“พี่คะ พี่พัฒน์ไม่ได้พูดอะไรผิด พี่อย่างตั้งแง่คอยหาเรื่องจับผิดเขาแบบนี้สิคะ”
เทวิกาช่วยพูดแทนสามีของตัวเอง
ชเนนทร์จิ้มหน้าผากของเธออีกครั้ง แล้วพูดว่า “พอแต่งงานแล้วก็เข้าข้างแต่สามี”
เทวิกาคว้าแขนของพี่ชายมากอดไว้ แล้วพูดอย่างเอาใจ “พี่คะ คราวนี้ฉันประมาทไปจริงๆ ครั้งหน้าฉันจะระวังให้มากกว่านี้ อย่าโทษพี่พัฒน์เลยนะคะ”
“ยังจะมีครั้งหน้าอีก แค่ครั้งนี้ก็ทำพี่ชายของน้องแทบเสียสติแล้ว ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับน้อง น้องจะให้พ่อแม่ทำยังไง”
ที่ชเนนทร์โกรธมากขนาดนี้ เพราะเขาตกใจกลัวมาก
พอนึกถึงเรื่องนี้เขาก็กลัวมาก
“จะไม่มีครั้งหน้าอีกแล้ว ไม่มีแล้ว ตอนนี้ฉันไม่เป็นไรแล้ว พี่อย่าโกรธเลยนะ อย่าโกรธเลย ถ้าโกรธง่ายจะแก่เร็วนะ พี่ชายสุดหล่อ พี่ยังไม่ทันได้หาพี่สะใภ้ให้ฉันเลย จะโกรธจนแก่ไม่ได้”
ชเนนทร์ทั้งโมโหทั้งอยากหัวเราะ
“พี่คะ เรื่องนี้ อย่าเอาไปบอกพ่อกับแม่ และปู่ย่านะคะ”
เทวิกาเน้นย้ำกับพี่ชาย
“น้องคิดว่าพี่โง่หรือไง ถ้าบอกพ่อแม่เรื่องนี้ พวกท่านคงจะตกใจตายพอดี”
ชเนนทร์พูดก่อนจะถลึงตาใส่ยศพัฒน์ในขณะที่พูด เขาไม่รู้ว่าแม่ของเขาได้บอกความจริงเรื่องชาติกำเนิดที่แท้จริงกับน้องสาวไปแล้ว และไม่รู้ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะชาติกำเนิดของน้องสาว เขานึกว่าเป็นเพราะฐานะของยศพัฒน์ ถึงทำให้น้องสาวของเขาต้องมาเจอเรื่องแบบนี้
ตอนที่เขาได้ยินน้องสาวบอกว่าเธอจดทะเบียนสมรสกับยศพัฒน์แล้ว เขาก็ร้อนใจมาก รีบทิ้งงานในมือ แล้วรีบบินกลับมาเพื่อขัดขวาง แต่ก็ไม่สำเร็จ
เขาบอกไปแล้วว่ายศพัฒน์ไม่ได้อ่อนโยนเหมือนที่เห็น น้องสาวของเขาไม่สามารถมัดใจยศพัฒน์ได้
หลังจากที่ได้รู้ถึงฐานะที่แท้จริงของยศพัฒน์ น้องสาวของเขาก็มีความคิดที่จะหย่า เขายกมือและเท้าสนับสนุน แต่ยศพัฒน์เจ้าเล่ห์มากเกินไป ถึงได้เกลี้ยกล่อมน้องสาวของเขาจนอยู่หมัด
ตอนนี้ทั้งสองได้รับการยอมรับจากคนในครอบครัวแล้ว พี่ชายอย่างเขาก็ไม่มีอะไรจะพูด
“พี่คะ เรื่องนี้จะโทษพี่พัฒน์ไม่ได้”
เป็นพี่น้องกันมากว่ายี่สิบกว่าปี เทวิการู้จักพี่ชายของเธอเป็นอย่างดี ที่พี่ชายถลึงตาใส่ยศพัฒน์ เธอรู้ว่าพี่ชายของเธอกำลังโทษยศพัฒน์อยู่
“ถ้าไม่โทษเขา จะโทษน้องหรือไง ถึงทำให้น้องต้องมาเจอเรื่องแบบนี้”
ชเนนทร์พูดอย่างโมโห
“พี่คะ เรื่องนี้เป็นความผิดของฉันจริงๆ ฉันคิดว่าคงเป็นเพราะชาติกำเนิดที่แท้จริงของฉัน”
ชเนนทร์ตกตะลึงไปเล็กน้อย ก่อนจะพูดตำหนิ “น้องกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร ชาติกำเนิดที่แท้จริงอะไร น้องเป็นน้องสาวของพี่ น้องสาวแท้ๆ น้องสาวที่เกิดจากแม่คนเดียวกัน!”
“พี่คะ”
เทวิกาวางศีรษะลงบนแขนพี่ชายด้วย ในใจรู้สึกอบอุ่นมาก “ฉันเป็นน้องสาวของพี่ และจะเป็นน้องสาวของพี่ไปตลอดชีวิต ถึงจะเสียดายที่เราไม่ได้เกิดมาจากแม่คนเดียวกัน แม่บอกความจริงกับฉันหมดแล้ว และเอาจี้ล็อคอายุยืนสำหรับเด็กทารกที่ติดตัวฉันมาตอนที่เก็บฉันมาเลี้ยง กับเสื้อผ้าที่ฉันใส่ให้กับฉันแล้ว”
ชเนนทร์ “…”
เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนไหน?
ในช่วงไม่กี่วันที่น้องสาวกลับบ้าน แม่ก็บอกความจริงไปแล้วอย่างนั้นเหรอ?
แม้แต่จี้ล็อคอายุยืนสำหรับเด็กทารกก็คืนให้น้องสาวแล้ว
ชเนนทร์พูดอะไรไม่ออก
ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกกลัว กลัวว่าจะเสียน้องสาวคนนี้ไป
น้องสาวที่เขาคอยดูแลอย่างระมัดระวัง และเอาอกเอาใจเธอมานานยี่สิบกว่าปี แต่กลับถูกยศพัฒน์แย่งไป ถึงเขาจะไม่เต็มใจจะปล่อยเธอไป และไม่แน่ว่าน้องสาวของเขาอาจจะจากเขาไป กลับไปอยู่กับครอบครัวที่แท้จริงของเธอ
ถ้าทางฝั่งพ่อแม่ที่แท้จริงของเธอมีพี่ชายสายเลือดเดียวกันด้วย พวกเขาก็จะเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกัน แล้วเขาที่เป็นเพียงพี่ชายต่างสายเลือดจะทำอะไรได้?
ในใจชเนนทร์กลัวว่าจะสูญเสียน้องสาวของเขาไป แต่เขาไม่ได้แสดงออกบนใบหน้าของเขา
ความตื่นตระหนก ก็เกิดขึ้นเพียงครู่เดียวเท่านั้น
ยังไงก็เป็นพี่น้องกันมานานยี่สิบกว่าปี เขาเชื่อว่าเทวิกาไม่ใช่คนเนรคุณ ถ้าเธอพบกับบกพ่อแม่แท้ๆ ของเธอ ก็จะยังไปมาหาสู่กับพวกเขาแน่นอน
“รู้ว่าพ่อแม่แท้ๆ ของน้องเป็นใครแล้วเหรอ”
ชเนนทร์ถามด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
เทวิกาส่ายหน้า “ยังไม่รู้ คนของพี่พัฒน์ยังตรวจสอบอยู่ แค่เดาว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้คงพุ่งเป้าหมายมาที่ฉัน”
เทวิกาทำการเล่าเรื่องที่เคยเจอพวกอันธพาล รวมถึงความฝันของเธอ ที่ฝันถึงผู้หญิงที่เสียสติ รวมถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ล้วนบ่งชี้ไปที่ชาติกำเนิดที่แท้จริงของเธอ
“แล้วเราจะทำยังไงดี พวกเราอยู่ในที่แจ้ง พวกเขาอยู่ในที่มืด ตอนนี้พวกเรายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นพ่อแม่แท้ๆ ของน้อง อยู่ที่ไหนยังไม่รู้เลย แต่แต่คนฝั่งนั้นกลับเริ่มส่งคนมาฆ่าน้อง… วิกา ถ้าน้องวิเคราะห์มาเป็นเรื่องจริง หลังจากตามหาพวกเขาเจอ น้องยังอยากจะบอกพวกเขาไหม?”
ชเนนทร์ตระหนักได้ว่าชาติกำเนิดที่แท้จริงของน้องสาวเขาจะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
ไม่รู้ว่าจะมีเรื่องราวที่น่าตกใจซ่อนอยู่ในนั้นมากน้อยแค่ไหน
ยศพัฒน์พูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม “ฉันไม่สนว่าพวกเขาจะเป็นใคร แต่ฉันจะไม่ยอมให้พวกเขาแตะต้องวิกาแม้แต่ผมเส้นเดียว”
พอคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ เป็นครั้งแรกที่ชเนนทร์รู้สึกว่าโชคดีมากที่น้องสาวของเขาแต่งงานกับยศพัฒน์ เพราะยศพัฒน์สามารถใช้เวลาอันสั้น ทุ่มกำลังคน และกำลังทรัพย์จำนวนมาก เพื่อทำการกระจายกำลังค้นหาและช่วยเหลือเทวิกาจนพวกคนร้ายหนีไม่พ้น จนต้องปล่อยตัวเทวิกาเพื่อที่จะหนีเอาชีวิตรอด
ถ้าเทวิกาไม่ได้แต่งงานกับยศพัฒน์ แล้วเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ถึงแม้พี่ชายอย่างเขาจะโทรแจ้งตำรวจเป็นอันดับแรก สำหรับเทวิกาแล้ว คงไม่ทันการ
“พี่พัฒน์ หลังจากตรวจสอบแล้วบอกฉันด้วย”
“ได้”
ยศพัฒน์เห็นความโล่งใจในสายตาของเพื่อนเก่า และรู้ว่าพี่ชายภรรยาของเขาพอใจกับความแข็งแกร่งที่เขาแสดงให้เห็นในวันนี้มาก และรู้ว่าเขาสามารถปกป้องเทวิกาได้
……
นฤเบศวร์สั่งบอดี้การ์ดไม่ให้เดินตาม และเดินตรงเข้าไปในร้านOne Day In Coffeeเองคนเดียว
วันนี้เดิมทีร้านกำลังอยู่ในช่วงตกแต่งใหม่ เพราะวิกาเกิดเรื่อง และกนกอรเองก็ไม่มีกะจิตกะใจที่จะจัดการ ดังนั้นเธอจึงบอกช่างก่อสร้างให้เริ่มทำงานอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ ยังไงก็ยังมีเครื่องมือที่ยังเตรียมไม่ครบ
ในเวลานี้ ภายในร้านจึงมีเธอคนเดียว
หลังจากที่เทวิการอดพ้นจากอันตราย ยศพัฒน์ก็พาเธอกลับไปที่คฤหาสน์ในคอนโดกรีนทาวน์ หลังจากนั้นคงถูกลงโทษด้วยความรักอีก ทำให้เทวิกายังไม่มีเวลาติดต่อเพื่อนเพื่อบอกว่าตนเองปลอดภัยแล้ว
แม้แต่ชเนนทร์ก็ลืมไปว่ายังมีกนกอรอีกคนที่กำลังรอฟังข่าวอย่างใจจดใจจ่อ
พอเห็นนฤเบศวร์เดินเข้ามา กนกอรก็รีบเดินมาหาเขาทันที แล้วถามอย่างกังวลใจ “คุณนฤเบศวร์ วิกาเป็นยังไงบ้าง หาเจอหรือยัง วิกาได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า ก่อนหน้านี้เธอเคยโทรมาหาฉัน แต่ก่อนที่ฉันจะรับสายก็ตัดไปแล้ว พอโทรไปอีกครั้งโทรศัพท์เธอก็ปิดเครื่อง”
นฤเบศวร์เห็นท่าทางกังวลใจของเธอ จึงจงใจกระตุ้นความอยากรู้ของเธอ โดยพูดว่า “ผมอุตส่าห์ไปช่วยตามหาด้วยตัวเอง ตอนนี้ทั้งหิวข้าวทั้งคอแห้ง และก็เหนื่อยมากด้วย”
กนกอรรีบพาเขาไปนั่งลงที่โต๊ะ และพูดเอาใจ “คุณนฤเบศวร์ เชิญนั่งค่ะ เดี๋ยวฉันไปรินน้ำอุ่นมาให้ คุณอยากกินอะไรคะ วันนี้ร้านปิด ไม่มีอะไรกิน แต่รอบข้างมีร้านอาหารมากมาย คุณอยากกินอะไรบอกฉันมาได้เลย เดี๋ยวฉันไปซื้อให้เลย”
“เพื่อช่วยคุณ ผมไม่ได้พักกลางวันเลย ตอนบ่ายต้องไปทำงานตามปกติอีก คุณชงกาแฟให้ผมดื่มสักแก้ว ผมจะได้ไม่ง่วง”
“ไม่มีปัญหาค่ะ คุณนฤเบศวร์ รีบบอกฉันเร็ว ๆ สิ วิกาเป็นยังไงบ้าง ปลอดภัยกลับมาแล้วหรือยัง?”
“อืม ช่วยกลับมาแล้ว”
พอนฤเบศวร์พาคนของเขาไปที่เกิดเหตุ ก็เห็นยศพัฒน์กำลังจะพาเทวิกากลับไป
ตอนที่คู่แข่งทั้งสองเผชิญหน้ากัน ยศพัฒน์เหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง เขาจึงกดกระจกรถลง และพยักหน้าให้เขา ริมฝีปากของเขาขยับเล็กน้อย แต่เขาไม่ได้ยินสิ่งที่ยศพัฒน์พูด แต่เขาน่าจะพูดว่า “ขอบคุณ” ล่ะมั้ง