รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 380 มีคนสั่งให้คุณมาจีบฉันเหรอ?
กนกอรมองไปที่สมาชิกในครอบครัวของเธอ และทุกคนกำลังมองมาที่เธอ
และมองไปที่นฤเบศวร์ เขายิ้มอย่างสดใสจนเธอไม่สามารถปฏิเสธได้
หลังจากคิดไปคิดมา เธอก็พูดขึ้นว่า “ที่จริง ดอกไม้สองดอกที่ฉันชอบมากที่สุด ฉันมีอยู่แล้ว คุณไม่ต้องซื้อมาให้หรอก”
“คุณชอบดอกไม้สองดอกไหนมากที่สุด?”
นฤเบศวร์รีบถามขึ้น
เมื่อต้องปะทะกับศัตรู ต้องรู้จักตนเองและศัตรูให้ดีจึงจะได้ชัยชนะในสงครามทั้งปวง เมื่อตามง้อเมียก็ต้องรู้จักตนเองและอีกฝั่งด้วย จึงจะจับใจเธอได้ทันท่วงที
ถ้าเขารู้ว่าดอกไม้สองดอกที่เธอชอบมากที่สุดคือดอกอะไร รับรองว่าเขาจะซื้อให้เธอทุกวัน
กนกอรกอดช่องดอกไม้เงินของเธอมา และพูดขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ว่า “คุณเดาเองสิ ถ้าคุณเดาถูก ถือว่าคุณและฉันมีความสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณกันเล็กน้อย แต่ถ้าคุณเดาไม่ได้ก็ลืมมันไปซะ”
จากนั้นเธอก็พูดขึ้นเสียงดัง “แม้ว่าช่อดอกไม้เงินนี้จะสวยงาม แต่คุณอย่าไปซื้อเงินปลอมเหล่านี้ที่นักเรียนใช้เรียนให้ฉันอีกเลย ฉันไปล่ะ”
นฤเบศวร์ไม่เข้าใจ ทั้งหมดที่เขาใช้คือเงินจริง ดังนั้นทำไมมันถึงกลายเป็นเงินปลอมสำหรับให้นักเรียนใช้เรียนล่ะ?
หลังจากตกใจอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็คิดออกอย่างรวดเร็ว
ที่กนกอรพูดเสียงดังนั้น เป็นการพูดกับสมาชิกในครอบครัวของเธอ เพื่อมิให้พวกเขารู้สึกว่าเธอถูกจับโดยเงินของเขา
พี่กอล์ฟสำลักเมื่อได้ยินเสียงตะโกนของน้องสาว และอยากจะบอกว่าเงินและดอกไม้ทั้งหมดที่ นฤเบศวร์ส่งมานั้นเป็นเงินจริง เมื่อคืนเขาเพิ่งแกะไปหนึ่งช่อ และจำนวนเงินก็ไม่ใช่น้อย
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ได้เปิดโปงการโกหกของน้องสาว
ผู้ใหญ่ทั้งสามของตระกูลภูสิทธ์อุดม ต่างมองไปมองมา สุดท้ายคุณปู่ชรัณก็เป็นคนเริ่มเอ่ยปากพูดก่อน
“เบศวร์ มานี่สิ”
นฤเบศวร์หันกลับมาอย่างรวดเร็ว ยืนข้างคุณปู่ชรัณ ก้มลงเล็กน้อย “คุณปู่ มีอะไรครับ”
“ฉันนามสกุลภูสิทธ์อุดม กรุณาใส่คำนำหน้าก่อนที่จะเรียกฉันว่าปู่ด้วย”
“ครับ”
นฤเบศวร์ตอบอย่างมีความสุข และเขาจะไม่เปลี่ยนเลยแม้แต่น้อย
หลังจากที่คุณปู่และหลานชายของเขาทั้งสองมาที่บ้าน นฤเบศวร์พบว่าครอบครัวตระกูลภูสิทธ์อุดมเป็นคนปากแข็งแต่ใจดี แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่เห็นด้วยกับการที่กนกอรคบกับเขา แต่พวกเขาก็เคารพการตัดสินใจของกนกอร
การหย่าร้างเป็นสิ่งที่กนกอรต้องการ แต่แม่ยายของเขาแสดงและใช้สถานะความเป็นผู้ใหญ่ บังคับให้เขายอมหย่ากับกนกอรจนสำเร็จ
“อย่าให้ช่อดอกไม้แบบนี้กับอรอีกนะ มันแพรวพราวเกินไป”
นฤเบศวร์: “……”
ดอกไม้แบบนี้จะไม่เหี่ยวเฉา
หลังจากเห็นดอกไม้เต็มสวนที่เทวิกาโพสต์ลง นฤเบศวร์ก็รู้สึกว่าดอกกุหลาบช่อโตที่เขาซื้อให้นั้นสู้ของพัฒน์ไม่ได้ ดอกไม้ที่พัฒน์ให้นั้นเป็นดอกไม้ที่อยู่ในกระถาง ถ้าดูแลมันดี ๆ ดอกไม้ก็จะบานตามฤดูกาลของทุก ๆ ปี ตราบใดที่มันบาน เทวิกาก็จะนึกถึงความโรแมนติกของพัฒน์และความรักอันลึกซึ้งของเขา
ต้องบอกว่าในแง่ของความโรแมนติกนั้น พัฒน์เหนือชั้นกว่าเขามาก
หรือว่า เขาก็ต้องการเรียนรู้จากพัฒน์ และส่งดอกไม้เป็นสวนให้กนกอร?
ช่างเถอะ ลอกเลียนแบบก็ลอกเลียนแบบ ถ้ามันสามารถทำให้ตระกูลภูสิทธ์อุดมมีความสุข และให้ตระกูลภูสิทธ์อุดมเห็นความรักอันลึกซึ้งที่เขามีต่อกนกอรนั่นก็เพียงพอแล้ว
ยศพัฒน์ทำมันให้คนอื่นดู จะไม่อนุญาตให้เขาเรียนรู้หน่อยเหรอ?
” คุณก็ยังไม่ได้กินใช่ไหม? นั่งลงสิ กินพร้อมกันกับเรา เอาไวน์มาหน่อย ดื่มด้วยกันสักสองสามแก้ว ไม่มีคนดื่มเป็นเพื่อนฉันมานานแล้ว”
คุณปู่ชรัณมองดูหลานชายของเขาขณะพูด และพี่กอล์ฟก็รีบลุกขึ้นไปหยิบไวน์และแก้ว
นฤเบศวร์มีบอดี้การ์ดและคนขับรถ แม้ว่าเขาจะดื่มจนเมา ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อเขา
แต่เขาอยากไปตามกนกอรให้ทัน
คนที่ให้เขาอยู่กินอาหารเช้า และดื่มสักสองแก้วคือคุณปู่ชรัณ ถ้าเขาปฏิเสธ คราวหน้าเขาจะเข้ามา ใครจะรู้ว่า คนที่ต้อนรับเขาเป็นหมาป่าดุร้ายสองตัวหรือเปล่า?
ความคิดเปลี่ยนไปเป็นพันครั้ง
ในที่สุด นฤเบศวร์ก็เลือกที่จะอยู่และดื่มกับคุณปู่ชรัณ
หากทำให้คนแก่ที่บ้านมีความสุขได้ ก็ถือว่าเป็นการสร้างมีแรงสนับสนุนเขา
คุณปู่ชรัณรักหลานสาวของเขามาก
กนกอรกลับไปที่ร้าน เปิดประตูร้าน และก่อนที่จะมีลูกค้า เธอก็รีบแกะช่อเงินอย่างรวดเร็ว มันสะดุดตาเกินไป
ยัดเงินที่แกะออกทั้งหมดลงในกระเป๋าสตางค์ของเธอ จากนั้น เธอถึงจะเริ่มทำความสะอาดร้าน
ในไม่ช้า พนักงานร้านและลุงตี๋ก็มา ลุงตี๋จะไม่ช่วยทำความสะอาดร้าน พอมาถึง เขาก็ล้างมือและเริ่มเตรียมขนม
ลูกค้าเข้ามาในร้านทีละคน ล้วนเป็นพนักงานปกขาวระดับหัวกะทิ พวกเขามีงานยุ่งจนถึงดึกทุกวัน และสภาพจิตใจไม่ค่อยดีในตอนเช้า ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่ดื่มกาแฟเพื่อเติมความสดชื่นให้ตัวเอง
หลังจากแขกกลุ่มหนึ่งเข้ามาและจากไป กันตภณก็เข้ามาพร้อมกับแขกกลุ่มที่สอง
เขาก็เหมือนเดิม เข้ามาพร้อมดอกกุหลาบช่อโต
“พี่อร คุณกันตภณมาอีกแล้ว”
พนักงานร้านเตือนกนกอรที่อยู่หน้าแคชเชียร์ “ฉันจะจดเวลาไว้ว่า คุณเบศวร์จะปรากฏตัวในอีกกี่นาที”
“ไปทำงานของตัวเองเลย”
หลังจากถูกพนักงานร้านแกล้ง กนกอรก็ทำหน้าบึ้ง พนักงานสาวก็ยิ้มและเดินจากไป
ไม่ต้องพูดถึงพนักงานสาว แม้แต่กนกอรก็มองออกไปข้างนอกอยู่บ่อยครั้ง โดยคิดว่านฤเบศวร์จะปรากฏตัวในอีกไม่กี่นาที
ทุกครั้งที่กันตภณมา นฤเบศวร์ก็จะมาถึงภายในไม่กี่นาทีอย่างแน่นอน
“กนกอร”
กันตภณเดินเข้ามาพร้อมดอกไม้ในมือ ยื่นช่อดอกไม้ให้กนกอร ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ช่อดอกไม้นี้สำหรับคุณ”
กนกอรที่กำลังนั่งอยู่ เงยหน้ามองขึ้นไปที่กันตภณ
ตอนที่กันตภณมอบดอกไม้ให้เธอ เขาก็ยิ้มอยู่ แต่เธอรู้สึกว่า ดวงตาของเขาไม่ได้แสดงความรักใคร่และร้อนแรงเหมือนของนฤเบศวร์
กันตภณยิ้มตามปกติ โดยไม่มีกลิ่นอายความรักใด ๆ
“ภณ”
กนกอรคุ้นเคยแล้ว จึงเรียกเขาด้วยชื่อเล่น “ทำไมคุณต้องส่งดอกไม้ให้ฉันด้วย?”
เทวิกาเคยบอกเธอว่า กันตภณและนฤเบศวร์มักจะปรากฏตัวในเวลาใกล้ ๆ กัน มันบังเอิญเกินไป และเธอสงสัยว่ามีคนอยู่เบื้องหลังคอยสั่งให้กันตภณทำแบบนี้
กนกอรยังคงคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ ใครจะทำเรื่องแบบนี้กัน?
แต่สายตาที่กันตภณมองมาที่เธอ เห็นได้ชัดว่ามันสงบและไม่มีความรักหรือความลึกซึ้งใด ๆ
หรือที่เขาส่งดอกไม้ให้เธอนั้น จะมีคนสั่งมาจริง ๆ?
รอยยิ้มของกันตภณแข็งทื่อ แต่ไม่นานก็กลับมาเป็นปกติ และพูดด้วยรอยยิ้ม: “เพราะผมชอบคุณไง กนกอร ผมชอบคุณมาก และผมต้องการ……แข่งกับคุณเบศวร์อย่างยุติธรรม คุณให้โอกาสผมหน่อยได้ไหม?”
ในขณะที่เขาพยายามอย่างหนักเพื่อเป็นคู่แข่งเรื่องความรักกับคุณเบศวร์ นิรุตต์ก็ได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลนั้น และธุรกิจของเขาก็ดีขึ้น
กันตภณก็จะทำงานหนักขึ้น เพื่อเป็นคู่แข่งเรื่องความรักกับคุณเบศวร์
ในเมื่อ มีคนคอยคุ้มหัวไว้ แม้ว่าคุณเบศวร์ะเกลียดเขามาก เขาก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้
จนถึงตอนนี้คุณเบศวร์ก็ยังไม่สามารถเอาข้อมูลทั้งหมดของเขาได้
นายจ้างของเขาแข็งแกร่งกว่าคุณเบศวร์มาก
“การพูดคุยของเรานั้นมันสนุกนะ แต่คุณไม่มีความรู้สึกใดๆ กับฉันเลย คุณทำแบบนี้”
กนกอรลุกขึ้นเข้ามาใกล้และถามกันตภณด้วยเสียงต่ำ: “มีคนจ้างให้คุณมาจีบฉันใช่ไหม?”
กันตภณ: “……”
“กนกอร สิ่งที่ผมพูดคือความจริง ผมชอบคุณจริง ๆ และผมต้องการจีบคุณจากใจจริง”
กันตภณปฏิเสธที่จะยอมรับมัน
กนกอรจ้องที่เขาอยู่ครู่หนึ่ง และกำลังจะหัวเราะ ก็ได้ยินเสียงตะโกนที่เกรี้ยวกราด “กนกอร! เธอกำลังทำอะไร?”
เสียงนี้ไม่ใช่นฤเบศวร์นี่
เพราะเป็นเสียงผู้หญิง
กนกอรรู้สึกคุ้นเคยกับเสียงนี้ และมองไปยังผู้หญิงที่เปิดประตูเข้ามา นั่นคือบัณฑิตา อดีตแม่สามีของเธอ
เคยพบกันหลายครั้ง และเคยได้ยินอีกฝ่ายพูดหลายครั้ง จึงรู้สึกคุ้นเคยเล็กน้อย
เมื่อบัณฑิตาเห็นกนกอรกับกันตภณเข้ามาใกล้กัน เธอก็โกรธมาก รู้สึกว่ากนกอรกำลังจะสวมเขาให้ลูกชายของเธอ