รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 365 เธอเข้าใจเขามากๆ
“คุณชาย คุณนายน้อย คุณเปรมามาแล้ว”
จู่ ๆ ธามก็เข้ามาบอกทั้งสองคนว่าเปรมามาแล้ว
เปรมาเพิ่งจอดรถเสร็จพอดี
เธอไม่ได้มาหากนกอรหรือเทวิกา แต่เธอมาหานฤเบศวร์
ตั้งแต่ที่นฤเบศวร์ตัดใจจากเธอ เธออยากจะพบนฤเบศวร์เป็นการส่วนตัวก็กลายเป็นเรื่องที่ยากมาก
หากไปบ้านตระกูลเดชอุป คุณน้าบัณฑิตาก็ไม่อยากเจอเธอ คุณปู่เร็นก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เขาไม่เคยชอบเธออยู่แล้ว
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงเข้าไปเหยียบไม่ได้แม้แต่ประตูบ้านตระกูลเดชอุป
หากไป RA กรุ๊ปเหรอ แต่ก่อน ทุกครั้งที่เธอไป RA กรุ๊ปก็ราวกับราชินีมาเยือน ทุกคนล้วนนอบน้อมเกรงใจเธอ กลัวว่าหากต้อนรับไม่ดีก็จะทำให้เธอโกรธแล้วโดนไล่ออก
ส่วนตอนนี้น่ะเหรอ เมื่อเธอไปถึง ก่อนอื่นก็ต้องลงทะเบียนที่ห้องรปภ.ก่อน พอเข้าไปแล้ว ก็ยังต้องถูกพนักงานต้อนรับรั้งไว้ บอกว่าหากอยากเจอนฤเบศวร์ก็ต้องนัดไว้ก่อน และคนที่อยากเจอนฤเบศวร์ก็มีมากมายนับไม่ถ้วน หากนัดไว้ก็คงต้องนัดไปถึงปีใหม่ถึงจะได้เจอ
มีเพียงมีวิธีเดียวคือต้องมา One Day In Coffee แล้ว
ตราบใดที่กนกอรอยู่ที่นี่ นฤเบศวร์ก็จะต้องมาแน่ๆ
เดิมทีเปรมาอยากจะมารอที่นี่ทั้งวันด้วยซ้ำ แต่ใครจะรู้ว่าทันทีที่มาถึงก็เห็นรถของนฤเบศวร์กับบอดี้การ์ดจอดอยู่ที่นี่พอดี
ซ้ำยังมีรถใหม่เอี่ยมอีกคันหนึ่ง
นฤเบศวร์ซื้อมาให้กนกอรงั้นเหรอ?
ใช่แล้ว หากนฤเบศวร์ชอบใครสักคน สิ่งที่เขาชอบทำที่สุดก็คือมอบของขวัญให้คนที่ชอบ
ผู้หญิงอย่างกนกอร คงจะถูกความใจป้ำของเขาฟาดหน้าจนมึนได้อย่างง่ายดายเลยสินะ
เปรมาดูแคลนกรกอรในใจ แต่ก็รู้ดี ว่าตอนนี้เธอไม่สามารถลงมือกับกนกอรและเทวิกาได้อย่างง่ายดายแล้ว
“เธอมาทำอะไร? หลังจากที่ขอโทษเทวิกาก็บอกว่าจะไปมอบตัวไม่ใช่เหรอ?”
หลังจากที่ได้ยินว่าเปรมามา นฤเบศวร์ที่เมื่อกี้ยังเผยใบหน้าแต้มยิ้มก็หุบยิ้มลงทันที ทว่าสายตาก็ยังคงคอยสังเกตปฏิกิริยาของกนกอร
“ไม่ทราบครับ คุณชาย จะห้ามเธอไหมครับ?”
“ไม่ต้อง”
คนที่ตอบไม่ใช่ใครแต่เป็นกนกอร
“กนกอร”
นฤเบศวร์เรียกเธอด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“นายไม่จำเป็นต้องแสร้งทำเป็นเย็นชาต่อหน้าฉัน ควรทำยังไงก็ทำแบบนั้น นั่นต่างหากที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของนาย”
กนกอรไม่เชื่อหรอกว่านฤเบศวร์จะสามารถตัดใจจากเปรมาได้ทันที
แม้เขาจะบอกว่าหากเขาตัดใจก็จะตัดให้ขาดอย่างไม่เหลือเยื่อใย แต่ไม่ว่าจะยังไงเขาก็รักเปรมามาตั้งสิบกว่าปี แล้วจะสามารถตัดใจได้อย่างสิ้นเชิงในเวลาสั้นๆได้อย่างไร?
“ฉันไม่หึงสักหน่อย”
กนกอรพูดเสริม
นฤเบศวร์มองเธอเงียบๆ เขากลับหวังว่าเธอจะหึง
อันที่จริงเธอเข้าใจเขามากๆ
เมื่อคิดได้ดังนั้น นฤเบศวร์ก็อารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย
ธามมองสีหน้าของคุณชาย พลันรู้ว่าต้องฟังคำสั่งของคุณนายน้อย ก่อนจะถอยออกไปเงียบๆ
เมื่อกนกอรพูดดังนั้นก็ไม่มีใครห้ามเปรมา ปล่อยให้เธอเข้าไปในร้าน
เปรมาผอมลงอย่างเห็นได้ชัด
ผ่านประสบการณ์ตกจากสวรรค์ไปนรก แค่ผอมลงยังถือว่าน้อยไป
เมื่อเข้ามาเห็นอาหารเช้าที่วางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะ เปรมาก็พลันรู้สึกปวดใจ พลางมองกนกอรกินอย่างสง่าสงามด้วยความรู้สึกอิจฉา
“เบศวร์”
เปรมาไม่มองกนกอรอีก เธอมองนฤเบศวร์ แล้วเรียกเขาเสียงเบา ตอนที่นฤเบศวร์มองมาที่เธอ เธอก็ถามเสียงเบาว่า “ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม?”
“มีอะไรก็พูดตรงนี้เลย เธอบอกว่าจะไปมอบตัวไม่ใช่เหรอ?”
เปรมาถามเขาอย่างปวดใจว่า “นายอยากให้ฉันเข้าไปมากเลยเหรอ? ถ้าฉันเข้าไป นายกับหล่อนก็จะได้รักกันแล้วสินะ?”
“จะเข้าหรือไม่เข้าก็เป็นเรื่องของเธอ เรื่องของฉันกับกนกอร ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ”
นฤเบศวร์พยายามให้ตัวเองเย็นชาให้ได้มากที่สุด
“ถ้าเธอไม่เข้าไปเอง รอให้ยศพัฒน์ลงมือเมื่อไหร่ เธอจะยิ่งน่าอนาถกว่าเดิม”
เปรมารีบถามทันทีว่า “เบศวร์ แท้จริงแล้วนายยังเป็นห่วงฉันอยู่ใช่ไหม?”
นฤเบศวร์มองเธอ แล้วเอ่ยเสียงเรียบว่า “ความห่วงใยของฉันไม่เคยมีค่าในสายตาเธอ ฉันไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว”
“มันมีค่า เบศวร์ มันมีค่าสำหรับฉัน เบศวร์ ฉันรู้ตัวว่าผิดไปแล้วจริงๆ ตราบใดที่นายยอมให้อภัยฉัน รอฉันออกมาเมื่อไหร่ เราค่อยเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้งได้ไหม?”
“เราไม่เคยเริ่มต้นกันมาก่อนอยู่แล้ว เอาอะไรมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง? เปรมา อย่าลืมคำพูดที่เธอกับแม่เธอเคยสัญญากับยศพัฒน์เอาไว้ ฉันเตือนเธอว่าพูดได้ทำได้จะดีที่สุด ไม่งั้น……”
เขาไม่มีทางตามล้างตามเช็ดให้เธออีกแล้ว
เปรมาสีหน้าซีดเผือด
วันนี้เธอมาหานฤเบศวร์ ก็เพราะอยากจะอ้อนวอนนฤเบศวร์อีกครั้งก่อนจะไปมอบตัว
เธอก็เหมือนกนกอร ไม่เชื่อว่านฤเบศวร์จะตัดใจได้จริงๆในเวลาสั้นๆ
“เบศวร์……นายใจร้ายกบฉันได้ลงคอจริงๆเหรอ? เราเป็นเพื่อนสมัยเด็กที่เติบโตมาด้วยกัน มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน……”
“เปรมา ที่ผ่านมาฉันตาบอดใจบอดเอง ฉันทุ่มเทให้เธอสุดหัวใจ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคืออะไร? ฉันรู้มานานแล้วว่าเธอไม่ได้รักฉันเลยลักนิด แค่หลอกใช้ฉัน เป็นฉันเองที่คิดไปเอง คิดว่าตราบใดที่ฉันดีกับเธอมากๆ ก็จะสามารถทำให้เธอซึ้งใจ ทำให้เธอยอมแพ้ในตัวยศพัฒน์แล้วมาเลือกฉัน”
นฤเบศวร์แค่นยิ้มเสียดสีตัวเอง “แต่ความจริงพิสูจน์แล้วว่าฉันก็ยังคิดไปเองอยู่ดี เรื่องความรู้สึกมันบังคับกันไม่ได้ เธอไม่รักฉันก็คือไม่รักฉัน ต่อให้ฉันมอบชีวิตให้เธอ เธอก็ไม่แยแสอยู่ดี”
“ฉันยอมแพ้แล้ว ฉันเองก็ตัดใจแล้วด้วย จากนี้ไปได้โปรดอย่ามารบกวนฉันอีก ฉันต้องการชีวิตใหม่ แต่ชีวิตใหม่ของฉันไม่เกี่ยวกับเธอ”
นฤเบศวร์เผยแววตาหนักแน่น แล้วจ้องมองเปรมาไม่วางตา พลันถามจากก้นบึ้งหัวใจว่า “เปรมา เธอลองสัมผัสใจตัวเองดูสิ ลองถามตัวเอง ว่าเธอรักฉันไหม? แต่ก่อนกับตอนนี้ เธอรักฉันไหม?”
เปรมา “……”
“อันที่จริง จนถึงตอนนี้เธอก็ไม่เคยรักฉันเลย เธอแค่ยอมรับไม่ได้ว่าตัวเองไม่เหลืออะไรแล้วก็เท่านั้น เปรมา ว่ากันว่าหัวใจคนทำมาจากเนื้อ หากโอบกอดไว้นานแล้วก็จะอุ่นขึ้น แต่หัวใจเธอมันไม่ใช่ กลับกันหากฉันโอบกอดก้อนหินก้อนหนึ่งมาสิบกว่าปี ไม่ใช่แค่จะทำให้มันอุ่นขึ้นได้ แต่ยังสามารถทำให้มันร้อนผ่าวได้ด้วย”
เปรมาชี้ไปที่กนกอรอย่างฉับพลัน แล้วตวาดเสียงแหลมว่า “นายนึกว่านายจะทำให้หล่อนรักนายได้งั้นเหรอ? หล่อนรู้อดีตของฉันกับนาย ฉันไม่เชื่อหรอกว่าหล่อนจะไม่ถือสา”
กนกอรลุกขึ้นยืน ก่อนจะยื่นไปตบมือของเปรมาที่กำลังชี้มาที่เธอ
“คุณเปรมา ฉันไม่ชอบให้คนอื่นมาชี้หน้าฉัน”
กนกอรเอ่ยอย่างเรียบเฉยว่า “ต่อไปฉันกับนฤเบศวร์จะเป็นยังไง รอคุณออกมาจากคุกเมื่อไหร่ ก็ยินดีต้อนรับให้คุณมาพิสูจน์ด้วยตัวเอง”
เธอไม่ได้ปฏิเสธนฤเบศวร์ เพียงแค่อยากจะให้เวลาเขาสักหน่อย เพื่อให้เขาตัดใจจากเปรมาได้จริงๆ
สักวัน หากเขาสามารถเผชิญกับเปรมาได้อย่างสงบราบเรียบ ไม่ฝืนทรมานใจตัวเองอีก เมื่อนั้นเธอจะยอมรับเขาเอง
“กนกอร คนที่เบศวร์รักคือฉัน เขารักฉันมาสิบกว่าปี เธอเชื่อเหรอว่าเขาจะสามารถลืมฉันได้ในเวลาสั้นๆ? อย่าเพ้อฝันไปเลย อย่าคิดว่าเธอเป็นคนพิเศษของเขา นอกจากฉัน หัวใจของเขาจะไม่มีผู้หญิงคนที่สองอีก”
“หากเธอคบกับนฤเบศวร์ มันก็จะต้องมีวันที่เธอเสียใจภายหลังแน่ ๆ พวกเธอไม่มีวันมีความสุขหรอก”
เปรมาตวาดเสียงแหลมอย่างควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ “อย่าคิดว่าฉันเข้าไปแล้ว เธอก็จะสามารถมาแทนที่ฉันได้ กรกอร ฉันบอกเธอนะ เธอไม่มีวันมาแทนที่ฉันได้เด็ดขาด ฉันเป็นคนพิเศษเพียงหนึ่งเดียวของเบศวร์ ฮ่า ๆ ๆ!”