ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ – ตอนที่ 379 สะพานสวรรค์น้อย ลุย!

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 379 สะพานสวรรค์น้อย ลุย!

ตอนที่ 379 สะพานสวรรค์น้อย ลุย!

[เถียนกุยหนงร่างมาร]

คนต่ำช้าที่เลวร้ายมาก เป็นชู้กับพี่สะใภ้รอง ทำผิดข้อห้ามในยุทธภพ หลังจากตายแล้วได้รับพลังจากปราณชั่วร้าย ตอนนี้กลายร่างเป็นมารร้าย

เลเวล: 85

พลังชีวิต: 800000/800000

กำลังภายใน: 200000/200000

……

ค่าสเตตัสของเถียนกุยหนงร่างมารดูแล้วเหมือนเฟิ่งเทียนหนานร่างมารทุกอย่าง ถึงขั้นกล่าวได้ว่านอกจากอาวุธในมือของพวกเขาที่แตกต่างกัน แม้แต่รูปลักษณ์ภายนอกตอนอยู่ในร่างมารแล้วก็ดูไม่มีอะไรต่างกัน

บางทีผู้ออกแบบเกมอาจจะอู้งาน ไม่ว่าจะเป็น BOSS เลเวลไหน ขอเพียงกลายเป็นร่างมารแล้วก็จะเลเวลแปดสิบห้าหมด เหมือนกันหมด สู้ไม่ไหวก็ขาดทุน…แค่กๆ ขออภัย หลงประเด็นแล้ว

หลังจากได้เห็นเจ้าหมอนี่แล้วก็จะโทษเยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้ที่ในหัวมีบทพูดที่เหลวไหลแบบนี้โผล่มา เพราะการที่เถียนกุยหนงร่างมารมีรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนเฟิ่งเทียนหนานร่างมาร ทำให้ขาดความน่าเกรงขามของสัตว์มารจริงๆ

เฟิ่งเทียนหนานร่างมารให้ความรู้สึกเหมือนเป็น BOSS ที่เลเวลสูงมาก พอปรากฏตัวก็องอาจผึ่งผาย สะเทือนทั้งตีนเขาจวินซาน แต่เถียนกุยหนงร่างมารที่มีรูปลักษณ์ภายนอกและพลังเท่ากัน กลับดูเหมือนเป็นตัวตลกตัวหนึ่ง

กลุ่มสาวๆ สำนักสุสานโบราณวิ่งไปทั่ว เถียนกุยหนงร่างมารไล่ตามอยู่ข้างหลัง…

ฉากนี้ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ดูโง่มาก!

เถียนกุยหนงร่างมารดูโง่ขนาดนี้ พวกเยี่ยเว่ยหมิงที่เดิมทีตั้งใจจะปราบปีศาจกำจัดมาร ตอนนี้กลับไม่สะดวกใจที่จะไปรบกวนการเล่นเกมโง่ๆ สุดหรรษาของสาวกลุ่มนี้

สี่คนในทีมมองหน้ากันไปมองหน้ากันมา จากนั้นก็เริ่มปรึกษากันในช่องทีมว่าควรจะลงมือหรือไม่

แต่คำถามนี้ก็ไม่ได้ทำให้พวกเยี่ยเว่ยหมิงสับสนนานเกินไป ตอนที่พวกเขากำลังลังเล น้องสาวกระบี่ใหญ่ที่ดึงค่าความโกรธแค้นของเถียนกุยหนงร่างมารไว้คงที่ตลอดกลับพบว่ามีผู้เล่นใหม่โผล่มาในเกมนี้ โดยเฉพาะหลังจากเห็นสะพานสวรรค์น้อยอยู่ในทีมด้วย นางก็ยิ่งตาลุกวาว ตะโกนเรียกเสียงดังว่า “ศิษย์พี่หญิงใหญ่ช่วยข้าด้วย!” ขณะเดียวกันก็ล่อเถียนกุยหนงร่างมารวิ่งมาทั้งพวกเขา

เยี่ยเว่ยหมิงเห็นแล้วอดขมวดคิ้วไม่ได้ ถามในช่องทีมว่า [สะพานสวรรค์น้อย ศิษย์น้องของเจ้าคิดจะล่อมอนสเตอร์มาวางกับดักกันหรือ]

[ไม่มีทางหรอก] สะพานสวรรค์น้อยส่ายหน้า [ที่จริงมั่วหรานแม้จะนิสัยบุ่มบ่ามไปหน่อย แต่ก็ไม่ใช่คนเลวอะไร พวกนางน่าจะเล่นมานานจนเบื่อแล้ว เลยจะดึงพวกเราไปเล่นเกมกับพวกนางด้วย]

เล่นเกมมารดาเจ้าสิ!

แต่เหมือนเหตุผลนี้ก็ฟังขึ้นนะ?

ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ บรรดาศิษย์สำนักสุสานโบราณแม้จะเอาชนะเถียนกุยหนงร่างมารเลเวลแปดสิบห้าไม่ได้ แต่ถ้าคิดจะหนีก็ทำได้อยู่แล้ว ทั้งยังเห็นได้ชัดว่ามั่วหรานเป็นคนล่อเถียนกุยหนงร่างมารออกมา คนอื่นขอเพียงรักษาระยะห่างกับนางก็จะไม่ถูกผลกระทบจากการโจมตีของสัตว์มาร

ถึงแม้วิชาตัวเบาจะแย่ไปหน่อย แต่ก็เลือกออกจากขอบเขตอำนาจของสำนักสุสานโบราณได้ ก็จะสลับแผนที่สำเร็จ เกรงว่าแม้แต่มั่วหรานก็จะออกจากสถานะต่อสู้ได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน

อย่างไรเสีย ในเกม ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ ก็ใช่ว่าจะไม่มี BOSS ที่ไล่ฆ่าผู้เล่นข้ามแผนที่สำเร็จ แต่คงไม่ใช่สัตว์มารที่สติปัญญาค้างชำระตนนี้แน่นอน

ด้วยเหตุนี้ ถ้าคิดจะใช้ประโยชน์จากเถียนกุยหนงร่างมารวางกับดักใคร ก็เป็นเรื่องที่ยากมากแน่นอน ทำให้เขาตายอาจจะง่ายกว่า

สำหรับเรื่องนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็บอกได้เพียงว่า “พอสาวๆ สำนักสุสานโบราณรวมตัวกัน ก็กลายเป็นเด็กในหัวใจสูงจริงๆ”

ตอนนี้เอง น้องสาวกระบี่ใหญ่ที่ชื่อมั่วหรานก็วิ่งมาถึงข้างกายพวกเยี่ยเว่ยหมิงแล้ว หลังจากทำหน้าทะเล้นใส่พวกเขาก็ยังไม่ลืมเตือนว่า “สัตว์ประหลาดมาแล้ว ทุกคนหนีเร็ว!”

เมื่อเห็นเถียนกุยหนงร่างมารตามมาติดๆ ฉางซิงอวี่ สะพานสวรรค์น้อยและซานเย่ว์ก็เลือกหลบโดยสัญชาตญาณ มีเพียงเยี่ยเว่ยหมิงที่ยังยืนไม่สะทกสะท้านอยู่ที่เดิม พร้อมส่งข้อความในช่องทีมว่า [สะพานสวรรค์น้อย ถามนางสิว่าสนใจส่งสัตว์มารตนนี้มาให้พวกเราหรือไม่]

สะพานสวรรค์น้อยเชื่อมั่นในตัวเยี่ยเว่ยหมิงโดยไร้เงื่อนไข นางจึงถ่ายทอดคำพูดของเยี่ยเว่ยหมิงทันที

มั่วหรานได้ยินแล้วงง หลังจากเหม่อไปหนึ่งวินาทีถึงได้แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ฟังผิด นางไม่ได้ตอบ แต่พุ่งใส่เยี่ยเว่ยหมิงที่กำลังยืนตระหง่านต้อนรับ BOSS เสียเลย พร้อมกล่าวอย่างตกใจว่า “ไม่ได้ BOSS ร่างมารตนนี้ร่ายกาจมาก ก่อนหน้านี้มีศิษย์น้องสองคนถูกมันปลิดชีพเพราะดันทุรัง!”

มองออกเลยว่าน้องสาวคนนี้ลึกๆ แล้วจิตใจดี หลังจากรู้ความคิดของพวกเยี่ยเว่ยหมิง ปฏิกิริยาแรกก็คือเป็นห่วงความปลอดภัยของเขา

ถึงขั้นกังวลว่าเยี่ยเว่ยหมิงจะไม่ยอมฟัง ตอนที่ตะโกนเตือน นางยังยื่นมือมาคว้าแขนเยี่ยเว่ยหมิงด้วย ลองใช้พลังมือที่ป่าเถื่อนดึงเยี่ยเว่ยหมิงออกไป

ทว่า เยี่ยเว่ยหมิงเป็นคนจิตใจดีไร้ความเห็นแก่ตัว มีหรือที่จะมัวมาฉุดกระชากลากยื้อกับหญิงสาวที่เจอหน้ากันเป็นครั้งแรก

ตอนที่มั่วหรานเห็นว่ากำลังจะทำสำเร็จ นิ้วมือซ้ายที่คว้าแขนของเยี่ยเว่ยหมิงเอาไว้งอเข้า นางกลับรู้สึกตาลายขึ้นมากะทันหัน จากนั้นระหว่างนิ้วก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่คุ้นเคยเวลาพยายามจะใช้มือซ้ายสัมผัสมือซ้ายตัวเอง

การคว้ามือที่นางคิดว่าสำเร็จแน่นอน ไม่น่าเชื่อว่าจะคว้าน้ำเหลวแล้ว!

ที่แท้ตอนฝ่ามือของนางใกล้มาถึงแขนเสื้อของตน เยี่ยเว่ยหมิงแค่ก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อยก็หลบมือของมั่วหรานได้สบาย เขากวาดกระบี่แสงทองในมือออกมา ใช้ท่ากวาดหิมะต้มชาของ ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ ฟาดบนกระบี่ใหญ่ที่เถียนกุยหนงร่างมารฟันแสกหน้าลงมา

เถียนกุยหนงร่างมารดูเหมือนร่างกายสูงใหญ่ เป็นคู่ต่อสู้ประเภทใช้พละกำลังที่ต้องเงยหน้ามองแน่นอน เมื่อเทียบกันแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงที่ร่างกายเท่าคนธรรมดากลับดูเล็กลงไปเลย

สาวๆ สำนักสุสานโบราณที่เดิมทียังคิดจะเล่นเอาสนุก ตอนนี้กลับแสดงสีหน้าแตกต่างกันไป บางคนก็รีบย่ำเท้า บางคนก็แอบทอดถอนใจ บางคนก็ถลึงตาโต บางคนที่ขี้ขลาดหน่อยก็หลับตาลง ทนมองภาพอันโหดร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่ไหว

ทว่าหลายครั้งที่ตัดสินความแข็งแกร่งของฝีมือจากรูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้ ตอนที่ผู้เล่นกับสัตว์มารปะทะกันครั้งนี้ เยี่ยเว่ยหมิงได้สร้างผลงานการรบที่ทำให้สาวๆ ทุกคนของสุสานโบราณถ้าคิดไม่ถึงแล้ว!

แกร๊ง!

กระบี่สองเล่มปะทะกัน เสียงดังสนั่นสี่ป่า!

ท่ามกลางเสียงโลหะกระทบกัน เยี่ยเว่ยหมิงยังคงยืนตระหง่านอยู่ที่เดิม ไม่สะทกสะท้านใดๆ ส่วนเถียนกุยหนงร่างมารที่เลเวลสูงถึงแปดสิบห้า ภายใต้การโจมตีนี้ กลับกระเด็นถอยหลังออกไปทั้งมารทั้งกระบี่ หลังจากหมุนตัวอยู่กลางอากาศสิบกว่ารอบถึงได้กระแทกลงพื้นอย่างแรง หกคะเมนตีลังกา ผ่านไปนานก็ยังลุกขึ้นมาไม่ได้

ขณะเดียวกันนี้เอง เหนือศีรษะของเขาก็มีตัวเลขดาเมจที่สูงถึงก้าหลักลอยขึ้นมา

-11360

ไม่อย่างนั้นจะบอกได้อย่างไรว่ากระบี่แสงทองคือกระบี่สยบมาร ตอนที่รับมือกับสัตว์มาร ค่าสเตตัสทุกรายการเหนือกว่าแน่นอน

ขอแค่สู้กันด้านกำลังอย่างเดียว เยี่ยเว่ยหมิงก็สร้างผลลัพธ์ที่น่าตกตะลึงได้อยู่ดี!

ดาเมจสูงถึงห้าหลัก ในสายตาของผู้เล่นระดับสูงไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร แม้ผู้เล่นสำนักสุสานโบราณเหล่านี้ไม่ได้เก่งมาก แต่ในจำนวนนั้นก็มีคนที่เคยท่องโลกกว้างมาแล้ว ไม่ตกใจเพราะตัวเลขดาเมจนี้แล้ว

แต่อย่าลืมว่านี่คือดาเมจที่เกิดจากอาวุธสองชิ้นกระทบกันเท่านั้น!

ยิ่งไปกว่านั้น นี่ยังเป็นการทำดาเมจกับ BOSS เลเวลแปดสิบห้าด้วย!

ตอนนี้เริ่มน่าตกใจแล้ว

ต้องทราบไว้ว่าศิษย์น้องร่วมสำนักของพวกนางที่ตายไปก่อนหน้านี้ ถูก BOSS ทำคริติคอลดาเมจปลิดชีพโดยตรง!

แต่ผู้เล่นที่แต่งตัวเหมือน NPC เจ้าหน้าที่ทางการคนนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะทำคริติคอลดาเมจกับ BOSS ได้!

นี่เขาต้องแข็งแกร่งขนาดไหนกัน

กระทั่งตอนนี้ มั่วหรานที่เป็นคนเรียกเถียนกุยหนงร่างมารออกมาถึงแน่ใจว่าพวกเยี่ยเว่ยหมิงมีความสามารถพอจะสังหารเถียนกุยหนงร่างมารตนนี้ได้จริงๆ จึงหันกลับไปถามสะพานสวรรค์น้อยว่า “ศิษย์พี่หญิงใหญ่ ข้าเห็นด้วยกับข้อเสนอของท่านเมื่อครู่นี้ แต่ปัญหาก็คือ จะยก BOSS คนนี้ให้อย่างไร”

อิงตามกติกาของกิจกรรม การรับมือกับ BOSS ประเภทวิญญาณ ผู้เล่นไม่อาจใช้วิธีโจมตีแบบมอนสเตอร์ทั่วไปได้ ต่อให้นางไม่ได้ใช้กระบี่โจมตีเลยตั้งแต่ต้นจนจบ ถ้าเยี่ยเว่ยหมิงโจมตี BOSS ตาย สุดท้ายรางวัลก็ยังเป็นของนางอยู่ดี

ตอนนี้ เยี่ยเว่ยหมิงส่งข้อความเข้าช่องทีมอีกครั้ง สะพานสวรรค์น้อยอ่านตามที่เขาส่งมา “พวกเราจะตั้งทีมกับเจ้า จากนั้นก็จะได้รับส่วนแบ่งค่าประสบการณ์กับค่าตบะจากการสังหาร BOSS ตนนี้ หลังจากโจมตีเสร็จแล้วเจ้าจะได้รับค่าประสบการณ์ ค่าตบะและค่าวีรบุรุษจำนวนมาก ส่วนไอเทมดรอปของ BOSS ตกเป็นของทีมพวกเรา”

เพื่อแสดงออกถึงความร่วมมือ ตอนที่สะพานสวรรค์น้อยถามถึงคำถามนี้ เยี่ยเว่ยหมิงส่งคำเชิญตั้งทีมให้มั่วหรานอย่างแนบเนียนแล้ว

หลังจากมั่วหรานได้ฟังข้อเสนอของสะพานสวรรค์น้อย นางก็พยักหน้าตอบอย่างไม่ลังเล “ไม่มีปัญหา ถึงอย่างไรข้าก็สู้ BOSS คนนี้ไม่ไหว ครั้งนี้ถือว่าข้าได้เปรียบแล้ว”

ขณะที่คุยกัน นางก็กดยอมรับและเข้าไปในทีมของเยี่ยเว่ยหมิงแล้ว

เมื่อเห็นผู้เล่นที่พาตัวเองมาเข้าทีมแล้ว เถียนกุยหนงร่างมารที่อยู่อีกฝั่งก็ลุกขึ้นจากพื้นแล้วเช่นกัน เยี่ยเว่ยหมิงไม่ลังเลอีก โบกกระบี่แสงทองใช้ท่าปลุกปั่นกระบี่อันเฉียบคมกับเถียนกุยหนงที่พุ่งเข้ามาสังหาร โจมตีบนข้อต่อระหว่างไหล่ขวาและแขนขวาของอีกฝ่ายพอดี

-61693

เส้นเอ็นขาด!

ไม่ได้เปิดใช้งานโบนัสพลังโจมตีสองเท่าของ ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ไม่ได้โจมตีจุดสำคัญเพื่อทำคริติคอลดาเมจด้วย เยี่ยเว่ยหมิงใช้ท่าปลุกปั่นกระบี่ธรรมดาท่าเดียว จึงพรากพลังชีวิตของสัตว์มารตนนี้ไปเพียงหกหมื่นกว่าเท่านั้น แต่กลับโจมตีจนเกิดผลเส้นเอ็นขาดสำเร็จ ทำให้เถียนกุยหนงร่างมารเสียแขนขวาสำหรับถือกระบี่ไปแล้ว ทำให้อานุภาพของ BOSS ลดลงเกินครึ่งในคราเดียว

หลังจากโจมตีสำเร็จในครั้งเดียว เยี่ยเว่ยหมิงก็หมุนกระบี่ ใช้ท่า ‘แหวกโค่นดงหนาม’ ใน ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ ทำให้มือซ้ายของเถียนกุยหนงร่างมารพิการ

-35570

เส้นเอ็นขาด!

จากนั้นใช้ท่าร่าง ‘ชั่วอึดใจหมื่นลี้’ ลยไปข้างหลังเถียนกุยหนงร่างมาร พอพลิกมือใช้ท่า ‘กวาดหิมะต้มชา’ กระบี่แสงทองก็กวาดผ่านบนสองขาของเถียนกุยหนงร่างมาร

-39344

เส้นเอ็นขาด!

เส้นเอ็นขาด!

ท่านี้แม้จะดาเมจไม่สูง แต่โจมตีครั้งเดียวก็ทำให้เกิดผลเส้นเอ็นขาดพร้อมกันสองจุด ทำให้ขาสองข้างของเถียนกุยหนงร่างมารพิการหมดแล้ว

ตอนนี้ สัตว์มารเลเวลแปดสิบห้าสร้างภัยคุกคามใดๆ ต่อผู้เล่นไม่ได้อีกแล้ว!

ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงหลังจากทำให้สัตว์มารตนนี้พิการทั้งแขนทั้งขา กลับไม่ได้ไล่ตามโจมตีต่อ เขาถลันตัวกลับมาอยู่ตรงกลางระหว่างเพื่อนร่วมทีม กลืนยาเม็ดฟื้นฟูกำลังภายใน จากนั้นนั่งสมาธิบนพื้น แล้วกล่าวเสียงต่ำว่า “ซานเย่ว์ สหายฉาง ช่วยคุ้มครองข้าหน่อย สะพานสวรรค์น้อย สัตว์มารตนนี้ส่งให้เจ้าแล้ว”

การกระทำที่แปลกประหลาดของเยี่ยเว่ยหมิง ทำเอาเพื่อนร่วมทีมงงไปตามๆ กัน

ก่อนหน้านี้ตอนสู้กับเฟิ่งเทียนหนานร่างมาที่เขาจวินซาน เยี่ยเว่ยหมิงโจมตีโหดกว่าตอนนี้ แต่ก็ไม่มีอาการแทรกซ้อนตามมาเช่นกัน ทำไมตอนอยู่สุสานโบราณกลายเป็นไม่ยืนหยัดทำต่อแล้ว

ท่ามกลางสายตากังวลของเพื่อนร่วมทีม กลับเห็นเยี่ยเว่ยหมิงส่งข้อความในช่องทีม [สะพานสวรรค์น้อย ที่นี่คือศิษย์น้องของเจ้าทั้งนั้น เวลานี้ควรให้เจ้าเป็นคนอวดเก่งอยู่แล้ว ถึงจะมีมูลค่าที่แท้จริง]

[อย่าลังเล บุก!]

พอพูดจบ ถึงนึกได้ว่าในช่องทีมมีคนนอกอยู่อีกคน จึงกล่าวเสริมว่า [น้องมั่วหราน อย่าลืมช่วยพวกเรารักษาความลับด้วยนะ (๑ゝω╹๑)]

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

Status: Ongoing
ไหนๆ ก็โดน NPC หลอกมาเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแล้ว อย่างน้อยก็ขอสกิลดีๆ หน่อยแล้วกัน!นิยายแฟนตาซีแนวเกมออนไลน์ที่จะพาคุณไปท่องยุทธภพและไขคดีสไตล์มือปราบขั้นเทพ!เยี่ยเว่ยหมิง หนึ่งในเด็กหนุ่มที่ลงทะเบียนสมัครใจอพยพไปต่างโลกเพื่อป้องกันสมองตายระหว่างหลับจำศีลตอนเดินทางในอวกาศเขาจึงต้องร่วมเล่นเกมออนไลน์ที่มีฉากหลังเป็นยุทธภพก่อนจะโดน NPC ลึกลับหลอกเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าสำนักมือปราบจะไม่มีอะไรเลยเพราะหลังจากที่เยี่ยเว่ยหมิงทำแบบทดสอบของใต้เท้าซ่งผ่านเขาก็ได้รับสกิลตัดสินคดีที่พ่วงมาด้วยเวทชันสูตรศพและเวทบรรจุศพซึ่งเวทบรรจุศพนี้เองทำให้เขาสามารถรับของที่ซ่อนไว้บนตัวผู้ตายได้รวมถึงดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายได้อีกด้วยเยี่ยมเลย! ตอนนี้เขาพร้อมที่จะออกไปไขคดีทั่วยุทธภพแล้ว!…[ติ๊ง! เปิดใช้พาสซีฟสกิล ‘เวทชันสูตรศพ’ คุณพบ…][ติ๊ง! สกิลพิเศษ ‘เวทบรรจุศพ’ : สามารถดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายโดยการจัดการศพ BOSS][ติ๊ง! จัดการศพผู้อาวุโสสำนักไท่ซาน ได้รับ ‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ เพิ่มค่าประสบการณ์เคล็ดกระบี่ 5000 แต้ม]

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท