รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 16 ขโมยจูบ
ยศพัฒน์ได้รับข้อความของเปรมาและเขาก็อ่านด้วย แต่เขาไม่ได้ตอบกลับเปรมา
เขาไม่เคยรักเปรมา แค่เพราะทั้งสองครอบครัวมีการติดต่อไปมาหาสู่กัน พวกเขาจึงรู้จักกันตั้งแต่ยังเป็นเด็ก
บอกว่าโตมาด้วยกันมันก็ใช่ แต่บอกว่าพวกเขาเป็นคู่รักในวัยเด็กยศพัฒน์ไม่เห็นด้วย
ยศพัฒน์ก้มหน้าลงมองคนที่นอนหลับสนิทอยู่บนอกของตัวเองด้วยสายตาอ่อนโยน ใช้มือข้างหนึ่งสัมผัสใบหน้าของเทวิกาแผ่วเบา
เห็นว่าเธอไม่มีปฏิกิริยา เขาจึงเงยหน้าขึ้นมองคนขับและเห็นว่าคนขับกำลังตั้งใจขับรถอยู่ เขาจึงดันเทวิกาออกเล็กน้อย จากนั้นก้มหน้าลงจูบแก้มเธอด้วยความรวดเร็ว
ความรู้สึกของการขโมยจูบนั้นตื่นตระหนก ยุ่งเหยิง และอ่อนหวาน
หลังจากขโมยจูบเทวิกา ยศพัตน์ก็กอดตัวเทวิกาแน่นอีกครั้ง และมองตรงไปข้างหน้าราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“คุณชายใหญ่ ใกล้ถึงแล้วครับ”
“โอเค จำไว้นะครับ คราวหน้าถ้าผมอยู่กับเทวิกา อย่าเรียกผมว่าคุณชายใหญ่อีก”
“เข้าใจแล้วครับ คุณชายใหญ่ เอ้ย คุณพัฒน์”
คนขับรีบเปลี่ยนคำ
“กริ๊งๆๆ…”
โทรศัพท์มือถือของเทวิกาดังขึ้น
ยศพัฒน์อยากรับให้เธอ แต่เธอตื่นเสียก่อน
เมื่อตื่นขึ้นเห็นว่าตัวเองอิงแอบในอ้อมแขนของยศพัฒน์อยู่จึงรีบถอยกลับ
เธอยิ้มให้ยศพัฒน์อย่างเก้อเขิน เดิมทีเธอแค่อยากพักสายตา ใครจะรู้ว่าจะเผลอหลับไป แถมยังนอนในอ้อมแขนยศพัฒน์ด้วย
ต่อให้ทั้งคู่จะจดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย แต่พวกเขาเซ็นสัญญาในข้อตกลงกันว่าเขาถูกเธอเช่าเพื่อเป็นสามี ไม่ใช่สามีที่แท้จริง
ต้องพยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสทางกาย
เทวิกาหยิบโทรศัพท์ออกมาดูหมายเลขผู้โทร และพูดกับยศพัฒน์ว่า “พี่ชายของฉันโทรมา”
คงมาถามว่าเธอจะกลับเมื่อไร
เทวิการับสายของพี่ชาย
“พี่ชาย”
“แม่บอกให้พวกแกกลับมาคืนนี้ กลับมาแล้วหรือยัง”
“กำลังอยู่ระหว่างทาง ฉันดูก่อนว่าถึงไหนแล้ว” เทวิกามองออกไปนอกหน้าต่าง คนขับจึงพูดขึ้น “ห่างจากที่หมายของพวกคุณไปห้านาทีครับ”
ชเนนทร์ได้ยินคำพูดของคนขับทางโทรศัพท์แล้วพูดกับน้องสาว “เราจะรอแกที่บ้าน”
เทวิกาคิดในใจ: ‘ถ้าพวกคุณไม่รอฉันที่บ้านแล้วจะไปรอฉันที่ไหนล่ะ’
กล้าคิดแต่ไม่กล้าพูด เพราะกลัวว่าพูดไปจะโดนพี่ชายด่า
เรื่องของเธอกับยศพัฒน์ทำให้คนในครอบครัวอยู่ไม่เป็นสุข
จดทะเบียนสมรสโดยปราศจากความยินยอมจากผู้ใหญ่
หลังจากวางสาย เทวิกาหาวและพึมพำ “ฉันยังนอนไม่พอก็ถูกสายจากพี่ชายปลุกแล้ว”
ใกล้ถึงบ้านแล้ว คงไม่ดีถ้าเธอจะนอนต่อ
“พี่พัฒน์ มา เรามาเตี๊ยมกันก่อน”
ยศพัฒน์เลิกคิ้ว “เตี๊ยม?”
เตี๊ยมอะไร
“ถ้าครอบครัวฉันถามว่าทำไมเราถึงแต่งงานกัน พี่จะตอบยังไง”
ยศพัฒน์มองเธออย่างลึกซึ้ง เทวิกามักจะรู้สึกว่าดวงตาของเขายากเกินหยั่งรู้ เวลาที่เขาจับจ้องมองเธอ มันง่ายที่จะทำให้เข้าใจผิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่เขารักสุดดวงใจ
อันที่จริงพวกเขาทั้งคู่ดีกว่าเป็นคนแปลกหน้าแค่เล็กน้อยเท่านั้นเอง
“เธออยากให้ฉันตอบยังไง”
เทวิกาครุ่นคิดแล้วพูดว่า “พี่บอกว่าพี่ชอบฉันก่อนหน้านี้นานแล้ว แล้ววันนี้ได้พบฉันโดยบังเอิญ รู้ว่าฉันเกลียดการแต่งงาน ก็เลยขอฉันแต่งงาน”
เธอพูดไม่ได้ว่ายศพัฒน์เป็นคนที่เธอเช่ามา เธอจึงต้องหาเหตุผลมาเกลี้ยกล่อมครอบครัว
สิ่งสำคัญคือการเกลี้ยกล่อมท่านแม่ของเธอ พอท่านแม่เชื่อคำโกหกของเธอ ก็จะไม่เร่งเธอไปนัดบอดอีก หลังจากที่เธอกลับเข้าเมือง เธอก็จะได้ใช้ชีวิตที่สงบสุข
บางทีเธอกับยศพัฒน์อาจไปที่สำนักงานเขตเพื่อเซ็นทะเบียนหย่าภายในเวลาไม่ถึงเดือน
ใช้เงิน 5,000 เพื่ออิสรภาพและความเงียบสงบสักสองสามปี เทวิการู้สึกว่ามันเป็นข้อตกลงที่คุ้มค่า
“ได้”
ยศพัฒน์ตอบด้วยรอยยิ้ม “แค่ตอบคำถามพ่อแม่ของเธอตามที่เธอสอนฉัน”
“แม่ฉันนอกจากจะถามว่าทำไมเราถึงแต่งงาน ก็ต้องตรวจสอบลำดับวงศ์ตระกูลแน่นอน พี่พัฒน์แสดงไปตามใจเลยนะ อยากพูดความจริงก็พูดความจริงได้ ถ้าไม่อยากให้แม่ฉันรู้สภาพที่แท้จริงของครอบครัวพี่จะโกหกก็ได้”
เธอไม่สนใจ
ยศพัฒน์ยื่นมือไปแตะปลายจมูกของเธอเบาๆ แล้วพูดยิ้มๆ “ถ้าคุณป้าได้ยินเธอพูดแบบนี้คงโกรธตาย”
สอนคนอื่นให้โกหกเพื่อหลอกแม่ เทวิกาดันคิดออกมาได้
“ก็ไม่ใช่เพราะฉันไม่มีทางเหลือกเหรอ ใครให้แม่เอาแต่เร่งฉันทุกวันๆ ล่ะ โทรหาฉันวันละสิบกว่ารอบ เหมือนถูกเร่งชีวิตเลย ฉันรำคาญท่านมากจนจะเป็นโรคซึมเศร้าอยู่แล้ว”
เหมือนเธออายุสามสิบสี่สิบอย่างนั้นแหละ
หลังจากบ่นว่าท่านแม่เอาแต่เร่งให้แต่งงาน เทวิกาก็อิจฉายศพัฒน์ “พี่พัฒน์ คุณพ่อคุณแม่ของพี่เป็นคนเปิดกว้างจัง ไม่ยุ่งเรื่องการแต่งงานของพี่เลย”
ยศพัฒน์ยิ้ม “ผู้ใหญ่ในครอบครัวของฉันค่อนข้างเปิดกว้างและไม่ยุ่งเรื่องความรู้สึกของลูกๆ มากเกินไป คุณย่าของฉันมักบอกว่าการแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ชั่วชีวิต มันไม่ใช่เรื่องตลก ต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่ตัวเองชอบและชอบตัวเองด้วย แบบนี้ชีวิตถึงจะได้มีความสงบสุขหวานชื่น”
ผู้ใหญ่ในตระกูลอริยชัยกุลเป็นคนเปิดกว้างอย่างแท้จริง
ครอบครัวของพวกเขาร่ำรวยมีอำนาจและเจริญรุ่งเรือง ญาติพี่น้องของเขาล้วนแต่เป็นคนที่โดดเด่น คุณย่าบอกว่าทายาทของตระกูลอริยชัยกุลไม่จำเป็นต้องแต่งงานเพื่อธุรกิจ พวกเขาชอบใครก็ให้แต่งงานกับคนนั้น ในครอบครัวจะไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวาย
อาจเป็นไปได้ว่าเขาอายุเกือบสามสิบปีและยังไม่เคยมีความรัก จึงทำให้ผู้ใหญ่ในครอบครัวเป็นห่วงว่าตัวเขาจะมีความบกพร่อง
จึงพูดว่า
คุณย่าบอกว่าขอแค่คนที่พวกเขาแต่งเข้าบ้านเป็นผู้หญิงก็พอ
“ดีจัง! ครอบครัวเราคุณแม่ของฉันชอบกังวล ส่วนคุณพ่อและคุณปู่คุณย่าไม่พูดอะไร คุณย่ายังบอกด้วยว่าทนไม่ได้ถ้าฉันแต่งงานเร็ว”
“แต่คนที่เป็นผู้กุมอำนาจครอบครัวดันเป็นท่านแม่นี่สิ สิ่งที่แม่ฉันตัดสินใจ คุณปู่คุณย่าจะไม่ยุ่ง”
ยศพัฒน์จับมือเธอ รู้สึกได้ชัดเจนว่าเธอแข็งทื่อไปครู่หนึ่ง
ผู้หญิงคนนี้ยังไม่ชินกับการที่พวกเขาสัมผัสทางกายกัน
“วางใจเถอะ ฉันสัญญาว่าจะทำงานให้สำเร็จ”
เมื่อมองดูใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา เทวิกาก็ถอนหายใจและพูดว่า “ถ้าพี่พัฒน์เป็นผู้หญิง ต้องมีผู้ชายทุกประเทศมาลุ่มหลงมัวเมาตายเป็นคันรถบรรทุกแน่นอนเลย”
ยศพัฒน์ “………”
ถึงหน้าประตูบ้านตระกูลวาชัยยุง คนขับจอดรถ
เขาไม่อยากขัดจังหวะการสนทนาระหว่างคุณชายใหญ่กับคุณนายน้อยในเวลานี้ แต่เมื่อมาถึงที่หมายเขาจึงต้องหยุด และหันหน้าไปขัดจังหวะการสนทนาของคู่รักหนุ่มสาว
“ถึงแล้วครับคุณพัฒน์”
เทวิกาจับมือยศพัฒน์อย่างประหม่า โน้มตัวเข้าไปใกล้หูของเขาและกระซิบว่า “พี่พัฒน์ ฉันจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับพี่แล้ว”
ยศพัฒน์พยักหน้ารับอย่างจริงจัง
ไม่รอให้ทั้งสองลงจากรถ ชเนนทร์ก็ออกมาทักทายแล้ว
“พี่ชาย”
เทวิกาลงจากรถ
เอ่ยเรียกพี่ชาย
ชเนนทร์ขี้เกียจจะสนใจเธอ หลังจากยศพัฒน์ลงจากรถ เขาก็ก้าวเข้าไปต่อยไหล่ยศพัฒน์
เทวิกาสะดุ้งตกใจ
“พี่ชาย!”
ชเนนทร์คว้าคอเสื้อของยศพัฒน์พร้อมกับด่า “ยศพัฒน์ ไอ้เด็กเวร อยู่ดีๆ ก็มาแต่งงานกับน้องสาวฉัน นายบอกมาซิว่านายชอบน้องสาวของฉันตั้งแต่เมื่อไร ในฐานะเพื่อนและเพื่อนร่วมชั้นเก่า นี่คือสิ่งที่นายทำกับฉันเหรอ นายเอาตัวน้องสาวคนเดียวของฉันไปโดยไม่บอกไม่กล่าว!”