กนกอรปิดคลิปวิดีโอ แล้วเก็บโทรศัพท์เข้าไปในกระเป๋าเสื้อ ก่อนจะลุกขึ้นยืน เดินอ้อมออกจากเคาน์เตอร์คิดเงินแล้วเดินไปหาแม่สามี
“คุณบัณฑิตา”
กนกอรไม่ได้เรียกแม่ คุณปู่เร็นไม่ได้อยู่ที่นี่เสียหน่อย ไม่มีใครสามารถสยบแม่สามี และก็ไม่มีใครหนุนหลังให้เธอ เธอไม่แกว่งเท้าหาเสี้ยนเรียกแม่หรอก
พูดจากใจจริง เธอเองก็ไม่อยากมีแม่สามีแบบบัณฑิตา
เธอแต่งงานกับนฤเบศวร์ เดิมทีก็เพราะจะคืนหนี้บุญคุณอยู่แล้ว
ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ
บัณฑิตาเชิดคางขึ้น ไม่แม้แต่จะมองกนกอร กลับเดินผ่านกนกอรไปทีเดียว ซ้ำยังจงใจเดินชนกนกอร
กนกอรเคยฝึกมาก่อน มีการทรงตัวที่มั่นคง จึงไม่ได้ถูกเธอชนจนล้ม
กลับกันคือบัณฑิตาที่เป็นฝ่ายเดินชนกนกอรเผลอสะดุดเซไปด้านหน้า อีกนิดก็เกือบจะชนกับโต๊ะที่อยู่ข้างๆแล้ว ยังดีที่กนกอรดึงเธอไว้ เธอจึงไม่ได้ชนกับโต๊ะ
“อย่ามาแตะตัวฉัน!”
บัณฑิตาชนกนกอรไม่สำเร็จ กลับกันคือตัวเองเป็นฝ่ายขายหน้า สีหน้าเธอดูย่ำแย่ถึงขีดสุด ยังยืนไม่นิ่งก็สะบัดมือกนกอรออกอย่างแรง
คำพูดนั่น พูดเหมือนกับว่ามือของกนกอรเปื้อนยาพิษ หากถูกแตะนิดหน่อยก็จะตายด้วยฤทธิ์ยาพิษยังไงอย่างงั้น
ได้ยินเธอพูดดังนั้น กนกอรก็ปล่อยมือออกแต่โดยดี
ไม่มีกนกอรดึงเธอไว้ บัณฑิตาก็ล้มคะมำไปด้านหน้าอีกครั้ง ครั้งนี้ชนกับโต๊ะตัวนั้นเต็มๆ ร่างกายท่อนบนแทบจะติดกับโต๊ะ
“พี่ฑิตา”
ณัฏฐาเก็บโทรศัพท์ แล้วรีบไปพยุงบัณฑิตาทันที
“ท้องฉัน!”
บัณฑิตาลูบท้องของตัวเองที่ชนกับโต๊ะ
ณัฏฐาหันไปถลึงตาใส่กนกอร พลันเอ่ยอย่างโมโหว่า “เธออยากตายเหรอ? นี่ถ้าพี่ฑิตาเป็นอะไรไป เธอจะรับผิดชอบยังไง?”
กนกอรเอ่ยอย่างเย็นเยือกว่า “ฉันไม่ได้ผลักเธอสักหน่อย เธอล้มโดยไม่ระวังเอง ฉันดึงเธอไว้ด้วยความหวังดี แต่เธอรังเกียจเหมือนมือฉันมียาพิษ บอกให้ฉันปล่อยมือ ฉันไม่อยากให้เธอตายเพราะยาพิษ ก็เลยยอมปล่อยมือแต่โดยดี เธอสะบัดมือแรงเอง ก็เลยล้มอย่างที่เห็นไง”
“แก!”
ณัฏฐาคิดไม่ถึงว่ากนกอรจะกล้าเถียงเธอแบบนี้
เธอแต่งงานกับนฤเบศวร์ ก็น่าจะรู้ดีถึงสถานะของบัณฑิตา
นี่คือแม่สามีเธอนะ!
แม้ณัฏฐาจะขอข้อมูลของกนกอรจากบัณฑิตาแล้ว ทว่าข้อมูลของเธอกลับเรียบง่ายมาก เธอไม่ได้ทำความเข้าใจอย่างละเอียด นึกว่ากนกอรเป็นผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง
อีกอย่าง ตระกูลภูสิทธิ์อุดมในสายตาเธอก็คือครอบครัวคนจน เด็กที่ออกมาจากครอบครัวแบบนี้ ตอนที่อยู่ต่อหน้าคุณหญิงสูงศักดิ์อย่างพวกเธอ ก็ควรจะประหม่า เกรงกลัว กระทั่งประจบประแจงไม่ใช่เหรอ?
กนกอรไม่ได้มีท่าทางกตัญญูกับบัณฑิตาอย่างที่ลูกสะใภ้คนหนึ่งควรจะมีด้วยซ้ำ
แต่ยังดี ตอนที่เธอเข้ามา เธอเอาโทรศัพท์ออกมาถ่ายการกระทำของแม่สามีและลูกสะใภ้คู่นี้ไว้แล้ว
เดี๋ยวเธอจะส่งให้นฤเบศวร์ ให้นฤเบศวร์ดูว่าปู่เขาให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงแบบไหน
ไม่เคารพแม่สามีเลยสักนิด!
ภรรยาแบบนี้ แต่งเข้าบ้านก็คือหายนะของตระกูลเดชอุป มีแต่จะทำให้ตระกูลเดชอุปวุ่นวายอลหม่าน มีมารยาทรู้กาลเทศะเหมือนอย่างเปรสักที่ไหนกัน
“แกแกแกอะไรของคุณน่ะ? ที่ฉันพูดไม่ใช่ความจริงเหรอ? ที่นี่มีคนตั้งมากมายเห็นเองกับตา ในร้านฉันก็มีกล้องวงจรปิด หรือจะให้ฉันเอาภาพจากกล้องวงจรปิดมาให้พวกคุณดูความจริงกันล่ะ?”
ขนาดแม่สามีในนาม กนกอรยังไม่เกรงใจ นับประสาอะไรกับแม่ของเปรมา
ตราบใดที่เธอไม่ได้ตกหลุมรักนฤเบศวร์ หากผู้ใหญ่ไม่ใจดี ก็อย่าคิดจะมาเหิมเกริมต่อหน้าเธอ
เธอไม่มีวันตกหลุมรักแบตบอสหรอก
แบตบอสพูดย้ำกับเธอซ้ำๆว่าอย่าตกหลุมรักเขาเด็ดขาด
ทุกครั้งที่ได้ยินเขาพูดย้ำแบบนั้น กนกอรก็อยากจะตอบโต้เขามากว่า: นึกว่านายเป็นเงินที่ใครๆก็รักนายหรือไง?
หลงตัวเอง อวดดี มั่นหน้า แค่เปรมาคนเดียวยังจีบไม่ติด นับประสาอะไรจะทำให้เธอหลงชอบ นึกว่าเธอไม่เคยเห็นผู้ชายมาก่อนเหรอ?
ผู้ชายสามขา เธอไม่เคยเห็น แต่ผู้ชายสองขานั้นมีอยู่เต็มถนน
หลังจากที่เคยเห็นผู้ชายดีๆอย่างยศพัฒน์ มาตรฐานเลือกผู้ชายของกนกอรก็แอบยกระดับขึ้นไปอีกขั้นมานานแล้ว นฤเบศวร์ไม่ถึงเกณฑ์เลยด้วยซ้ำ
แบตบอส!
ทั้งชีวิตนี้ก็ให้เขาขึ้นคานตายอยู่ที่เปรมาไปเถอะ
ณัฏฐาโมโหแต่เถียงไม่ออก
“กนกอร นี่ท่าทางอะไรของเธอ? นี่คือคุณณัฏฐา เป็นเพื่อนสนิทฉัน และก็ถือว่าเป็นผู้ใหญ่ของเธอ มีใครปฏิบัติตัวกับผู้ใหญ่แบบนี้เหมือนเธอบ้าง? แม่เธอสอนเธอใสยังไง?”
บัณฑิตาตำหนิกนกอรว่าไม่มีมารยาท
“แม่ฉันสอนฉันยังไงงั้นเหรอ แม่ฉันบอกว่า: กนกอร แม้ทั้งชีวิตนี้เธอจะแต่งไม่ออก ขึ้นคานเป็นป้าแก่อยู่ที่บ้าน แม่ก็จะเลี้ยงเธอ แต่ไม่อนุญาตให้เธอเข้าไปเป็นมือที่สามของชีวิตคู่คนอื่น ถ้าเธอกล้าไปเป็นเมียน้อย แม่ก็จะหักขาเธอแน่!”
สิ้นเสียงเธอ สีหน้าของณัฏฐาก็พลันเปลี่ยนไปทันที
นี่กำลังเหน็บแนมว่าเธอสนับสนุนให้ลูกสาวเป็นเมียน้อยไม่ใช่หรือไง?
แต่เปรมารู้จักกับยศพัฒน์ก่อน พวกเขารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ยัยเทวิกานั่นต่างหากที่มาทีหลัง!
“แม่ฉันยังบอกด้วยว่าอย่าใช้ข้ออ้างไล่ตามรักแท้ไปแย่งสามีหรือแฟนคนอื่น นั่นคือการกระทำของเมียน้อย ถ้าจะจีบ ก็จีบผู้ชายที่โสด สมัครใจกันทั้งสองฝ่าย ไม่ทำร้ายคนอื่น และยังได้รับคำอวยพรจากคนอื่นด้วย อีกทั้งยังมีความสุขกันได้อย่างโจ่งแจ้ง”
“เป็นเมียน้อยของคนอื่น ก็คือหนูที่อยู่ในคลองเน่า เห็นแสงไม่ได้ เพราะฉะนั้น ตอนที่พวกเมียน้อยถูกเมียหลวงทุบตีกลางถนน ก็เลยไม่มีใครสงสารเธอ ผู้ชายบนโลกนี้ตายไปหมดแล้วหรือไง? ทำไมต้องไปแย่งผู้ชายของคนอื่นด้วย?”
“แกหุบปาก!”
บัณฑิตาตวาดเสียง
“แกมีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้ อย่าลืมล่ะว่าแกเองก็เป็น……”
ลูกชายของเธอเป็นของเปรมา กนกอรแต่งงานกับลูกชายเธอ ก็เท่ากับว่าแย่งผู้ชายของเปรมาไป
กนกอรพูดอย่างแฝงนัยว่า “เปรมาเป็นคนอะไรของเขา? ชอบด้วยกฎหมายหรือเปล่า? ก็เป็นแค่หมากที่น่าสงสารเท่านั้น”
แล้วยังโง่เง่า คิดว่าคุณพัฒน์แต่งงานกับเทวิกา เขาก็จะมีโอกาสแล้วงั้นเหรอ?
เหอะ!
หากเปรมาจะเลือกนฤเบศวร์ และตกหลุมรักนฤเบศวร์ เขาก็ไม่ต้องโสดมาจนถึงตอนนี้หรอก
แต่น่าเสียดายที่แบตบอสไม่เข้าใจสักที
เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก อีกทั้งยังรักมาสิบกว่าปี ความรู้สึกแบบนั้น ทำให้แบตบอสยากที่จะตัดใจ
เขาหลักแหลมเรื่องธุรกิจมากๆ สามารถเป็นคู่อริของยศพัฒน์ได้ ดูออกได้ว่าเขาไม่ได้โง่ แต่ในเรื่องความรัก เขาเสียแต้มไปจนหมดสิ้น เทียบไม่ได้กับเศษหนึ่งส่วนพันของคุณพัฒน์เลยด้วยซ้ำ
บัณฑิตาโมโหจนอยากจะลงไม้ลงมือ พลันยกมือขึ้นตบกนกอร
กนกอรจับมือเธอไว้ได้อย่างง่ายดาย
“คุณหญิงทั้งสองท่าน ฉันไม่อยากมีปัญหา แต่ฉันก็ไม่กลัวที่จะมีปัญหา ถ้าพวกคุณคิดว่าฉันรังแกง่าย แล้วลงมือกับฉัน ฉันก็จะเอาคืนเหมือนกัน ฉันไม่ใช่ผู้ชายหรอกนะ ที่ไม่กล้าลงมือกับผู้หญิงอ่อนแอ อ้อ คุณสองคนก็เป็นคุณยายได้แล้วด้วยซ้ำ ก็ไม่ใช่สาวสวยที่อ่อนแอแล้ว ต่อให้เป็นผู้ชาย ก็ไม่ใจอ่อนกับพวกคุณหรอก”
สีหน้าของบัณฑิตาและณัฏฐาแดงก่ำสลับถมึงทึง
ประมาทไปแล้ว ประมาทไปแล้ว!
ทั้งคู่นึกว่าหากอาศัยบารมีของบัณฑิตาในฐานะแม่สามี ก็จะสามารถสยบกนกอรได้อย่างง่ายดาย คิดไม่ถึงเลยว่ายังไม่ทันไรก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า
กลับตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบซะเอง
ซ้ำยังถูกกนกอรก่นด่าต่อหน้าพวกลูกค้าคนอื่นๆ ทำให้เธอสองคนอับอายขายขี้หน้า