รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 371 พี่น้องตระกูลนนท์สัจทัศน์
“พวกพ่อกับแม่จะกลับไปแล้ว พรุ่งนี้หนูต้องหาเวลาไปซื้อของให้พวกเขาเอากลับไป พวกลุงกับอาช่วยดูแลทุกอย่างของบ้านเรา ต้องซื้อของกลับไปฝากพวกเขา”
ชเนนทร์ตอบเสียงอืม ถามว่า “ทุกวันนี้เธอออกไปทำงานเช้ากลับบ้านดึก จะมีเวลาไปซื้อของเหรอ? หรือไม่ก็ให้พี่ไปซื้อเถอะ”
“ไม่ต้องหรอก ถ้าหนูไม่มีเวลา ก็เขียนลิสต์ให้ป้ามะนาวไปซื้อกลับมาให้หนูก็ได้”
ชเนนทร์พูดกลั้วเสียงขำว่า “ก็ได้”
น้องสาวเขาเป็นถึงคุณนายน้อยอริยชัยกุลแล้ว ถ้าจะซื้อของอะไรก็ไม่จำเป็นต้องออกไปเองจริง ๆ
“เธอไม่ได้เอาเรื่องของพี่ไปบอกแม่ใช่ไหม?”
ชเนนทร์ถามแบบนี้ก็จริง แต่เดาว่าน้องสาวคงบอกไปแล้วแน่ ๆ
เพราะช่วงนี้แม่ไม่ได้โทรมาเร่งให้เขาแต่งงานอีกแล้ว
“บอกไปแล้ว ถ้าไม่บอก พี่คิดว่าพี่จะได้อยู่อย่างสุขสงบแบบนี้เหรอ ตอนนั้นหนูถูกแม่เร่งให้แต่งงานบ้าคลั่งขนาดไหน พี่ก็รู้ แม่เร่งพี่ไม่ได้ก็มาเร่งหนูแทน หนูเป็นเกราะกำบังให้พี่ด้วยซ้ำ”
ชเนนทร์รีบชนแก้วกับน้องสาวทันที “ครับ ๆ ๆ ขอบคุณคุณน้องสาวที่เป็นเกราะกำบังให้พี่ มา พี่ขอคารวะเธอ”
เทวิกาหัวเราะร่วน แล้วเอ่ยว่า “ตอนนั้นแม่เร่งให้หนูแต่งงานจนหนูแทบกลายเป็นบ้า แต่ตอนนี้พอมาคิดดูอีกที จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าถ้าแม่ไม่เร่งหนูอย่างบ้าคลั่งขนาดนั้น หนูกับพัฒน์ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเริ่มต้นยังไง เขาน่ะ ดีกับหนูมากก็จริง แต่ติดตรงพูดไม่เก่งนี่แหละ พูดคำพูดหวานหูไม่เป็นเลยสักนิด”
ชเนนทร์ “……วิกา มาตรฐานเธอสูงเกินไป แค่ฉันเห็นพวกเธอคนอยู่ด้วยกัน ฉันก็ต้องชิ่งหนีไปให้ไกล จะได้ไม่ถูกป้อนอาหารหมา”
เทวิกาหัวเราะ เว่อร์ขนาดนั้นเลยเหรอ?
แต่สามีเธอเป็นคนชอบทำไม่ชอบพูด ช่างเถอะ ทุกคนล้วนมีวิธีแสดงความรักของตัวเอง
เธอเองก็ไม่ค่อยพูดจาหวานแหววกับยศพัฒน์มากนัก แม้แต่ของขวัญก็ให้น้อยมาก
เมื่อรู้ตัวว่าเธอเองก็ยังทำได้ไม่มากพอ เทวิกาก็ลอบคิดในใจว่าเธอต้องชดเชยกลับมาให้ได้
เธอกำลังจะปริปาก แต่จู่ ๆ พี่ชายเธอก็เดินถือแก้วไวน์ไปยังรถคันหนึ่งที่เพิ่งจอดเมื่อกี้นี้
สองพี่น้องเอาแต่คุยกัน ไม่สังเกตเห็นรถคันนั้นขับเข้ามา แต่เพราะชเนนทร์ตาดี ถึงดูออกว่าเป็นรถของกิติยา
เทวิกาเองก็เดินตามพี่ชายไป
กิติยามาถึงงานสายสุด ผู้คนที่จับกลุ่มคุยกันในลานกว้างจึงล้วนมองไปที่กิติยา
กิติยาไม่ได้พาคนขับรถมาด้วย เธอขับรถมาเอง เมื่อลงจากรถ เธอก็รีบอ้อมไปที่ฝั่งที่นั่งข้างคนขับ ก่อนจะเปิดประตูรถ แล้วยื่นมือไปให้คนในรถอย่างเอาใจใส่
ทุกคนต่างมองภาพนี้กันอย่างสงสัยใคร่รู้ อยากรู้ว่าคนในรถคือใคร ถึงสามารถทำให้ประธานหญิงหน้าเย็นชาคนนี้สุภาพขนาดนี้ได้
กิติยาเย็นชามากก็จริง แต่พวกผู้หญิงถูกชะตากับเธอมากๆ
เหตุผลหลักคือเธอแต่งตัวยูนิเซ็กส์มาโดยตลอด ดูหล่อเหลาเหมือนผู้ชาย นิสัยเย็นชานั่นก็ยิ่งขับให้เธอดูเท่มาก สามารถมัดใจผู้หญิงได้อย่างง่ายดาย
หากว่าตามที่ชเนนทร์พูด เขาเคยเห็นกิติยาถูกผู้หญิงตื๊ออยู่บ่อยครั้ง
เฮ้อ ศัตรูหัวใจของเขาไม่ได้มีแค่ผู้ชายแต่มีผู้หญิงด้วย
เทวิกาที่เดินตามพี่ชายมาพลันเห็นมือเรียวยาวขาวผ่องยื่นออกมาวางบนมือของกิติยา ก่อนที่เธอจะเห็นหญิงสาวที่สวมชุดราตรีสีขาวลงจากรถ
หญิงสาวคนนั้นอายุใกล้เคียงกับเธอ รูปร่างสูงเพรียว ออร่าสง่าสงาม หน้าตาจิ้มลิ้ม ซึ่งก็คือสาวสวยคนหนึ่ง
ไม่ต้องถาม ก็เดาได้ว่าหญิงสาวคนนั้นคือใคร จะเป็นใครไปได้นอกจากกัญณิศา คุณหนูรองตระกูลนนท์สัจทัศน์
เทวิกากำลังคิดไม่ตกพอดีว่าจะสานสัมพันธ์กับกัญณิศายังไงดี คิดไม่ถึงเลยว่ากิติยาจะพาน้องสาวมาร่วมงานเลี้ยงในคืนนี้ด้วย
เธอได้ยินพัฒน์บอกว่า กัญณิศาปรากฏโฉมหน้าน้อยมาก หลายๆคนในเมืองแอคเซสซ์ยังไม่เคยเห็นหน้าของกัญณิศามาก่อนด้วยซ้ำ
เห็นกัญณิศางดงามปานนางฟ้า เทวิกาก็คิดในใจว่า หากเธอมีน้องสาวที่สวยขนาดนี้ เธอเองก็จะปกป้องน้องสาวไว้ให้ดีที่สุด ไม่ให้คนได้เห็นโฉมหน้าของน้องสาวอย่างง่ายดาย จะได้ไม่สร้างปัญหาที่ไม่จำเป็นให้น้องสาว
“พี่ ตระกูลนนท์สัจทัศน์กับตระกูลกรภัควัฒน์มีความสัมพันธ์ที่ดีมากเลยใช่ไหม?”
ไม่งั้น กิติยาจะพาน้องสาวมาร่วมงานได้ยังไง
ชเนนทร์พยักหน้า เอ่ยว่า “พวกเขาเป็นเพื่อนกันมาหลายชั่วอายุคนแล้ว ตอนที่กิติยารับไม้ต่อดูแลเอ็มอาร์ กรุ๊ป ท่านจอมเคยช่วยเหลือเธอ”
“ถึงว่า หนูได้ยินพัฒน์บอกว่า คุณกัญณิศาปรากฏโฉมหน้าน้อยมาก คืนนี้เธอมาร่วมงานเลี้ยง แสดงว่าต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับท่านจอมมากแน่ ๆ”
“คุณกิติยา”
ชเนนทร์ไม่ตอบน้องสาวอีก กลับเดินไปข้างหน้า
เทวิกาเองเดินตามไป
เมื่อเห็นสองพี่น้องชเนนทร์ ความเย็นเยือกบนใบหน้าของกิติยาก็หลอมละลายลงเล็กน้อย เธอพยักหน้าให้ชเนนทร์ เอ่ยว่า “คุณชเนนทร์ นี่คือน้องสาวคุณสินะ?”
“คุณกิติยา สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเทวิกา”
เทวิกาแนะนำตัวอย่างรู้จังหวะ แล้วยื่นมือไปจับมือกับกิติยา
หลังจากที่กิติยาจับมือทักทายเธอ ก็แนะนำน้องสาวตัวเองให้สองพี่น้องชเนนทร์รู้จัก
เทวิกาสังเกตเห็นว่ากัญณิศาจ้องพี่ชายเธออยู่พักหนึ่ง พลันรู้สึกว่ากิติยากับพี่ชายมีลุ้นแน่ ๆ ไม่งั้นกัญณิศาก็ไม่มองสำรวจพี่ชายเธอแบบนี้หรอก
เทวิกาจับมือกับกัญณิศา กัญณิศามองเธอ แล้วยิ้มเอ่ยว่า “ได้ยินชื่อเสียงคุณมานานแล้ว คืนนี้ได้เจอตัวจริงคุณนายน้อยอริยชัยกุลแล้วสักที สวยกว่าในรูปเยอะเลย”
“ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ อยู่ต่อหน้าคุณ ฉันก็ไม่กล้าพูดเลยว่าตัวเองคือคนสวย”
กัญณิศาเผยใบหน้าแต้มยิ้ม รอยยิ้มของเธออ่อนโยนมากๆ และงดงามมากเช่นกัน
เทวิกาคิดในใจ ว่าหากเธอเป็นผู้ชายแล้วล่ะก็ คงจะตกหลุมรักกัญณิศาแน่ ๆ อยากจะดึงกัญณิศาเข้ามาในอ้อมกอดแล้วปกป้องไว้ให้ดี
จู่ ๆ เธอก็พลันนึกถึงพี่ชายแท้ๆของตัวเอง
พี่ชายแท้ๆเธอเองก็ยังโสด แม่แท้ๆเธอเองก็บอกเธอว่าให้เธอช่วยหาแฟนให้พี่ชายเธอหน่อย
แต่พอคิดดูอีกที ตระกูลสาระทาวุ่นวายซับซ้อนขนาดนั้น กิติยาเองก็เห็นน้องสาวเป็นแก้วตาดวงใจ หากรู้ว่าสถานการณ์ของตระกูลสาระทาเป็นยังไง ก็ไม่มีทางยอมให้น้องสาวแต่งเข้าตระกูลสาระทาแน่ๆ ยิ่งไม่อยากให้น้องสาวอยู่ห่างไกลจากบ้าน
เทวิกาเริ่มอยากยอมแพ้เล็กน้อย
ทว่า เธอมีความคิดแบบนี้ รอพี่ชายเธอมาเมื่อไหร่ เธอจะหาวิธีให้พี่ชายได้เจอกับกัญณิศาสักครั้ง หากทั้งคู่ต้องตาต้องใจกัน ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอแล้ว
หากกิติยารู้ว่าเทวิกาไม่ใช่แค่อยากช่วยชเนนทร์จีบเธอ แต่อยากจะแนะนำน้องสาวสุดที่รักให้ประยสย์รู้จักด้วย เดาว่าก็คงจดชื่อเทวิกาไว้ในบัญชีดำแล้วแน่ ๆ
“คุณนายน้อยถ่อมตัวเกินไปแล้วล่ะค่ะ คุณสวยมากจริงๆ”
กัญณิศาเจอกับเทวิกาครั้งแรกก็รู้สึกถูกชะตา
แม้เธอจะถูกพี่สาวปกป้องไว้เป็นอย่างดี ทว่าเรื่องเล็กใหญ่ในเมืองแอคเซสซ์ หากเธออยากรู้ก็สามารถรู้ได้ทั้งนั้น อย่าคิดว่าเธออ่อนแอเชียว เธอเปิดสำนักงานนักสืบ ทว่าเป็นเจ้านายเบื้องหลัง
หลังจากที่เทวิกากับยศพัฒน์จดทะเบียนสมรสและประกาศความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ เธอก็สืบประวัติของเทวิกาอย่างละเอียด
อ้อ มีเรื่องหนึ่งที่เธอสืบไม่ได้ ก็คือเทวิกาคือคุณหนูตระกูลสาระทา เพราะคนตระกูลสาระทามาทวงคืนความยุติธรรมให้เทวิกากันอย่างครึกโครม เธอก็จึงจะรู้ว่าแท้จริงแล้วเทวิกาก็คือคุณหนูใหญ่ของตระกูลสาระทาแห่งเมืองซูเพร่า
ส่วนเรื่องราวของเทวิกากับยศพัฒน์ กัญณิศารู้สึกสนใจมาก ตัวตนของเทวิกาก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนนางเอกในละครทีวี
เอาเป็นว่า ทั้งคู่ต่างรู้จักอีกฝ่ายจากปากคนอื่น จากนั้นก็ต่างคนต่างรู้สึกสนใจในตัวอีกฝ่ายมาก และมีเจตนาอยากจะสานสัมพันธ์ด้วย