รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 317 ถูกจับได้คาหนังคาเขาอีกครั้ง
“ตอนนี้ลูกค้าในร้านค่อนข้างเยอะ ออกไปไม่ได้ ถ้าคุณกันตภณไม่รังเกียจ สั่งจากข้างนอกมาเลี้ยงฉันก็ได้ แล้วกินกันในร้านของฉัน”
กันตภณตรึกตรองสักครู่ แล้วพูดขึ้นว่า: “ก็ได้ เดี๋ยวผมสั่งอาหารจากข้างนอกเดี๋ยวนี้แหละ”
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา เปิดแอพ เตรียมสั่งอาหารสองชุด
ประตูกระจกถูกคนผลักออก หูของกันตภณไวเป็นพิเศษ เขาได้ยินเสียงฝีเท้าหนักแน่นที่คุ้นเคยนั้น เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็เห็นนฤเบศวร์พาบรรดาบอดี้การ์ดเดินเข้ามา
ตายแล้ว!
เจอเข้าพอดีอีกแล้ว!
ช่วงนี้เขาโชคไม่ดีจริงๆ !
ปฏิกิริยาแรกของกันตภณก็คือหลบไปอยู่ใต้โต๊ะ เพื่อไม่ให้นฤเบศวร์เห็น
แต่น่าเสียดาย เพราะนฤเบศวร์เห็นแล้ว
ใครให้กนกอรนั่งอยู่ตรงข้ามเขาหล่ะ
ให้ตายสิ กนกอรสองมือกำลังเท้าคางมองเขาอยู่
เมื่อนฤเบศวร์เห็นฉากนี้ ทำให้เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันที
กนกอรหันหลังให้ประตู เธอยังไม่รู้ว่าคนที่มาคือนฤเบศวร์ เพราะไม่ว่ายังไงก็มีพนักงานสาวในร้านดูแลลูกค้าอยู่แล้ว เธอชื่นชมหนุ่มหล่อของเธอต่อดีกว่า
กันตภณกะพริบตาให้เธอ และกะพริบตาให้เธออีกครั้ง
กนกอรอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า: “ภณ ตาคุณเป็นอะไรหรือเปล่า?ทำไมถึงกะพริบตาตลอด ถ้าเป็นอะไรต้องไปหาหมอ หรือไปซื้อยาหยอดตามาลองใช้ดู”
ใบหน้าของกันตภณตื่นเต้น
“จู่ๆ คุณก็มาตื่นเต้นทำไม?ไม่ใช่บอกว่าจะสั่งอาหารจากข้างนอกหรอกเหรอ?คุณไม่เคยสั่งอาหารใช่ไหม เลยไม่รู้ว่าอาหารร้านไหนอร่อย?ฉันสั่งเองดีกว่า คุณกินได้เยอะแค่ไหน?ต้องการสั่งสองชุดใช่ไหม?”
กนกอรหยิบโทรศัพท์ออกมา เตรียมจะสั่งอาหาร
มีมือยื่นออกมาจากกลางอากาศเพื่อมาแย่งโทรศัพท์ของเธอไป
เธอรีบหันหน้าไป เห็นนฤเบศวร์ยืนอยู่ด้านข้างเธอ และจ้องมองเธอด้วยสายตามืดมน
และเมื่อมองไปที่มือเขาอีกครั้ง ท่าทางของเขาเหมือนจะบีบโทรศัพท์ของเธอให้แหลกละเอียด
“คุณมาได้ยังไง?”
กนกอรลุกขึ้น แล้วเอามือไปแย่งโทรศัพท์กลับมาจากมือของนฤเบศวร์
“กนกอร!”
นฤเบศวร์กัดฟันตะโกนแกมา “คุณอยู่กับไอ้ควายป่าคนนี้อีกแล้วเหรอ!”
กันตภณที่จะแอบวิ่งหนีไปได้หยุดชะงักลง ควายป่าเหรอ?
หมายถึงเขาเหรอ?
เขาอ่อนโยนหล่อเหลาขนาดนี้ เหมือนควายป่าที่ไหน?
“ฉันอยู่กับใครเกี่ยวอะไรกับคุณ?บอสพาล!”
นฤเบศวร์ใบหน้าดำดิ่ง
“ผมไม่ใช่คนพาล!”
กนกอรด่ากลับเขาออกไปว่า: “คุณไม่รักษาสัญญา ทำตัวอันธพาล ไม่ใช่คนพาลได้ไง!”
“ผมไม่รักษาสัญญาตรงไหน?คุณมีหลักฐานพิสูจน์ว่าผมเป็นอันธพาลไหม?”
กนกอรพูดไม่ออก
“ภณ พวกเราไปกินข้าวกัน”
เธอยื่นมือไปจับกันตภณที่คิดจะแอบหนี
กันตภณแสดงสีหน้าน่าสงสารออกมาทันที
เขาสงสัยว่าเถ้าแก่ต้องหาคนมาเฝ้าดูเขาอยู่แน่นอน เพราะเขามาหากนกอรเมื่อไหร่ นฤเบศวร์ก็จะปรากฏตัวออกมาทันที การกระตุ้นแบบนี้ถึงจะได้ผลชัดเจน
กนกอรไม่สนใจปฏิกิริยาของกันตภณ ดึงมือเขาแล้วเดินออกไป
ถ้าเทวิกาอยู่ในเหตุการณ์ด้วย คงต้องปิดหน้าไม่กล้ามองแน่นอน
เธอกำลังเล่นกับไฟแท้ๆ
นฤเบศวร์กำลังหึงอยู่ เธอยังไปจับมือกันตภณอีก เติมน้ำมันบนกองไฟแท้ๆ
แน่นอน นฤเบศวร์ได้ยื่นมือไปจับข้อมือของกนกอรไว้ หลังจากรั้งเธอไว้ได้แล้ว ก็ได้แตะลงไปที่ตัวของกันตภณ
กันตภณต้องการป้องกันตัวเอง จึงรีบสลัดมือของกนกอรออก แล้วเดินถอยหลังไป เพื่อหลีกเลี่ยงขาของนฤเบศวร์
“ธาม โยนผู้ชายคนนี้ออกไป ต่อจากนี้พวกนายสองคนอยู่ดูแลปกป้องคุณหญิงใหญ่ที่นี่ ควายป่าคนนี้มาที่นี่เมื่อไหร่ ก็ไล่เขาออกไปได้เลย!”
ในขณะที่นฤเบศวร์กำลังสั่งบอดี้การ์ดให้โยนกันตภณออกไปนั้น ก็ได้ลากตัวกนกอรเดินออกไปข้างนอกด้วย
ตัวตนของควายป่าคือใคร เขายังไม่ได้ตรวจสอบชัดเจน
น่าแปลก เขาตรวจสอบในเมืองแอคเซสซ์ แล้วรอบหนึ่ง แต่ก็ตรวจสอบตัวตนของควายป่าไม่เจอ เป็นที่น่าสงสัยมากว่าคนคนนี้ปกปิดตัวตนที่แท้จริงของตัวเองอยู่
คุณปู่เร็น:ฉันเป็นคนวางแผนเอง แกจะตรวจสอบเจอได้อย่างไร?
เมื่อเห็นนฤเบศวร์พากนกอรออกไป พนักงานสาวในร้านก็ไม่กล้าช่วย ได้แต่โทรศัพท์หาเทวิกา หลังจากที่เทวิการับโทรศัพท์แล้ว เธอพูดกับเทวิกาว่า: “พี่วิกา พี่อรกับคุณนฤเบศวร์ทะเลาะกันอีกแล้ว”
เทวิกา: “……ทำไมถึงทะเลาะกันอีก?”
“คุณกันตภณคนนั้นมาอีกแล้วไง เขาเพิ่งมาได้ไม่นาน คุณนฤเบศวร์ก็ตามเข้ามาติดๆ เจอเข้ากันพอดี เลยเกิดอาการหึงหวงขึ้นมา”
เทวิกาพูดแซวออกมาว่า: “นฤเบศวร์ได้ติดตั้งจีพีเอสไว้ในตัวของกันตภณใช่ไหม ทำไมถึงบังเอิญแบบนี้ตลอด ไม่เป็นไรหรอก นฤเบศวร์ไม่ทำร้ายพี่อรของเธอหรอก เธอเฝ้าร้านดีๆ ก็พอ”
กำชับพนักงานสามสีคำ เทวิกาถึงวางสาย
เธอกินอิ่มดื่มเสร็จแล้ว แต่ก็ยังนั่งอยู่ที่โรงอาหารสักพัก พูดคุยจิปาถะกับเพื่อนร่วมงานที่เพิ่งเข้ามาทำงานเหมือนกัน
ต่อมา ได้เดินออกไปจากโรงอาหารพร้อมกัน
“ท่านประธาน”
ได้ยินเสียงคนอื่นพูดทักทายออกมาอย่างมีมารยาท
เทวิกาหันหน้าไปมอง เป็นผู้ชายของเธอจริงๆ เขาเดินออกมาจากโรงอาหารอีกที่หนึ่ง
บริษัทบี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ปใหญ่มาก จึงมีโรงอาหารหลายที่ เทวิกาเป็นพนักงานทั่วไป จึงไม่ได้กินข้าวโรงอาหารเดียวกันกับพนักงานระดับบริหาร
เธอไม่รู้เลยว่าผู้ชายตัวเองเลือกที่จะกินข้าวในโรงอาหาร
อย่าว่าแต่เทวิกาคาดไม่ถึงเลย ทุกคนในบริษัทก็คาดคิดไม่ถึงเหมือนกัน
ตอนเที่ยงคุณยศพัฒน์เลือกกินข้าวที่โรงอาหาร พนักงานในโรงอาหารต่างตัวสั่นกันไปหมด กลัวว่ากับข้าวในโรงอาหารทำได้ไม่ดี แล้วถูกคุณยศพัฒน์จับจุดอ่อนได้
ผู้บริหารระดับสูงคนอื่นๆ เมื่อได้ยินข่าวนี้ วันต่อมา ต่างก็พากันกินข้าวในโรงอาหารของบริษัท
ในขณะเดียวกัน ได้ทำให้กับข้าวในโรงงานต่างๆ ดีขึ้นเยอะเลย กับข้าวสีสันหลากหลาย อาหารสดใหม่ คุณป้าที่ตักแบ่งกับข้าวมือไม่สั่นอีก และปริมาณกับข้าวที่แบ่งก็ได้กันเพียงพอ
พนักงานต่างพากันดีใจมาก
ไม่มีใครรู้เลย ว่าคนที่เปลี่ยนแปลงทุกอย่างในตอนนี้ คือคนที่หน้าตาธรรมดา เป็นพนักงานทั่วไปที่มีชื่อและนามสกุลเดียวกันกับภรรยาประธานนั่นเอง
ยศพัฒน์เห็นเทวิกาตั้งนานแล้ว
ท่าทางเขาปรกติ พูดคุยกับไฮเอนด์ทัชอยู่แล้วเดินเข้ามาหา
ตลอดทางที่เดินผ่าน พนักงานแต่ละคนพูดทักทายออกมา สวัสดีท่านประธาน สวัสดีคุณอินทัช
เทวิกาก้มหน้าลง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นเขา
ปฏิกิริยาของเขาตกอยู่ในสายตาของยศพัฒน์ เขาอยากยิ้ม แต่ยิ้มไม่ได้
สาวน้อยคนนี้ นึกว่าตัวเองเป็นเต่าเหรอ หดหัวเข้าไปในกระดอง คนอื่นก็จะไม่เห็นเธอเหรอ?
เทวิกาเดินๆอยู่ ก็รู้สึกถึงเพื่อนร่วมงานต่างไม่ได้อยู่ข้างกายแล้ว และไม่ได้ยินคนอื่นทักทายประธานอีก เธอนึกว่ายศพัฒน์เดินไปแล้ว หันหน้าไปมอง ไม่เห็นยศพัฒน์แล้วจริงๆ
เธอจึงโล่งใจออกมา
ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะเรียกเธอที่รักต่อหน้าสาธารณชน
เช้านี้ เธอดูออก เขาเกือบเรียกเธอที่รักออกมาแล้ว
โอ๊ย ชนคนแล้ว!
เทวิกาไม่เพียงชนโดนคน แต่เกือบถอยหลังล้มลงไป เธอยื่นมือออกไปโดยสัญชาตญาณ อยากจับอะไร และเธอก็จับโดนเชือกเส้นหนึ่งพอดี
เธอใช้แรงจับเชือกเส้นนั้นไว้สุดแรง จึงไม่ล้มลงไปจูบพื้น
เพียงแต่ว่า ทำไมเอวของเธอถึงมีมืออันใหญ่มาโอบเอวเธอไว้?
เทวิกาดูดีๆ ถึงเห็นใบหน้าผู้ชายของเขาใกล้อยู่แค่เอื้อม
สิ่งที่เธอจับไว้ไม่ใช่เชือก แต่เป็นเนกไทของยศพัฒน์ เนื่องจากเธอดึงมันสุดแรง ยศพัฒน์จึงต้องใช้มือประคองเอวเธอไว้ และต้องร่วมมือโน้มตัวไปข้างหน้าเพราะถูกเธอดึง จึงทำให้พวกเขาสองคนใกล้ชิดกันมากขึ้น
ภาพฉากนี้——
ช่างคลุมเครือเหลือเกิน!
ทุกคน:……
อินทัชตกตะลึงมาก
พนักงานใหม่คนนี้ ชนบอสไม่พอ ในขณะที่ใกล้จะหกล้มกลับดึงเนกไทของบอสไว้อีก นี่เป็นการกระทำล็อกคอบอสให้ตายได้เลยนะ!
ดูท่าแล้ว พนักงานใหม่คนนี้ น่าจะมาทำงานที่บริษัทบี.เอ.เอ็ม.กรุ๊ปได้แค่วันเดียว
อินทัชแสดงความเห็นอกเห็นใจออกมา