รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 338 ญาติผู้พี่
ไรยาพาธนัทไปที่ห้องทำงาน เชิญเขานั่งรอที่โซฟา แล้วยกน้ำมาให้เขาหนึ่งแก้ว
“ขอบคุณครับ”
ธนัทพูดขอบคุณด้วยความเกรงใจ
ไรยายิ้มให้แล้วพูด:“คุณธนัทนั่งรอสักครู่นะคะ ท่านประธานไม่นานก็กลับมาค่ะ”
“ครับ”
ธนัทพยักหน้า
“ฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ ถ้าคุณธนัทต้องการอะไรก็เรียกฉันได้ค่ะ”
ธนัทพยักหน้าอีกครั้ง
ไรยาถอยออกจากห้องทำงานของประธาน
ธนัทยกแก้วน้ำขึ้นมา แล้วดื่ม ขณะที่มือถือแก้วอยู่นั้น ก็สังเกตรอบๆห้องทำงานของยศพัฒน์ไปด้วย
เขาไม่ได้ก่อความวุ่นวาย นั่งอยู่บนโซฟาอยู่ตลอด จนกระทั่งยศพัฒน์ผลักประตูเข้ามา
เขาวางแก้วลง ลุกขึ้นแล้วหมุนตัว มองยศพัฒน์ที่เข้ามาจากด้านนอก
ประยสย์บอกว่า สามีของญาติผู้น้องเขาดูเป็นผู้ชายที่อบอุ่นและเก่งมาก
ก็จริง ถ้าไม่มีความสามารถรวมถึงเล่ห์เหลี่ยม จะสร้างบริษัทที่ใหญ่ขนาดนี้ได้ยังไง
“คุณพัฒน์”
ยศพัฒน์เดินมาตรงหน้า ธนัทก็เลยเดินไปข้างหน้าเล็กน้อย แล้วทักทายเขาด้วยความเกรงใจ แล้วแนะนำตัวเอง:“ผมชื่อธนัท”
“สวัสดีครับพี่”
ยศพัฒน์เรียกเขาว่าพี่ ทำให้ธนัทแปลกใจอย่างมาก
ยศพัฒน์โอบไหล่ธนัทอย่างเป็นกันเอง ราวกับเพื่อนที่คุ้นเคยกัน โอบไหล่ของธนัท แล้วพาเขาไปนั่งที่โซฟา
ธนัทถูกการกระทำของเขาทำให้แปลกใจ
“พี่จะมาทำไมไม่บอกผมล่วงหน้าสักหน่อยล่ะครับ ผมจะได้ไปรับ”
หลังจากที่นั่งลง ยศพัฒน์เห็นว่าบนโต๊ะมีเพียงแค่ผลไม้ฤดูกาลวางอยู่ ก็เลยลุกออกไป
ธนัทไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร ขณะที่มองเขาเดินไป ก็พูดขึ้นมา:“ฉันไม่ได้ตั้งใจมาที่นี่นะ ออกมาทำธุระนิดหน่อยน่ะ ประยสย์บอกให้ฉันเอาของมาให้นาย ฉันก็เลยถือโอกาสมาเยี่ยมนายกับวิกาด้วย”
ที่เมืองซูเพร่า คุณนายตระกูลสาระทาเพียงคนเดียวของเขา เพราะการกระทำที่เงียบเชียบ และก็เพราะตระกูลธวัชพลังกรสามารถพูดได้ว่าตกอับแล้ว อาศัยความช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลสาระทา เพื่อจะพักหายใจเท่านั้นเอง
ไม่มีใครสนใจตระกูลธวัชพลังกร
การที่เขาต้องมาหายศพัฒน์ ก็คงไม่ได้เป็นจุดสนใจเท่าไหร่
ยศพัฒน์ยกจานขนมสองจานเข้ามา วางบนโต๊ะชารับแขก แล้วพูด:“นี่เป็นขนมในร้านของวิกาครับ รสชาติไม่เลวเลย พี่ลองชิมดู”
ก่อนที่ธนัทจะมาได้ทำความเข้าใจกับเรื่องทั้งหมดที่เมืองแอคเซสซ์ของญาติผู้น้องแล้ว
เขายิ้ม:“ฉันก็ได้ยินประยสย์พูดมาเหมือนกัน ขนมของร้านวิกาทั้งสวยทั้งอร่อย เขาไม่ชอบกินของหวาน เลยกินได้แค่สองชิ้นน่ะ”
พูดถึงเทวิกา สีหน้าของยศพัฒน์ก็อ่อนโยนขึ้นมา สายตายิ้มแย้มแล้วพูด:“ลุงตี๋เป็นคนทำครับ ถ้าวิกามีเวลาบางครั้งก็จะเข้าไปช่วย”
“ตอนที่เธอไม่ได้เข้าไปช่วยไม่ใช่ว่าอัพเดทนิยายเหรอ?”
“พี่ติดตามนิยายเธออยู่?”
ธนัทยิ้ม:“ญาติผู้น้องฉันเขียนทั้งที ไม่ว่ายังไงก็ต้องสนับสนุนกันหน่อยสิ ให้รางวัลเธอไปไม่น้อยเลยนะ พูดกันตามจริง ตั้งแต่เกิดมา ฉันพึ่งจะได้อ่านนิยายรักครั้งแรกนี่แหละ”
ยศพัฒน์หยิบมือถือออกมา “ผมก็เหมือนกันครับ เพราะวิกานี่แหละ เป็นครั้งแรกที่ผมดาวน์โหลดแอพนิยายมา”
เขาเปิดแอพที่เทวิกาลงนิยายไว้ แล้วกดเปิดหน้าเว็บนิยายของเทวิกา ดูไปดูมา จู่ๆก็ขมวดคิ้ว แล้วพูด:“ใครให้ไข่แตกวิกาเยอะขนาดนั้นเนี่ย”
ธนัทที่หยิบขนมขึ้นมาชิมหนึ่งชิ้น ฟังคำพูดของยศพัฒน์แล้วรีบถาม:“ไข่แตกมันทำไมเหรอ? ไข่หนึ่งใบต้องใช้100เหรียญหนังสือ ก็เท่ากับห้าบาท ราคาเท่ากับเพชรเลย”
“ไข่แตกคือให้คะแนนแย่ครับ ไข่แตกไม่ใช่การชื่นชม วิกาไม่มีเงินหรอก”
ธนัท:“.…..งั้นให้ไปแล้วทำไงดี? ผมนึกว่าทุกอันคือชื่นชม ผมเลยกดให้ทุกอัน”
ยศพัฒน์:“.…..”
ที่แท้เป็นญาติผู้พี่ที่กดให้ไป
คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด
แต่ว่า ถ้าวิการู้ เธอคงได้รับผลกระทบอย่างหนักแน่
“เดี๋ยวเจอวิกา ฉันจะอธิบายให้เธอฟังเอง”
ธนัทรู้สึกผิดเล็กน้อย เขาไม่ทันได้ทำความเข้าใจ ก็กดให้ไปมั่วซั่ว ผลสุดท้ายกลับปาไข่แตกไปกองใหญ่เลยทีเดียว
ของขวัญเจอหน้าของญาติผู้น้องเขา กลายเป็นไข่กองใหญ่!
“ไม่เป็นไรครับ คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด พี่ไม่ต้องตำหนิตัวเองไปหรอกครับ ประยสย์บอกให้พี่เอาอะไรมาให้ผมเหรอ?”
ยศพัฒน์เปลี่ยนหัวข้อสนทนา เข้าเรื่องเลยแล้วกัน ธนัทจะได้ไม่รู้สึกผิดไปมากกว่านี้
ธนัทหยิบรูปภาพรวมถึงกระดาษออกมาจากกระเป๋าสูทด้านในหลายใบ กระดาษพวกนั้นถูกพับไว้
“ประยสย์ให้ฉันเอามามาให้นาย”
ธนัทยื่นรูปและกระดาษพวกนั้นไปให้ยศพัฒน์
ยศพัฒน์รับรูปและกระดาษมา เขามองรูปผ่านๆ แล้ววางลง หลังจากนั้นก็เปิดกระดาษออก เป็นข้อมูลของคนในรูปพวกนั้น
เขาบอกกับประยสย์ว่าให้สืบเด็กที่ผู้ชายตระกูลสาระทาพวกนั้นเลี้ยงดูไว้
ประยสย์สืบเร็วมาก สืบได้ไม่น้อยเลย เพียงแต่ไม่มีผู้หญิงคนนั้นที่อินทัชบอก
หรือว่า พวกเขาจับทิศทางการหาไม่ถูก? หรือว่าประยสย์ไม่ได้สืบให้ดี?
