ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ – ตอนที่ 299 ไล่สังหารเถียนปั๋วกวง

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 299 ไล่สังหารเถียนปั๋วกวง

ตอนที่ 299 ไล่สังหารเถียนปั๋วกวง

ผิงอี้จื่อส่ายหน้ากล่าวอย่างใจเย็นมาก “บนโลกนี้จะมีคนว่าคนน้อยเท่าไร สวรรค์กับยมทูตย่อมมีข้อมูลอยู่ในใจอยู่แล้ว หากข้ารักษาให้คนจำนวนมาก คนเป็นก็จะเยอะเกินไปและคนตายก็จะน้อยเกินไป รู้สึกผิดต่อท่านยมราช…

…ด้วยเหตุนี้ ข้าถึงได้สาบานไว้ว่าขอเพียงช่วยชีวิตคนได้หนึ่งคน ก็ต้องฆ่าทิ้งหนึ่งคนเพื่อให้เกิดจำนวนที่สมดุล เช่นเดียวกัน หากต้องการจะฆ่าใครสักคน ก็ต้องช่วยชีวิตคนหนึ่งคนเพื่อเติมจำนวนด้วย…

…เพราะเป็นเช่นนี้ สวรรค์จะไม่โทษที่ข้าสังหารคน ท่านพญายมก็จะไม่โทษว่าเขาแย่งงานที่โลกใต้พิภพ…

…หากถามว่าทำไมต้องเป็นเถียนปั๋วกวง” ผิงอี้จื่อตอบอย่างไม่แยแส “ก็เป็นเพราะภารกิจของพวกเจ้าสุ่มไปเจอเขา ถือว่าเขาโชคร้ายก็เท่านั้นเอง…

…อย่าบอกนะว่าพวกเจ้าไม่เห็นว่าเมื่อครู่นี้ข้าหลับตาเลือก”

เมื่อได้ฟังดังนั้น เยี่ยเว่ยหมิงกับอินปู้คุยก็สบตากันอีกครั้ง แต่บนใบหน้ากลับเผยรอยยิ้มขื่นขมจนใจพร้อมกัน เพราะเถียนปั๋วกวงคนนี้ เมื่ออยู่ในภารกิจฆ่าคนของผิงอี้จื่อ จะต้องเป็นคนที่ค่อนข้างรับมือยากแน่นอน!

หากจะบอกว่าใครชื่อเสียงฉาวโฉ่ที่สุดในยุทธภพ ก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจากโจรราคะ ถึงขั้นว่าแม้แต่จอมมารที่สองมือเต็มไปด้วยเลือดก็ยังไม่ถูกคนเกลียดเท่าโจรราคะที่ย่ำยีบุปผาเลย

ชาวยุทธ์คนหนึ่งหากคิดสะสมชื่อเสียงบารมี การสังหารโจรราคะสักคนก็ถือเป็นงานที่ได้กำไรแน่นอนอยู่แล้ว

อีกทั้งเถียนปั๋วกวงคนนี้ก็ไม่ใช่แค่โจรราคะธรรมดาเท่านั้น ถึงขั้นกล่าวได้ว่าเป็นลูกพี่ใหญ่ในหมู่โจรราคะ ระดับชื่อเสียงของเขา ต่อให้เป็นบรรดาสำนักพี่ใหญ่ในยุทธภพ หากสังหารเขาได้ ก็จะได้รับชื่อเสียงบารมีไม่ธรรมดาแน่นอน!

ยอดฝีมือบู๊ลิ้มที่อยากได้หัวของเขามีไม่น้อยแน่นอน แต่จนกระทั่งตอนนี้ เถียนปั๋วกวงนั่นก็ดันยังมีชีวิตอยู่อย่างดี

พลังชีวิตของเขาแข็งแกร่งขนาดไหน ดูจากจุดเล็กๆ นี้ก็เห็นภาพรวมแล้ว!

อิงจากข้อมูลที่อินปู้คุยให้มา ทักษะยุทธ์ของเจ้าหมอนี่ก็สูงมากอยู่แล้ว ความสามารถของเขาต่อให้เทียบกับอวี๋ชางไห่ก็ด้อยกว่าไม่เท่าไร หากสู้กันตัวต่อตัว ต่อให้เป็นเยี่ยเว่ยหมิงตอนนี้ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอยู่ดี

ที่สำคัญกว่านั้นก็คือเถียนปั๋วกวงมีฉายาว่าเดินเดี่ยวหมื่นลี้ วิชาตัวเบาของเขาก็ยิ่งหายากในยุทธภพ

ถ้าอาศัยแค่ทักษะยุทธ์แข็งแกร่งอย่างเดียว ด้วยระดับความเกลียดชังที่คนมีต่อเถียนปั๋วกวง พวกยอดฝีมือบู๊ลิ้มที่เก่งกว่าเขาคงสังหารเขาตายไปนานแล้ว แต่ด้วยวิชาตัวเบาระดับสูงของเขา ต่อให้เป็นพวกยอดฝีมือที่เอาชนะเขาได้ ก็อาจจะตามเขาไม่ทันอยู่ดี

นี่ก็คือคุณสมบัติพื้นฐานของโจรราคะระดับสูงในจักรวาลนิยายของนักเขียนจินยง ได้ยินว่าอวิ๋นจงเฮ่อ โจรราคะอีกคนที่มีชื่อเสียงพอๆ กับเขาก็มีวิชาตัวเบาที่สุดยอดเช่นเดียวกัน

ทักษะยุทธ์ที่ไม่ธรรมดา บวกกับวิชาตัวเบาอันยอดเยี่ยม โจรราคะต้องมีสองคุณสมบัติมาตรฐานนี้ หลังจากมีชื่อเสียงขึ้นมาแล้วถึงจะไม่ถูกคนสังหารตายภายในเวลาสั้นๆ

และคุณสมบัติสองข้อนี้ ก็คือสาเหตุที่ทำให้ทั้งสองรู้สึกปวดหัวมากหลังจากได้ยินชื่อนี้

เพราะถ้าอีกฝ่ายคิดจะหนีเมื่อไร เกรงว่าผู้เล่นในปัจจุบันคงไม่มีใครตามทัน ต่อให้เยี่ยเว่ยหมิงกับน้องดาบร่วมมือกันก็ไม่ไหวอยู่ดี!

จะทำให้เถียนปั๋วกวงตายได้อย่างไร ถือเป็นปัญหาใหญ่จริงๆ!

เพียงแต่ก่อนจะถึงเวลานั้น ยังมีโจทย์ยากอีกข้อรออยู่ตรงหน้าพวกเขาอีก นั่นก็คือ จะหาที่อยู่ที่เป็นหลักแหล่งของเถียนปั๋วกวงเจอได้อย่างไร

หลังจากลังเลครู่หนึ่ง เยี่ยเว่ยหมิงก็ตัดสินใจลองหาเบาะแสจากผิงอี้จื่อ ทว่าคำตอบที่ได้รับก็คือ “ข้าเป็นคนเสนอเงื่อนไข พวกเจ้ารับหน้าที่สังหารคน เถียนปั๋วกวงจะเป็นหรือตายไม่ใช่สิ่งที่ข้ากังวล เป็นเพียงงานที่อยู่ในกฎเกณฑ์ของข้าเท่านั้น…

…ตอนนี้สิ่งเดียวที่ข้ารับประกันให้พวกเจ้าได้ก็คือ หลังจากรับภารกิจของข้าแล้ว เถียนปั๋วกวงที่พวกเจ้าต้องเจอเป็น BOSS ร่างแท้โหมดปกติแน่นอน ส่วนเรื่องอื่นเจ้าต้องคิดหาทางเอาเอง…

…หากพวกเจ้าสังหารเถียนปั๋วกวงแล้ว ข้าก็จะไปช่วยชีวิตคนที่สำนักอู๋ตังกับพวกเจ้า หากพวกเจ้าสังหารคนไม่สำเร็จ ประตูก็อยู่ตรงนั้น กลับดีๆ ข้าส่งแค่ตรงนี้!…

“BOSS ร่างแท้โหมดปกติ? บัดซบ ไม่สู้สั่งให้พวกเราไปฆ่าบอสเวอร์ชันถูกตอนในโหมดภารกิจเสียเลยดีกว่า!” อินปู้คุยบ่นด้วยความไม่พอใจแล้วเดินตามหลังเยี่ยเว่ยหมิงออกมาจากโรงหมอสังหารของผิงอี้จื่อ

พอออกจากประตู จู่ๆ อินปู้คุยก็บอกว่า “สหายเยี่ย หรือเราจะไม่ทำภารกิจนี้ดี ถ้าต้องฆ่าเถียนปั๋วกวง ไม่สู้ใช้พลังความคิดตามหาเซวียมู่หวาดีกว่า!”

เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วกลับส่ายหน้าเล็กน้อย “ล้มเลิกกลางคันไม่ใช่ลักษณะของข้า แถมหัวของเถียนปั๋วกวงไม่เพียงแค่ทำให้ชื่อเสียงยุทธภพของ NPC เพิ่มขึ้นมาก ทั้งยังทำให้ผู้เล่นได้ค่าวีรบุรุษไม่น้อยเลยด้วย…

…ไหนๆ ก็มาแล้ว ถ้าปล่อยค่าวีรบุรุษทิ้งไปเยอะๆ แบบนี้ ไม่ถือว่าเสียของหรอกหรือ”

อินปู้คุยได้ยินแล้วกลุ้มใจ “หากเลือกได้ ข้าก็หวังจะฆ่าเถียนปั๋วกวงเพื่อดรอปเอาตำราลับ มากกว่าไปหาเซวียมู่หวาเพื่อมอบตำราลับให้อยู่แล้ว แต่ปัญหาก็คือ…ช้าก่อน!” จู่ๆ ก็ตระหนักอะไรขึ้นได้ อินปู้คุยเริ่มมองเยี่ยเว่ยหมิงด้วยสายตาแปลกๆ “ฟังจากที่เจ้าพูด ไม่ใช่ว่าเจอวิธีตามหาเถียนปั๋วกวงแล้วหรอกใช่ไหม”

“วิธีการน่ะยังคิดไม่ออกหรอก” เยี่ยเว่ยหมิงยิ้มอย่างมั่นใจ “เพียงแต่ข้างกายข้ามีผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ!”

“เชี่ยวชาญขนาดนั้นเลยหรือ”

“เจ้าจะเข้าใจว่าเขาเป็น GPS ร่างมนุษย์ก็ได้ ระบบนำทางด้วยดาวเทียมทั้งแผนที่”

ขณะที่พูด พิราบสื่อสารสีขาวตัวหนึ่งก็บินออกจากบ่าเยี่ยเว่ยหมิงไปแล้ว หลังจากบินด้วยวิถีทางพิเศษที่ทุกคนเข้าใจกัน มันก็ตรงไปทางสำนักมือปราบเทพทันที

……

หลังจากนั้นห้านาที เฟยอวี๋ก็มาถึงแล้ว

พอได้ยินว่ามี BOSS ให้โจมตี ทั้งยังเป็นยอดฝีมือวิชาดาบ ครั้งนี้เขาถึงขั้นไม่เสนอเงื่อนไขในการช่วยเหลือด้วยซ้ำ วิ่งสั่นหางส่ายก้นเข้ามาด้วยความเต็มใจแล้ว

แต่หลังจากรู้สถานการณ์โดยละเอียด เฟยอวี๋กลับยักไหล่สองข้างอย่างจนใจ “เรื่องนี้ข้าทำไม่ไหว”

เยี่ยเว่ยหมิงยิ้มเรียบๆ “หากข้ายินดีชดเชยความเสียหายให้เจ้าล่ะ”

เขาจำได้ว่าตอนแรกที่ไล่สังหารวั่งเหยียน เฟยอวี๋เคยบอกไว้ ว่าทักษะ ‘สืบเสาะหมื่นลี้’ ของเขามีขีดจำกัดการใช้งาน ถ้าใช้งานเมื่อไร ก็จะเจอพิกัดที่ระบบนำทางค้นหาโดยตรง แต่เขาจะต้องเสียค่าผลงานสำนัก

และสำหรับของที่ใช้เวลาสะสมนานอย่างค่าผลงานสำนัก เยี่ยเว่ยหมิงเชื่อว่า ขอเพียงตนยอมเสียสละสักหน่อยตอนแบ่งไอเทมดรอปของเถียนปั๋วกวง เฟยอวี๋จะต้องยินดีเสียค่าผลงานสำนักและเจอเป้าหมายอย่างรวดเร็วแน่นอน

ทว่าพอได้ยินเยี่ยเว่ยหมิงถามซักไซ้อย่างมั่นใจเต็มร้อยแบบนี้ เฟยอวี๋กลับอธิบายอย่างจนใจว่า “ไม่ใช่ปัญหาเรื่องเสียค่าผลงานสำนัก ต่อให้เป็น GPS อย่างน้อยเจ้าก็ต้องรู้ข้อมูลบางส่วนของเป้าหมายอยู่ดีไม่ใช่หรือ…

…แต่สถานการณ์จริงก็คือตอนนี้ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเถียนปั๋วกวงหน้าตาเป็นอย่างไร ต่อให้ต้องการหา ก็ไม่รู้เลยว่าจะเริ่มจากตรงไหน!”

“หรือพูดได้อีกอย่างว่า ต้องมีเบาะแสบางอย่าง?”

“ถูกต้อง” เฟยอวี๋พยักหน้า “ขอเพียงมีเบาะแสนิดหน่อย หรือรู้ว่าเถียนปั๋วกวงเคยผ่านไปที่ไหนบ้าง ข้ารับรองว่าจะบีบเขาออกมาได้แน่นอน!”

เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้าสื่อว่าเข้าใจ จากนั้น…

[ช่องเวิลด์ไวด์] เยี่ยเว่ยหมิง: ประกาศให้รางวัล 100 เหรียญทองสำหรับเบาะแสเกี่ยวกับเถียนปั๋วกวง ผู้ที่รายงานข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ผ่านการตรวจสอบแล้วรับเงินทันที โอกาสหายาก หากพวกเรายืนยันเส้นทางของเขาได้แล้ว ประกาศแจกรางวัลนี้จะสิ้นสุดทันที หากช้าไปก้าวเดียว เจ้าจะพลาด 100 เหรียญทอง!]

เมื่อประกาศข่าวนี้ออกมา ระบบหลังบ้านของเยี่ยเว่ยหมิงก็ได้รับคำขอเป็นเพื่อนไม่ต่ำกว่ายี่สิบรายการทันที หลังจากกดรับเพื่อนที่เลเวลสูงสุดหนึ่งคนจากจำนวนนั้น ข่าวที่ได้รับก็คือ เถียนปั๋วกวงเคยปรากฏตัวที่อำเภอชิงฉวี่ซึ่งอยู่ห่างจากทิศตะวันออกของเมืองฉางอันสิบลี้

เวลาก็คือเมื่อคืนวาน!

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

Status: Ongoing
ไหนๆ ก็โดน NPC หลอกมาเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแล้ว อย่างน้อยก็ขอสกิลดีๆ หน่อยแล้วกัน!นิยายแฟนตาซีแนวเกมออนไลน์ที่จะพาคุณไปท่องยุทธภพและไขคดีสไตล์มือปราบขั้นเทพ!เยี่ยเว่ยหมิง หนึ่งในเด็กหนุ่มที่ลงทะเบียนสมัครใจอพยพไปต่างโลกเพื่อป้องกันสมองตายระหว่างหลับจำศีลตอนเดินทางในอวกาศเขาจึงต้องร่วมเล่นเกมออนไลน์ที่มีฉากหลังเป็นยุทธภพก่อนจะโดน NPC ลึกลับหลอกเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าสำนักมือปราบจะไม่มีอะไรเลยเพราะหลังจากที่เยี่ยเว่ยหมิงทำแบบทดสอบของใต้เท้าซ่งผ่านเขาก็ได้รับสกิลตัดสินคดีที่พ่วงมาด้วยเวทชันสูตรศพและเวทบรรจุศพซึ่งเวทบรรจุศพนี้เองทำให้เขาสามารถรับของที่ซ่อนไว้บนตัวผู้ตายได้รวมถึงดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายได้อีกด้วยเยี่ยมเลย! ตอนนี้เขาพร้อมที่จะออกไปไขคดีทั่วยุทธภพแล้ว!…[ติ๊ง! เปิดใช้พาสซีฟสกิล ‘เวทชันสูตรศพ’ คุณพบ…][ติ๊ง! สกิลพิเศษ ‘เวทบรรจุศพ’ : สามารถดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายโดยการจัดการศพ BOSS][ติ๊ง! จัดการศพผู้อาวุโสสำนักไท่ซาน ได้รับ ‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ เพิ่มค่าประสบการณ์เคล็ดกระบี่ 5000 แต้ม]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท