รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 028 โยนเธอเข้าไปในหลุมของเขา
เทวิกายิ้ม “เมื่อเป็นของฉันเริ่มต้นจนจบก็เป็นของฉัน ไม่ใช่ของฉันจะดูแลดียังไงก็ไม่ใช่”
เหมือนกับตาณพวกเขารักกันมาตั้งหลายปี แต่ท้ายที่สุดก็ยังต้องเลิกกัน เห็นได้ชัดเธอกับตาณไม่มีวาสนาต่อกัน
“ก็ใช่ ไม่ใช่ของเธอรักษายังไงก็รักษาไม่อยู่ ถ้าเป็นของเธอคนอื่นอยากแย่งไปแค่ไหนก็แย่งไปไม่ได้”
ภรรยาเจ้าของร้านยิ้มและไปเตรียมกับข้าวให้เทวิกา
เทวิกาพาพัฒน์ไปนั่งที่โต๊ะริมหน้าต่างตัวหนึ่ง พูดกับพัฒน์ว่า “ฉันมากินข้าวที่นี่บ่อย ชอบนั่งโต๊ะตรงนี้ที่สุด”
พัฒน์ยิ้มและพูด “เธอชอบมากินข้าวที่นี่ เห็นได้ชัดว่าอาหารร้านนี้ต้องน่ากินมาก อีกสักพักฉันต้องลองซะแล้ว”
“แค่พี่พัฒน์ไม่รังเกียจก็พอ พี่พัฒน์เป็นถึงพนักงานของบริษัทยักษ์ใหญ่ ปกติต้องไปกินอาหารที่โรงแรมหรูแน่”
“ไม่มีนะ ฉันเป็นคนง่ายๆ ไม่เลือกกิน ไม่เลือกที่”
เทวิกานึกถึงวันนั้นที่เขาพาลูกค้ามากินที่ร้านกาแฟของเธอ ถึงแม้ว่าร้านของเธอจะค่อนข้างใหญ่ การตกแต่งก็ไม่เลว แต่ก็ไม่ใช่สถานที่ดูหรูขนาดนั้น
เขายังพาลูกค้ามากิน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เลือกสถานที่
แน่นอน ก็อาจจะเป็นไปได้ที่ลูกค้าของเขาฐานะไม่ได้สูงนัก
“พี่พัฒน์ พี่ยังไม่บอกฉันเลย พี่ทำงานในบี.เอ.เอ็ม. กรุ๊ปด้วยตำแหน่งอะไร”
เทวิกาเอนตัวไปข้างยศพัฒน์พูดเสียงเบา “พูดออกมา ฉันจะได้เอาไปโม้สักหน่อย”
เธออยากรู้ผู้ชายดูดีคนนี้ที่เธอเช่ามาสองหมื่นห้ามันดีซะแค่ไหนกัน
ยศพัฒน์ยิ้มและพูด “แค่พนักงานทำงานคนหนึ่งมีอะไรให้หน้าโม้ ในที่ทำงานฉันคนเดียวอยู่เหนือคนเป็นหมื่น ก็คือเป็นผู้ช่วยพิเศษของประธาน”
อินทัช : เจ้านาย คุณแย่งตำแหน่งงานของผม
สีหน้านิ่งเรียบของยศพัฒน์ : ขอยืมมาใช้หน่อย
อินทัช : ………
เทวิกายกนิ้วโป้งให้เขาทันทีและพูดชมเขา “พี่พัฒน์ พี่ช่างเก่งเหลือเกิน บี.เอ.เอ็ม. กรุ๊ปเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเมืองแอคเซสซ์เป็นกิจการของตระกูลอริยชัยกุล”
เธอจำได้ยศพัฒน์เคยพูดว่าตระกูลอริยชัยกุลเป็นตระกูลรวยอันดับหนึ่งในเมืองแอคเซสซ์
ตระกูลแบบนั้นสำหรับเทวิกาที่เป็นแค่คนธรรมดาช่างเป็นสิ่งที่เอื้อมไม่ถึง
“พี่ได้ทำงานที่บี.เอ.เอ็ม. กรุ๊ปก็สุดยอดแล้ว คิดไม่ถึงคนเดียวยังดูคนเป็นหมื่น ผู้ช่วยพิเศษของประธานเก่งเหลือเกิน ฉันได้สมบัติที่ล้ำค่า นึกถึงตอนที่ฉันเช่าพี่ฉันยิ่งรู้สึกอายจนไม่รู้จะไปหลบที่ไหน”
จ่ายไปสองหมื่นก็เช่าผู้ช่วยพิเศษของบี.เอ.เอ็ม. กรุ๊ป
“ฉันเห็นแก่ชเนนทร์ถึงได้ช่วยเธอในครั้งนี้ ไม่ได้สนใจเงินของเธอ”
ทั้งสองคนพูดคุยกันอยู่สักพัก อาหารก็มาเสิร์ฟ สองสามีภรรยากินไปและคุยเล่นกันอีกครั้ง
“เทวิกา”
พัฒน์ตักอาหารให้เทวิกาและถามลองเชิง “ฉันช่วยเธอแก้ปัญหาใหญ่แล้วเธอถึงได้อยู่อย่างมีความสุขและอิสระ หากฉันมีเรื่องให้เธอช่วย เธอจะ………”
“พี่พัฒน์ พี่อย่าทำตัวเหมือนเป็นคนอื่นไปได้ พี่มีเรื่องอะไรที่ต้องการให้ฉันช่วย รีบพูดมาเลย ขอเพียงแค่ฉันช่วยพี่ได้ฉันจะต้องช่วยพี่แน่นอน”
เทวิกาตัดบทของเขาและแสดงออกว่าขอเพียงไม่ใช่เรื่องที่ต้องบุกน้ำลุยไฟ เธอสามารถช่วยได้ทั้งหมด
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะตำแหน่งของฉันช่วงเย็นมีงานเลี้ยงจึงไม่สามารถเลี่ยงได้ เลขาของฉันเธอมีแฟนแล้ว ฉันพาเธอไปงานเลี้ยงกลัวจะทำให้แฟนของเธอคิดมากเกินไป ดังนั้น ฉันคิดว่า เย็นวันนี้เธอจะไปงานเลี้ยงเป็นเพื่อนฉันได้ไหม?”
“วางใจ ฉันจะไม่ให้พี่ดื่มกับแขกแน่นอน ถึงแม้ต้องดื่มฉันก็จะช่วยครึ่งหนึ่ง”
เทวิกาเต็มใจอย่างมากที่จะไปงานเลี้ยงเพื่อนพี่พัฒน์ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังค่อยๆกระโดดเข้าไปในหลุมลึกของยศพัฒน์ หลังจากนี้ถึงแม้ว่าเธอจะเริ่มรู้สึกตัวคิดอยากที่จะปีนขึ้นมาก็ไม่ทันเสียแล้ว
หากฉันต้องไปงานเลี้ยงของเพื่อน เธอจะไปเป็นเพื่อนฉันได้ไหม?”
เทวิกายิ้ม “พี่พัฒน์พี่ถามดูระวังจัง เหมือนกับเป็นเรื่องใหญ่ฟ้าถล่มทลายแบบนั้นแหละ ไม่มีปัญหาฉันจะไปเป็นเพื่อนพี่หมด เพื่อนของพี่ก็คงจะพอรู้เรื่องของพวกเราอยู่บ้าง แม้แต่พี่ชายฉันคุณเดชวิทย์ยังบอก คนอื่นก็คงบอกไปแล้ว?”
ยศพัฒน์ : “……เดชวิทย์ไอ้พวกปากสว่าง!”
“ถ้าอย่างนั้น เย็นนี้เธอก็ไปงานเลี้ยงของบริษัทที่โรงแรมกับฉันได้ไหม?”
เทวิกาเกือบสำลักอาหารที่อยู่ในปากแล้ว
เธอรีบยัดอาหารเข้าปากและดื่มน้ำไปสองอึก ถึงค่อยพูด “พี่พัฒน์ พี่กำลังพลักฉันลงหลุมหรือไงห้ะ เย็นนี้ฉันไปงานเลี้ยงเป็นเพื่อนพี่ ฉันยังไม่เตรียมชุดตอนเย็นเลย หากไม่รังเกียจการแต่งตัวแบบนี้ ฉันก็ไม่มีปัญหา”
หน้าร้อน เธอสวมเพียงเสื้อเชิ้ตสั้นและกระโปรงสั้น ใส่สบายและเย็น
พัฒน์ตักอาหารให้เธออีกครั้ง หัวเราะและพูด “เธออย่าพูดเหมือนพี่พัฒน์ของเธอดูหลอกลวงขนาดนั้น เสื้อผ้าตอนเย็นไม่ต้องกังวล ฉันยืมมาให้เธอได้”
“ได้ ฉันแค่ให้ยืมตัวเอง เรื่องอื่นพี่ก็จัดการเอง”
ยศพัฒน์พยักหน้ายิ้ม “วางใจ ของที่จำเป็นต้องใช้ ฉันจะจัดการให้ทั้งหมด ขอเพียงเธอไปงานเลี้ยงเป็นเพื่อนฉันก็พอ ในงานเลี้ยงหากมีใครถามถึงความสัมพันธ์ของพวกเราทั้งสองคน เธอไม่ต้องสนใจ ปล่อยพวกเขาเดากันไป”
“ถ้าหากว่าเจอคู่กิ่งทองใบหยกของพี่ล่ะจะทำยังไง? เธอจะเข้าใจผิดเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเรานะ”
พูดถึงเปรมารอยยิ้มของยศพัฒน์ถูกเก็บเข้าไป เขาพูดเสียงเรียบนิ่ง “ไม่ต้องสนใจเธอ อีกอย่างเธอกับเขาเป็นเพียงเพื่อนเล่นที่โตมาด้วยกันเท่านั้นไม่ใช่คู่ของฉัน คู่กิ่งทองใบหยกของฉันไม่ใช่เธอ”
เทวิกาต่างหากที่เป็นคู่กิ่งทองใบหยกของเขา
เขาใช้เวลาถึงสิบเอ็ดปี มองดูเธอเติบโต
เป็นเพราะ “โชคชะตาชักนำ” ทำให้เขากลายเป็นสามีถูกต้องตามกฎหมายของเธอ
เมื่อเทวิกาฟังสายตาเป็นประกาย พูดอย่างอยากรู้ : “พี่พัฒน์ คู่กิ่งทองใบหยกของพี่คือคนไหน? เธอดีกว่าคุณเปรมามากไหม? ทุกคนต่างบอกว่าพี่กับคุณเปรมาเป็นคู่กิ่งทองใบหยกกัน พี่กลับพูดถึงคู่อีกคน หรือว่ากลัวว่าคนอื่นจะมาทำร้ายคู่ของพี่ ถึงได้ใช้เปรมามากดึงดูดความสนใจจากทุกคน เพื่อปกป้องคู่ของพี่?”
เมื่อได้ฟัง ยศพัฒน์อดไม่ได้ที่จะดีดหน้าผากของเธอไปทีหนึ่ง
เทวิกาลูบไปที่เขาดีดเธอ ริมฝีปากแดงมุ่ยเข้าดูเย้ายวนใจ “พี่พัฒน์ พี่ดีดฉันเจ็บมากเลยนะ”
“ฉันช่วยเธอเป่า”
“ไม่ต้องหรอก แกล้งพี่เล่น พี่ใช้แรงไม่มาก ไม่เจ็บ ไม่เจ็บ”
“จินตนาการของเธอช่างล้ำเลิศสมกับที่เป็นนักเขียน ฉันยศพัฒน์ดูเป็นผู้ชายที่ไม่สามารถปกป้องผู้หญิงของตัวเองได้หรือไง?”
เทวิกาส่ายหน้าด้วยสัญชาตญาณ
นิสัยของพี่พัฒน์ค่อนข้างอบอุ่น ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นองค์ชายที่นุ่มนวลและอ่อนโยน
เธอรู้ว่านี้ไม่ใช่เรื่องจริง
สามารถขึ้นมาถึงตำแหน่งผู้ช่วยพิเศษของประธานบี.เอ.เอ็ม. กรุ๊ปได้ในอายุยี่สิบเก้า ยศพัฒน์จะเป็นคนอบอุ่นได้ยังไง?
“ดังนั้น อย่าได้คิดเพ้อเจ้อ รอเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ฉันจะบอกเธอเอง คู่กิ่งทองใบหยกที่แท้จริงของฉันเป็นใคร”
เทวิกาหัวเราะ
ยิ่งได้รู้จักเธอยิ่งรู้สึกว่าพี่พัฒน์เหมือนหนังสือเล่มหนา เมื่อพลิกหน้ากระดาษก็พบกับเรื่องเซอร์ไพรส์