หรืออาจจะเป็นศัตรูที่มีเล่ห์เหลี่ยมเกินไป
ธนัทมองสีหน้าของยศพัฒน์ที่หนักใจ ไม่พูดอะไรออกมาสักคำ เขาอยากจะถาม แต่ก็ไม่ถาม
ถึงแม้ว่ายศพัฒน์จะเป็นสามีของญาติผู้น้อง แต่ก็พึ่งจะเจอกันครั้งแรก ต่อให้ยศพัฒน์แสดงออกว่าสนิทกับเขา เป็นกันเอง แต่ถ้ายศพัฒน์ไม่พูดออกมาเอง ธนัทก็คงไม่ถามก่อน
ยศพัฒน์เก็บข้อมูลรวมถึงรูปภาพพวกนั้นไว้
รอส่งให้อินทัช ให้อินทัชได้ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
บางที ศัตรูอาจจะสังเกตเห็น เลยใช้วิธีการที่บดบังสายตา
“พ่อผมกับพี่ใหญ่สบายดีนะครับ?”
ยศพัฒน์ไม่ได้พูดกับธนัทเรื่องนั้น บางเรื่อง คนรู้ยิ่งน้อยยิ่งดี
สถานการณ์ของตระกูลธวัชพลังกรที่เมืองซูเพร่ารวมถึงความสามารถของธนัทเป็นยังไง ยศพัฒน์เคยสัมผัสมา ไม่ว่ายังไงก็เป็นญาติฝ่ายแม่ของแม่ยาย เขาต้องรู้ให้แน่ชัดก่อนอยู่แล้ว
“หลังจากที่ลุงกลับมาจากเมืองแอคเซสซ์ก็ยุ่งหัวหมุนเลย ประยสย์บอกว่า เขาไม่ได้กลับบ้านหลายวันแล้ว ประยสย์เองก็ยุ่งมากเหมือนกัน แต่อารมณ์ของประยสย์ดีกว่าเมื่อก่อนอย่างเห็นได้ชัด มีบางครั้งที่สามารถเห็นรอยยิ้มของเขา”
เวลาที่ธนัทพูดถึงประยสย์ สีหน้าของเขาเจ็บปวดใจ
เขาในฐานะญาติผู้พี่กลับช่วยอะไรประยสย์ไม่ได้ ในทางกลับกันประยสย์เอาแต่ปกป้องเขา
“แรงกดดันของประยสย์นั้นเยอะมาก สถานการณ์ก็ไม่ดี ลุงฉันเขา……คิดว่านายก็คงรู้ ฉันจะไม่พูดให้มากความแล้วกัน ไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นผู้อาวุโสของฉัน ช่วยตระกูลธวัชพลังกรไว้เยอะมาก ถ้าไม่นับเรื่องที่เขาทำผิดต่อคุณอาฉัน เขานับว่าเป็นผู้มีพระคุณของตระกูลธวัชพลังกรฉันเลยล่ะ”
ถ้าไม่ได้การช่วยเหลือของคุณลุง แอมที กรุ๊ปคงจบลงไปตั้งนานแล้ว
ถ้าไม่มีคุณลุง เขาไม่มีทางได้เข้าควบคุมแอมที กรุ๊ปได้อย่างราบรื่นหรอก
ตอนที่เขายังหนุ่มยังแน่นเคยได้เข้าเรียนพร้อมกันกับประยสย์ คุณลุงไม่คิดว่าเขาเป็นคนนอกเลยสักนิด อะไรที่สอนได้ก็จะสอนเขา สามารถพูดได้ว่า ประยสย์เรียนอะไรมา เขาก็เรียนแบบนั้นทั้งหมดเหมือนกัน เพียงแต่เขาไม่ได้ฉลาดหลักแหลมแบบประยสย์
“จริงสิ คุณอาฉันอยู่ที่ไหนล่ะเนี่ย? ที่ฉันมาครั้งนี้ อย่างแรกคือมาส่งของ หลักๆคือมาเยี่ยมวิกาแล้วก็คุณอาด้วย ตั้งแต่ฉันโตขึ้น คุณอาฉันก็สมองเลอะเลือน ถึงขั้นเธอเห็นฉันแต่ไม่รู้ว่าฉันคือใครล่ะมั้ง”
ในคำพูดของธนัทมีความกลุ้มใจอยู่
คิดในทางกลับกัน ตอนนี้คุณอาฟื้นฟูเป็นปกติแล้ว นั่นคือเรื่องดี เขาไม่ต้องกลุ้มใจอีกต่อไป
เชื่อว่า คุณอาจะใช้ได้ชีวิตที่สงบและมีความสุข