รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 399 ที่แท้ก็เป็นเรื่องจริง
“พรุ่งนี้ต้องไปตามคนมาเปลี่ยนไฟถนนที่ดับแล้ว”
คุณปู่ชรัณมองหลานสาวกำลังพันแผลให้นฤเบศวร์อย่างง่ายๆ ถามขึ้น: “แผลของเจ้าเบศวร์ลึกไหม?”
นฤเบศวร์รีบตอบ: “คุณปู่ ผมไม่เป็นไร แค่แผลถลอกนิดหน่อยครับ”
“ไม่ถือว่าลึกค่ะ แต่ก็ประมาทไม่ได้ หนูจะไปส่งเขาที่โรงพยาบาลให้หมอช่วยฆ่าเชื้อให้เขาอีกที และพันแผลใหม่ด้วย”
กนกอรหยิบกุญแจรถนฤเบศวร์ขึ้นมา ทั้งยังพยุงเขาลุกขึ้น พูดกับปู่: “ปู่คะ หนูไปส่งเขาที่โรงพยาบาลก่อนนะ”
“เรียกพี่ชายแกไปเป็นเพื่อนด้วย”
คุณปู่ชรัณนึกถึงที่มีโจร ตอนนี้ไฟถนนยังไม่ได้เปลี่ยนใหม่ จึงกังวลว่าจะเจอเรื่องไม่ดีอีก รู้สึกว่าให้หลานชายไปด้วยจะดีกว่า
กนกอรกับนฤเบศวร์คิดจะปฏิเสธ แต่ทว่าชั้นบนก็มีเสียงดังขึ้น
พวกเขาทำให้ทักษอรตกใจตื่น
รู้ว่าระหว่างทางที่กลับมาบ้านกนกอรเจอโจร เพราะนฤเบศวร์ไม่สบายใจ จึงเดินตามหลังเธอกลับมา ในตอนที่เธอเจออันตรายถึงช่วยได้ทัน ผลสุดท้ายก็เลยโดนมีดของโจรกรีดจนได้รับบาดเจ็บ
เข้าใจสาเหตุอย่างชัดเจน คนของตระกูลภูสิทธ์อุดมจึงมองนฤเบศวร์ด้วยสายตาที่อ่อนโยนขึ้นเยอะ
ท้ายที่สุด ยังให้พี่กอล์ฟไปส่งนฤเบศวร์ที่โรงพยาบาลด้วยกัน
หลังจากมาถึงโรงพยาบาล บาดแผลของนฤเบศวร์ไม่มีเลือดไหลแล้ว
แต่ยังคงให้หมอช่วยจัดการบาดแผลเขาใหม่
ออกมาจากโรงพยาบาล ทั้งสามคนกลับโดนคนแปลกหน้าคนหนึ่งขวางทางเอาไว้
“ไม่ทราบว่าใช่คุณนฤเบศวร์ไหมครับ?”
ชายแปลกหน้าถามขึ้นอย่างสุภาพ
นฤเบศวร์พิจารณาอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว แน่ใจแล้วว่าเขาไม่รู้จัก จึงถามกลับด้วยหน้าตาเย็นชา: “คุณเป็นใคร?”
ชายแปลกหน้ายังคงพูดอย่างสุภาพ: “ผมคือบอสขององค์กรนักสืบ XX ครับ”
พูดแล้ว เขาก็ส่งซองเอกสารไปที่ด้านหน้านฤเบศวร์ “คุณเบศวร์ระบุให้ผมมาส่งผลการสืบค้นด้วยตัวเอง นี่เป็นผลลัพธ์ที่คุณเบศวร์ฝากให้องค์กรนักสืบของพวกเราสืบครับ”
หลังจากได้รับคำสั่งจากบอส เขาจึงติดตามมาตลอดทาง ถึงขวางนฤเบศวร์เอาไว้ได้
นฤเบศวร์ยื่นมือไปรับผลที่สืบมาได้ พูดอย่างนิ่งเฉย: “คุณรู้ได้ยังไงว่าผมอยู่ที่นี่?”
คนๆนั้นยิ้ม “ช่วงนี้ร่องรอยของคุณเบศวร์ค้นหาได้ง่ายดาย อีกอย่างผมทำงานสายนี้ แม้แต่คุณเบศวร์เองยังให้พวกผมช่วยเหลือเลย นั่นก็แสดงว่าต้องยอมรับความสามารถของพวกผมแล้ว”
นฤเบศวร์ไม่พูดอะไรอีก
ช่วงนี้เพื่อตามจีบภรรยา เขาจึงมักปรากฏตัวอยู่ที่ One Day In Coffee บ่อยๆ เกาะติดอยู่กับกนกอร เนื่องจากกนกอรเป็นคนธรรมดา ติดตามร่องรอยได้อย่างง่ายดาย ถึงได้เปลี่ยนให้ร่องรอยของเขาชัดแจ้งขึ้นมา
ตามที่อีกฝ่ายบอกไว้ แม้แต่เขาก็ยังฝากฝังให้อีกฝ่ายช่วยเหลือ นั่นเป็นการยอมรับความสามารถของอีกฝ่ายแล้ว
การรู้ร่องรอยของเขา มันเป็นเรื่องธรรมดามาก
“คุณเบศวร์ได้รับของแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ คราวหน้าอยากให้ช่วยเหลืออะไรก็ติดต่อมาได้เลยครับ”
ผู้ช่วยของกัญณิศาไม่ได้เสียเวลาอยู่ที่นี่นาน บอกลาแล้วกลับไปทันที
นฤเบศวร์คิดในใจถือว่าเขาได้เจอบอสขององค์กรนักสืบ XX แล้ว เพียงแต่ เขาไม่ค่อยประทับใจอีกฝ่ายเท่าไหร่ เพราะอีกฝ่ายดันมาส่งผลการสืบค้นถึงที่นี่ ต่อหน้ากนกอรกับพี่ชายของเธอ
อันที่จริงอีกฝ่ายรอให้เขากลับถึงบ้านแล้วค่อยมอบให้เขาก็ได้
เอาแต่รู้สึกว่าอีกฝ่ายค่อนข้างจงใจทำอย่างนี้
แต่กนกอรกับพี่ชายของเธอก็ไม่ได้ถามเรื่องนี้
ตัวตนของนฤเบศวร์ รวมไปถึงชื่อเสียงของเขาในเมืองแอคเซสซ์ ทำให้สองพี่น้องรู้ว่าเขาคงทำเรื่องไม่ดีบางอย่างอยู่ลับๆ
อย่างเช่น สืบเรื่องคนอื่น
และเป็นไปไม่ได้ที่นฤเบศวร์จะอธิบายอะไรให้สองพี่น้องฟัง คนที่เขาตามสืบคือศัตรูหัวใจของเขา จะให้กนกอรรู้ได้ยังไงล่ะ?
เนื่องจากแขนของนฤเบศวร์ได้รับบาดเจ็บ กังวลว่าเขาจะขับรถไม่ได้ พี่กอล์ฟจึงไปส่งน้องสาวกลับบ้านก่อนแล้วถึงไปส่งนฤเบศวร์
ค่ำคืนนี้ถึงได้จบลงเงียบๆเช่นนี้
นฤเบศวร์ฝัน ในฝันเขาจีบกนกอรได้สำเร็จ พวกเขาจัดงานแต่งสุดอลังการ กนกอรสวมชุดแต่งงานที่เขาสั่งตัดให้เธอโดยเฉพาะ สวยจนเขาเคลื่อนสายตาไม่ได้เลย
ฝันถึงพิธีแต่งงาน เขาก็ต้องฝันถึงคืนเข้าหออยู่แล้ว……
เช้าอีกวันที่ตื่นขึ้นมา เขาครุ่นคิดถึงความฝันอยู่นาน ถึงได้ยอมรับความจริง ว่าเขาแค่ฝันไป
ยังคิดว่าได้กลับมาครอบครองสาวสวยแล้วซะอีก ในคืนเข้าหอได้พลิกไปพลิกมากับกนกอรทั้งคืน แต่สรุปแล้วเขาทำเองอยู่คนเดียว
“กนกอร!”
นฤเบศวร์พึมพำชื่อของกนกอรออกมา
“กริ๊งๆๆ……”
เสียงมือถือดัง
เขาหยิบมือถือขึ้นมาดู ก็ต้องดีอกดีใจ เพราะกนกอรเป็นคนโทรมา
ผู้หญิงคนนี้น่ะนอกจากมีเรื่องให้เขาช่วยเหลือถึงจะเป็นฝ่ายโทรมาหาเขาเอง ปกติแล้วขี้งกมาก ไม่อยากเปลืองค่าโทรศัพท์
“กนกอร”
ตอนที่นฤเบศวร์รับโทรศัพท์ กลับทำเสียงไร้เรี่ยวแรง
เขาจงใจ อยากให้กนกอรเป็นห่วงเขามากๆ
ในเมื่อใช้แผนเจ็บตัวที่ศัตรูคู่อาฆาตแนะนำแล้ว ก็เอาแต่รู้สึกว่าลูกไม้นี้ จะช่วยให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนดีขึ้น
“เพิ่งตื่นเหรอ? หรือว่าเจ็บแผล? นายเป็นไข้หรือเปล่า?”
“เจ็บแผลมาก ไม่ได้เป็นไข้นะ ผมลองแตะดู”
นฤเบศวร์ทาบหน้าผากของตัวเอง พูดกับกนกอรที่ปลายสาย: “ไม่มีไข้ ผมไม่ได้อ่อนแอนะ แผลแค่นิดเดียวจะเป็นไข้ได้ไง”
กนกอรจึงถือว่าเขาเพิ่งตื่นนอน
“แขนนายเป็นแผล วันนี้ก็พักผ่อนอยู่บ้านให้เต็มที่ ไม่ต้องไปไหนนะ”
“แผลนิดเดียวเอง ไม่เป็นไรหรอก แต่ว่า เจ็บแผลมากเลย”
หลังจากกนกอรเงียบไปก็พูดต่อ: “คราวหน้าอย่าพุ่งเข้ามาอย่างเมื่อคืนอีกนะ ปกติคนร้ายก็มักจะพกอาวุธร้ายแรงไว้อยู่แล้ว”
“แค่คุณมีเรื่อง ไม่ว่าต้องเผชิญหน้ากับใคร ผมก็จะพุ่งเข้าไปทั้งนั้นแหละ”
ไม่ต้องพูดถึงที่ทั้งหมดนี้เขาเป็นคนจัดฉากไว้หรอก ต่อให้เจอโจรจริงๆ เขาก็ไม่ยอมให้กนกอรเผชิญหน้าตามลำพังเด็ดขาด
ในเมื่อชอบเธอแล้ว อยากแต่งงานกับเธอ ภรรยาของเขา เขาต้องคุ้มครองไปตลอดชีวิตสิ
คนที่เขาไม่อยากทำร้ายแม้แต่นิดเดียว จะยอมให้คนอื่นทำร้ายได้ยังไง?
“ฉัน คุ้มค่าที่จะให้นายทำอย่างนี้ไหม?”
“คุ้ม!”
“กนกอร ตอนนี้ผมปฏิบัติกับคุณด้วยใจจริง ชอบคุณจริงๆ แล้วก็อยากจะเริ่มใหม่กับคุณ ได้แต่งงานกับคุณอีกครั้ง แต่ ผมจะไม่บังคับคุณ ผมรู้ว่าในใจของคุณกังวลอะไรอยู่ ก็ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ทั้งหมดนี่เถอะ”
จากที่นฤเบศวร์เห็น ปัญหาระหว่างพวกเขา มีเพียงอย่างเดียว นั่นคือกนกอรไม่ได้รักเขา ยังไม่อยากแต่งงานกับเขา
ส่วนเรื่องอื่นๆน่ะสามารถแก้ไขได้
“เมื่อคืนกลับถึงบ้านก็ดึกมากแล้ว นายคงไม่ได้นอนเต็มที่ ตอนนี้ยังเช้าอยู่ นายนอนต่อเถอะ ฉันจะลงไปกินข้าวเช้าแล้ว”
กนกอรไม่ได้ตอบรับคำสารภาพของนฤเบศวร์ในทันที
นฤเบศวร์เองก็ไม่ได้ซักไซ้เอาคำตอบ
อย่างแย่ที่สุด ก็คือตอนนี้แหละ
เชื่อว่า วันหน้าจะดีขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากคุยกันเสร็จ นฤเบศวร์จะนอนหลับลงได้ไง เขาลุกขึ้น เข้าไปในห้องน้ำ
ใครจะคิดแค่เขาเข้าห้องน้ำ มือถือก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ยังคิดว่ากนกอรโทรมาอีกครั้ง ถึงเขาจะถอดเสื้อแล้วแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ รีบวิ่งออกมารับโทรศัพท์
แต่กลับเป็นธามบอดี้การ์ดของเขาที่โทรมา
“คุณชายครับ แผนการเมื่อคืนทำไม่สำเร็จ ไม่เห็นคุณกับคุณกนกอรเลยครับ”
นฤเบศวร์: “……โจรเมื่อคืนไม่ใช่พวกนายหรอกเหรอ?”
ธามตะลึงงัน ถามขึ้น: “คุณชายกับคุณกนกอรเจอโจรเหรอครับ?”
นฤเบศวร์เข้าใจขึ้นมาทันที เรื่องเมื่อคืน ที่แท้ไม่ใช่สถานการณ์ที่เขาวางแผนเอาไว้ แต่เจอโจรจริงๆ
เขาจึงสบถออกมาทันที ด่าบรรพบุรุษของไอ้โจรพวกนั้นไปหลายรอบ
ในเวลาเดียวกัน ก็รู้สึกได้ว่าทางกลับบ้านของกนกอรไม่ปลอดภัยแล้ว