ยศพัฒน์กลอกตามองบนใส่เขาแล้วกล่าว:“ไม่ใช่คู่แข่งทางใจของฉัน แต่เป็นวิกานั้นหาญาติเจอแล้ว เธอมีพี่ชายฝาแฝดหนึ่งคน ดูท่าทางแล้วเอาเรื่องอยู่”
ชเนนทร์ลุกขึ้นทันที “วิกาหาญาติเจอแล้วเหรอ หาเจอได้ยังไง พ่อแท้ ๆ ของเธออยู่ที่ไหน”
“ดูนายตื่นเต้นเข้าสิ นายเองก็คงจะดีใจแทนวิกาสินะ
ชเนนทร์อ้าปากอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ตื่นเต้นเกินไปจึงไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี เขาอยากจะทุบโต๊ะแต่กลัวว่ามือตัวเองจะเจ็บ สุดท้ายยื่นมือไปจับมือของยศพัฒน์แล้วทุบลงบนโต๊ะ
ยศพัฒน์หน้าดำทะมึน
พี่ชายภรรยากลัวมือเจ็บ แล้วเขาไม่กลัวเจ็บหรือไง
สลัดมือของชเนนทร์ทิ้ง แล้วยศพัฒน์ก็มองดูมือของตัวเอง “ไม่แดงไม่บวมเหรอ อยากจะถ่ายรูปสักรูปให้วิกาได้เห็น ให้วิกาเป็นห่วงฉันสงสารฉันหน่อยก็ไม่ได้”
ชเนนทร์:“……พัฒน์ นายยังไม่ได้ตอบคำถามของฉันเลย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ พวกนายสองสามีภรรยากลับไม่บอกกับฉันสักคำ เพราะรู้ว่าตระกูลวาชัยยุงไม่ได้ให้กำเนิดวิกาใช่ไหม พวกนายถึงไม่เห็นตระกูลวาชัยยุงอยู่ในสายตา
“จะเป็นไปได้ยังไง! ชเนนทร์ ประโยคนี้แรงไปหน่อยนะ นายสามารถสงสัยฉันได้ แต่นายจะสงสัยวิกาไม่ได้ ในใจของวิกาเธอเห็นพวกนายเป็นคนในครอบครัวเสมอ เธอยังไม่มีความรู้สึกใด ๆ ให้กับพ่อแม่แท้ ๆ ในตอนนี้”
ยศพัฒน์ช่วยภรรยาสุดที่รักอธิบาย “ตอนนี้พวกเราก็ได้แต่สงสัย ยังไม่แน่ใจว่านั่นเป็นญาติของวิกาหรือเปล่า ฉันได้แอบจัดแจงให้พวกเขาทำการตรวจดีเอ็นเอแล้ว รอผลตรวจออกมา ก็จะรู้ว่าเป็นญาติของเธอหรือไม่”
จากนั้น ยศพัฒน์ก็บอกเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเย็นวานนี้ให้กับชเนนทร์ เพื่อไม่ให้ชเนนทร์ตำหนิพวกเขาว่าไม่เห็นตระกูลวาชัยยุงอยู่ในสายตา
ชเนนทร์ฟังจบแล้วก็นิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง
ตกใจมากเกินไป และก็รู้สึกอยู่ท่ามกลางความมึนงง สวรรค์บันดาล
ประยสย์เพิ่งจะได้ข่าวคราว ก็ต้องทิ้งทุกอย่าง รีบบินมาที่นี่พร้อมกับคุณแม่ที่เป็นบ้า คิดไม่ถึงว่าการเดินทางครั้งแรกของคุณแม่ที่เป็นบ้า จะได้พบกับเทวิกาสองสามีภรรยา
เทวิกาฝันแบบนั้นสองครั้งติดต่อกัน ที่ฝันเห็นท่าทางของคุณหญิงธิษณาได้อย่างชัดเจน ดังนั้นเมื่อเจอกับตัวจริงแล้วก็จำเธอได้ทันที
ชเนนทร์ไม่รู้ว่าความรู้สึกของตัวเองเป็นอย่างไร
คงสับสนมากมั้ง
น้องสาวรู้จุดเริ่มต้นของภูมิหลัง เขาหวังให้น้องสาวจะสามารถรู้ภูมิหลังกำเนิดของเธออย่างชัดเจน หาพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเจอ แต่ก็กลัวน้องสาวหาพ่อแม่แท้ ๆ เจอแล้ว จะจากเขาไป ความเห็นแแก่ตัวลึก ๆ ในจิตใจก็แอบหวังให้น้องสาวหาญาติไม่เจอ
แต่ความจริงกลับมาอย่างรวดเร็ว
คนอื่นตามหาญาติ ต้องใช้เวลาหลายปี สิบปีก็ยังไม่แน่ว่าจะหาเจอ
นั่นคือการงมเข็มในทะเล
ต่อให้ตอนนี้วิทยาศาสตร์จะก้าวหน้า แต่อาศัยดีเอ็นเอในการตรวจหาญาติ ก็ต้องอาศัยดวงที่ประจวบเหมาะถึงจะตามหาเจอ
เทวิกาเพิ่งจะรู้เรื่องภูมิหลังได้ไม่นาน ก็บังเอิญได้เจอกับผู้หญิงคนหนึ่งที่มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะเป็นแม่แท้ ๆ
“พี่ชายแท้ ๆ ของเธอ……เอาเรื่องใช้ได้เลยเหรอ”
“ความหมายของคุณประยสย์คือ หากว่าวิกาเป็นน้องสาวของเขาจริง ๆ เขาอยากจะพาวิกากลับไปที่เมืองซูเพร่า ต้องการให้วิกาอยู่เมืองซูเพร่าอย่างน้อยสองปี ไม่อยากให้วิกาแต่งงานเร็วเกินไป บอกว่าต้องการชดเชยให้กับวิกา”
ยศพัฒน์ดีใจที่ได้แต่งงานกับเทวิกาแล้ว ไม่เช่นนั้นรอให้วิกาหาพ่อแม่แท้ ๆ เจอ จากนั้นกลับไปสู่ครอบครัวแท้ ๆ แล้วเขาค่อยแต่งงานกันเทวิกา คงจะไม่ได้ง่ายขนาดนั้นแล้ว
ในแววตาของชเนนทร์เต็มไปด้วยความอาวรณ์ วิกาคือน้องสาวที่เขารักและปกป้องมาตั้งแต่เล็ก ตอนเด็กนั้น วิกามักจะชอบออกไปเล่นกับเขาด้านนอก มีบางครั้งเขาไม่อยากพาเธอไปด้วย เธอก็จะร้องไห้ เมื่อเธอร้องไห้ เขาก็จะใจอ่อน
ยศพัฒน์แต่งงานกับน้องสาวของเขา ก็เหมือนกับตัดเนื้อของเขาไปอย่างนั้น ตอนนี้ยังมีพี่ชายแท้ ๆ ที่มาแบ่งวิกาเพิ่มอีก ชเนนทร์จึงเกิดความกังวลขึ้น
ถึงแม้เขาจะเป็นพี่ชายของเทวิกามาแล้วยี่สิบเก้าปี แต่พวกเขาไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกัน
ประยสย์ต่างหากคือพี่ชายแท้ ๆ ยังเป็นฝาแฝดอีกด้วย
ประยสย์จะคิดเหมือนกับเขาหรือเปล่า ที่รู้สึกว่าเขาคือคนที่มาแบ่งเทวิกาไป จากนั้นก็กันท่าเขา ไม่ยอมให้เขาได้เข้าใกล้น้องสาวอีก
คงไม่น่าจะ!
ชเนนทร์บอกกับตัวเองว่าอย่าไปคิดเรื่องที่วุ่นวายเช่นนี้
ตระกูลวาชัยยุงของพวกเขาเก็บเทวิกามาเลี้ยงเหมือนลูกสาวแท้ ๆ จนเติบใหญ่ ตระกูลสาระทามีแต่จะต้องขอบคุณตระกูลวาชัยยุงของพวกเขา ไม่มีทางให้เทวิกาตีตัวออกห่างพวกเขาหรอก
เมื่อคิดแบบนี้ ชเนนทร์ก็ใจเย็นลง เขาเหลือบไปมองน้องเขยแล้วยิ้มอย่างเย็นชา:“ยศพัฒน์ ฉันเกือบจะถูกจิ้งจอกเจ้าเล่ห์อย่างนายจูงจมูกเดินแล้ว วิกาเป็นน้องสาวของฉันและจะเป็นตลอดไป ต่อให้เธอจะกลับไปหาครอบครัวแท้ ๆ ก็แค่มีพี่ชายเพิ่มหนึ่งคน จะส่งผลกระทบอะไรกับฉันเหรอ”
“แต่เป็นนายต่างหาก หึ ๆ ถ้าฉันบอกเรื่องที่นายทำกับวิกา ไม่แน่ตระกูลสาระทาอาจจะไม่ยอมให้วิกาแต่งงานกับนายก็ได้ เป็นเรื่องที่นายควรกังวล กลับคิดอยากลากฉันลงเหวไปด้วยฉันเกือบหลงกลนายแล้ว”
ยศพัฒน์กล่าวด้วยรอยยิ้ม:“ฉันไม่มีความหมายอื่นแต่อย่างใด แค่ต้องการอยากบอกกับนายว่า วิกาอาจจะหาญาติเจอก็เท่านั้น เป็นนายที่คิดมากไปเองต่างหาก”
“และฉันก็ไม่ได้ทำอะไรวิกาด้วย อย่าลืมนะ เป็นวิกาที่เข้าหาฉันก่อน ต้องการเช่าฉันเป็นสามีของเธอ และเธอยังให้เงินฉันด้วย”
ชเนนทร์โกรธจัด
จ้องมองเขาด้วยความโกรธ
ยศพัฒน์รีบรินน้ำให้กับเขาด้วยรอยยิ้ม “ชเนนทร์ ดื่มน้ำ ฉันกับวิกาเป็นสามีภรรยากันแล้ว ยังไงก็ตามฉันไม่มีทางหย่า วิกาเองก็ค่อย ๆ ยอมรับตัวฉัน คนที่ดีกับวิกาจริง ๆ จะไม่มีทางแยกวิกาไปจากฉันหรอก ทำลายชีวิตคู่ต้องตกนรกนะ”
“มา ๆ พวกเรามาคุยเรื่องงานกันดีกว่า คุยเรื่องงาน”
ชเนนทร์:“……”
เขาไม่เข้าใจอดีตเพื่อนคนนี้จริง ๆ!
……
รถเบนท์ลีย์คันหนึ่งมาจอดที่หน้าประตูคฤหาสน์บ้านตระกูลไชยรัตน์ แล้วคนขับรถก็กดแตร ไม่นานก็มีคนมาออกมาเปิดประตู
รถเบนท์ลีย์ขับเข้ามายังคฤหาสน์และจอดนิ่งสนิทตรงลานจอดรถที่เปิดโล่ง
บัณฑิตาหยิบกระเป๋ารุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นใหม่ของเธอที่ซื้อมาใหม่แล้วลงจากรถ ก่อนอื่นทำการสำรวจการตกแต่งภายในคฤหาสน์ของบ้านตระกูลไชยรัตน์ รู้สึกไม่ได้มีความแตกต่างไปจากเมื่อก่อนมากนัก แบตบอสนตระกูลไชยรัตน์ถึงแม้จะอยู่เมืองนอกเสียส่วนใหญ่ แต่คฤหาสน์หลังนี้มีคนคอยดูแลทำความสะอาดอยู่เสมอ
เมื่อก่อน แบตบอสนตระกูลไชยรัตน์กลับประเทศมาเยี่ยมญาติ ก็จะมาพักอยู่ที่นี่ บอกว่าจะทำการรื้อซ่อมใหม่ ตอนนี้ก็ยังไม่เห็นมีใครเริ่มลงมือทำ
แต่ว่าบัณฑิตาก็ไม่ได้คิดมาก คิดเพียงว่าคงยังไม่ได้ซื้อวัสดุ
เพราะถึงอย่างไรเวลาการกลับประเทศของเปรมาสองแม่ลูกก็ไม่ได้นาน
“พี่มาแล้วเหรอ”
คุณณัฏฐาออกมาจากห้อง วันนี้เธอสวมชุดกี่เพ้า แต่งตัวอย่างสง่าหรูหรา หน้าที่ได้รับการบำรุงอย่างดีเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เดินมาให้การต้อนรับพร้อมกับรองเท้าส้นสูง
บัณฑิตาเดินเข้ามาหาเธอ พลางเดินพลางกล่าว:“หงุดหงิดใจ ก็เลยออกมาเดินเล่นสักหน่อย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปไหนดี จึงได้มาหาพี่ที่นี่ คงไม่รบกวนพี่หรอกนะ”
ตอนนี้ยังเช้าอยู่เลย
โดยปกติแล้วเวลานี้ บัณฑิตายังนอนขี้เกียจอยู่บนเตียงนี่
เวลาที่ไม่มีโปรแกรม ปกติเธอจะนอนจนถึงเที่ยงจึงจะลุกขึ้นมา
และจะออกไปตอนบ่ายกับตอนกลางคืน ดึก ๆ ถึงจะกลับมา แล้วก็นอนจนถึงเที่ยงในวันถัดไป ซ้ำ ๆ แบบนี้
“รบกวนได้ไง เธอมา ฉันไม่รู้ดีใจแค่ไหน พวกเราอยู่เมืองนอกซะส่วนใหญ่ บ้านก็เลยวังเวง”
คนจากไปนานคนก็ลืมเลือน
ต่อให้เมื่อก่อนบ้านตระกูลไชยรัตน์อยู่ในเมืองแอคเซสซ์จะเป็นตระกูลร่ำรวย แต่หลังจากที่พวกเขาอาศัยอยู่เมืองนอกเป็นเวลานาน ธุรกิจก็ย้ายไปเมืองนอกแล้ว ใครยังจะจำพวกเขาได้อีก