ตอนที่ 490 เคล็ดกระบี่วีรสตรีระดับกลาง
เยี่ยเว่ยหมิงปล่อยฝ่ามือนี้ช้ามาก ช้าจนทำให้รู้สึกว่าอดทนรอไม่ไหว
แต่ความช้าแบบนี้เมื่อรวมกับความเร็วตอนเขาตกลงมา มันกลับเปลี่ยนเป็นเร็วสุดขีด เร็วจนวานรแขนยักษ์ที่มีค่าสเตตัสความว่องไวเสริมจาก ‘เงาของเทพกระบี่’ ก็ยังหลบไม่ทัน
ตอนที่มันเห็นเยี่ยเว่ยหมิงปล่อยฝ่ามือนี้ มันก็ถูกขังอยู่ท่ามกลางลมฝ่ามือที่ตกลงมาจากฟ้าแล้ว!
ซึ่งสิ่งที่ทำให้วานรแขนยักษ์กลัวยิ่งกว่าก็คือ ความรู้สึกกดดันที่มาพร้อมฝ่ามือ ถ้าเทียบกับทุกกระบวนท่าที่เยี่ยเว่ยหมิงเคยใช้ก่อนหน้านี้ ฝ่ามือนี้ถือว่าทรงพลัง โหดเหี้ยมและดุเดือดกว่า!
ยิ่งกระโดดสูง ประสิทธิภาพก็ยิ่งเยอะ ตอนที่ตัวตกลงมา ความเร็วของแรงโน้มถ่วงและประสิทธิภาพของเคล็ดฝ่ามือรวมกันอย่างสมบูรณ์แบบ ทำได้ถึงขั้นหนึ่งบวกหนึ่งแล้วเกินสอง
นี่ก็คือมังกรบินอยู่สวรรค์!
กรรร!
ความสูงสามจั้งกว่า ถ้าเปลี่ยนเป็นหน่วยที่ใช้วัดความสูงในชีวิตจริง ก็ประมาณสิบกว่าเมตร
สิบเมตรหมายความว่าอะไร
หมายความว่าสูงเท่าตึกสี่ชั้น!
ถ้าโยนเหรียญในความสูงระดับนี้ ก็ยังทำให้ฝ่ามือคนทะลุได้ (คำเตือน: ถ้ามีคนโยนกุญแจให้คุณจากตึกสูง อย่าใช้มือรับเด็ดขาด)
ประสิทธิภาพของฝ่ามือนี้ของเยี่ยเว่ยหมิง ก็เหมือนกับวัตถุตกลงจากฟ้า ประสิทธิภาพจะเพิ่มขึ้นอีกเพราะความเร็ว
ระยะห่างระหว่างเขากับวานรแขนยักษ์บนดิน จากตอนแรกที่เป็นสามจั้งสามฉื่อ ตอนนี้หดลงเป็นสามจั้ง แล้วก็หดลงอีกเพราะความเร็วที่มากขึ้น
สองจั้ง!
หนึ่งจั้ง!
จนกระทั่งอยู่ห่างกับพื้นเพียงครึ่งจั้ง ร่างกายก็ปะทุพลังอันแข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งออกมา หลังจากกระตุ้น ‘หยกแหลกลาญทะลวงเขาคุนหลุน’ แล้ว ชั่วพริบตาเดียวค่าสเตตัสโดยรวมก็เพิ่มหนึ่งจุดห้าแต้ม!
สองเท่า!
พลังฝ่ามือที่หนักแน่นปะทุออกจากตัวเยี่ยเว่ยหมิง ราวกับมีมังกรทองเก้ากรงเล็บพันรอบตัวเขา เมื่อผลักฝ่ามือออกมาจากที่สูง ก็ทำให้ร่างของวานรแขนยักษ์ถูกครอบอยู่ภายใต้ลมฝ่ามือประมาณหนึ่งจั้ง
พลังฝ่ามือที่หนักแน่นปะทุออกจากตัวเยี่ยเว่ยหมิง ราวกับมีมังกรทองเก้ากรงเล็บพันรอบตัวเขา เมื่อผลักฝ่ามือออกมาจากที่สูง ก็ทำให้ร่างของวานรแขนยักษ์ถูกครอบอยู่ภายใต้ลมฝ่ามือประมาณหนึ่งจั้ง
ฝ่ามือยังไม่ทันมาถึง ลมแรงที่หนาวสะท้านก็พัดจนวานรแขนยักษ์ขนชี้แล้ว ทำให้มันดูผอมลงชั้นหนึ่ง
เมื่อถูกครอบอยู่ภายใต้พลังฝ่ามือที่น่าตื่นตกใจแบบนี้ ต่อให้อาศัยศักยภาพของวานรแขนยักษ์ แต่มันก็ยังรู้สึกหายใจไม่คล่องอยู่ดี แม้แต่การไหลเวียนของเลือดก็ยังช้าลงหลายส่วนเพราะความกดดันนี้
หลบไม่ได้ หนีไม่พ้น!
วานรแขนยักษ์ทำได้เพียงแข็งใจชูกระบี่ไม้ไผ่หักในมือขึ้นมา ใช้กระบวนท่าที่มีเฉพาะใน ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ ระดับกลางแทงสู้กับพลังฝ่ามือรูปมังกรของโผลงมา
บึ้ม!
ดาบและฝ่ามือปะทะกัน ส่งเสียงสะเทือนเลือนลั่นทั่วทุ่ง
-28451
ตัวเลขดาเมจที่เทียบกับก่อนหน้านี้แล้วไม่ถือว่าสูงมากลอยขึ้นเหนือศีรษะวานรแขนยักษ์ แต่ความหมายที่ตัวเลขนี้แสดงออกมา กลับแตกต่างกับก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง
เพราะว่า…
นี่คือดาเมจบดขยี้!
ตั้งแต่เยี่ยเว่ยหมิงเจอ BOSS คนนี้ ตั้งแต่ต้นจนจบ แม้บางครั้งจะได้เปรียบด้านกระบวนท่าอยู่บ้าง แต่ศักยภาพแท้จริงที่มาจากพื้นฐานและค่าสเตตัสกลับถูกเจ้าลิงเหม็นตัวนี้ข่มไว้อย่างไรความปรานี
จนกระทั่งตอนนี้ เมื่ออยู่ในสถานะปะทุพลัง ในที่สุดเขาก็โจมตีกลับเจ้าลิงเหม็นตัวนี้ได้แล้ว โจมตีจนเกิดดาเมจบดขยี้อย่างสะใจไปหนึ่งครั้ง!
ทว่า ฝ่ามือมังกรบินอยู่สวรรค์ที่เยี่ยเว่ยหมิงโจมตีออกมา ประสิทธิภาพไม่ได้มีแค่เท่านี้แน่นอน
ฝ่ามือนี้ของเขาไม่เพียงแค่สร้างดาเมจบดขยี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่สู้กับวานรแขนยักษ์ ภายใต้บทบาทของแรงโน้มถ่วงที่มีต่อความเร็ว ทำให้ลิงร่างกำยำตัวนี้ล้มคว่ำลงพื้น
ส่วนตัวเขาเอง พอโจมตีแล้วร่างก็ถูกแรงสะท้อนผลักกลับขึ้นไปกลางอากาศอีกหนึ่งจั้ง เขาใช้ปลายเท้าซ้ายแตะบนเท้าขวา ทำให้ร่างสูงขึ้นอีกครั้ง แต่กลับเร่งความเร็วตอนตกลงมามากขึ้น ขณะเดียวกันกระบี่แสงทองในมือขวาของเขาก็สาดเงากระบี่สีรุ้งออกมา
เงาทุกสายเล็งไปยังจุดสำคัญบนตัววานรแขนยักษ์!
ท่ากระบี่ร่วง!
-76903!
-75876!
-78134!
……
เลขคริติคอลดาเมจที่จุดสำคัญลอยขึ้นเหนือหัวของวานรแขนยักษ์ต่อเนื่องเจ็ดครั้ง แถบพลังชีวิตที่อยู่เหนือหัวของลิงตัวนี้ลดลงไปเกินครึ่งแล้ว
ค่าพลังชีวิตที่สูงถึงหนึ่งล้าน ตอนนี้หลืออยู่สามแสนต้นๆ เท่านั้น
ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงถึงได้เก็บกระบี่และใช้ฝ่ามืออีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขากลับไม่ตบฝ่ามือไปบนร่างของวานรแขนยักษ์ที่กำลังนอนแผ่หงาย แต่ตบไปบนพื้นที่อยู่ข้างๆ แทน
“อา!”
พลังฝ่ามือของมังกรซ่อนกบดานทำให้ใต้ดินระเบิดออกมา ฝุ่นดินฟุ้งกระจายทันที ส่วนวานรแขนยักษ์ที่นอนอยู่บนพื้นก็ถูกพลังที่ระเบิดจากใต้ดินกระตุ้นให้ลอยขึ้นมาเกือบหนึ่งจั้ง
คลื่นพลังที่เหลือจากฝ่ามือแม้จะไม่ถึงขั้นทำให้วานรแขนยักษ์ได้รับบาดเจ็บ แต่กลับทำให้เขาติดสถานะลอยที่ไร้แรงช่วย
ตอนนี้เอง เยี่ยเว่ยหมิงชูกระบี่ขึ้นมาข้างบนแล้ว ระหว่างที่แสงกระบี่กลืนสลับคาย แต่ละกระบวนท่าก็ไม่ห่างจากจุดสำคัญบนตัววานรแขนยักษ์
เผชิญหน้ากับความผิดคาดไปเลย!
พเนจรสุดขอบฟ้า!
กวาดหิมะต้มชา!
ไซซีกุมดวงใจ!
ท่าปลุกปั่นกระบี่!
……
หลังจากใช้กระบี่โจมตีจุดสำคัญต่อเนื่องหลายครั้ง สุดท้ายวานรแขนยักษ์ที่กวนใจเยี่ยเว่ยหมิงมานานก็ถูกกระบี่โจมตีจนกลายเป็นความว่างเปล่า
ศัตรูทั้งหมดในเขตลับไผ่เขียว ไม่ว่าจะเป็นมอนสเตอร์หรือ BOSS ทั้งหมดเป็นวัตถุมายาที่สร้างขึ้นมาจากจินตนาการเท่านั้น ไม่ใช่ร่างแท้
ดังนั้นหลังจากโจมตีพวกมันตายแล้ว ก็ไม่มีไอเทมดรอปเหมือน BOSS คนอื่นอีก ไม่มีศพให้เก็บด้วย
ถ้าจะมีก็มีเพียงรางวัลพิเศษหลังจากผ่านด่าน
หลังจากวานรแขนยักษ์ถูกฆ่าตายนอย่างราบรื่น ฉากที่อยู่รอบๆ ก็เกิการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
เยี่ยเว่ยหมิงพบว่าตัวเองมาอยู่ในโรงเตี๊ยมของเมืองซูโจวอีกครั้ง เสียงแจ้งเตือนของระบบที่บอกว่าเขาผ่านด่านก็ดังขึ้นข้างหูด้วย
[ติ๊ง! คุณผ่านบททดสอบด่านที่สองของ ‘เขตลับไผ่เขียว’ อย่างราบรื่น
ได้รับรางวัล: ความแข็งแกร่ง +200 ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ เพิ่มคุณภาพขึ้นหนึ่งระดับ]
ความพยายามไม่เคยทรยศใคร หลังจากผ่านความพยายามอย่างต่อเนื่อง ในที่สุด ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ ของเยี่ยเว่ยหมิงก็เพิ่มคุณภาพเป็นระดับกลางแล้ว!
หลังจากข้อมูลกระบวนท่าที่ละเอียดกรอกเข้าสมองเยี่ยเว่ยหมิง กระบวนท่าของ ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ ระดับกลางก็เหมือนกับที่วานรแขนยักษ์ใช้แล้ว
เขารู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาทันใด เมื่อเปิดหน้าระบบเพื่อดูค่าสเตตัสของเคล็ดกระบี่ที่เพิ่มคุณภาพเป็นระดับกลาง เยี่ยเว่ยหมิงก็เผยรอยยิ้มอย่างพึงพอใจ
[เคล็ดกระบี่วีรสตรี (ระดับกลาง)]
เคล็ดกระบี่ที่ตกทอดมาในสมัยชุนชิว
เลเวล: 9 (+1)
ค่าประสบการณ์: 0/1200000
โจมตี +180% (+120%)
แม่นยำ +180% (+120%)
เอฟเฟ็กต์พิเศษ: เงาของเทพกระบี่
เงาของเทพกระบี่: คุณฝึก ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ จนถึงระดับสมบูรณ์แล้ว ในที่สุดก็ได้เข้าใจถึงท่วงท่าอันสง่างามของเทพกระบี่
เอฟเฟกต์พาสซิฟ: ค่าสเตตัส ‘ความว่องไว’ เพิ่มหนึ่งเท่า ความเร็วตอนใช้กระบี่เพิ่ม 10%!
……
อิงจากประสบการณ์ก่อนหน้านี้ น่าจะต้องเพิ่ม ‘เลเวลเคล็ดกระบี่วีรสตรี’ ระดับกลางจากเลเวลเก้าให้ถึงเลเวลสิบที่เป็นระดับสมบูรณ์ก่อน ถึงจะเปิดใช้งานเอฟเฟกต์พาสซิฟแบบใหม่ด้วย
พอยืนขึ้นยืดเส้นยืดสาย เยี่ยเว่ยหมิงก็พบว่าการต่อสู้ในเขตลับไผ่เขียวแม้จะไม่ได้ผลตอบแทนเยอะเหมือนสู้กับ BOSS ข้างนอก แต่ก็ไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงมากเช่นกัน
ขอเพียงเลือกสถานที่ที่ปลอดภัยก่อนเข้าเขตลับ รับประกันได้ว่าร่างกายของตัวเองที่อยู่ข้างนอกจะไม่ถูกคนอื่นโจมตี ไม่ว่าการท้าสู้จะแพ้หรือชนะ ก็ไม่มีความเสียหายใดๆ
นอกจากตายแล้วจะไม่มีบทลงโทษใดๆ ถึงขั้นว่าแม้แต่ผลข้างเคียงหลังจากใช้งาน ‘หยกแหลกลาญทะลวงเขาคุนหลุน’ ก็จะหายไปทันทีที่ออกจากดันเจี้ยนเช่นกัน
ตอนนี้แม้เวลาปะทุพลังสิบวินาทีจะผ่านไปแล้ว แต่เยี่ยเว่ยหมิงก็ยังสดชื่น ไม่ได้รู้สึกอ่อนแรงหลังจากถูกวิชาย้อนทำร้ายเลยสักนิด
เยี่ยเว่ยหมิงเก็บกระบองไผ่เขียว แล้วนำตำราลับตระหนักรู้ที่ดรอปได้ตอนฆ่าเปาปู้ถงออกมา แล้วก็เริ่มนับ…