“ดึกขนาดนี้แล้ว คุณน้าอาจจะหลับไปแล้วก็ได้”
“ไม่ ตอนกลางวันพ่อแม่ฉันมัวแต่ทำงานยุ่งอยู่ในนาในสวน ปกติแล้วต้องรอหลังสี่ทุ่มไปแล้วถึงจะมีเวลาว่าง”
นองเสียจากว่าเธอกับพี่ชายกลับบ้าน อย่างนั้นพ่อแม่ก็จะกลับมารอที่บ้านแต่หัววัน
เทวิการู้ชีวิตประจำวันของพ่อกับแม่ดี
“งั้นแกรีบโทรหาคุณน้าเถอะ”
กนกอรหยิบผ้าไปเช็ดโต๊ะ
พิชญ์สินีเพิ่งจะอาบน้ำออกมา เห็นสามีถือโทรศัพท์มือถือดูข่าวอยู่ เธอจึงถามว่า“วิกาไม่ได้โทรมาเหรอ วันนี้ฉันจามบ่อยมาก ลูกสองคนน่าจะมีใครสักคนโทรมา”
“ปกติแล้วก็มีแต่วิกา”
ลูกสาว มักจะใส่ใจมากกว่า
ส่วนลูกชาย ถ้าไม่มีเรื่องอะไร หนึ่งเดือนยังไม่ค่อยจะโทรกลับมาที่บ้านเลย
“วิกาตกแต่งร้านใหม่ กำลังอยู่มั้ง ตอนนี้งานของพวกเราเสร็จแล้ว ถ้าคิดถึงวิกา พรุ่งนี้ผมเข้าเมืองไปเป็นเพื่อนคุณ จะได้เซอร์ไพร์สวิกา”
พิชญ์สินีเดินมา เพิ่งจะนั่งลงข้างๆสามี เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น
“ต้องเป็นวิกาแน่นอน”
หยิบโทรศัพท์มาจากตู้หัวเตียงพอเห็นหน้าจอแสดงชื่อคนที่โทรเข้ามาว่า“ลูกรัก” เธอก็ยิ้มเลย พูดกับสามีว่า“ลางสังหรณ์ฉันไม่เคยผิดเลย แค่ฉันจาม ก็คือวิกาคิดถึงพวกเรา”
สิรภพยิ้มเจื่อนๆพลางเอ่ยว่า“มีครั้งหนึ่งคุณเป็นหวัด จามไม่หยุดเลยนะ”
พิชญ์สินีทุบเขาเบาๆหนึ่งครั้ง แล้งจึงรีบรับสายของลูกสาวสุดที่รัก
“วิกา ดึกขนาดนี้แล้วทำงานอยู่ที่ร้านอีกเหรอ กลับบ้านไปพักผ่อนได้แล้ว อย่าหักโหมมาก”
แม้ว่าวิกาจะแต่งเข้าบ้านมหาเศรษฐี กลายเป็นคุณนายน้อยของตระกูลอริยชัยกุล แต่พิชญ์สินีไม่ได้บอกลูกสาวว่าไม่ต้องทำอะไร ทำตัวเป็นคุณนายน้อยไป
เธอคิดว่าลูกสาวควรจะมีกิจการเป็นของตนเอง แม้ว่าจะได้เงินไม่มาก แต่ก็ยังดีที่มีรายได้
“แม่ หนูไม่เหนื่อยค่ะ แม่กับพ่อทำงานเสร็จแล้วเหรอคะ”
สิรภพโน้มตัวมา อยากฟังบ้างว่าลูกสาวพูดอะไร ได้ยินว่าเอ่ยถึงเขา เขาก็พูดขึ้นมาทันทีว่า “วิกา พ่ออยู่ด้วยนะ ลูกมีอะไรจะบอก ก็บอกได้เลย พูดออกมาเลย พ่อฟังอยู่นะ โอ้ย วันนี้ลูกสาวโทรมาแล้ว คืนนี้พ่อได้นอนหลับฝันดีแล้ว”
“พ่อ หนูคิดถึงพ่อ และก็คิดถึงแม่ด้วย”สิรภพหัวเราะลั่น“ไม่ต้องคิดแล้ว พรุ่งนี้พ่อก็จะพาแม่ของลูกเข้าเมือง ที่บ้านไม่ยุ่งแล้วตอนนี้ พวกเราจะไปเยี่ยมลูกกับพี่ นอนพักที่ในเมืองสองวัน จะได้พาแม่ของลูกไปเดินเล่น”
“จริงเหรอคะ หนูให้ยศพัฒน์ไปรับนะคะ”
“ไม่ต้องเลย ยศพัฒน์งานยุ่งมาก เวลาเป็นเงินเป็นทอง พ่อได้ยินมาว่า เจ้าของกิจการใหญ่โตอย่างยศพัฒน์ มีเงินเข้าบัญชีแต่ละนาทีหลายร้อยหลายพันล้านเลยนะ พอพ่อคิดว่าจากใจกลางเมืองมาที่บ้านพวกเราต้องใช้เวลาพอสมควร ก็ทำให้ยศพัฒน์สูญเงินไปนับร้อยล้าน พ่อเสียดาย”
พิชญ์สินีก็พูดว่า“วิกา ลูกไม่ต้องให้ยศพัฒน์มารับพวกเราหรอก อีกเดี๋ยวแม่จะโทรไปถามพี่ชายว่ามีเวลาว่างหรือเปล่า ให้เขามารับพวกเรา พาปู่กับย่าลูกไปด้วย คนแก่เองก็ไม่ได้ออกจากบ้านนานแล้ว”
“ถ้าไม่ว่าง พวกเรานั่งรถเมล์ไปก็ได้ คนแก่นั่งรถไปๆมาๆเหนื่อยมากก็ไม่ดี”
“ในเมื่อพี่ชายลูกก็ยังโสดอยู่ หาเงินได้มากแค่ไหนก็ไม่มีเมียคอยช่วยเขาใช้ สู้ลางานมารับพวกเราไปเที่ยวดีกว่า ลูกกับยศพัฒน์ต้องทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว รออีกหน่อยหนูมีลูก ก็ต้องใช้เงินมากขึ้น”
เทวิกา“……”
ชเนนทร์:แม่ ผมเป็นลูกแท้ของแม่หรือเปล่าเนี่ย
“วิกา ร้านลูกตกแต่งใหม่เสร็จแล้วหรือยัง”
“ตกแต่งเสร็จแล้วค่ะ เปิดร้านแล้วค่ะ”
พิชญ์สินียิ้มพลางเอ่ยว่า“งั้นก็ดี พรุ่งนี้แม่กับพ่อก็ไปแล้ว ยังช่วยลูกทำอะไรได้บ้าง ไม่อย่างนั้นเบื่อแย่เลย”
พวกเขาใช้ชีวิตในชนบท เป็นคนที่ขยันขันแข็งมาก มีงานให้ทำไม่จบไม่สิ้นทุกวัน เคยชินกับชีวิตการทำงาน พอหยุดทำก็รู้สึกเบื่อ ไม่สบายไปทั้งตัว
เทวิกาตอนแรกอยากจะบอกแม่ว่าเธอเจอแม่แท้ๆแล้ว ผลปรากฏว่าพอแม่ลุกคุยกันกันขึ้นมา เธอก็แทบจะหาช่องว่างแทรกไม่ได้เลย
รถมายบัคของท่านประธานจอมเผด็จการคันนั้นจอดที่ประตูร้าน One Day In Coffee คุณพัฒน์สวมชุดสูทรองเท้าหนัง ผูกเนคไทสีฟ้า รองเท้าหนังคู่นั้นเงาวับ ดูเป็นผู้ใหญ่สุขุม หล่อเหลาเป็นพิเศษ สง่างามในทุกอิริยาบถ
เขาไม่ได้พาบอดี้การ์ดมา มีเขาแค่คนเดียว หอบช่อดอกไม้เดินจากข้างนอกเข้ามาในร้าน ดูยิ่งใหญ่ทรงพลัง ในสายตาเทวิกาและกนกอร เขาเหมือนพระราชาที่เสด็จมา เหมือนเป็นเจ้าชายในเทพนิยายอย่างนั้น
กนกอรอยากจะผิวปาก
แต่ควบคุมตัวเองเอาไว้ได้ ไม่ได้ผิวปาก
นี่เป็นสามีเพื่อนนะ
ถ้าเธอผิวปาก มีท่าทางการหยอกเย้า
นฤเบศวร์:คิดว่าสามีอย่างผมนี่ตายไปแล้วเหรอ
กนกอร:สามีภรรยากันแค่ในนาม ได้เงินมาก็ทำงาน เซ็นข้อตกลงแล้ว!
นฤเบศวร์:……
“เมียจ๋า ผมมารับคุณเลิกงานแล้ว”
ยศพัฒน์เอ่ยด้วยรอยยิ้ม สายตาที่มองเทวิกาเต็มไปด้วยความรัก
กนกอรรีบหลบไปอย่างรวดเร็ว กลัวว่าจะถูกความรักของคู่นี้ทำให้จุกอกตาย
แม้ว่าเธอเองก็มีสามีที่ทั้งหล่อและรวยมากเช่นกัน แต่สามีเธอกำลังอยู่กับผู้หญิงที่เขารักและอยากใช้ชีวิตคู่ด้วย
พิชญ์สินีที่อยู่ปลายสายนั้นได้ยินเสียงลูกเขย ถามเทวิกาว่า“วิกา คุณพัฒน์มาแล้วเหรอ งั้นแค่นี่ก่อนนะ พรุ่งนี้พ่อกับแม่ก็จะไปหาลูกแล้ว ไม่ต้องให้คุณพัฒน์มารับพวกเราล่ะ ไม่งั้นจะเสียเวลาลูกเขยแม่แย่เลย ตอนนี้แม่จะโทรหาพี่ลูกแล้ว”
พูดพลาง ก็ไม่รอให้เทวิกาตอบ เธอก็วางสายไปก่อนแล้ว
พิชญ์สินีโทรหาลูกชายจริงๆ
ชเนนทร์ยังทำงานล่วงเวลาอยู่เลยนะ
รับสายของแม่ คิดว่ามีเรื่องด่วนอะไร จึงหยุดทำงานรับโทรศัพท์
“ชเนนทร์ ลูกมีเวลาว่างมั้ย”
“แม่ ทำไมเหรอครับ เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ”
“งานของที่บ้านตอนที่เสร็จไปพอสมควรแล้ว แม่กับพ่อแล้วก็ปู่ย่าอยากเข้าเมืองไปเที่ยวหน่อย ลูกกลับมารับพวกเราหน่อยนะ”
ชเนนทร์ถอนหายใจโล่งอก
เขาคิดว่ามีเรื่องใหญ่โตอะไร
“แม่ วันนี้ผมต้องทำงานดึกเลย พรุ่งนี้เช้ากลัวตื่นไม่ไหว ผมช่วยหารถไปรับพวกคุณแล้วกันนะครับ”
พิชญ์สินีส่งเสียงตอบอ้อ “งั้นก็ได้ ตอนแรกวิกาบอกจะให้ยศพัฒน์มารับพวกเรา คุณพัฒน์เขางานยุ่ง แม่ก็เลยปฏิเสธไป”
ชเนนทร์“……แม่ ยศพัฒน์เขาเป็นใคร จำเป็นต้องให้เขาไปรับพวกคุณเหรอ เขาโทรกริ๊งเดียว คนขับรถของเขาก็ไปรับได้ แทบไม่เสียเวลาเขาเลย”
มันเสียดแทงใจเกินไปแล้ว
แม่กลัวว่าลูกเขยจะเสียเวลา แต่กลับไม่กลัวว่าเขาจะเสียเวลา
ถ้าเขาไม่บอกว่าคืนนี้เขาต้องทำงานจนดึก คาดว่าแม่คงต้องให้เขาไปรับจริงๆ
ยศพัฒน์เอาอกเอาใจน้องสาวเขา แล้วยังมาแย่งความรักของพ่อกับแม่ไปด้วย หึ้ยๆๆ!
ช่างน่าเจ็บใจ จริงๆ!
พิชญ์สินีส่งเสียงอ้อ“ลูกช่วยพวกเรานัดรถด้วยนะ แค่นี้นะ ลุกทำงานต่อเถอะ หาเงินเตรียมไว้เป็นทุนให้เมียเถอะ”
“แม่ แม่ก็ไม่ห่วงว่าลูกชายทำงานดึกจะเหนื่อยมั้ยเลยเหรอ”
“เงินไม่ได้หาง่ายๆขนาดนั้น แน่นอนว่าต้องเหนื่อย เงินหล่นมาจากฟ้า ลูกยังต้องก้มตัวลงไปเก็บ ลูกไม่เหนื่อยถึงขั้นจะตายก็พอแล้ว แค่นี้นะ แม่กับพ่อจะนอนแล้ว”
พิชญ์สินีพูดจบก็วางสายไปเลย
ชเนนทร์:……
แม่แท้ๆนะเนี่ย!