ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ – ตอนที่ 349 เอ็นทองแดงกระดูกเหล็ก[1]

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 349 เอ็นทองแดงกระดูกเหล็ก[1]

ตอนที่ 349 เอ็นทองแดงกระดูกเหล็ก[1]

ในสายตาของสะพานสวรรค์น้อย เยี่ยเว่ยหมิงเป็นคนที่สามารถทำได้ทุกอย่าง อย่างไรเสียขอเพียงติดตามเขา ก็จะได้ออกทีวีเพิ่มแสงให้กับชื่อนี้ได้ บางทีอาจจะหาใครบางคนเจอ…

แต่ในสายตาของน้องดาบ เยี่ยเว่ยหมิงกลับเป็นผู้มีพรสวรรค์ปีศาจที่เปลี่ยนขยะให้กลายเป็นของวิเศษได้ ความสามารถสูงสุดของเขาก็คือ แสดงประสิทธิภาพของบางสิ่งที่เดิมทีถูกต้องดีงามอยู่แล้วให้กลายเป็นสิ่งที่คนเห็นแล้วหมดแรงบ่น และผลลัพธ์ที่ได้ก็มักจะดีมากอย่างอัศจรรย์

ยกตัวอย่างเช่น ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ นี่คือทักษะยุทธ์ที่ยิ่งใหญ่ สง่าผ่าเผยและชอบธรรมขนาดไหน! ถึงขนาดว่าหากไม่ใช่จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ที่จิตใจกว้างขวางและถ่อมตัว ก็ไม่อาจแสดงประสิทธิภาพที่แท้จริงออกมาได้

แต่เมื่อมันไปอยู่ในมือเยี่ยเว่ยหมิงแล้ว เขากลับใช้มันได้อย่างหน้าเนื้อใจเสือที่สุด ความถี่ที่เขาใช้กระบวนท่า ‘มังกรซ่อนกบดาน’ วางกับดักทำร้ายคน บ่อยกว่าตอนที่เขาใช้ต่อสู้กับคนอื่นแบบจริงจังเสียอีก

แต่หากจะบอกว่าเขาแสดงประสิทธิภาพของเคล็ดฝ่ามือนี้ออกมาไม่ได้ นั่นกลับเป็นคำวิจารณ์ที่แสดงถึงเจตนาร้ายเช่นกัน

อย่างไรเสีย ผลงานการต่อสู้อันทรงเกียรติเหล่านั้นที่เขาใช้ ‘มังกรซ่อนกบดาน’ โจมตี ต่อให้เปลี่ยนเป็นกัวจิ้ง หรือเฉียวเฟิงมาใช้ค่าสเตตัสของเขา ก็ไม่มีทางทำได้เหมือนเขาอยู่ดี

ส่วน ‘วิชาดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ ของมารบูรพาหวงเย่าซือก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง

เขาถึงขั้นกล้าใช้ทักษะนี้มาดีดหน้าผากสาวน้อยที่สุดแสนจะน่ารักคนหนึ่งแล้ว มารดาเจ้าเถอะ นี่เป็นเรื่องที่คนทั่วไปทำได้ลงคออย่างนั้นหรือ

ส่วนวิชา ‘วิชาราชสีห์คำราม’ ในสายตาผู้เล่นเลเวลต่ำหลายคน มันถือเป็นวิชาที่เจ๋งสุดๆ แน่นอน แต่ในสายตาของยอดฝีมือที่แท้จริง อย่างมากมันก็เป็นเหมือนเครื่องมือชั้นดีสำหรับกำจัดวัชพืช

หรือพูดได้อีกอย่างว่า ตอนใช้ทักษะนี้กับยอดฝีมือระดับเดียวกัน มันก็คือทักษะที่ไม่มีประโยชน์

แต่ทักษะที่มีไว้ใช้กำจัดวัชพืชแบบนี้ เจ้าหมอนี่กลับสั่งให้เพื่อนใช้มันสู้กับ BOSS ที่เลเวลต่างกันสี่สิบเลเวล อีกทั้งประสิทธิภาพก็ไม่เลวด้วย!

ประสิทธิภาพของ ‘วิชาราชสีห์คำราม’ เป็นอย่างไร น้องดาบที่ต่อสู้กับเหมยเชาเฟิงอยู่แนวหน้ารู้สึกได้ชัดเจนที่สุด เพราะเมื่ออินปู้คุยส่งเสียงคำรามออกมา กระบวนท่าของเหมยเชาเฟิงก็ปั่นป่วนไปโดยสิ้นเชิง กรงเล็บคมซึ่งดูเหมือนดุดันที่ปล่อยออกมาต่อเนื่อง กลับเป็นการโจมตีมั่วซั่วเหมือนแมลงวันไร้หัว หาไม่เจอเลยว่าเป้าหมายอยู่ตรงไหน

เมื่อเกิดสถานการณ์อย่างนี้ขึ้น น้องดาบก็ไม่เพียงแค่ไม่รู้สึกแปลกใจใดๆ กลับรู้สึกว่าเป็นอย่างนี้ก็สมเหตุสมผลแล้วด้วยซ้ำ

อย่างไรเสีย เหมยเชาเฟิงก็เป็นเพียงคนตาบอดคนหนึ่ง แยกแยะสิ่งต่างๆ โดยใช้การฟังอย่างเดียว พออินปู้คุยคำรามออกมา นอกจากคนที่เปล่งเสียงออกมาเองแล้ว ไม่ว่าใครก็ได้ยินเสียงของสิ่งอื่นลำบากทั้งนั้น

ใช้ทักษะเฉพาะควบคุม BOSS บางคนโดยเฉพาะ เจ้าหมอนี่นับว่าช่างมีหัวคิดดีจริงๆ

ทว่าการที่น้องดาบคิดอย่างนี้ เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้เห็นว่าเหลียงจื่อเวิงตายอย่างไร

ไม่อย่างนั้นแล้ว นางต้องประเมินระดับความหน้าเนื้อใจเสือของเยี่ยเว่ยหมิงใหม่แน่นอน

เมื่อเห็นสถานการณ์แบบนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็เรียกทุกคนเข้าไปล้อมโจมตีทันที ส่วนตัวเขาเองก็เริ่มตัวกลายเป็นสีแดง ภายใต้สภาพอากาศที่หนาวเหน็บของภาคเหนือ บนตัวเขามีไอร้อนลอยขึ้นมาหนึ่งชั้นอย่างที่ตาเปล่าสังเกตเห็นได้ “ประตูด่านที่เจ็ด เคียวมง เปิด!”

ก็ได้ ครั้งนี้เพื่อที่จะประหยัดเวลา เยี่ยเว่ยหมิงล้มเลิกความคิดที่จะท่องกลอนอวดเก่งแล้ว เขาเปิดใช้สถานะ ‘หยกแหลกลาญทะลวงเขาคุนหลุน’ ท่ามกลางเสียงคำราม ตามด้วยถลันร่างเข้าเขตการต่อสู้อย่างรวดเร็วราวกับฟ้าแลบ เข้ามาอยู่กลางวงล้อมโจมตีเหมยเชาเฟิงแล้ว

พอลงมือก็ใช้ท่าไม้ตายที่ทรงพลังที่สุดทันที!

มังกรซ่อนกบดาน!

ท่าร่างของเยี่ยเว่ยหมิงรวดเร็วถึงขีดสุด แต่ฝ่ามือที่ปล่อยออกมากลับไร้สุ้มเสียง สอดคล้องกับลักษณะเด่นของ ‘มังกรซ่อนกบดาน’ ที่สงบเสงี่ยมเก็บตัวเช่นกัน ระหว่างที่เพื่อนร่วมทีมฟันดาบแทงกระบี่กันไปมา เขาฝ่าเงาฝ่ามือของเหมยเชาเฟิงจากข้างหลังได้อย่างสบายๆ กดลงบนบ่าขวาของนางเอาไว้อย่างแน่นหนาแล้ว

“อ๊า!”

-15683

ตัวเลขดาเมจห้าหลักลอยขึ้นเหนือศีรษะของเหมยเชาเฟิง

ทว่าถึงอย่างไรเหมยเชาเฟิงก็เป็น BOSS ที่เลเวลสูงถึงแปดสิบห้า แม้จะถูกมังกรซ่อนกบดานที่ไหลลื่นของเยี่ยเว่ยหมิงโจมตี แต่ก็ยังไม่ทำให้เกิดผลกระดูกแตกอย่างที่คาดไว้อยู่ดี

ค่าสเตตัสและการป้องกันที่ทรงพลังของนาง แค่ดูจากจุดนี้ก็เห็นภาพรวมได้แล้ว!

แต่ฝ่ามือนี้ของเขา อย่างน้อยก็ทำให้เหมยเชาเฟิงตกอยู่ในสถานะตัวแข็งชั่วคราว ส่วนพวกสหายร่วมทีมของเยี่ยเว่ยหมิงก็กรูเข้ามาอย่างไม่เกรงใจ ต่างคนต่างทักทายบนจุดสำคัญของเหมยเชาเฟิงราวกับเป็นของที่ไม่ต้องเสียเงิน

น้องดาบก็ยิ่งฉวยโอกาสนี้โคจรพลังอย่างสุดความสามารถ แล้วใช้ดาบฟันไปบนข้อมือขวาของเหมยเชาเฟิง

แกร๊ง!

ตอนที่ดาบล้ำค่าฟันบนร่างกายนางกลับเกิดเสียงดังราวกับเสียงเหล็กกระทบกัน แม้การโจมตีครั้งนี้จะทำให้เหมยเชาเฟิงเสียพลังชีวิตไปบ้างแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังทำให้นางบาดเจ็บสาหัสไม่ได้อยู่ดี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผลเส้นเอ็นขาดที่น้องดาบเฝ้าคอยเลย

อย่างไรเสียเหมยเชาเฟิงก็คือเหมยเชาเฟิง ในเมื่อนางได้ฉายาว่าศพเหล็ก ก็แสดงว่าฝึกวิชาป้องกันตัวได้ไม่เลวอยู่แล้ว ประกอบกับตอนหลังฝึก ‘วิชากรงเล็บกระดูกขาวเก้าอิม’ นางฝึกจนสองมือตัวเองกลายเป็นเหมือนเหล็กกล้าแล้ว

แม้จะเป็นเจตจำนงแห่งดาบก็ฟันไม่ขาดอยู่ดี!

เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นอย่างนี้ เยี่ยเว่ยหมิงกับน้องดาบที่ตั้งความหวังกับดาบนี้ไว้มากพลันขมวดคิ้วพร้อมกันทันที

เป็นอย่างที่คาดไว้ เหมยเชาเฟิงที่สองขาอัมพาต แม้จะถูกระบบตัดสินให้เป็น BOSS เลเวลแปดสิบห้า แต่ก็รับมือไม่ได้ง่ายๆ ขนาดนั้นแน่นอน

อย่างน้อยระบบก็คิดว่า จุดแข็งของนางเพียงพอที่จะชดเชยจุดอ่อนที่นางตาบอดและขาพิการได้

เมื่อเห็นดังนั้น เยี่ยเว่ยหมิงก็พลิกมือขวา ลูกแก้วหลิวหลีเจ็ดสียิงไปทางขาขวาของโอวหยางเค่อที่อยู่ใต้หว่างขาของเหมยเชาเฟิงแล้ว

ในเมื่อทำอะไรเหมยเชาเฟิงไม่ได้ เช่นนั้นก็ลงดาบกับสัตว์พาหนะของนางก่อนแล้วกัน

แบบนี้เรียกว่าถ้าจะยิงคนก็ให้ยิงม้าก่อน!

ทว่า ถึงอย่างไรโอวหยางเค่อก็เป็น BOSS เลเวลเจ็ดสิบห้าเหมือนกัน แม้ความสามารถจะเทียบกับเจ้านายที่ตัวเองแบกอยู่ไม่ได้ แต่กลับไม่ถูกปิดประสาทการรับรู้เหมือนเหมยเชาเฟิง เมื่อเห็นความร้ายกาจของเยี่ยเว่ยหมิง ไม่น่าเชื่อว่าช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน เขาจะเบี่ยงตัวหลบการโจมตีที่เยี่ยเว่ยหมิงคิดว่าไม่พลาดแน่ๆ พ้นแล้ว

ไม่น่าเชื่อว่าโอวหยางเค่อจะไหวตัวเร็วขนาดนี้ นึกไม่ถึงว่าจะหลบวิชาดรรชนีศักดิ์สิทธิ์ของเยี่ยเว่ยหมิงได้แม้อยู่ในระยะที่ใกล้ขนาดนี้!

ท่ามกลางความประหลาดใจ หลังจากโอวหยางเค่อหลบวิชาดรรชนีศักดิ์สิทธิ์แล้ว เขากลับหมุนตัวหนึ่งทีแล้วเตะไปที่หัวใจของเยี่ยเว่ยหมิงหมายจะโจมตีให้ล่าถอย ทำให้ขัดจังหวะเสียงคำรามของอินปู้คุยที่อยู่ข้างหลังเยี่ยเว่ยหมิงอีกครั้ง

เขากับเหมยเชาเฟิงตอนนี้กลายเป็นเหมือนตั๊กแตนบนเชือก ได้ดีก็ได้ดีด้วยกัน พังทลายก็พังทลายด้วยกัน เลิกคิดไปได้เลยว่าจะรอดเพียงลำพัง!

ดังนั้น ต่อให้เขารู้อยู่แก่ใจว่าบนตัวเยี่ยเว่ยหมิงมีของที่ควบคุมเขาได้ แต่ก็ยังตัดสินใจโจมตีเยี่ยเว่ยหมิงอย่างดุดันโดยไม่ลังเล

ทว่า การที่ตัวเองไม่ได้เปรียบแต่ยังดันทุรังสู้กับอีกฝ่าย เยี่ยเว่ยหมิงเป็นคนประเภทนั้นหรือ

เขาไม่ใช่คนประเภทนั้น!

ดังนั้นทันทีที่เห็นเท้าของโอวหยางเค่อเตะเท้าออกมา อาวุธเทพมีดสั้นที่สลักคำว่ากัวจิ้งก็ปรากฏอยู่ในฝ่ามือซ้ายของเขาแล้ว เขาฟันลงที่เท้าขวาของโอวหยางเค่อ ขนาดอยู่ใกล้เท่านี้อีกฝ่ายยังไหวตัวเร็วจนหลบวิชาดรรชนีศักดิ์สิทธิ์ได้ ยามเผชิญหน้ากับมีดสั้นครั้งนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะหลบไม่ทัน ถูกคมมีดผ่าเข้าเต็มๆ

-10789

เส้นเอ็นขาด!

ต้องทราบไว้ว่าเยี่ยเว่ยหมิงไม่เคยฝึกมีดสั้นด้วยมือซ้ายมาก่อน มีดสั้นที่แทงโดยมือซ้ายของเขา จะไม่มีโบนัสการโจมตีของกระบวนท่าใดๆ ทั้งนั้น

ดังนั้นเมื่อมีดลงบนขาของโอวหยางเค่อ ก็เกิดตัวเลขดาเมจโจมตีธรรมดาเท่านั้น

แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ก็ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคริติคอลดาเมจห้าหลัก ทั้งยังโจมตีจนเกิดผลเส้นเอ็นขาดที่ตัวเองเฝ้าคอยแล้ว!

ต้องบอกเลยว่าเอฟเฟ็กต์ฆ่าตามบทของมีดสั้นนี้ ถือเป็นดาวข่มชะตาของโอวหยางเค่อจริงๆ!

แต่การที่เขาควบคุม BOSS ได้ ก็เหมือนจะทำได้เพียงอาศัยสิ่งนี้เท่านั้น อ่านจากคำว่า ‘ฆ่าตามบท’ ก็รู้แล้วว่าศัตรูที่มีดสั้นนี้ควบคุมได้มีจำนวนจำกัด

หากมองจากภาพรวมของนิยายต้นฉบับเดิม BOSS ที่ตายอยู่ภายใต้มีดสั้นนี้จริงๆ ก็เหมือนจะมีเพียงโอวหยางเค่อคนเดียวเท่านั้น

ผ่านหมู่บ้านนี้ไป ก็จะไม่เจอร้านค้าอีกแล้ว[2] หากไม่ใช้งานตอนที่ยังใช้ได้ผล เวลาผ่านไปก็จะหมดอายุ!

อะไรนะ คุณบอกว่ากัวจิ้งก็เกือบตายเพราะมีดสั้นนี้เหมือนกัน?

คำถามก็คือถ้าคุณคิดจะนำมันไปแทงกัวจิ้ง แสดงว่าคุณคิดว่าตัวเองหาค่าวีรบุรุษมาได้ง่ายๆ สินะ

[1] เอ็นทองแดงกระดูกเหล็ก 铜筋铁骨 หมายถึง ร่างกายแข็งแรงมาก

[2] ผ่านหมู่บ้านนี้ไป ก็จะไม่เจอร้านค้าอีกแล้ว 过了这个村就没这个店了 พลาดแล้วพลาดเลย

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

Status: Ongoing
ไหนๆ ก็โดน NPC หลอกมาเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแล้ว อย่างน้อยก็ขอสกิลดีๆ หน่อยแล้วกัน!นิยายแฟนตาซีแนวเกมออนไลน์ที่จะพาคุณไปท่องยุทธภพและไขคดีสไตล์มือปราบขั้นเทพ!เยี่ยเว่ยหมิง หนึ่งในเด็กหนุ่มที่ลงทะเบียนสมัครใจอพยพไปต่างโลกเพื่อป้องกันสมองตายระหว่างหลับจำศีลตอนเดินทางในอวกาศเขาจึงต้องร่วมเล่นเกมออนไลน์ที่มีฉากหลังเป็นยุทธภพก่อนจะโดน NPC ลึกลับหลอกเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าสำนักมือปราบจะไม่มีอะไรเลยเพราะหลังจากที่เยี่ยเว่ยหมิงทำแบบทดสอบของใต้เท้าซ่งผ่านเขาก็ได้รับสกิลตัดสินคดีที่พ่วงมาด้วยเวทชันสูตรศพและเวทบรรจุศพซึ่งเวทบรรจุศพนี้เองทำให้เขาสามารถรับของที่ซ่อนไว้บนตัวผู้ตายได้รวมถึงดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายได้อีกด้วยเยี่ยมเลย! ตอนนี้เขาพร้อมที่จะออกไปไขคดีทั่วยุทธภพแล้ว!…[ติ๊ง! เปิดใช้พาสซีฟสกิล ‘เวทชันสูตรศพ’ คุณพบ…][ติ๊ง! สกิลพิเศษ ‘เวทบรรจุศพ’ : สามารถดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายโดยการจัดการศพ BOSS][ติ๊ง! จัดการศพผู้อาวุโสสำนักไท่ซาน ได้รับ ‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ เพิ่มค่าประสบการณ์เคล็ดกระบี่ 5000 แต้ม]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท