คุณสามีพันล้าน – บทที่ 139 ติดหนี้บุญคุณคู่แข่งหนึ่งเรื่อง

คุณสามีพันล้าน - บทที่ 139 ติดหนี้บุญคุณคู่แข่งหนึ่งเรื่อง

เขาก็ออกแรงไปไม่น้อย ถึงแม้คนที่ตามหาเทวิกาเจอจะไม่ใช่คนของเขา แต่อย่างน้อยเขาก็ได้ช่วยแล้ว ยศพัฒน์เป็นคนที่แยกแยะออก และรู้จักตอบแทน

พอนึกได้ว่าคู่แข่งที่ต่อกรกันมาหลายปีต้องมาติดหนี้บุญคุณตนเอง นฤเบศวร์ก็รู้สึกได้ใจ และพึงพอใจมาก

รอถึงตอนที่ยศพัฒน์มาขอบคุณเขาถึงหน้าประตู เขาจะต้องวางมาดให้หนักเลยคอยดู

“วิกาได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า? คนร้ายพวกนั้นถูกจับได้หรือยัง?”

“เทวิกาไม่ได้รับบาดเจ็บ ผมถามคนอื่นแล้ว พวกคนร้ายคงตกใจกลัว จึงไม่กล้าทำร้ายเทวิกา พวกเขาจึงหาที่ห่างไกลและทิ้งเทวิกาลงจากรถ ก่อนจะรีบหนีไป แต่ผมเชื่อว่าคงจะหนีไปได้ไม่ไกล กล้าคิดทำร้ายคนของยศพัฒน์แล้วยังคิดจะหนี ไม่มีทางหนีไปได้หรอก”

“ถ้ายศพัฒน์ไม่มีความสามารถในการช่วยให้ตำรวจจับคนร้ายกลุ่มนั้นได้ ผมจะดูหมิ่นเขา”

แม้แต่ผู้หญิงของตัวเองยังปกป้องไม่ได้

ก็ไม่สมควรที่จะเป็นคู่แข่งของเขานฤเบศวร์ผู้นี้

“วิกาไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ไม่เป็นไรก็ดี”

กนกอรรู้สึกโล่งอก

“แต่ทำไมวิกาถึงไม่โทรมาบอกฉันเลย”

เดิมทีนฤเบศวร์ไม่อยากแก้ตัวแทนเทวิกา แต่พอเห็นกนกอรดูท่าทางซึมเศร้า เขาก็พูดอธิบายโดยไม่รู้ตัว “โทรศัพท์ของเทวิกา แบตเตอรี่หมดปิดเครื่องไป”

พอได้ยินอย่างนี้ กนกอรก็ไม่ซึมเศร้าอีก ไม่ใช่ว่าเพื่อนของเธอไม่คิดจะโทรมาบอกเธอว่าปลอดภัยแล้ว แต่โทรศัพท์ของเธอแบตเตอรี่หมดนี่เอง

“เกิดเหตุการณ์ใหญ่เช่นนี้ ยศพัฒน์ก็ตกใจกลัวมากเช่นกัน พอพาเธอกลับบ้าน ก็คง… คุณไม่ใช่เด็กสามขวบแล้ว น่าจะเข้าใจ ด้วยมิตรภาพระหว่างคุณสองคน รอได้เลย เธอจะต้องโทรโทรมหาาคุณอย่างแน่นอน”

ทันทีที่นฤเบศวร์พูดจบ โทรศัพท์มือถือของกนกอรก็ดังขึ้นมา

เป็นชเนนทร์ที่โทรมา

กนกอรรีบกดรับสายอย่างรวดเร็ว

กนกอร วิกาได้รับการช่วยกลับมาแล้ว เธอปลอดภัยดี ขอโทษที พี่ลืมโทรมาบอกเรา”

ชเนนทร์พูดอย่างรู้สึกผิด

กนกอรยกยิ้มแล้วพูดว่า “วิกา ไม่เป็นไรก็ดีแล้วค่ะ ฉันเข้าใจ”

ชเนนทร์เป็นพี่ชายที่ติดน้องสาว และทั้งหวงและห่วงน้องสาวมาก

หลังจากที่วิกาได้รับการช่วยเหลือกลับมา ชเนนทร์ก็พุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่วิกา จะลืมโทรมาบอกเธอ ก็เป็นเรื่องปกติ

“วิกาอยากจะคุยกับเรา”

ชเนนทร์ยื่นโทรศัพท์ให้น้องสาวของเขา

เพื่อนสนิททั้งสองคนคุยโทรศัพท์กันเป็นเวลานาน โทรศัพท์ของชเนนทร์เริ่มร้อนและแบตเตอรี่ใกล้จะหมดแล้วด้วย เทวิกาจึงยอมกดวางสาย

“คุณนฤเบศวร์ คุณยังไม่ได้กินข้าว กินข้าวก่อน แล้วค่อยดื่มกาแฟค่ะ ฉันจะออกไปซื้ออาหารให้ คุณอยากกินอะไรคะ ฉันเลี้ยงเอง”

ตกลงกันไว้แล้ว ถ้านฤเบศวร์ช่วยเธอเรื่องนี้ ขอแค่นฤเบศวร์ยินยอม เธอจะเลี้ยงอาหารเขาทุกวัน

โชคดีที่ครั้งที่แล้วแกล้งเป็นแฟนของนฤเบศวร์ ได้รับเงินมาหนึ่งล้าน มีพอจะเลี้ยงข้าวนฤเบศวร์ได้ระยะหนึ่ง

ถ้าระยะยาวยาวล่ะก็-

กนกอรไม่อยากคิดถึงเรื่องในอนาคต

ลองคิดดูแล้ว นฤเบศวร์คงไม่มาให้เธอเลี้ยงข้าวเขาทุกวันหรอก

ทันทีที่เปรมาออกจากคุก เขาก็จะคอยยุ่งอยู่กับการตามเอาใจเปรมา เพราะเปรมาไม่ชอบเธอ เขาไม่น่าจะมาหาเธออีก

“แล้วอาหารของร้านอาหารรอบๆ รสชาติเป็นยังไงบ้าง คุณช่วยผมเลือกร้านที่อร่อยที่สุด แล้วช่วยผมสั่งอาหารมาสิบชุด ซึ่งแปดชุดนั้น เป็นของพวกบอดี้การ์ดผม ที่กำลังรอผมอยู่ข้างนอก พวกเขาก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย”

เขาคงไม่จำเป็นต้องอธิบายว่าอีกสองชุดที่เหลือคือของใครกนกอรก็รู้ว่าเป็นของเธอและของเขา

“ตกลง ฉันจะไปซื้ออาหารเดี๋ยวนี้ คุณนฤเบศวร์ วันนี้คงเลี้ยงคุณด้วยอาหารจานด่วนเท่านั้น รอวันหลังคุณมีเวลา ฉันจะเลี้ยงอาหารดีๆ คุณสักมื้อ”

นฤเบศวร์ตอบกลับเพียงอืม แล้วพูดเร่งเร้า “รีบไปเถอะ ผมหิวจะตายอยู่แล้ว”

ช่วยเธอทำเรื่องใหญ่ แต่กลับให้เขากินแค่อาหารจานด่วน

นฤเบศวร์ไม่รู้ว่าทำไมตอนนั้นเขาถึงถลำตัว และตอบตกลงว่าจะช่วยเธอ

ถึงแม้เธอจะรับปากว่าหลังจากนี้ถ้ามีเรื่องอะไรให้เธอช่วย เธอก็จะช่วยเขาอย่างไม่เกี่ยงงอน

นฤเบศวร์คิดดูแล้วตัวเองเสียเปรียบกว่า เขามีเรื่องให้เธอช่วยด้วยเหรอ?

แต่ว่าเดิมทีกนกอรก็ไม่เคยมีท่าทางเป็นมิตรให้กับเขาเลย ตอนนี้คอยดูแลเขาอย่างดี ทำให้นฤเบศวร์รู้สึกไม่เลวเลยทีเดียว

ช่วยก็ช่วยไปแล้ว จะมานึกเสียใจทีหลังตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว

ทำให้เธอกับยศพัฒน์ติดหนี้บุญคุณเขา แค่นี้ก็คุ้มค่าแล้ว

กนกอรรีบเดินออกไปซื้ออาหาร

เธอเพิ่งเดินจากไป นฤเบศวร์ก็ได้รับโทรศัพท์จากแม่ของเขา

“ตาเบศวร์…”

น้ำเสียงของบัณฑิตาสะอึกสะอื้น ท่าทางเหมือนจะเสียใจมาก

นฤเบศวร์เอ่ยถามตามสัญชาตญาณ “คุณแม่ เป็นอะไรไปครับ ทะเลาะกับคุณพ่อเหรอครับ?”

ตอนที่พ่อแม่ของเขาทะเลาะกัน คุณแม่จะร้องไห้โทรมาหาเขา โดยหวังว่าลูกชายจะยืนข้างเธอและโต้เถียงกับพ่อเพื่อเธอ

“ไม่ใช่ แต่เป็นคุณปู่ของลูกที่กลับมา แล้วมาระเบิดอารมณ์ใส่แม่”

บัณฑิตาพูดอย่างน้อยใจ “แม่เป็นนายหญิงของตระกูล จะพาเพื่อนมาพักที่บ้านสองสามวัน แต่ปู่ของลูกกลับบอกว่าไม่อนุญาต ปู่หนังเหนียวของลูก อายุก็ปูนนี้แล้ว ยังกุมอำนาจไว้ในมือไม่ยอมปล่อย ทั้งที่บอกว่าให้ลูกเป็นผู้สืบทอด แต่กลับไม่ยอมมอบอำนาจทั้งหมดให้”

คุณปู่เร็นยังคงเป็นประธานของRA กรุ๊ป ถึงแม้เขาจะไม่ค่อยได้ไปที่บริษัท แต่เขาก็ยังควบคุมอำนาจความเป็นความตายของบริษัทไว้ในมือ

นฤเบศวร์ไม่กล้าทำตัวอวดเบ่งต่อหน้าคุณปู่เร็น ถ้าทำให้คุณปู่เร็นไม่พอใจ เขาก็อาจจะถูกดึงลงจากตำแหน่งได้ตลอดเวลา

“คุณแม่ ระวังคำพูดของด้วนครับ อะไรคือปู่หนังเหนียวของผม คุณแม่คิดว่าตัวเองยังสาว จะไม่แก่เหมือนกันเหรอครับ ในอนาคตถ้าภรรยาของผมเรียกคุณแม่ว่ายายแก่หนังเหนียว คุณแม่จะรู้สึกยังไง”

นฤเบศวร์ทนฟังแม่ของเขาด่าปู่ของเขาว่าตาแก่หนังเหนียว

ไม่เคารพคุณปู่แบบนี้ไม่ได้

เขาเติบโตมาข้างกายคุณปู่ และผูกพันกับท่านมากที่สุด

“คุณแม่ก็รู้ว่าคุณปู่ไม่ชอบเปรมาสองแม่ลูกเข้าออกจากบ้านของเราบ่อยๆ บ้านพักของบ้านตระกูลไชยรัตน์ไม่ใช่ว่าสภาพจะทรุดโทรมจนอาศัยไม่ได้ เปรมาก็พักได้ปกติ ผมก็เคยไปบ้านตระกูลไชยรัตน์ ถึงแม้บ้านของพวกเธอจะตกแต่งใหม่ แม้ว่าจะไม่ตกแต่งใหม่ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ และยังมีคนใช้คอยทำความสะอาดอยู่เสมอ”

“แม่ถือโอกาสตอนที่คุณปู่ไม่อยู่พาน้าณัฏฐามาพักที่บ้านของเรา คุณปู่กลับมาจะไม่โกรธได้ยังไง”

นฤเบศวร์ลืมไปว่าเขาเองก็เคยชักชวนเปรมาให้มาอยู่ที่ตระกูลเดชอุป

แต่เปรมาคิดแต่จะเข้าไปอยู่ตระกูลอริยชัยกุล แต่หลังจากที่ยศพัฒน์ปฏิเสธ เธอก็กลับไปอยู่ที่บ้านตระกูลไชยรัตน์อย่างไม่พอใจ

บัณฑิตา “…ถึงอย่างนั้น ปู่ของลูกก็ไม่ควรระเบิดอารมณ์ใส่แม่แบบนี้ หรือแค่เรื่องเล็กแค่นี้ แม่ยังตัดสินใจไม่ได้เลย?”

บัณฑิตารู้สึกว่าเธอเสียหน้าต่อหน้าณัฏฐา รู้สึกอับอายขายหน้ามาก เดิมทีเธอก็สะสมความไม่พอใจที่มีต่อพ่อสามีไว้เยอะมาก แต่เพราะพ่อสามีของเธอยังเป็นหัวหน้าตระกูล เธอไม่กล้าพูดอะไรต่อหน้าพ่อสามี

แต่ลับหลังกลับด่าทออย่างหยาบคาย ตั้งตารอให้พ่อสามีตายเร็วๆ อย่างนี้ลูกชายของเธอก็จะได้เป็นผู้นำตระกูลที่แท้จริงของตระกูลเดชอุป หากใครคิดจะดึงลูกชายของเธอลงจากตำแหน่ง ก็ไม่มีความหวังแล้ว

“คุณแม่ก็รู้ว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เรื่องเล็กน้อย คุณแม่ยังเอาไปคิดเล็กคิดน้อย คุณปู่โมโหกลับมาจากข้างนอก พอกลับมาถึงแล้วเห็นน้าณัฏฐาอยู่ในบ้านของเรา ท่านถึงโกรธ คุณปู่อายุมากแล้ว คำโบราณบอกว่าอายุยิ่งมากยิ่งกลับไปเหมือนเด็ก คุณแม่ก็ควรอดทนบ้าง”

นฤเบศวร์เกลี้ยกล่อมแม่ของเขา “อย่าโกรธเลยครับ ให้คุณพ่อพาไปเดินเล่น ไปเดินซื้อของ ถ้าไม่มีเงิน ก็มาบอกลูกชายของคุณแม่ เดี๋ยวผมจะให้เงินคุณเอง”

บัณฑิตา “…ลูกคิดว่าตำแหน่งคุณนายใหญ่แห่งตระกูลเดชอุปจะมีไว้ประดับหรือไง?”

สมบัติของเธอมีไม่ใช่น้อย

เธอเองก็มาจากตระกูลที่ร่ำรวย แต่งงานกับตระกูลที่ร่ำรวย สิ่งที่มีไม่เคยขาดคือเงิน

คุณสามีพันล้าน

คุณสามีพันล้าน

Status: Ongoing
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้านเป็นเรื่องราวความรักเกี่ยวกับการเดินทางที่ยากลำบากของตัวเอกชายและหญิง รู้จักกัน ตกหลุมรัก ผ่านเหตุการณ์และความยากลำบากมากมาย แต่สุดท้ายก็กลับมารวมกัน?เทวิกาถูกบังคับแต่งงานซ้ำๆจนบ้านก็ไม่กล้ากลับ เพื่อที่จะใช้ชีวิตอย่างสงบ เช่าพี่ชายเพื่อนอย่างยศพัฒน์มาเป็นสามี นึกว่าเค้านั้นจะเป็นแค่ผู้ชายที่เกิดในครอบครัวธรรมดาๆ ใครจะรู้ว่าครอบครัวเค้าเป็นตระกูลร่ำรวยเชียว ……พันธะสัญญาของเทวิกาเป็นโมฆะ ยศพัฒน์:คุณภรรยา อย่างอแงสิครับ เด็กดี กลับบ้านกลับสามีเถอะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท