ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ – ตอนที่ 482 แม่เจ้าสู้ข้าไม่ไหว

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 482 แม่เจ้าสู้ข้าไม่ไหว

ตอนที่ 482 แม่เจ้าสู้ข้าไม่ไหว

วูบ!

ทันใดนั้น พลังปราณกลุ่มหนึ่งที่น่าตกใจก็ปะทุออกมาจากตัวเยี่ยเว่ยหมิง จุดเลือดลมสิบจุดทั้งข้างบนและช้างล่างที่ถูกจิวหมัวจื้อจี้สกัดไว้ถูกทะลวงทั้งหมดในชั่วพริบตาเดียว

แต่ผลข้างเคียงที่มากับการใช้กำลังแบบนี้ก็คือ…

-2899

ชั่วพริบตาที่ใช้งาน ‘ตราบชั่วฟ้าดิน’ พลังชีวิตของเยี่ยเว่ยหมิงก็ตกลงสิบเปอร์เซ็นต์ คงจะพอๆ กับที่ BOSS ธรรมดาโจมตีบนตัวเขา

หลังจากโจมตีหนึ่งครั้ง เยี่ยเว่ยหมิงก็เรียกกระบี่แสงทองออกมาทันที ชูกระบี่ขึ้นแล้วเล็งที่ท้องน้อยของตัวเอง ก่อนจะแทงลงมาอย่างไม่ลังเล

การเคลื่อนไหวที่ไหลลื่น ท่าทีที่เด็ดเดี่ยว ทำให้หญิงสาวที่กำลังลองปลุกเขาตกตะลึงอ้าปากค้าง นางรีบอุทานถาม “คุณชายเยี่ย ท่านกำลังทำอะไรเจ้าคะ”

เยี่ยเว่ยหมิงถูกอีกฝ่ายเรียกจนงงไปชั่วขณะ กระบี่ที่เดิมทีจะใช้แทงท้องตัวเองจึงชะงักอยู่กลางอากาศ

พอหันไปมอง ก็พบว่าผู้ที่เรียกเขาไม่ใช่อาจูหรืออาปี้อย่างที่คาดไว้ แต่เป็น…

“แม่นางหวัง”

สิ่งที่ทำให้เยี่ยเว่ยหมิงคิดไม่ถึงเลยก็คือ ผู้หญิงตรงหน้าที่ปลุกเขาจากการหลับลึก ก็คือคนที่เขาเคยปะทะฝีปากด้วยครั้งหนึ่งที่หมู่บ้านชื่อสยา ทั้งยังสร้างความรู้สึกแรกพบที่ไม่ดีให้เขาด้วย นางคือหวังอวี่เยียน!

ตอนนี้ในหัวเยี่ยเว่ยหมิงนึกออกแค่สามคำถาม

ข้าคือใคร

ข้าอยู่ที่ไหน

ข้ากำลังทำอะไร

เมื่อเห็นเยี่ยเว่ยหมิงฟื้นแล้ว หวังอวี่เยียนก็เผยสีหน้าดีใจทันที “คุณชายเยี่ย ในที่สุดท่านก็ฟื้นแล้ว!”

เยี่ยเว่ยหมิงไม่สนใจนาง

“คุณชายเยี่ย ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม”

เยี่ยเว่ยหมิงยังคงไม่สนใจนาง

พอหวังอวี่เยียนเห็นเยี่ยเว่ยหมิงมีท่าทางแบบนี้ แล้วนึกถึงตอนที่เขากำลังจะใช้กระบี่แทงท้องน้อยตัวเอง นางก็เข้าใจกระจ่างในฉับพลัน “คุณชายเยี่ย วิชาที่ท่านเพิ่งใช้คลายจุด คือ ‘ตราบชั่วฟ้าดิน’ ของสำนักอู่ตังหรือ”

เยี่ยเว่ยหมิงยังคงไม่สนใจนาง

กระทั่งผ่านไปห้าวินาทีหลังจากนางถามคำถามแรก เยี่ยเว่ยหมิงถึงได้พลันสั่นศีรษะ เก็บกระบี่แสงทองไว้แล้วบอกว่า “ในเมื่อเจ้ารู้ว่าข้าใช้ ‘ตราบชั่วฟ้าดิน’ เช่นนั้นก็น่าจะรู้ใช่ไหมว่าสภาพของข้าก่อนหน้านี้ทำให้ข้าตอบไม่ได้…

…หากมีจุดไหนที่เสียมารยาท หวังว่าแม่นางหวังจะไม่ถือสา”

หลังจากเปิดใช้งานตราบชั่วฟ้าดินแล้วก็ต้องแทงตัวเองหนึ่งกระบี่ ไม่อย่างนั้นจะตกอยู่ในสภาวะตัวแข็งห้าวินาที

ดังนั้น หลังจากเยี่ยเว่ยหมิงเปิดใช้งานมันแล้ว จิตใต้สำนึกก็ทำให้เขาอยากแทงสักแผล แต่ตอนที่กระบี่แทงเข้ามาในครึ่งเดียว เสียงเรียกของแม่นางหวังอวี่เยียนก็ทำให้เขาเข้าใจทันที

แถวนี้ไม่ใช่ศัตรูที่แข็งแกร่ง มีเพียงหวังอวี่เยียนที่พลังโจมตีแทบจะเป็นศูนย์

ยิ่งไปกว่านั้น หาก npc คนนี้คิดจะทำอะไรกับตนสักหน่อย ตอนที่ติดสถานะสลบก่อนหน้านี้ นางก็ทำตามอำเภอใจได้แล้ว

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่ต้องแทงสักทีก็ได้

ตัวแข็งแค่ห้าวินาทีเท่านั้น อย่าทำเหมือนเป็นเรื่องใหญ่เลย

“คุณชายเยี่ย ท่านเกรงใจกันเกินไปแล้ว” หวังอวี่เยียนพยักหน้าอย่างอ่อนโยนมาก ไม่อวดดีเหมือนตอนเจอกันที่หมู่บ้านชื่อสยาก่อนหน้านี้ราวกับเป็นคนละคน “ที่จริงที่ข้ามาปลุกคุณชายครั้งนี้ ก็เพราะมีเรื่องจะขอให้คุณชายช่วยเจ้าค่ะ”

แม้อีกฝ่ายจะพูดชัดแล้วว่ามีเรื่องขอให้ช่วย แต่เยี่ยเว่ยหมิงก็รู้สึกว่าท่าทีของนางมีจุดที่ขัดแย้งกันอยู่ คงจะไม่ง่ายเหมือนการ ‘ขอร้องให้ช่วย’

ตอนไปพังหมู่บ้านชื่อสยาก่อนหน้านี้ ท่าทีที่หวังอวี่เยียนแสดงต่อเยี่ยเว่ยหมิงก็คือการดูถูกที่มาจากใจ หรือถ้าพูดให้ตรงไปตรงมากว่านี้สักหน่อยก็คือ อีกฝ่ายไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย

การดูถูกที่ซ่อนอยู่ภายในใจ ไม่ได้ปิดบังกันง่ายๆ ขนาดนั้น

ถ้าอาจูทำได้ถึงขั้นนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็จะไม่สงสัย แต่หวังอวี่เยียนกลับไม่มีความสามารถนั้น

แม้จะถ่อมตัวเมื่อกำลังขอร้องคนอื่น แต่ดูปลอมมาก

แต่ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงกลับมองไม่เห็นความ ‘ปลอม’ จากตัวหวังอวี่เยียนเลยสักนิด

เช่นนั้นคำอธิบายเดียวที่สมเหตุสมผล ก็คงมีเพียงทักษะประเภทความคิดอย่าง ‘วรรณกรรม’ ถึงได้เพิ่มค่าสเตตัสค่าความรู้สึกดีโดยธรรมชาติให้ NPC ผู้หญิง

เยี่ยเว่ยหมิงยิ้มบางๆ แล้วกล่าวไปตามอารมณ์ “ข้ามีหลายคำถามอยากจะถามแม่นางหวังพอดี แต่ในเมื่อเจ้าเอ่ยถามก่อน เช่นนั้นก็เชิญแม่นางหวังพูดก่อนว่าจะขอร้องอะไรข้า”

“คืออย่างนี้นะ” หวังอวี่เยียนได้ยินแล้วบอกทันที “ข้ากับลูกผู้พี่เจอปัญหา อยากจะให้อาจูกับอาปี้พาข้าออกไปช่วยเขา แต่เพราะอาจูอาปี้ล่วงล้ำเข้ามาในหมู่บ้านภูเขาม่านถัว ท่านแม่ของข้าจึงจับตัวไว้ ตอนนี้ถูกขังอยู่ในห้องเก็บฟืน เหยียนมาม่ากำลังเฝ้าอยู่…

…ท่านแม่ข้ายังบอกอีกว่าจะฆ่าพวกนางสองคนเอาไปทำปุ๋ย…

…อาจูบอกว่าให้ข้ามาบนเรือเพื่อขอให้คุณชายเยี่ยช่วย บอกว่าท่านต้องหาทางช่วยพวกนางได้แน่” พอพูดถึงตรงนี้ หวังอวี่เยียนก็ก้มหน้าทันที “เรื่องที่หมู่บ้านชื่อสยาก่อนหน้านี้ เป็นอวี่เยียนที่ผิดเอง หวังว่าคุณชายเยี่ยจะไม่ถือสา…

…ครั้งนี้มีแค่ท่านที่ช่วยอาจูกับอาปี้ได้…”

เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วพยักหน้า พอมองไปรอบๆ ก็พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเรือน้อยของอาจู จึงลุกขึ้นแล้วบอกว่า “ก่อนหน้านี้อาจูกับอาปี้เคยช่วยข้าจากเงื้อมมือเจ้าพระชั่วจิวหมัวจื้อ…

…ตอนนี้ถึงคราวที่พวกนางลำบาก เรื่องช่วยคนข้าย่อมผลักความรับผิดชอบให้คนอื่นไม่ได้อยู่แล้ว”

จากนั้นก็ไม่ลืมพูดแขวะ “เพียงแต่แม่ของเจ้าเอะอะก็จะฆ่าคน ไม่โหดเกินไปหน่อยหรือ”

หวังอวี่เยียนได้ยินแล้วตอบอย่างจนใจนิดหน่อย “แม่ข้าไม่ค่อยชอบลูกผู้พี่คนนี้ของข้า เกลียดบ้านไหนก็พานเกลียดนกในบ้านนั้นด้วย ย่อมไม่ชอบอาจูกับอาปี้อยู่แล้ว”

เยี่ยเว่ยหมิงอยากจะบอกนางมากว่า ที่แม่ของเจ้าเกลียดมู่หรงฟู่น่ะถูกต้องแล้ว

ถึงแม้เขาจะมียศขุนนางขั้นห้า แต่ก็รู้หลักการเช่นกันว่าเรื่องภายในครอบครัว แม้แต่เจ้าหน้าที่ทางการก็ไม่อาจเข้าไปตัดสินถูกผิดได้ จึงตัดสินใจว่าจะไม่ถามเรื่องในครอบครัวของหวังอวี่เยียนอีก เปลี่ยนประเด็นสนทนาเสียเลย “แล้วอีกเรื่องหนึ่ง เหยียนมาม่าที่เจ้าเอ่ยถึงก่อนหน้านี้เป็นใครนะ”

“นางเป็นบ่าวรับใช้ในบ้านของพวกเรา ฟังคำสั่งท่านแม่ข้าคนเดียวเท่านั้น นางไม่สนใจคำขอของข้าเลย ข้าจึงมาขอร้องให้คุณชายเยี่ยช่วย”

“ทำไมคำเรียกทาสรับใช้บ้านเจ้าฟังดูเหมือนแม่เล้าเลยล่ะ” เยี่ยเว่ยหมิงถามอีก

อากาศพลันหยุดนิ่ง บรรยากาศอึดอัดถึงขีดสุด

หวังอวี่เยียนถูกถามจนพูดไม่ออก ผ่านไปนานถึงได้คิดออกว่าจะเปลี่ยนประเด็นสนทนาอย่างไร “เมื่อครู่คุณชายเยี่ยบอกว่ามีเรื่องจะถามข้า คงไม่ใช่เรื่องพวกนี้หรอกใช่ไหม”

“ไม่ใช่อยู่แล้ว” ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงถึงได้พบว่าบรรยากาศแปลกไป จึงอาศัยประโยชน์จากเงื่อนไขที่มี ตอบว่า “คำถามแรกของข้าก็คือจะถามว่าอาจูกับอาปี้อยู่ที่ไหน ตอนนี้คงไม่ต้องถามแล้ว…

…ส่วนอีกคำถาม ข้าเดาว่าเจ้าเองก็รู้ไม่ละเอียด รอให้ข้าช่วยพวกนางสองคนออกมาก่อน แล้วค่อยถามพวกนางโดยตรงก็ได้”

ขณะที่พูด ทั้งสองก็เดินมาถึงหน้าห้องเก็บฟืนแล้ว

เยี่ยเว่ยหมิงหันกลับไปบอกใบ้ให้หวังอวี่เยียนถอยไป ตัวเองก้าวขึ้นมาหนึ่งก้าวแล้วผลักประตูออก

แกร๊ก! ประตูห้องถูกผลักออก ก็เห็นอาจูอาปี้ถูกมัดแขนมัดขาอยู่ที่เสาสองต้น สตรีวัยกลางคนหน้าตาดุร้ายคนหนึ่งกำลังถือมีดฆ่าหมูเหมือนเตรียมพร้อมจะลงมือฆ่าคนได้ทุกเมื่อ

เมื่อเห็นเยี่ยเว่ยหมิงผลักประตูเข้ามา สตรีวัยกลางคนก็แสยะยิ้มพร้อมบอกทันทีว่า “ไม่น่าเชื่อว่าจะมีผู้ชายกล้าบุกเข้ามาในหมู่บ้านภูเขาม่านถัว จะได้ฆ่าให้ฮูหยินทำปุ๋ยพอดี!”

พอพูดจบก็ไม่ให้โอกาสแก้ตัว ยกมีดแทงมาทางหัวใจของเยี่ยเว่ยหมิงทันที

[เหยียนมาม่า]

หนี่งในบ่าวรับใช้ของหมู่บ้านภูเขาม่านถัว ชอบใช้วิธีการโหดร้าย ฟังคำสั่งหวังฮูหยินคนเดียวเท่านั้น

เลเวล: 32

พลังชีวิต: …

……

เมื่อเห็นเลเวลของอีกฝ่าย เยี่ยเว่ยหมิงก็ขี้คร้านจะดูค่าสเตตัสโดยละเอียดของนาง แต่กลับเห็นเขาพลันยื่นมือขวาไปข้างหน้าคว้าข้อมือที่กำลังกุมมีดของอีกฝ่ายไว้ จากนั้นจีบนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ข้างซ้าย จ่อหน้าผากสตรีดุร้ายคนนี้อย่างไม่รีบร้อน จากนั้นก็ดีดเบาๆ…

พรึ่บ!

เกิดหมอกเลือดกลุ่มหนึ่งกระเด็นออกมาจากหลังศีรษะของ NPC ที่ชื่อว่าเหยียนมาม่า

[ติ๊ง! คุณโจมตีสังหาร…]

[ประกาศระบบ: …]

เมื่อเห็นประกาศระบบรายการนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็เผยสีหน้ามึนงง

NPC เลเวลสามสิบสองคนหนึ่ง ไม่น่าเชื่อว่าจะยังไม่เคยถูกทำเฟิร์สคิล อย่าบอกนะว่านี่คือจุดแข็งของหญิงแก่ที่รักษาพรหมจรรย์

เขาเตะศพของหญิงแก่พรหมจรรย์กระเด็นออกไป แล้วถือโอกาสเก็บมีดคุณภาพสีฟ้า

แต่มีดเล่มนี้ก็ถูกเขาโยนไว้บนโต๊ะข้างๆ ทันที

ขยะ!

เยี่ยเว่ยหมิงเรียกกระบี่ชิงชัยออกมา คมกระบี่สะท้อนแสงขณะตัดเชือกที่มัดบนตัวอาจูกับอาปี้ออก เขาบอกว่า “จะว่าไปแล้วก็ต้องขอบคุณที่ก่อนหน้านี้ช่วยข้าไว้ เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าโอกาสตอบแทนบุญคุณจะมาถึงเร็วขนาดนี้ ทำเอาตั้งตัวไม่ทันเลยจริงๆ”

จนกระทั่งตอนนี้ หวังอวี่เยียนถึงได้เดินเข้ามา นางมองศพของเหยียนมาม่าบนพื้นปราดหนึ่ง แอบตกตะลึงกับวิธีการของเยี่ยเว่ยหมิง

ครู่ต่อมา หวังอวี่เยียนก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้กะทันหัน นางรีบโบกมือบอกว่า “คุณชายเยี่ย ท่านสังหารเหยียนมาม่าแล้ว หากท่านแม่ข้ารู้ต้องไม่ปล่อยท่านไปแน่ ตอนนี้นางยังไม่รู้เรื่องนี้ พวกเรารีบหนีกันเถอะ”

“ใจเย็น” เยี่ยเว่ยหมิงโบกมือ บอกใบ้หวังอวี่เยียนไม่ให้ตื่นตระหนก “แม่นางหวังวางใจได้เลย ตามที่ข้าวิเคราะห์ ข้ามั่นใจแปดส่วนว่าแม่ของเจ้าสู้ข้าไม่ได้”

หวังอวี่เยียน “?”

ก็เพราะข้ารู้ว่านางสู้เจ้าไม่ได้ไง ข้าถึงบอกให้เจ้ารีบหนีไป!

แม้อาจูกับอาปี้ล้วนบอกว่าเยี่ยเว่ยหมิงเป็นคนดี แต่หูได้ยินก็ไม่เท่าตาเห็น

ความจริงที่หวังอวี่เยียนเห็นเองกับตาก็คือ ตอนที่เจ้าหมอนี่สู้กับศัตรู เขาเด็ดขาดรวดเร็วที่สุด สังหารคนตายโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง ตาไม่กะพริบด้วยซ้ำ

บุตรสาวย่อมรู้จักมารดาตน หวังอวี่เยียนย่อมรู้ว่านิสัยมารดาของนางร้ายกาจขนาดไหน

หากแม่นางรู้ถึงพฤติกรรมของเยี่ยเว่ยหมิงจะต้องไม่หยุดเล่นงานแน่นอน แต่ก็เห็นได้ชัดว่าคุณชายเยี่ยคนนี้ก็ไม่ใช่คนที่ชอบใช้ความเมตตาตอบแทนความแค้น

หากลงมือกันขึ้นมาจริงๆ หวังอวี่เยียนรู้สึกว่านางอาจจะกลายเป็นลูกกำพร้าได้

แต่ยังดีที่จุดมุ่งหมายของเยี่ยเว่ยหมิงในการมาที่นี่ก็เพื่อช่วยชีวิตคนเท่านั้น ขอเพียงหวังฮูหยินไม่เป็นฝ่ายหาเรื่องเขาก่อน เขาก็ขี้คร้านจะเปลืองแรงสังหาร BOSS ที่เลเวลไม่สูงเช่นกัน

นางเรียกอาจูกับอาปี้แล้วเดินนำออกมาจากห้องเก็บฟืน

หวังอวี่เยียนกับอาปี้รีบตามหลังไป

ส่วนอาจูอยู่ในห้องเก็บฟืนต่ออีกครู่หนึ่ง สุดท้ายถึงได้ออกมาแล้วรีบตามให้ทันอีกสามคน

พวกเขาขึ้นเรือ หวังอวี่เยียนกระวนกระวายกับความปลอดภัยของมู่หรงฟู่ ได้แต่ยืนมองอยู่ตรงหัวเรือ อาปี้รับหน้าที่พายเรือ ส่วนอาจูก็เดินมาข้างกายเยี่ยเว่ยหมิงที่กำลังอ่านหนังสือเงียบๆ แล้วหยิบสมุดบัญชีเล่มหนึ่งออกมา…

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

Status: Ongoing
ไหนๆ ก็โดน NPC หลอกมาเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแล้ว อย่างน้อยก็ขอสกิลดีๆ หน่อยแล้วกัน!นิยายแฟนตาซีแนวเกมออนไลน์ที่จะพาคุณไปท่องยุทธภพและไขคดีสไตล์มือปราบขั้นเทพ!เยี่ยเว่ยหมิง หนึ่งในเด็กหนุ่มที่ลงทะเบียนสมัครใจอพยพไปต่างโลกเพื่อป้องกันสมองตายระหว่างหลับจำศีลตอนเดินทางในอวกาศเขาจึงต้องร่วมเล่นเกมออนไลน์ที่มีฉากหลังเป็นยุทธภพก่อนจะโดน NPC ลึกลับหลอกเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าสำนักมือปราบจะไม่มีอะไรเลยเพราะหลังจากที่เยี่ยเว่ยหมิงทำแบบทดสอบของใต้เท้าซ่งผ่านเขาก็ได้รับสกิลตัดสินคดีที่พ่วงมาด้วยเวทชันสูตรศพและเวทบรรจุศพซึ่งเวทบรรจุศพนี้เองทำให้เขาสามารถรับของที่ซ่อนไว้บนตัวผู้ตายได้รวมถึงดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายได้อีกด้วยเยี่ยมเลย! ตอนนี้เขาพร้อมที่จะออกไปไขคดีทั่วยุทธภพแล้ว!…[ติ๊ง! เปิดใช้พาสซีฟสกิล ‘เวทชันสูตรศพ’ คุณพบ…][ติ๊ง! สกิลพิเศษ ‘เวทบรรจุศพ’ : สามารถดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายโดยการจัดการศพ BOSS][ติ๊ง! จัดการศพผู้อาวุโสสำนักไท่ซาน ได้รับ ‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ เพิ่มค่าประสบการณ์เคล็ดกระบี่ 5000 แต้ม]

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท