ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ – ตอนที่ 354 ใครวางกับดักใครกันแน่

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 354 ใครวางกับดักใครกันแน่

ตอนที่ 354 ใครวางกับดักใครกันแน่

ที่จริงแล้ว กัวจิ้งไม่ได้รอเยี่ยเว่ยหมิง แม้แต่หวังชู่อีที่ถูกพิษและรอรับการรักษาหนีไปไหนแล้วก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ

แต่ยังดีที่พวกเขาเจอหวงหรงที่นอกประตูใหญ่ของโรงเตี๊ยมเย่ว์ไหล

บางทีอาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้พวกเขาก่อเรื่องที่จวนท่านอ๋องจ้าวรุนแรงเกินไป ตอนนี้แม้แต่หวงหรงก็ยังต้องอยู่อย่างสงบเสงี่ยม เปลี่ยนมาแต่งตัวเป็นผู้ชายแล้ว

ว่ากันว่าคนงามเพราะเสื้อผ้า ม้างามเพราะอาน หนึ่งดูหน้าตาสองดูเสื้อผ้า สำนวนนี้กล่าวถึงหน้าตาก่อนเสื้อผ้า ก็ย่อมมีเหตุผลของมันอยู่แล้ว

หวงหรงมีพื้นฐานหน้าตาดี แต่งกายอย่างไรก็ย่อมดูดี ต่อให้เป็นหญิงแต่งชาย ในสายตาคนอื่นก็ให้ความรู้สึกว่าเป็นคุณชายรูปหล่อชาติตระกูลดี ถึงขั้นทำให้คนคิดเบี่ยงเบนไปทางนั้นได้

หลังจากเห็นห้าคนนี้ หวงหรงก็กางพัดในมือ นางกล่าวพลางกระพือพัดเบาๆ “ในที่สุดจอมยุทธ์น้อยทั้งหลายก็มาถึงแล้ว เพื่อหลบการไล่สังหารของหวันเหยียนหงเลี่ย พี่กัวจิ้งพานักพรตเต๋าหวังกับพวกแม่นางมู่หนีออกนอกเมืองไปก่อนแล้ว ส่วนข้าอยู่ที่นี่เพื่อรอเจอทุกท่านก่อน ตรงนี้ไม่เหมาะสนทนา จอมยุทธ์น้อยทุกท่านตามข้ามาเถอะ”

พอพูดจบ หวงหรงก็พาพวกเขาเดินไปยังโรงเตี๊ยมที่ใหญ่ที่สุดในเมือง เข้าไปแล้วก็จองห้องส่วนตัวขนาดใหญ่แล้วบอกกับพนักงานว่า “เอาผลไม้แห้งสี่อย่าง ผลไม้สดสี่อย่าง ผลไม้รสเปรี้ยวเค็มสองอย่าง ผลไม้แช่อิ่มสี่อย่าง”

พนักงานได้ยินแล้วงง แต่เมื่อเห็นพวกเขาห้าคนแต่งกายหรูหรา ก็ยังเป็นฝ่ายถามอย่างสุภาพก่อนว่า “คุณชายต้องการผลไม้สดกับผลไม้แช่อิ่มอะไรบ้างขอรับ”

หวงหรงตอบสบายๆ “ผลไม้แห้งสี่อย่างมีลิ้นจี่ ลำไย พุทรา แปะก๊วย ผลไม้สดเจ้าคัดเลือกมาใหม่ ผลไม้เปรี้ยวเค็มก็อิงเถาฝานกับบ๊วยแผ่น ส่วนผลไม้แช่อิ่มเอาส้มจี๊ดแช่กุหลาบ องุ่นยาหอม บ๊วยเส้นโรยน้ำตาล สาลี่หลางจวิน”

เมื่อเห็นหวงหรงสั่งอาหาร ทุกคนก็รู้สึกว่านางเก่งกาจอย่างบอกไม่ถูก

เยี่ยเว่ยหมิงก็ยิ่งมองสะพานสวรรค์น้อยที่อยู่ข้างกายแวบหนึ่ง แล้วบอกในช่องทีมว่า [ทุกคนจดจำไว้นะ ข้ารู้สึกว่าลักษณะการสั่งอาหารอย่างนี้ล้ำมาก ไม่แน่ว่าคราวหลังอาจนำไปใช้ได้]

ทุกคนพยักหน้ารับ แต่ในใจกลับสงสัยว่าการสั่งอาหารแบบนี้นอกจากดูอวดเก่งแล้วยังจะมีประโยชน์อะไรอีก

“ส่วนกับแกล้มสุรา ขอเป็นนกกระทาดอกไม้ ผัดตีนเป็ด แกงลิ้นไก่ ท้องกวางกลั่นเจียงเหยา นกยวนยางทอดเอ็นวัว ไหมกระต่ายดอกเก๊กฮวย ขากวางระเบิด ขาหมูตุ๋นน้ำส้มสายชูขิง” พอพูดจบ นางก็วางพัดไว้ข้างกาย แล้วเอ่ยตามอำเภอใจ “ข้าเลือกสั่งแต่อาหารที่พวกเจ้ากินไหว พวกอาหารแพงๆ พวกเราขอผ่าน รวมกับกับข้าวอีกสิบสองอย่าง ติ่มซำแปดอย่าง เท่านี้ก็พอแล้ว”

ขณะที่หวงหรงพูด เยี่ยเว่ยหมิงก็จดจำชื่ออาหารที่นางสั่งเงียบๆ ตอนนี้พนักงานก็นำอาหารมาวางแล้ว

ส่วนหวงหรงก็หันมาบอกผู้เล่นพวกนี้ว่า “ก่อนหน้านี้จอมยุทธ์น้อยทั้งหลายก่อเรื่องในจวนอ๋องจ้าวได้สะใจจริงๆ ขนาดพวกเราออกมาไกลแล้ว ยังเห็นในจวนท่านอ๋องมีแสงไฟพุ่งขึ้นฟ้าเลย จะว่าไปพวกเจ้าคงไม่ได้ล้างเลือดจวนท่านอ๋องจ้าวหรอกใช่ไหม”

“เจ้าก็พูดแรงเกิน” เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้าปฏิเสธข้อหาวางเพลิงทันที “พวกเราก็แค่สร้างปัญหาในจวนท่านอ๋องนิดหน่อย ทำให้พวกเขาไม่มีแรงตามมาไล่สังหารพวกเราก็เท่านั้นเอง ถ้าเจ้าไม่เชื่อ ตอนนี้ก็กลับไปดูนอกจวนท่านอ๋องได้เลย ข้ารับประกันว่าที่นั่นสงบเงียบเหมือนทะเลไร้คลื่น ไม่ต่างอะไรกับตอนก่อนที่พวกเราจะเข้าไป”

เยี่ยเว่ยหมิงพูดไม่ผิดเลยสักนิด จวนท่านอ๋องจ้าวเป็นแผนที่พิเศษแห่งหนึ่ง หลังจากมีคนผ่านด่านแล้วก็จะกลายเป็นดันเจี้ยน ย่อมแยกกับแผนที่ใหญ่ข้างนอกอยู่แล้ว ต่อให้ก่อนหน้านี้พวกเขาจะเผาในดันเจี้ยนจนแผ่นดินเป็นสีขาว แต่เมื่อเข้าไปอีกครั้ง ทุกอย่างก็จะกลับมาเป็นเหมือนตอนแรกเริ่มอยู่ดี

แน่นอน มองจากข้างนอกไม่มีอะไรต่างกัน

หวงหรงยิ้มเข้าใจว่าเขาจะสื่ออะไรแต่ก็ไม่เปิดโปง นางเปลี่ยนประเด็นสนทนา “ตอนที่อยู่จวนท่านอ๋องจ้าวก่อนหน้านี้ โชคดีที่มีพวกจอมยุทธ์น้อยช่วยเหลือ พวกเราถึงได้ช่วยท่านลุงกับท่านป้าหยางออกมาได้อย่างราบรื่น ในภารกิจครั้งนั้น พวกเจ้าคือผู้เล่นกลุ่มแรกที่ทำภารกิจนี้สำเร็จ นอกจากค่าประสบการณ์กับค่าตบะที่ต้องได้แน่นอนอยู่แล้ว ที่จริงยังมีค่าผลงานสำนักแฝงอยู่อีกนิดหน่อย นำมาแลกเป็นรางวัลกับข้าได้ที่นี่”

พอพูดจบ นางก็โบกนิ้วมือขาวดุจหยกตรงหน้าบรรดาผู้เล่น รายการของรางวัลที่แลกได้จากคะแนนสะสมลอยขึ้นมาทันที แน่นอนว่าเป็นรายชื่อรางวัลที่ต่างกัน โดยจะอิงตามคะแนนที่ผู้เล่นแต่ละคนแลกได้

วิธีการแบบนี้ ตอนอยู่หมู่บ้านชื่อสยา เด็กสาวที่ชื่ออาปี้เคยสาธิตให้ดู แต่เมื่อเทียบกับภารกิจหมู่บ้านชื่อสยาที่ของรางวัลส่วนใหญ่เป็นยากับอุปกรณ์ที่ผู้เล่นสนใจที่สุด รางวัลภารกิจที่ได้จากหวงหรงมีหลากหลายชนิดมากกว่า

ตำราอาหารขลุ่ยหยกบ้านใดฟังคล้ายเหมยร่วง ตำราอาหารรัตติกาลจันทร์เพ็ญเหนือยี่สิบสี่สะพาน ตำราอาหารแกงจืดคู่สู่สม…ฟังเสียงแยกทิศทาง กวีสามร้อยบทสมัยถัง วิธีเลี้ยงสัตว์ วิชาคำนวณเก้าบท…สูตรยาน้ำค้างหยกเก้าดอก สูตรยาอู๋ฉาง…

ดูจากชื่อรางวัลที่หวงหรงให้ก็รู้แล้ว นอกจากทักษะยุทธ์ที่นางกับกัวจิ้งเรียนมา ส่วนใหญ่เป็นพวกตำราลับความรู้เบ็ดเตล็ด

ไม่ต้องสงสัยเลย ในโลกของจอมยุทธ์คุณธรรม ขอเพียงไม่เกี่ยวข้องกับทักษะยุทธ์ก็นับเป็นความรู้เบ็ดเตล็ดหมด ต่อให้เป็นบทกวีอย่าง ‘กวีสามร้อยบทสมัยถัง’ ก็เช่นกัน

หลังจากหวงหรงนำของเหล่านี้ออกมาแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงคือคนที่นึกเสียดายที่หลังมากที่สุด

เพราะของพวกนี้เป็นของดีๆ ทั้งนั้น ตัวเองไม่ควรตระหนี่ค่าวีรบุรุษแค่ไม่กี่ร้อยนั่น

เรื่องวางเพลิง ข้าดันมอบหมายให้น้องดาบทำได้อย่างไร

ควรจะเป็นหน้าที่ของข้าสิ!

ของแต่ละอย่างที่หวงหรงนำออกมา เหมือนว่าเขาจะอยากได้ทุกอย่าง…

แต่ถึงอย่างไรก็เป็นเพียงความคิดของเยี่ยเว่ยหมิงเท่านั้น คนอื่นในทีมกลับไม่ได้คิดอย่างนี้

ยกตัวอย่างเช่นอินปู้คุย หลังจากเห็นชื่อของพวกนี้แล้วกลับขมวดคิ้วบอกว่า “รางวัลที่แม่นางหวงนำมาให้แลก อาจจะ…ที่จริงข้าอยากจะถามว่า มีของที่เกี่ยวข้องกับวิทยายุทธ์โดยตรงหรือเปล่า เช่นยาน้ำค้างหยกเก้าดอกกับยาอู๋ฉาง ถ้าพวกเราไม่ต้องการสูตรยา เจ้าจะให้ยาลูกกลอนสำเร็จรูปพวกเราโดยตรงได้เลยหรือไม่”

หวงหรงยิ้มบางๆ อย่างสบายอารมณ์ ตอบอย่างอ้อมค้อมมาก “ไม่ได้”

ไม่รอให้คนอื่นพูดอะไร เยี่ยเว่ยหมิงก็บอกในช่องทีมทันทีว่า [ของพวกนี้ก็ดีมากแล้ว ถ้าพวกเจ้าไม่อยากได้ พอแลกเสร็จแล้วนำมาขายต่อให้ข้าก็ได้ แต่ทุกคนต้องเจรจากันไว้ก่อนนะ ถ้าขายซ้ำแล้ว ข้าไม่รับตำราลับสองเล่มที่เหมือนกันหรอกนะ]

“อ้อ ลืมไป!” ตอนที่ผู้เล่นพวกนี้กำลังเริ่มปรึกษากันในช่องทีมว่าควรจะซื้ออะไร จู่ๆ หวงหรงกลับนึกอะไรขึ้นได้ “ก่อนหน้านี้ข้าลืมบอก ที่จริงการแลกรางวัลกับข้าที่นี่มีกฎสองข้อ”

เมื่อดึงความสนใจของทุกคนมาไว้ที่ตัวเองแล้ว หวงหรงก็พูดต่อว่า “ของทุกอย่างที่อยู่ในรายชื่อ ข้าให้ได้เพียงชิ้นเดียว ดังนั้นหากทุกคนถูกใจชิ้นไหนก็รีบลงมือ มือไวก็ได้ มือช้าก็อด ของบางอย่างเป็นไอเทมที่ผูกกับตัวผู้เล่น นำไปซื้อขายไม่ได้”

พอพูดจบ บนใบหน้าหวงหรงก็เผยรอยยิ้มเหมือนจิ้งจอกน้อย

เห็นได้ชัดว่านางมารน้อยคนนี้เตรียมจะดูพวกเขาหน้าดำหน้าแดงเพราะของที่ไม่ได้สำคัญมากพวกนี้

แต่น่าเสียดายที่เรื่องจริงทำให้นางผิดหวัง

หากสิ่งที่วางอยู่ตรงนี้เป็นตำราลับทักษะยุทธ์ระดับสูงหรืออาวุธล้ำค่า บางทีพวกเขาอาจจะแย่งกัน แต่พอเป็นของพวกนี้ พวกเขาแบ่งมันเป็นสองประเภทเท่านั้น นั่นก็คือของที่ไร้ประโยชน์กับของที่ไร้ประโยชน์ยิ่งกว่า แต่กลับไม่มีใครกล้าขัดใจจอมมารอย่างเยี่ยเว่ยหมิงเพราะของที่ไม่สำคัญเหล่านี้อยู่ดี

อย่างไรเสีย ก่อนหน้านี้เขาก็แสดงออกแล้วว่าสนใจของประเภทนี้มาก

แม้แต่น้องดาบก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น!

เมื่อหวงหรงพูดจบ สายตาของทุกคนก็ไปรวมที่เยี่ยเว่ยหมิง น้องดาบเป็นคนแสดงท่าทีก่อน “มือปราบหน้าเหม็น เจ้าเลือกก่อนแล้วกัน”

เยี่ยเว่ยหมิงย่อมไม่เกรงใจพวกเขาอยู่แล้ว เขากวาดตามองเปรียบเทียบของทีละอย่าง แล้วก็ดูคะแนนแฝงที่จำกัดของตัวเอง สุดท้ายก็เลือก ‘วิธีเลี้ยงสัตว์’ แต่การเลือกของสิ่งนี้ ทำให้เขาต้องใช้คะแนนแฝงจนหมดตัว

นี่ก็เป็นสาเหตุหลักว่าทำไมคนอื่นถึงดูใจกว้างขนาดนี้

เพราะคะแนนสะสมของพวกเขาไม่อนุญาตให้พวกเขาแลกรางวัลเยอะเกินไป เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีเป้าหมายชัดเจน ย่อมไม่จำเป็นต้องแย่งกันอยู่แล้ว

ผ่านไปไม่นาน พวกเขาก็ต่างคนต่างเลือกของที่ตัวเองจะแลก สะพานสวรรค์น้อยชอบหนังสือความรู้เบ็ดเตล็ด ‘วิชาประทินโฉม’ เดิมทีนึกว่าน้องดาบจะเป็นคู่แข่งที่มาแย่งของตน แต่คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายไม่สนใจของแบบนั้นเลย หลังจากลังเลครู่หนึ่ง นางก็ยังเลือก ‘ฟังเสียงแยกทิศทาง’ กับ ‘กวีสามร้อยบทสมัยถัง’ หากเดาไม่ผิด ตำรานี้น่าจะถ่ายทอดมาจากค้างคาวเหินเคอเจิ้นเอ้อกับบัณฑิตมือวิเศษจูชง

ตอนนี้ อาหารที่หวงหรงสั่งก่อนหน้านี้ขึ้นโต๊ะแล้ว หลังจากทุกคนกินดื่มกันเรียบร้อย หวงหรงก็บอกว่าจะไปห้องสุขา แล้วลุกขึ้นเดินออกจากห้องส่วนตัวไป

ตอนที่หวงหรงเพิ่งออกไป เยี่ยเว่ยหมิงก็บอกพนักงานว่า “เมื่อครู่คุณชายหวงท่านนั้นกำชับให้พวกเราช่วยเรื่องบางอย่าง ให้พวกเราออกไปก่อน เดี๋ยวเขาจะกลับมาจ่ายเงินเอง”

พนักงานได้ยินแล้วอึ้ง แต่ในเมื่อคุณชายหวงท่านนั้นยังไม่ไป เขาเองก็ไม่สะดวกจะรั้งคนอื่นไว้เช่นกัน หลังจากพนักงานขานรับแล้วก็รีบสาวเท้าเดินลงชั้นล่างตามไปที่ห้องสุขาทันที

พอพวกเขาเดินออกจากโรงเตี๊ยม เยี่ยเว่ยหมิงก็บอกทันทีว่า “เดิมทีคิดว่าหลังจากทำภารกิจสำเร็จแล้ว ทุกคนจะนำของที่ตัวเองไม่ได้ใช้งานมาแลกกันเองภายในทีม พอมาดูตอนนี้ คงทำได้เพียงรอครั้งหน้าแล้ว…

…เอาอย่างนี้ หลังจากผ่านไปสามวัน ข้าจะตุ๋นพญางูเกล็ดแดง เช่าห้องครัวกับห้องส่วนตัวที่ภัตตาคารซู่เจิน ถ้ามีอะไรต้องแลกกัน ถึงตอนนั้นค่อยนำไปแลกทีเดียว น้องดาบกับข้ากลับไปที่เมืองหลวงเปี้ยนจิงก่อนสักรอบ ข้ามีภารกิจให้เจ้าช่วยนิดหน่อย”

ระหว่างที่คุยกันก็เดินมาถึงจุดพักม้า หลังจากกล่าวร่ำลากันแล้ว ต่างคนก็ต่างเลือกสารถีให้ส่งตัวเองไปยังจุดหมาย

พอฉากตรงหน้าเปลี่ยนไป เยี่ยเว่ยหมิงก็ปรากฏตัวอยู่ที่จุดพักม้าของเมืองหลวงเปี้ยนจิง

ตอนที่เพิ่งลงจากรถม้า เขาก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบตามที่คาดไว้

[ติ๊ง! ค่าความรู้สึกดีที่หวงหรงมีต่อคุณลดลง]

เยี่ยเว่ยหมิงเผยรอยยิ้มขาดคุณธรรม แต่กลับไม่มีอารมณ์ไปสนใจว่าหวงหรงจะชอบตนหรือไม่ ครั้งนี้ได้รับผลตอบแทนมากมายจากจวนท่านอ๋องจ้าว ตอนนี้อดใจรอไม่ไหว อยากจะกลับไปใช้ตำราลับตระหนักรู้พวกนั้นแล้ว

แต่สิ่งที่ทำให้เขาเฝ้าคอยยิ่งกว่านั้นก็คือเคล็ดกระบี่ระดับสุดยอดวิชาที่ได้มาไว้ในมือแล้ว…กระบี่เก้าสะท้านฟ้า!

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

Status: Ongoing
ไหนๆ ก็โดน NPC หลอกมาเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแล้ว อย่างน้อยก็ขอสกิลดีๆ หน่อยแล้วกัน!นิยายแฟนตาซีแนวเกมออนไลน์ที่จะพาคุณไปท่องยุทธภพและไขคดีสไตล์มือปราบขั้นเทพ!เยี่ยเว่ยหมิง หนึ่งในเด็กหนุ่มที่ลงทะเบียนสมัครใจอพยพไปต่างโลกเพื่อป้องกันสมองตายระหว่างหลับจำศีลตอนเดินทางในอวกาศเขาจึงต้องร่วมเล่นเกมออนไลน์ที่มีฉากหลังเป็นยุทธภพก่อนจะโดน NPC ลึกลับหลอกเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าสำนักมือปราบจะไม่มีอะไรเลยเพราะหลังจากที่เยี่ยเว่ยหมิงทำแบบทดสอบของใต้เท้าซ่งผ่านเขาก็ได้รับสกิลตัดสินคดีที่พ่วงมาด้วยเวทชันสูตรศพและเวทบรรจุศพซึ่งเวทบรรจุศพนี้เองทำให้เขาสามารถรับของที่ซ่อนไว้บนตัวผู้ตายได้รวมถึงดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายได้อีกด้วยเยี่ยมเลย! ตอนนี้เขาพร้อมที่จะออกไปไขคดีทั่วยุทธภพแล้ว!…[ติ๊ง! เปิดใช้พาสซีฟสกิล ‘เวทชันสูตรศพ’ คุณพบ…][ติ๊ง! สกิลพิเศษ ‘เวทบรรจุศพ’ : สามารถดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายโดยการจัดการศพ BOSS][ติ๊ง! จัดการศพผู้อาวุโสสำนักไท่ซาน ได้รับ ‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ เพิ่มค่าประสบการณ์เคล็ดกระบี่ 5000 แต้ม]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท