพิราบขาวบินเต็มวัด เป็นฉากที่อลังการเป็นพิเศษ
ทุกคนกำลังยุ่งอยู่กับการตอบกลับข้อความ แต่สีหน้ากลับนิ่งเงียบบ้างจริงจังบ้างต่างกันไป
ที่แท้ผลตอบแทนส่วนนี้ เกียรติยศส่วนนี้ สหายถังควรจะมีส่วนร่วมด้วย
น่าเสียดาย…
ท่ามกลางความเงียบงันนี้ มีเพียงร่างของสะพานสวรรค์น้อยที่สั่นเล็กน้อย สีหน้าของนางเผยความตื่นเต้นดีใจอย่างยากจะปิดบังได้ แต่นางก็รู้เช่นกันว่าเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ถังซานไฉ่ประสบเคราะห์ร้าย แสดงออกถึงความดีใจมากเกินไปก็จะดูไม่ดี ดังนั้นนางจึงรีบหันหน้าไปอีกทาง เพียงแต่สีหน้าดีใจที่นางยากจะปิดบังก่อนหน้านี้ก็ยังคงอยู่ในสายตาของทุกคนแล้ว
ชั่วขณะนั้น คนในวัดมองสาวงามที่เหมือนภูเขาน้ำแข็งคนนี้ด้วยสายตาดูถูกนิดหน่อย
แปะ! แปะ! เมื่อเห็นบรรยากาศเปลี่ยนเป็นอึดอัดเล็กน้อย เยี่ยเว่ยหมิงก็ปรบมือ หลังจากดึงดูดความสนใจของทุกคนมาไว้ที่ตัวเองแล้วก็บอกว่า “เนื่องจากสหายถังประสบโชคร้าย ข้าเสนอให้สลับสิทธิ์ในการแบ่งไอเทมกับสหายถังสักหน่อย แต่ถ้าพูดไปตรงๆ ด้วยนิสัยของเขาคงไม่เลือกของชิ้นที่ดีที่สุดไปแน่นอน…
…ดังนั้น ไม่ว่าอาซานจะดรอปไอเทมอะไร ชิ้นที่ราคาแพงที่สุดในนั้นควรเป็นของสหายถัง ทุกคนมีอะไรจะคัดค้านไหม”
เมื่อเอ่ยถึงเรื่องแบ่งไอเทมดรอปจากบอส ทุกคนก็ตกตะลึง ในใจกำลังคิดว่าข้อเสนอของเยี่ยเว่ยหมิงมีความเป็นไปได้สูงว่ากำลังพูดเรื่องแบ่งรางวัลในตอนสุดท้าย นโยบายเอนเอียงไปทางถังซานไฉ่
สำหรับเรื่องนี้ ทุกคนล้วนแสดงออกว่าเข้าใจได้
ถึงอย่างไรทุกคนก็โจมตีบอสด้วยกัน ในรางวัลย่อมมีส่วนของถังซานไฉ่ ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็เลือกสละชีวิตตัวเองเพื่อผลประโยชน์ของทุกคน แล้วตอนนี้เขาก็ไม่ได้แม้กระทั่งรางวัลที่เป็นค่าประสบการณ์และค่าตบะพื้นฐาน
สำหรับถังซานไฉ่ เดิมทีนี่ก็คือเรื่องที่ไม่ยุติธรรมอยู่แล้ว
หรือไม่ตัวเขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องพวกนี้เลย แต่ในฐานะที่เป็นเป็นสหายร่วมทีม การรับผลประโยชน์ไปเงียบๆ แบบนี้โดยไม่คิดจะชดเชยความเสียหายให้เขาสักหน่อย กลับทำให้คนผิดหวังอย่างเลี่ยงไม่ได้
ทว่า สิ่งที่ทำให้ทุกคนคิดไม่ถึงก็คือ นโยบายการแบ่งไอเทมที่เยี่ยเว่ยหมิงเสนอ กลับต้องสละผลประโยชน์ของตัวเองเพื่อชดเชยความเสียหายให้ถังซานไฉ่ แต่ไม่เอ่ยถึงเลยว่าคนอื่นควรจะสละอะไร
นี่เป็นแบบฉบับของลูกพี่ใหญ่เลย!
ถ้าลองสลับกัน เขาลองถามใจตัวเองแล้ว พบว่าตัวเองทำได้ไม่สง่างามอย่างเยี่ยเว่ยหมิงแน่นอน
ทว่า สิ่งที่ทำให้ทุกคนคิดไม่ถึงยิ่งกว่านั้นก็คือ หลังจากเสียงของเยี่ยเว่ยหมิงเงียบลง สะพานสวรรค์น้อยก็พูดขึ้นว่า “หรือไม่อย่างนั้น ข้าก็แบ่งของตัวเองส่วนหนึ่งด้วย ชดเชยความเสียหายให้สหายถังสักหน่อยแล้วกัน…
…อย่างไรเสีย ในระหว่างปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ ผลตอบแทนสูงสุดที่พวกเราได้ แท้จริงแล้วไม่ใช่ไอเทมดรอปพวกนั้นของบอส เพราะพวกเรามีกันหลายคน ค่าผลตอบแทนที่มากกว่านั้นก็คือค่าตบะจำนวนมากหลังจากฆ่าบอส รวมทั้งรางวัลหลังจากภารกิจเสร็จสิ้นมากกว่า แน่นอนว่ายังมีโอกาสได้ออกทีวีด้วย…
…แต่ของพวกนี้ สหายถังไม่ได้รับเลย”
ทุกคนได้ยินแล้วพากันตกอยู่ในความเงียบ ถึงขั้นรู้สึกผิดอยู่หลายส่วน
ก่อนหน้านี้พวกเขาดูถูกน้องสะพานสวรรค์น้อย แต่เวลาพูดเรื่องผลประโยชน์ส่วนบุคคล นอกจากเยี่ยเว่ยหมิงแล้ว มีใครใจกว้างกว่าสะพานสวรรค์น้อยบ้าง
อีกฝ่ายก็แค่ดีใจนิดหน่อยหลังจากเห็นประกาศระบบ จะเป็นไรไป
พวกเรากลับดีใจไม่ขึ้น ถ้าเก่งนักพวกเจ้าก็แบ่งผลประโยชน์ในมือออกมาสิ
ในเมื่อทำไม่ได้ แล้วมีสิทธิ์อะไรไปดูถูกคนอื่น
“ข้ารู้สึกว่าข้อเสนอของเจ้าไม่เหมาะสม” เป็นอย่างที่คาดไว้ คนที่ไม่เห็นด้วยก็คือน้องดาบผู้ต่อต้านเยี่ยเว่ยหมิงมาตลอด “ในเมื่อสหายถังเป็นเพื่อนร่วมทีมของพวกเราทุกคน เขาเสียสละเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทุกคน เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาเป็นคนดีอยู่คนเดียว…
…ส่วนข้อเสนอของสะพานสวรรค์น้อยก็ยิ่งเหลวไหล เจ้านำรางวัลส่วนที่ตัวเองควรจะได้มาชดเชยให้สหายถัง แล้วเจ้าจะให้คนอื่นทำอย่างไร…
…คนอื่นควรจะแบ่งบ้าง หรือไม่แบ่งดี”
เมื่อได้ยินดังนั้น เยี่ยเว่ยหมิงก็อดยิ้มและถามกลับไม่ได้ว่า “แล้วเจ้ามีข้อเสนออะไรที่ดีกว่านี้ล่ะ”
ถ้าในทีมมีเพียงคนของสำนักมือปราบ เรื่องแบบนี้ย่อมไม่ต้องพิจารณาอะไรมาก เยี่ยเว่ยหมิงพูดอะไรก็ว่าไปตามนั้น ทุกคนก็ไม่เกรงใจเขาเช่นกัน
แต่ทุกคนในทีมตอนนี้ไม่ถือว่าเป็นคนที่สนิทกันมาก มารยาทที่ควรจะมีก็ยังต้องมี
ข้อเสนอของน้องดาบหลังจากนั้นก็คือ ถังซานไฉ่สมควรได้รับการชดเชย แต่การชดเชยต้องมาจากทุกคนเฉลี่ยเท่าๆ กัน
ฉางซิงอวี่กล่าวเสริมอีก เสนอว่าให้นำไอเทมดรอปของบอสที่แพงที่สุดในตลาดมาชดเชยให้กับคุณงามความดีและการเสียสละของถังซานไฉ่ ส่วนที่เหลือก็ทำตามคำแนะนำก่อนหน้านี้ ให้เยี่ยเว่ยหมิงเลือกก่อนหนึ่งชิ้น ส่วนที่เหลือทุกคนก็ค่อยใช้วิธีประมูลขาย
ทุกคนต่างก็รู้สึกว่าข้อเสนอของฉางซิงอวี่ดีที่สุด ดังนั้นการแบ่งไอเทมของการต่อสู้ครั้งนี้ก็ถูกกำหนดไว้อย่างนี้แล้ว
หลังจากทุกคนมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ เยี่ยเว่ยหมิงก็เตะศพอาซานหนึ่งที มีข้อมูลของหลายชิ้นลอยขึ้นมาทันที
[หมวกจินกัง (ทองคำ)]
หมวกงอบที่ชาวยุทธ์ชอบใส่ มีผลป้องกันในระดับหนึ่ง
ป้องกัน +100
พละกำลัง +50
ท่าร่าง +50
……
[ดรรชนีวชิระทรงพลัง (ระดับสูง)]
หนึ่งในเจ็ดสิบสองสุดยอดวิชาของเส้าหลิน พลังดรรชนีดุดันแข็งแกร่ง อานุภาพเกรียงไกร
เงื่อนไขการฝึก
พละกำลัง: 150
ความแข็งแกร่ง: 150
สติปัญญา: 30
……
[รองเท้าลมโหม (ทองคำ)]
รองเท้ายาวที่เบามากคู่หนึ่ง ทำให้ผู้สวมใส่ก้าวเดินอย่างมั่นคงเหมือนบินได้
ป้องกัน +50
ท่าร่าง +100
……
[ขี้ผึ้งหยกดำต่อกระดูก]
ยาลับเฉพาะของสำนักจินกังแห่งแดนซีอวี้ มีสรรพคุณเทพอย่างต่อกระดูกปลูกเส้นเอ็น ใช้ตอนต่อสู้ได้ แก้ไขอาการเส้นเอ็นขาด กระดูกแตกและสถานะบาดเจ็บต่างๆ ได้ ฟื้นฟูพลังชีวิต100%! (จำนวนครั้งที่ใช้ได้ 10/10)
……
อุปกรณ์ทองคำสองชิ้น ตำราลับทักษะยุทธ์หนึ่งเล่ม ยาหนึ่งตลับที่ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บได้ในชั่วพริบตาเดียว ซึ่งใช้ได้สิบครั้ง
บอสเลเวลหกสิบห้าคนหนึ่งดรอปเพียงของสี่อย่างนี้
“เท่านี้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว” ตอนนี้น้องดาบพลันเอ่ยว่า “บอสระดับสูงแบบนี้พวกเราเคยฆ่ามานับไม่ถ้วน แต่จะมีสักกี่คนที่เคยดรอปตำราลับระดับสูง”
เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วอึ้งทันที เหมือนจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ
ตอนนี้กลับได้ยินน้องดาบอธิบายต่อ “ตำราลับวิทยายุทธ์ระดับต่ำและระดับกลางในเกมนี้ ก็ถือว่ามีอัตราดรอปที่ไม่เลวเลย แต่ดรอปตำราลับระดับสูงยากมาก…
…นอกจากกำจัดบอสร่างแท้โหมดปกติที่จะได้รับรางวัลที่ดีที่สุดตามสภาพของอีกฝ่าย ส่วนใหญ่ก็มีแต่ต้องทำเฟิร์สคิลถึงจะมีอัตราการดรอปที่แน่นอน…
…ทั้งอัตราการดรอปจากการทำเฟิร์สคิลก็ไม่ได้สูงด้วย!”
ทุกคนได้ยินแล้วก็จดจำประสบการณ์ที่นางแบ่งปันอยู่ในใจเงียบๆ ต่างก็รู้สึกว่าการตั้งค่าแบบนี้สมเหตุสมผล ไม่อย่างนั้นถ้าแม้แต่วิทยายุทธ์ระดับสูงยังดรอปได้จากบอสทั่วไป เช่นนั้นการเข้าสำนักจะยังมีประโยชน์อะไร
อิงตามที่คุยกันไว้ก่อนหน้านี้ เยี่ยเว่ยหมิงส่งตำราลับ ‘ดรรชนีวชิระทรงพลัง’ เข้าไปในช่องทีม จากนั้นก็ [@ถังซานไฉ่ พร้อมแนบข้อความว่า ‘ของเจ้า’]
เมื่อส่งข้อความไปแล้ว ก็ผ่านไปเจ็ดวินาทีเต็มๆ ถังซานไฉ่ถึงได้ตอบข้อความกลับมา [นี่คงจะเป็นของที่แพงที่สุดในบรรดาไอเทมดรอปสินะ แต่มันไม่เหมาะกับข้าหรอก ข้าเลือกฝึกอาวุธลับควบคู่กับเคล็ดกระบี่ ไม่อยากฝึกวิชาดรรชนีเพิ่มอีกแล้ว]
มองออกเลยว่ายามเผชิญหน้ากับวิทยายุทธ์ระดับสูงเช่นนี้ ในใจของเขาก็ลังเลมากเช่นกัน
[ที่จริงข้าคิดว่าหากมีตำราลับเล่มนี้แล้ว สหายถังก็พิจารณายกเลิกเส้นทางการฝึกวิชาควบคู่กันก่อนหน้านี้ไปได้เลย] ฉางซิงอวี่กล่าวในช่องทีม [อิงตามสถิติของผู้เล่นมืออาชีพอีกคนที่ข้ารู้มา ทักษะยุทธ์ในเกมล้วนมีความเกี่ยวข้องกันทั้งนั้น]
[และวิชาอาวุธลับก็เป็นก้าวแรกที่สำคัญของวิชาดรรชนี ถ้าฝึกวิชาดรรชนีวชิระทรงพลังควบคู่กันไป ก็จะทำให้ประสิทธิภาพอาวุธลับของเจ้าเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งขั้น ถึงขั้นเพิ่มขึ้นสองขั้นด้วย]
ถังซานไฉ่ยังคิดจะพูดอะไรอีก แต่เยี่ยเว่ยหมิงกลับตัดสินใจแทนเสียเลย [ตกลงตามนี้แล้วกัน ตำราลับเล่มนี้เป็นของเจ้า แต่ไอเทมอย่างอื่นที่ดรอปจากบอสเก้าคนที่เหลือไม่เกี่ยวกับเจ้า เจ้าไปรอพวกเราที่นอกวัดร้างโหย่วเจียนได้เลย พวกเรายังต้องไปสู้กับหยวนเจินต่อ]