รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 213 เป็นสามีภรรยากัน
ใบหน้าหล่อเหล่าถมึงทึง นฤเบศวร์พูดเตือนกนกอรเสียงเย็นว่า “กนกอร อย่าลืมข้อตกลงของเราล่ะ ตอนที่ฉันต้องการให้เธอให้ความร่วมมือแสดงละครต่อหน้าปู่ฉัน เธอก็ต้องให้ความร่วมมืออย่างไร้เงื่อนไข!”
กนกอร “……งั้น นายรอแป๊บหนึ่งได้ไหม? ฉันขอกินข้าวกับพวกเทวิกาแล้วค่อยกลับไปกับนาย”
ไม่รอให้นฤเบศวร์ตอบ เธอก็พูดต่อว่า “กินข้าวที่บ้านพวกนาย แม้อาหารที่เชฟทำจะอร่อยมากและดูดีมากก็จริง แต่พวกนายกินน้อย ถ้าฉันกินข้าวกับพวกนาย ฉันต้องหิวตายแน่ ๆ ต้องกินจากข้างนอกก่อนแล้วค่อยกลับไป”
นฤเบศวร์เอ่ยอย่างไม่เกรงใจว่า “วันนั้นที่เราสองคนจดทะเบียนสมรสเธอก็กินข้าวที่บ้านฉัน ก็ไม่เห็นเธอกินน้อยเลยสักนิด เธอก็ยังมีชีวิตอยู่ดีไม่ใช่หรือไง”
กนกอรยิ้ม จากนั้นก็มองนฤเบศวร์เงียบๆ
แท้จริงแล้วเธอเองก็เป็นคนที่สวยมาก ดวงตาใสเป็นประกาย เพียงแต่ช่วงนี้ไม่รู้ว่าเธอนอนดึกหรือกินอาหารที่มีพลังงานสูงมากเกินไป ทำให้บนหน้าผากเธอมีสิวเล็กๆผุดขึ้น
สองสามีภรรยามองหน้าสบตากันครู่หนึ่ง นฤเบศวร์เป็นฝ่ายก้มหัวก่อน พลันเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “รีบไปกินเดลิเวอรี่เธอซะ ถ้ากินเสร็จเราก็กลับไปกัน ร้านนี้เทวิกาก็เป็นหุ้นส่วน ให้เธออยู่ที่นี่นานหน่อย ปิดประตูร้านแล้วค่อยกลับจะเป็นไรไป?”
แม้กนกอรจะเคยบอกว่าตอนที่เทวิกายังไม่แต่งงานกับยศพัฒน์ เธอแทบจะเป็นคนปิดประตูร้านทุกคืน แต่นฤเบศวร์ก็มักจะรู้สึกว่าเทวิกาเอาเปรียบกนกอร กนกอรใจกว้าง ไม่ว่าเรื่องอะไรก็รับไปทำเองหมด ทำให้เทวิกาไม่ต้องรับผิดชอบอะไร แต่เงินที่หามาได้กลับต้องแบ่งครึ่ง
กนกอรเสียเปรียบสุดๆ
“งั้นนายรอฉันก่อน ฉันกินข้าวเร็วมาก แป๊บเดียวก็เสร็จ”
กนกอรหันตัวจะเดินจากไป
แต่จู่ ๆมือใหญ่ก็รั้งเธอเอาไว้
กนกอรหันศีรษะ นฤเบศวร์รีบปล่อยมือเธอออกทันที ซ้ำยังเอามือไปเช็ดที่กางเกงอีกต่างหาก ราวกับว่าแค่แตะตัวกนกอรก็ทำให้มือเขาสกปรกยังไงอย่างงั้น
การกระทำของเขาทำให้กนกอรโมโห เธอพลันจับมือทั้งสองข้างของเขาไว้หมับ จากนั้นก็ลูบจับทั้งหน้ามือและหลังมือของเขา แล้วค่อยสะบัดมือเขาออก
“มือนายก็มีพิษเหมือนกัน ฉันจะไปเอามีดจากห้องครัวมาตัดมือนายทิ้ง ยาพิษจะได้ไม่ลามไปถึงหัวใจนาย แล้วทำให้นายตายตั้งแต่อายุยังหนุ่ม”
นฤเบศวร์ “……”
“ไม่ ไม่ติดทิ้งดีกว่า ปล่อยให้นายตายเร็วแหละดีแล้ว ถ้านายตาย ฉันจะได้สืบทอดมรดกทั้งหมดของนาย ฮ่า ๆ แล้วกลายเป็นเศรษฐินีอันดับหนึ่งของเมืองไง”
นฤเบศวร์ “……ตำแหน่งเศรษฐินีของเธอก็ได้มาจากการที่เหยียบศพฉันขึ้นไป”
“ว่ามาเถอะ นายยังอยากจะพูดอะไรอีก?”
เขารั้งเธอไว้ ไม่ใช่เพราะอยากจะจับมือเธอแน่ ๆ
ดูจากท่าทางรังเกียจของเขาเมื่อกี้นี้ ก็รู้แล้วว่าเขาไม่สนใจในตัวเธอเลยสักนิด
นฤเบศวร์สูดหายใจเข้าลึก แล้วเอ่ยเสียงเบาว่า “ครั้งหน้าสั่งเดลิเวอรี่ ก็อย่าลืมสั่งเผื่อให้ฉันด้วย”
“ฉันสั่งเดลิเวอรี่ทุกวัน ก็ต้องสั่งให้นายทุกวันเลยเหรอ”
เขาไม่ได้แวะมาที่ร้านเธอทุกวันเสียหน่อย
เห็นนฤเบศวร์ไม่ตอบ เธอก็ถือว่าเขายอมรับ
มือเรียวยื่นไปตรงหน้าเขา แล้วทำท่านับเงิน
สีหน้าของนฤเบศวร์ถมึงทึงลงทันที
ยัยนี่พูดเรื่องเงินกับเขาตลอด!
พวกเขาเป็นสามีภรรยากันนะ!
สามีภรรยาต้องอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต!
“ขนาดสั่งเดลิเวอรี่ยังจะเอาเงินจากฉันอีกเหรอ? กนกอร เธอขัดสนขนาดนั้นเหรอ? ทั้งที่ฉันก็ให้ค่าใช้จ่ายเธอทุกเดือนแท้ๆ”
นฤเบศวร์กัดฟันถาม
“นายไม่ได้กินแค่มื้อเดียว แต่นายจะกินทุกวัน แม้ฉันจะสั่งเดลิเวอรี่เจ็ดสิบกว่าบาทให้นาย แต่วันหนึ่งนายกินสองมื้อ รวมแล้วก็ตกเกือบร้อยห้าสิบบาทต่อวัน เอามาคำนวณดู นี่ก็เป็นค่าใช้จ่ายก้อนหนึ่งไม่ใช่เหรอ? นายไม่ให้เงินฉัน ฉันยังต้องสั่งเดลิเวอรี่ให้นายฟรีอีกเหรอ? ฉันติดหนี้นายหรือไง?”
นฤเบศวร์ “…..พวกเราไม่ใช่…..ฉันไม่ได้สั่งเดลิเวอรี่กินทุกวันสักหน่อย ช่างเถอะ ฉันไปกินบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลของฉันที่โรงแรมดีกว่า เธอก็น้ำลายไหลไปเถอะ”
“นี่ดูสิ นายว่าฉันขี้งก แล้วนายใจกว้างตรงไหน? ทั้งที่บ้านนายมีโรงแรมแท้ๆ ในโรงแรมก็มีบุฟเฟ่ต์อาหารทะเล ไม่เคยจะเลี้ยงฉันเลยสักครั้ง”
นฤเบศวร์โมโหกับความหน้าด้านของกนกอรจนแค่นเสียงหัวเราะ
แต่จะว่าไปแล้ว เขาก็ไม่เคยเลี้ยงข้าวกนกอรจริงๆ
เขายังไม่เคยเลี้ยงกนกอร แล้วมีสิทธิ์อะไรให้กนกอรเลี้ยงเขา
“วันหยุดเสาร์อาทิตย์ ฉันจะพาเธอไปริมทะเล บ้านฉันมีคฤหาสต์ติดทะเลหลังหนึ่งที่นั่น ไปพักที่นั่นสักสองวัน ให้เธอได้กินอาหารทะเลสดๆที่แท้จริง ให้เธอกินจนไม่อยากกิน กินจนอ้วก!”
กนกอรยิ้มตาหยี “ฉันชวนวิกาด้วยได้ไหม? เราสองคนมีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน ที่สำคัญคือ เราสองคนชอบกินอาหารทะเลกันทั้งคู่ มีเธออยู่เป็นเพื่อนฉัน รับรองว่าจะกินให้นายจนแน่ ๆ”
พวกเธอกินเก่งกันทั้งคู่
มีเพื่อนสักคน ถึงจะเรียกว่ากินอย่างเอร็ดอร่อย
นฤเบศวร์ “…..คฤหาสต์ติดทะเลหลังข้างๆที่ใหญ่กว่าของบ้านฉันก็คือของตระกูลอริยชัยกุล เทวิกายังต้องให้ฉันเลี้ยงอาหารทะเลเหรอ? ผู้ชายเธอทำให้เธอพอใจได้”
“วิกา วิกา”
กนกอรทิ้งนฤเบศวร์กลับไปหาเพื่อนรักทันที
นฤเบศวร์: เทวิกาสำคัญกว่าเขาอีกงั้นเหรอ!
กนกอรกลับมาที่ข้างกายเทวิกา แล้วเปิดเดลิเวอรี่ของเธอ กินไปพลางกระซิบพูดกับเทวิกาไปพลาง
ยศพัฒน์มองเทวิกาอย่างรักใคร่
พิชญ์สินีกับคุณหญิงธิษณามองภาพตรงหน้า ทั้งคู่ล้วนอดหัวเราะไม่ได้
แม้คุณหญิงธิษณาจะสติฟั่นเฟือน แต่กลับชอบที่จะเห็นเทวิกากับยศพัฒน์รักกัน
ภาพนั้นทำให้เธอรู้สึกปริ่มใจ
“ไปพักที่ริมทะเลตอนวันหยุดงั้นเหรอ?”
เทวิกาหันศีรษะไปมองนฤเบศวร์ที่กำลังมองพวกเธอกินเดลิเวอรี่จากที่ไม่ไกล
พลันบังเอิญเห็นแววตาของนฤเบศวร์ที่จับจ้องกนกอรไม่วางตา เมื่อเห็นเธอหันมามองเขา นฤเบศวร์ก็รีบละสายตาไปอย่างตื่นตระหนก
เทวิกากระพริบตา นี่นฤเบศวร์ตกหลุมรักเพื่อนเธอแล้วงั้นเหรอ?
เปรมา: ไหนบอกว่าจะรักฉันไปตลอดชีวิตไง?
แน่นอน ว่าเทวิกายินดีที่จะเห็นเพื่อนรักมัดใจนฤเบศวร์ได้ ผู้หญิงอย่างเปรมาไม่ควรได้ใครไปทั้งนั้น
ยศพัฒน์ไม่รักเธอ เธอก็ยังจะตามตื๊อไม่เลิก
นฤเบศวร์รักเธอมาก แต่เธอกลับเหมือนตาบอด เอาแต่ให้นฤเบศวร์เป็นตัวสำรอง รู้สึกว่านฤเบศวร์ดีกับเธอนั้นเป็นเรื่องที่สมควรและถูกต้อง
เธอไม่เคยคิดเลยเหรอ ว่าสักวันนฤเบศวร์จะเสียใจจนไปจากเธอ?
เทวิกาละสายตากลับมา แล้วเอ่ยกับเพื่อนรักว่า “ตั้งแต่ที่เราสองคนเปิดร้านนี้กันมา ก็นานแล้วที่ไม่ได้ออกไปพักผ่อนหย่อนใจ งั้น เราอาทิตย์นี้เราปิดร้านไปเที่ยวสักสองวันเถอะ ถือซะว่าให้วันหยุดกับตัวเอง”
ยศพัฒน์บอกว่าจะพาเธอไปเที่ยวที่เกาะส่วนตัวของบ้านเขา จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ไปเลย หลักๆเพราะช่วงนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย
แผนมักไม่ทันการเปลี่ยนแปลง
“งั้นตกลงกันตามนี้”
กนอรมองไปที่ยศพัฒน์ “คุณพัฒน์ ไม่ถือสาพาก้างขวางคออย่างฉันไปด้วยใช่ไหม”
ยศพัฒน์ยิ้มเอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “เกรงว่าจะเป็นคนอื่นมากกว่าที่เห็นพวกฉันเป็นก้างขวางคอ”
เขาพูดกับภรรยาต่อว่า “งั้นเสาร์อาทิตย์ไปริมทะเลกันเถอะ ถือโอกาสตอนที่คุณปู่คุณย่าและพ่อแม่อยู่พร้อมหน้ากันเที่ยวกับพวกเขาดีๆ”
“โอเค”
เทวิกาตอบอย่างอารมณ์ดี แววตาที่มองสามีตัวเองอ่อนโยนจนแทบจะละลาย
กนกอรรู้สึกเหมือนหมาโสดที่ถูกทารุณ แม้แต่เดลิเวอรี่ก็เริ่มไม่อร่อย
เธอแอบย้ายตำแหน่งเว้นระยะห่างเล็กน้อย จะได้ไม่ต้องถูกสองสามีภรรยาหวานแหววใส่จนเธอทรมานตาย