ตอนที่ 368 ล้างแค้นให้โฉวป้า
ยังเป็นสูตรเดิม ยังเป็นรสชาติที่คุ้นเคย
เรื่องราวกับโฉวป้า เยี่ยเว่ยหมิงกับซานเย่ว์เคยได้ยินมาแล้วตอนอยู่หมู่บ้านมือใหม่ ตอนนี้พอได้ยินอีกครั้ง ความคิดก็ถูกดึงย้อนกลับไปเมื่อครึ่งปีแรก ตอนนั้นทั้งสองเพิ่งรู้จักกัน ร่วมมือกันต่อต้านโฉวป้า ‘ผู้แข็งแกร่งเลเวล 25’ โฉวป้า
ชั่วขณะนั้น พวกเขาก็เผยสีหน้าเหมือนกำลังหวนรำลึกถึงอดีตพร้อมกัน
กระทั่งโฉวป้าเล่าเรื่องของตัวเองจบ เสียงแจ้งเตือนของระบบถึงได้ดึงความคิดของพวกเขากลับมาสู่ความจริง
[ติ๊ง! รับภารกิจ ‘ล้างแค้นให้โฉวป้าสำเร็จ’ พยายามทำให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด (ก่อนทำภารกิจสำเร็จ จะไม่เจอวิญญาณดวงอื่นอีก)]
[ล้างแค้นให้โฉวป้า]
ตอนมีชีวิตอยู่โฉวป้าหน้าเนื้อใจเสือ ชั่วร้ายอำมหิต กินบนเรือนขี้บนหลังคา เป็นคนบาปที่ทุกคนต้องการสังหาร แต่คนที่น่าแค้นก็มีจุดที่น่าสงสารเช่นกัน หลินจื้อเพ่ยที่ทำให้เขากลายเป็นแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าชั่วร้ายยิ่งกว่า ในฐานะวีรบุรุษคนหนึ่ง คุณควรลงมือทวงความยุติธรรม สังหารโจรชั่วผู้ลือนามแปดทิศหลินจื้อเพ่ย ทำความปรารถนาสุดท้ายของโฉวป้าให้เป็นจริง
รางวัลภารกิจ: ค่าวีรบุรุษ 100 แต้ม
ระดับภารกิจ: 2 ดาว
ระยะเวลาภารกิจ: ก่อนสิ้นสุดกิจกรรมคนผียังไม่สิ้นวาสนา
บทลงโทษภารกิจล้มเหลว: ไม่มี
……
เมื่อเห็นแจ้งเตือนของระบบ ซานเย่ว์ก็อดถามไม่ได้ว่า “หรือพูดได้อีกอย่างว่า ถ้าอยากจะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ ตอนนี้ก็ต้องไปที่ดันเจี้ยนค่ายดอกบัวอีกครั้ง”
“ก็ไม่แน่หรอก” ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงกลับเผยรอยยิ้มสดใสไร้ที่เปรียบ แล้วพูดกับวิญญาณของโฉวป้าว่า “เหล่าโฉว ที่จริงแล้ว หลังจากเจ้าเล่าเรื่องที่ตัวเองเผชิญให้ข้าฟังครั้งก่อน พวกเราสองคนก็จดจำไว้ในใจมาตลอด หลังจากความสามารถของพวกเราเพิ่มขึ้นแล้ว พวกเรายังเคยล้างแค้นแทนเจ้าแล้วด้วย ตอนนี้ในเมื่อเจ้าอยู่ในสภาพวิญญาณ ก็ควรจะรู้เรื่องที่คนทั่วไปส่วนใหญ่ไม่รู้สิ คงจะมีหนทางตรวจสอบได้ว่าสิ่งที่ข้าพูดจริงหรือเปล่า ใช่ไหม”
พอได้ยินคำพูดของเยี่ยเว่ยหมิง วิญญาณของโฉวป้าก็อึ้งไปสองวินาที จากนั้นถึงได้บอกว่า “ไม่ผิดหรอก! เจ้าโจรชั่วหลินจื้อเพ่ยตายด้วยน้ำมือเจ้า เรื่องนี้เป็นไปตามบัญชาของสวรรค์แล้ว ได้รับการยืนยันจากระบบแล้ว ไม่ผิดแน่”
ขณะที่พูด ไม่น่าเชื่อว่าโฉวป้าจะคำนับสองคนที่เคยฆ่าเขาได้ตอนนั้น “ขอบคุณพวกเจ้านะ ข้าไปก่อน…”
พูดจบก็ยืนขึ้นทันที บนใบหน้าที่เต็มไปด้วยพลังงานความแค้นค่อยๆ กลับมาเหมือนคนปกติ ขีดสีดำราวกับน้ำหมึกตรงหว่างคิ้วและมวยผมก็จางลงและหายไปเร็วมาเช่นกัน
หลังจากนั้น ร่างของโฉวป้าก็ค่อยๆ โปร่งแสงจนกระทั่งหายไปท่ามกลางสายตาของทั้งสองคน
[ติ๊ง! คุณทำภารกิจระดับสองดาว ‘ล้างแค้นให้โฉวป้า’ สำเร็จอย่างราบรื่น โปรดวิญญาณของโฉวป้าสำเร็จ]
เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วอดขมวดคิ้วไม่ได้ ไม่มีรางวัลภารกิจงั้นเหรอ
ไหนบอกว่าค่าวีรบุรุษหนึ่งร้อยแต้มไง
อย่าบอกนะว่าถ้าใช้ทางลัดทำภารกิจให้สำเร็จแล้วจะไม่ได้รางวัล ต้องไปค่ายดอกบัวด้วยตะลุยดันเจี้ยนด้วยตัวเองเท่านั้น?
นี่มัน…
พอตระหนักได้ก็ย้ายสายตาไปบนตัวซานเย่ว์ ทำให้ได้คำตอบจากสีหน้าของอีกฝ่ายทันที “อาหมิง! เมื่อครู่นี้ข้าไม่เพียงแค่ได้รางวัลเป็นค่าวีรบุรุษหนึ่งร้อยแต้มนะ ถึงขั้นได้ค่าประสบการณ์ ‘ฝ่ามือทะลวงใจ’ หนึ่งพันแต้มด้วย!”
เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วงงนิดหน่อย “ฝ่ามือทะลวงใจของเจ้ายังไม่ถึงระดับสมบูรณ์อีกหรือ”
“ยังเลย” ซานเย่ว์ตอบอย่างเป็นธรรมชาติมาก “หลังจากข้าได้ ‘ฝ่ามือทะลวงใจ’ มา ก็ไม่เคยสิ้นเปลืองค่าตบะไปกับเคล็ดฝ่ามือระดับกลางวิชานี้เลย”
เยี่ยเว่ยหมิงอยากจะบอกนางมากว่า ที่จริงถ้ารีบฝึกทักษะยุทธ์สักวิชาให้ถึงระดับสมบูรณ์ได้ ก็จะได้รับผลประโยชน์เป็นพิเศษ แต่คำพูดก็ติดอยู่ที่ปาก ไม่ได้พูดออกมา
ที่จริงแล้ว หลังจากทำภารกิจ ‘ปราบสำนักชิงเฉิง’ สำเร็จ เฟยอวี๋กับซานเย่ว์ก็เห็นกับตาแล้วว่าเคล็ดกระบี่’ ที่เพิ่มถึงเลเวลสิบของเยี่ยเว่ยหมิงเป็นอย่างไร
นางย่อมรู้ประสิทธิภาพหลังจากฝึกทักษะยุทธ์จนถึงระดับสมบูรณ์เช่นกัน
สาเหตุที่นางไม่รีบเพิ่ม ‘ฝ่ามือทะลวงใจ’ ให้ถึงระดับสมบูรณ์ ย่อมเป็นเพราะนางพิจารณาเองได้
ว่ากันว่าคนในบ้านย่อมรู้เรื่องในบ้านดีที่สุด เยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้รู้ถึงสถานการณ์ของนางดีกว่าตัวนางเองแน่นอน ความคิดเห็นที่เสนอออกมาซี้ซั้วอาจไม่ใช่คำแนะนำที่ดี
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความเชื่อฟังที่ซานเย่ว์มีต่อเยี่ยเว่ยหมิง ขอเพียงเขาเอ่ยปาก ไม่ว่าจะสอดคล้องกับสถานการณ์ของนางหรือไม่ เกรงว่านางก็คงเลือกหลับหูหลับตาเชื่อเยี่ยเว่ยหมิงอยู่ดี
แบบนี้จากที่อยากจะแสดงฝีมือ จะกลับกลายเป็นปล่อยไก่ได้ง่าย เดิมทีอยากจะช่วยนาง แต่ความจริงกลับกลายเป็นวางกับดักนางแทน
ส่วนรางวัลพิเศษของผู้ที่เพิ่มเลเวล ‘ฝ่ามือทะลวงใจ’ จนถึงระดับสมบูรณ์เป็นคนแรก?
เยี่ยเว่ยหมิงรู้สึกว่า เวลาล่วงเลยมาถึงตอนนี้แล้ว ทักษะยุทธ์ระดับกลางที่ค่อนข้างแพร่หลายอย่าง ‘ฝ่ามือทะลวงใจ’ คงมีคนฝึกจนถึงระดับสมบูรณ์ไปตั้งนานแล้ว!
แต่พอมาดูตอนนี้ ถ้ารับภารกิจจาก BOSS ก็เหมือนจะมีเพียงผู้รับภารกิจเท่านั้นที่ได้รางวัล คนอื่นทำได้เพียงช่วยเหลือ
สำหรับเรื่องนี้ เยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้ใส่ใจมากนัก
อย่างไรเสีย เดิมทีก็เป็นภารกิจของซานเย่ว์อยู่แล้ว ตนแค่ถือโอกาสช่วเยหลือ ถือโอกาสทดลองสิ่งที่ตัวเองเดาไว้ก่อนหน้านี้ แม้จะเสียใจที่ไม่ได้ผลประโยชน์ แต่เขาก็เข้าใจเช่นกัน
ตอนที่เดินไปยังจุดพักม้าต่อกับซานเย่ว์ ก็ยังอธิบายสิ่งที่วิเคราะห์ไว้ก่อนหน้านี้ “ตัดสินจากเหตุการณ์ที่โฉวป้าโผล่มาก่อนหน้านี้ มีความเป็นไปได้สูงว่าวิญญาณที่ผู้เล่นเจอก็คือ BOSS ที่ตัวเองเคยฆ่าตาย”
“ตอนนี้ยังยืนยันไม่ได้ว่าภารกิจรวมอะไรไว้บ้าง แต่ภารกิจล้างแค้นที่ระบุตัว NPC ที่ต้องฆ่าทิ้งแบบนี้ กลับใช้ BOSS ที่เคยฆ่าตายไปก่อนหน้านี้มาเติมจำนวนได้ แต่ถ้าตัดสินจากสิ่งที่เขาพูดไว้ก่อนจากไป อย่างน้อยก็ต้องทำเฟิร์สคิลก่อน ระบบถึงจะยอมรับ ส่วนภารกิจอื่น ตอนนี้ข้ายังตัดสินไม่ได้…
…และถ้าเลือกฆ่า…”
ขณะที่คุยกัน ทั้งสองก็ถูกดึงดูดสายตาด้วยแสงต่อสู้ เห็นศิษย์เส้าหลินคนหนึ่งกำลังจับ BOSS เล็กๆ ในร่างวิญญาณทุบบนพื้น ใช้เวลาเพียงประเดี๋ยวเดียวก็โจมตีบอสที่น่าสงสารคนนั้นจนวิญญาณสลายแล้ว จากนั้นก็ด่าว่า “ถุย! เส็งเคร็งเหมือนตอนนั้นไม่มีผิด ค่าประสบการณ์กับค่าตบะน้อยเหมือนขายุง กาก!”
“ดูสิ” เยี่ยเว่ยหมิงพูดเนิบๆ “ได้ข้อมูลใหม่อีกแล้ว”
ซานเย่ว์ออกแรงพยักหน้า “ใช่แล้ว อาหมิง เจ้าเจ๋งจริงๆ!”
“เลิกหลอกข้าได้แล้ว” เยี่ยเว่ยหมิงด่ากลั้วเสียงหัวเราะ “อีกประเดี๋ยวพอถึงจุดพักม้า ข้าจะไปเขาจวินซานเพื่อทำภารกิจ ‘มังกรผยองได้สำนึก’ กับผู้อาวุโสเผิงแห่งพรรคกระยาจกแล้ว เจ้าจำสิ่งที่ข้าบอกไว้ก่อนหน้านี้เถอะ น่าจะช่วยเจ้าได้บ้าง”
ตอนที่ทำภารกิจซ้ำแบบนี้ ถ้าเข้าใจเกณฑ์บางอย่างในนั้น ก็ย่อมประสบความสำเร็จเป็นเท่าตัวได้อยู่แล้ว จะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนมากขึ้นเช่นกัน
ขณะที่พูดคุยกัน ทั้งสองก็เดินผ่านหัวมุมถนนสายหนึ่ง จุดพักม้าของเมืองหลวงเปี้ยนจิงปรากฏให้เห็นอยู่ไกลๆ แล้ว
เงาร่างของสตรีชุดขาวคนหนึ่งลอยละล่องดุจเซียน ปรากฏอยู่ในสายตาพวกเขาตั้งแต่ไกลๆ นางคือสะพานสวรรค์น้อยนั้นเอง
พอสะพานสวรรค์น้อยปรากฏตัว ดวงตางดงามทั้งคู่ก็มองเห็นเยี่ยเว่ยหมิงกับซานเย่ว์ที่เดินเข้ามาต้อนรับทันที จากนั้นนางก็ใช้ท่าร่างอันสง่างามของสำนักสุสานโบราณลอยเข้ามาหาทั้งสองทันที
เมื่อเห็นท่วงท่าคุ้นตาของสะพานสวรรค์น้อย จู่ๆ เยี่ยเว่ยหมิงก็ตาเป็นประกายเหมือนค้นพบอะไรบางอย่าง จึงบอกว่า “ท่าร่างของน้องสะพานสวรรค์เหมือนจะก้าวหน้าขึ้นเยอะเมื่อเทียบกับเมื่อวาน”
ซานเย่ว์ยิ้มพร้อมบอกว่า “นี่เป็นผลงานของ ‘งานเลี้ยงงู’ แน่นอนอยู่แล้ว ค่าสเตตัสท่าร่างหนึ่งร้อยแต้มไม่ใช่จำนวนน้อยๆ จะไม่เร็วได้หรือ”
แม้ซานเย่ว์จะพูดไม่ผิด แต่เยี่ยเว่ยหมิงก็ยังรู้สึกว่าเมื่อเทียบกับเมื่อวาน ท่าร่างของสะพานสวรรค์น้อย เหมือนยอดเยี่ยมขึ้นเยอะ ไม่ใช่แค่เพราะค่าสเตตัสเปลี่ยนแน่นอน
ตอนนี้เอง จู่ๆ ลมหนาวยะเยือกก็พัดมาวูบหนึ่ง ตามด้วยเงาดำสี่กลุ่มที่ก่อตัวอยู่ข้างกายสะพานสวรรค์น้อย ล้อมร่างกายบอบบางของนางเอาไว้ตรงกลาง!
สะพานสวรรค์น้อยก็เจอผีแล้วเช่นกัน ทั้งยังเจอสี่ตนในคราเดียว!