ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ – ตอนที่ 423 การรวมตัวที่สมบูรณ์แบบ

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 423 การรวมตัวที่สมบูรณ์แบบ

ตอนที่ 423 การรวมตัวที่สมบูรณ์แบบ

[กลับไปรายงานผลภารกิจเลย?]

เมื่อได้ยินคำแนะนำที่ไร้เดียงสาของเซียนสาวน้อยนักกิน เจ้าอ้วนชนะฟ้าก็อมยิ้มพร้อมตอบกึ่งหยอกล้อว่า [ถ้าไม่ผ่านภารกิจย่อยก่อน สิ่งที่พวเราพูดออกไป NPC จะเอาอะไรมาเชื่อล่ะ]

เมื่อเจ้าอ้วนชนะฟ้าโต้กลับแบบนี้ เซียนสาวน้อยนักกินก็หน้าแดงทันที ก้มหน้าอย่างเขินอายนิดหน่อย ท่าทางขวยเขินหยาดเยิ้มแบบนั้น เสริมให้ชุดคลุมยาวสีแดงขอบลูกไม้ขาวบนตัวนางโดดเด่น ทำให้ดูค่อนข้างน่ารัก

ที่จริงแล้ว การที่วันนี้นางมาปรากฏตัวที่นี่ได้ แสดงว่าไม่ใช่มือใหม่ไร้ประสบการณ์อยู่แล้ว สำหรับกติกาของเกมที่คนส่วนใหญ่รู้กัน มีหรือที่นางจะไม่รู้

เมื่อครู่ที่นางเสนอความเห็นอย่างนั้น เป็นเพราะปฏิกิริยาธรรมชาติหลังจากได้เจอแฟนพันธุ์แท้ต้นฉบับเดิมเป็นครั้งแรก คนที่ปากไวอย่างนางไม่ได้ชอบวางแผนก่อนแล้วค่อยทำเหมือนพวกเยี่ยเว่ยหมิง ถึงได้สร้างเรื่องเข้าใจผิดเล็กน้อยแบบนี้ขึ้นมา

แม้ทุกคนจะสื่อสารกันในช่องทีม แต่กลับไม่เสียสมาธิ ตั้งแต่ต้นจนจบ นอกจากซานเย่ว์ เจ้าอ้วนชนะฟ้าและเซียนสาวน้อยนักกินแล้ว สายตาของอีกสี่คนก็จ้องอยู่บนตัวเจ้าโฉดชั่วบาปหนักต้วนเหยียนชิ่งอยู่ตลอด ป้องกันไม่ให้เขาเล่นตุกติกแบบตั้งตัวไม่ทัน

ด้วยระดับฝีมือที่เป็นเครื่องหมายคำถามของต้วนเหยียนชิ่ง ต่อให้พวกเขาบุกพร้อมกันก็อาจจะสู้อีกฝ่ายไม่ได้ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าขาของอีกฝ่ายบอกลาจักรยานไปแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็รู้สึกว่าเมื่อถึงเวลาคับขันถ้าตัวเองดึงซานเย่ว์วิ่งหนีก็น่าจะพอทำไหวเหมือนกัน

ตอนนี้ยังไม่เห็นต้วนเหยียนชิ่งนั่นอ้าปาก แต่เสียงทุ้มต่ำที่แหบพร่าของคนคนหนึ่งก็ดังขึ้นข้างหูทุกคนแล้ว “ดูท่าทางเหมือนพวกเจ้าเตรียมตัวกันมาดีแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นก็มาแข่งหมากล้อมกับข้าสักกระดานเถอะ ขอเพียงพวกเจ้าเดินได้ต่อเนื่องห้าสิบก้าวโดยไม่แพ้ให้ข้า ข้าก็จะบอกฐานะของตัวเองให้พวกเจ้ารู้ ให้พวกเจ้ากลับไปรายงานภารกิจ”

จะว่าไปแล้ว NPC ระดับสูงที่เยี่ยเว่ยหมิงเคยเจอมาก็ไม่ใช่น้อยๆ ในจำนวนนั้นแค่ลูกพี่ใหญ่เลเวลสองร้อยก็สามคนแล้ว แต่สามคนนั้นไม่มีใครที่พูดได้โดยไม่ต้องอ้าปากแบบนี้

ถ้าก่อนหน้านี้เขาเรียนทักษะนี้ ตอนที่เดิมพันกับตู๋กูฉิวไป้ ยังจะต้องทิ้งศักดิ์ศรีไปแข่งกับอีกฝ่ายว่าใครไม่สนใจเงินทองมากกว่ากันอีกหรือ

ตอนที่ใจกำลังคิดแบบนี้ เยี่ยเว่ยหมิงกลับรีบส่งข้อความในช่องทีม [@เจ้าอ้วนชนะฟ้า ก้าวแรกข้าควรเดินไปตรงไหน]

เจ้าอ้วนชนะฟ้าตอบอย่างงุนงง [อิงตามกติกา ในเมื่อเดิมพันบอกไว้ว่าขอแค่พวกเรายืนหยัดเดินได้ห้าสิบก้าว เช่นนั้นก็ควรให้อีกฝ่ายเดินหมากก่อนสิถึงจะถูก]

[อย่ามัวสิ้นเปลืองคำพูด] เยี่ยเว่ยหมิงเดินไปทางกระดานหมากล้อม พร้อมเร่งคำตอบในช่องทีม [รีบบอกข้ามา หมากตัวแรกที่ลงควรจะลงตรงไหน จะว่าไปแล้ว เวลาเล่นหมากล้อม คนที่ลงหมากก่อนน่าจะได้เปรียบกว่าสิ]

เมื่อเห็นเยี่ยเว่ยหมิงดึงดันจะถาม เจ้าอ้วนชนะฟ้าก็ทำได้เพียงตอบตามความจริง [ไม่ผิดหรอก ตอนเล่นหมากล้อม คนที่ลงหมากก่อนได้เปรียบจริงๆ ถ้ามีความมั่นใจว่าจะแย่งลงก่อนได้ ก็ลงตรงจุดตัดของเส้นนอนที่สามและเส้นตั้งที่สามแล้วกัน]

ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงเดินมาตรงหน้าต้วนเหยียนชิ่งอย่างแนบเนียน ขณะเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะซักไซ้ต่อในช่องทีม [หมายความว่าอะไรนะ พูดให้ชัดเจนหน่อยสิ!]

ตอนนี้เจ้าอ้วนชนะฟ้านับว่ามองออกแล้ว ว่าความเข้าใจที่เยี่ยเว่ยหมิงมีต่อหมากล้อมยังสู้น้องสาวจอมดื้อคนนั้นของตนไม่ได้

น้องสาวของเขาคนนั้น จะดีจะร้ายก็ยังรู้กติกาและคำศัพท์พื้นฐานในการเล่นหมากล้อม แต่เจ้าหมอนี่ เกรงว่าแม้แต่สาเหตุว่าทำไมหมากล้อมจึงถูกเรียกว่าหมากล้อมก็คงไม่รู้เช่นกัน

ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงอธิบายอย่างจนใจ [ตัวเลขที่ข้าจะพูดต่อไปนี้ ทุกตัวใช้วิธีนับจากฝั่งซ้ายไปขวา แล้วนับจากข้างล่างขึ้นข้างบน หมากตัวแรกวางไว้บนจุดดาวของแถวที่สามนับจากฝั่งซ้ายและแถวที่เจ็ดนับจากข้างล่างก็พอ]

หลังจากรีบตอบข้อความแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็ยื่นมือลูบบนกระดานหมากล้อมเบาๆ แต่ตอนที่นิ้วของเขาสัมผัสกับรอยลึกพวกนั้น ในใจก็นับเส้นตั้งและเส้นนอนเงียบๆ ไปด้วย พร้อมอดกล่าวชมไม่ได้ว่า “ช่างเป็นวิชาที่ล้ำลึก! ด้วยความสามารถของผู้น้อย แม้จะทิ้งรอยนิ้วไว้บนก้อนหินแบบนี้ได้ แต่ถ้าจะให้วาดกระดานหมากล้อมที่มีจุดตัดเป็นระเบียบเรียบร้อยแบบนี้ ข้ากลับทำไม่ได้แน่นอน”

เพล้ง!

ขณะที่ปากกล่าวชมฝีมือของอีกฝ่าย เยี่ยเว่ยหมิงก็โคจรพลังเจ็ดส่วนดีดเบาๆ บนตำแหน่งที่เจ้าอ้วนชนะฟ้าบอกไว้ล่วงหน้า ทำให้ตำแหน่งนั้นเป็นรอยเว้าขนาดเท่าเล็บมือ

ต้วนเหยียนชิ่งเห็นแล้วขมวดคิ้วทันที “เจ้าหนู นี่เจ้ากำลังทำอะไร”

กลับเห็นเยี่ยเว่ยหมิงหย่อนยาบำรุงกำลังภายในเข้าปากอย่างไม่รีบร้อน จากนั้นพูดกลั้วเสียงหัวเราะแห้งๆ “ผู้อาวุโสเป็นยอดฝีมือแห่งยุค ทักษะยุทธ์ หรือทักษะหมากล้อมก็ล้วนเหนือกว่าผู้น้อย ข้าคิดว่าผู้อาวุโสคงไม่ถือสาที่ผู้น้อยลงหมากก่อน ก็เลยถือวิสาสะลงมากเสียเลย หากผู้อาวุโสคิดว่าไม่เหมาะสม พวกเราก็เปลี่ยนกระดานหมากล้อมแผ่นใหม่ได้ แล้วปรึกษากันใหม่ว่าใครจะลงก่อนลงหลัง”

เมื่อเห็นเยี่ยเว่ยหมิงเล่นแบบนี้ นอกจากซานเย่ว์ที่เห็นจนเคยชินแล้ว คนอื่นๆ ก็ตกตะลึงกันหมด

ทีแรกตอนที่เห็นท่าทางมั่นใจเต็มร้อยของเยี่ยเว่ยหมิง พวกเขาก็ยังนึกว่าเจ้าหมอนี่จะมีกลยุทธ์สูงส่งอะไรเสียอีก นึกไม่ถึงว่าวิธีการของเขาก็คือเล่นลูกไม้หน้าด้านๆ แบบนี้

กับคนประเภทนี้ บรรดาเพื่อนร่วมทีมคนใหม่เหล่านี้คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าก่อนหน้านี้เขาเดิมพันชนะตู๋กูฉิวไป้ได้อย่างไร อย่าบอกนะว่าขอให้ตู๋กูฉิวไป้แข่งกับเขาว่าใครไร้ยางอายกว่ากัน

หลังจากเห็นอีกฝ่ายลงหมาก เจ้าอ้วนชนะฟ้าก็บอกตำแหน่งวางหมากก้าวต่อไปอย่างไม่ชักช้า แต่เยี่ยเว่ยหมิงเพื่อที่จะรักษาความสามารถในการบินต่อเนื่องไว้ กลับไม่ได้รีบลงหมากทันที แต่สังเกตเวลานับถอยหลังที่ระบบให้มาในการเดินหมากแต่ละก้าว เขารอจนกระทั่งวินาทีสุดท้ายของเวลาพิจารณา แล้วค่อยดีดนิ้วเบาๆ บนตำแหน่งที่เจ้าอ้วนชนะฟ้าบอกไว้

จุดประสงค์ที่เขาทำอย่างนี้ แน่นอนว่าทำเพื่อถ่วงเวลา

สุดยอดทักษะอย่าง ‘ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ ต่อให้เป็นเยี่ยเว่ยหมิงตอนนี้ ก็เป็นวิชาที่ใช้กำลังภายในเปลืองมาก ถ้าดีดต่อเนื่องแบบนี้ไปเรื่อยๆ ต่อให้มียาช่วยกับเอฟเฟ็กต์ชำระปราณของ ‘เคล็ดวิชาจักรวาล’ ที่ช่วยให้ฟื้นตัวเร็ว แต่ก็ยังเสียมากกว่าได้อยู่ดี พอเดินไปได้ประมาณยี่สิบก้าว กำลังภายในของเขาก็หมดไปแล้วหนึ่งในสามส่วน

แต่ยังดีที่พอเกมหมากล้อมดำเนินไปเรื่อยๆ ทุกครั้งหลังจากเยี่ยเว่ยหมิงลงหมาก ต้วนเหยียนชิ่งก็ต้องหยุดเพื่อคิดแผนรับมือเช่นกัน พอเป็นแบบนี้ ก็ทำให้เยี่ยเว่ยหมิงมีเวลาฟื้นฟูกำลังภายในมากขึ้น

เมื่อเทียบกับตอนที่เริ่มเล่น กำลังภายในของเขาหมดช้าลงตั้งเยอะ

ตอนนี้เอง จู่ๆ เห็นเจ้าอ้วนชนะฟ้าบอกในช่องทีมว่า [จะว่าไปแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างต้วนเหยียนชิ่งกับราชวงศ์ต้าหลี่ก็ซับซ้อนมาก ถ้าไม่ใช่เพราะการสปอยล์เนื้อเรื่องไร้ประโยชน์ อาศัยแค่บอกความลับมาอย่างเดียว ก็ทำให้เขาปล่อยคนโดยไม่มีเงื่อนไขได้แล้ว]

[อย่าเสียสมาธิสิ] เยี่ยเว่ยหมิงที่ยืนอยู่ตรงข้ามต้วนเหยียนชิ่งได้ยินแล้วอดบ่นไม่ได้ [ถ้าเจ้ามีเวลาขนาดนั้น ไม่สู้จดจ่อสมาธิอยู่บนกระดานหมากล้อมดีกว่าไหม จากประสบการณ์ในอดีตของข้า เมื่อระดับความสำเร็จของภารกิจต่างกัน ผลตอบแทนที่ได้ก็จะต่างกันมาก ถ้าพวกเรายืนหยัดได้ห้าสิบก้าวโดยไม่แพ้นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าเอาชนะเขาได้ ก็จะต้องได้ผลตอบแทนมากแน่นอน]

[แถวสิบสามจากซ้าย แถวหกจากข้างล่าง] ทันทีที่ต้วนเหยียนชิ่งลงตัวหมาก เจ้าอ้วนชนะฟ้าก็บอกตำแหน่งวางหมากก้าวถัดไปแล้ว ทั้งยังส่งข้อความเสริมอย่างมั่นใจเต็มร้อยว่า [ใจเย็นไว้]

[ดูจากลักษณะการลงหมากยี่สิบกว่าครั้งก่อนหน้านี้ ระดับของต้วนเหยียนชิ่งก็แค่ระดับมืออาชีพห้าดั้งเท่านั้น ถ้าไม่ได้จำกัดไว้ที่ห้าสิบก้าว ข้าก็มั่นใจว่าภายในก้าวที่ร้อยห้าสิบ ข้าจะทำให้เขาหาจุดเดินหมากบนกระดานต่อไม่ได้แน่นอน]

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

Status: Ongoing
ไหนๆ ก็โดน NPC หลอกมาเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแล้ว อย่างน้อยก็ขอสกิลดีๆ หน่อยแล้วกัน!นิยายแฟนตาซีแนวเกมออนไลน์ที่จะพาคุณไปท่องยุทธภพและไขคดีสไตล์มือปราบขั้นเทพ!เยี่ยเว่ยหมิง หนึ่งในเด็กหนุ่มที่ลงทะเบียนสมัครใจอพยพไปต่างโลกเพื่อป้องกันสมองตายระหว่างหลับจำศีลตอนเดินทางในอวกาศเขาจึงต้องร่วมเล่นเกมออนไลน์ที่มีฉากหลังเป็นยุทธภพก่อนจะโดน NPC ลึกลับหลอกเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าสำนักมือปราบจะไม่มีอะไรเลยเพราะหลังจากที่เยี่ยเว่ยหมิงทำแบบทดสอบของใต้เท้าซ่งผ่านเขาก็ได้รับสกิลตัดสินคดีที่พ่วงมาด้วยเวทชันสูตรศพและเวทบรรจุศพซึ่งเวทบรรจุศพนี้เองทำให้เขาสามารถรับของที่ซ่อนไว้บนตัวผู้ตายได้รวมถึงดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายได้อีกด้วยเยี่ยมเลย! ตอนนี้เขาพร้อมที่จะออกไปไขคดีทั่วยุทธภพแล้ว!…[ติ๊ง! เปิดใช้พาสซีฟสกิล ‘เวทชันสูตรศพ’ คุณพบ…][ติ๊ง! สกิลพิเศษ ‘เวทบรรจุศพ’ : สามารถดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายโดยการจัดการศพ BOSS][ติ๊ง! จัดการศพผู้อาวุโสสำนักไท่ซาน ได้รับ ‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ เพิ่มค่าประสบการณ์เคล็ดกระบี่ 5000 แต้ม]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท