รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 405 หวั่นไหวก็ยิ่งรู้สึกแย่
“คนใช้ในบ้านพวกคุณเยอะมาก ขอเพียงแค่คุณเอ่ยปาก มีคนป้อนคุณเยอะแยะ”
กนกอรพยายามดึงขาทั้งสองข้างบนเอวของเธอออก
แถมยังบอกว่าปวดแผลจนกระทั่งหยิบตะเกียบมีดส้อมไม่นิ่ง ตอนที่โอบกอดเธอ แรงเยอะขนาดนั้น เธอดึงก็ดึงไม่ออก
เห็นได้ชัดว่านี่คือโกหก หลอกเธอ!
อดีตแม่สามีไม่ต่อรับเธอเช่นนั้น โทษเรื่องที่นฤเบศวร์บาดเจ็บลงบนหัวเธอ บอกว่าเธอเป็นตัวซวย ดวงกินผัว เธออยู่ต่อ เผชิญหน้ากับอดีตแม่สามี มีเพียงต่างก็เกลียดกัน
เห็นว่าเป็นแม่แท้ๆของเขา เธอระงับอารมณ์ไว้ไม่ได้ระเบิดออกมาตรงนั้น
แต่ เธอไม่อยากอยู่ต่อจริงๆ
ต่างก็บอกว่าการแต่งงานเป็นการรวมกันของสองครอบครัว หลังจากแต่งงานก็เกิดความขัดแย้งได้ง่าย นี่ อาจจะเป็นสาเหตุที่คนในครอบครัวไม่อนุมัติให้เธออยู่กับนฤเบศวร์สินะ
กนกอรก็ไม่กล้าทุ่มเทออกไปอย่างง่ายดาย
ขอเพียงแค่เธอตัดสัมพันธ์รักในตอนนี้ ก็ยังทัน ก็สามารถระงับความเจ็บปวดในอนาคต
ตอนที่เดินตามลุงเซนเข้ามาแล้วได้ยินคำพูดเหล่านั้น กนกอรก็ตัดสินใจที่จะอยู่ให้ห่างจากนฤเบศวร์
“ผมไม่ต้องการให้พวกเขาป้อน ต้องการแค่คุณป้อน คุณยอมแข็งใจมองดูผมหิวได้เหรอ?”
ไหนก็ไม่มียางอายตั้งนานแล้ว ก็ไม่สนใจที่จะยิ่งเล่นแง่โอบกอดกนกอรไม่ปล่อยมือ บอกว่าเป็นคนที่น่าสงสาร คนเหล่านั้นที่เดินตามมาด้วย ได้ยินต่างก็มีหน้าที่ผิดแปลกไป
คริษฐ์มองออกว่าพี่ใหญ่ตกหลุมรักกนกอรจริงๆ
ถอนหายใจในใจ : หลังจากที่พี่ใหญ่หยุดคิดถึงเปรมา ไม่นานกลับว่าทุ่มเทใจในกนกอรแล้ว
น่าจะพูดว่าพี่ใหญ่หมดใจกับเปรมาตั้งนานแล้ว เพียงแค่ดื้อดึงมาสิบกว่าปี ไม่สามารถตัดขาดได้จริงๆ
หลังจากที่มีกนกอรแล้ว พี่ใหญ่ก็ค่อยๆเอาความสำคัญและความรู้สึกเบี่ยงเบนไปยังกนกอร ถึงได้ปล่อยเปรมาไปได้จริงๆ
ค่อนข้างเสียใจเลยทีเดียว เขายังเห็นด้วยที่พี่ใหญ่กับหากับเปรมา เพราะว่าคุณปู่ไม่ชอบเปรมา ขอเพียงแค่พี่ใหญ่ยืนกรานที่จะอยู่กับเปรมา ก็จะทำให้คุณปู่ผิดหวัง เขาก็มีโอกาสได้ครองตำแหน่งสูง
น่าเสียดาย พี่ใหญ่สำนึกตัวแล้ว ปล่อยวางเปรมาที่ยืนกรานมาสิบกว่าปีได้
บัณฑิตาคิดอยากจะพูดอะไรบางอย่าง ถูกพ่อตาจ้องมองอยู่ ทำได้เพียงอดกลั้นไว้ ไม่กล้าพูดอะไรทั้งนั้น
เห็นทุกคนตามออกมาดู นฤเบศวร์ต้องปล่อยกนกอรออกแล้ว
เมื่อเขาคลายมือออก กนกอรก็เดินไปยังข้างนอก
“กนกอร”
นฤเบศวร์อย่างกับพวกที่เดินตามก้น ตามไปติดๆไม่ยอมปล่อยกนกอรไป
“คุณชายเบศวร์ไม่ต้องไปส่งแล้ว ฉันออกไปเองก็ได้”
“กนกอร”
นฤเบศวร์หน้าหงิกหน้างอ มองกนกอรอย่างเจ็บปวด พูดเลยว่าน่าสงสารอย่างมาก
“แม่ผมพูดไม่คิด คุณอย่าเก็บมาใส่ใจ”
กนกอรจะต้องได้ยินคำพูดหยาบคายเหล่านั้นที่แม่ของเขาพูดแน่นอน
นฤเบศวร์คิดอยากจะตายแล้วจริงๆ
ทำไมเขาถึงมีแม่ที่ถ่วงความเจริญของเขาโดยเฉพาะ!
เขาอายุจะสามสิบปีแล้ว หรือว่าแม้แต่อิสระที่เขาจะชอบใครก็ไม่มีเลยงั้นเหรอ?
“ฉันไม่เก็บมาใส่ใจ ฉันจำไว้ในสมอง คิดอยากจะลืมก็ลืมแล้ว คุณชายเบศวร์ ฉันเป็นตัวซวย ฉันจะกินผัว คุณอยู่ให้ไกลจากฉันหน่อยดีกว่านะ หลีกเลี่ยงไม่ให้คนมีอันเป็นไปก่อนวัยอันควรเพราะฉัน”
ถูกด่าว่าเป็นตัวซวย มีดวงกินผัว พูดว่าไม่โกรธ งั้นก็เป็นเรื่องโกหก
ถ้าหากอีกฝ่ายไม่ใช่แม่ของนฤเบศวร์ กนกอรยังจะเข้าไปสั่งสอนสักยก
แม้ว่านฤเบศวร์และชายชราต่างก็โต้แย้งคำพูดของบัณฑิตา แต่กนกอรยังคงถือสาอย่างมาก
“กนกอร ขอโทษ”
“คุณไม่ได้ทำอะไรไม่ดีกับฉัน”
“แม่ของผมเธอ……”
“เธอก็แค่ไม่ชอบฉัน ฉันรู้ ตั้งแต่ที่เธอที่รู้จักฉัน ก็ไม่ชอบฉันแล้ว”
เมื่อก่อน บัณฑิตาชอบหรือว่าไม่ชอบเธอ เธอไม่ถือสาเลยจริงๆ เพราะว่าเธอไม่รักนฤเบศวร์ รู้ว่าสักวันหนึ่งทั้งสองก็ต้องหย่าร้างกัน
ตอนนี้ กนกอรแคร์ท่าทีของบัณฑิตา นั่นเป็นเพราะว่าเธอมีความรู้สึกต่อนฤเบศวร์บ้างแล้ว
เป็นอย่างที่คิดไว้ ใจหวั่นไหว ก็จะแพ้
“กนกอร แม่ของผมไม่ชอบคุณ พวกเราไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกับเธอทั้งชีวิตสักหน่อย ต่อไป พวกเราก็ย้ายออกไปได้”
ในใจของนฤเบศวร์ก็เข้าใจดี คิดอยากให้แม่ยอมรับกนกอรมันยากจริงๆ แม่แท้ๆของเขาไม่ได้รู้เหตุรู้ผมเหมือนอย่างน้าชาแบบนั้น
ในแวดวงของพวกเขานี้ ผู้ปกครองที่เปิดใจกว้างอย่างน้าชา มีน้อยมาก
เพราะงั้น เขาอิจฉายศพัฒน์เป็นพิเศษ มีผู้อาวุโสที่ใจกว้างเช่นนี้ ไม่เหมือนเขา แม้ว่าพ่อไม่แสดงออก เขาก็รู้ว่าจริงๆแล้วพ่อก็รังเกียจตระกูลภูสิทธ์อุดมที่ตระกูลยากจน ไม่เหมาะกับตระกูลเดชอุปของพวกเขา แม่กลับแสดงว่าไม่ชอบออกมาให้เห็น
เขาเพื่อที่จะตามจีบภรรยาสร้างปัญหาและความยากลำบากนับไม่ถ้วนแล้ว
กนกอรจ้องมองไปยังนฤเบศวร์ครู่หนึ่ง ท้ายที่สุดก็ไม่ได้พูดลงลึก เพียงแค่พูดอย่างนิ่งๆว่า : “คุณเบศวร์ ตอนนี้ฉันไม่อยากที่จะพูดคำเหล่านี้กับคุณ คุณไปดื่มซุปเถอะนะ ฉันกลับก่อนแล่ว”
พูดแล้ว เธอหันกลับไปและเดินออกไปอีก ไม่หันหน้ากลับมา
นฤเบศวร์ไม่ได้ไล่ตามออกไปอีก เขาหันกลับมายังตรงหน้าของคนในครอบครัว คุกเข่าเสียงดังฟุบต่อหน้าคุณปู่ แสดงความเคารพแบบโขลกศีรษะอย่างไม่ให้ซุ่มให้เสียง
ชายชราตกใจเขามาก รีบให้คริษฐ์ไปประคองเขา
“เบศวร์ แกทำอะไร?”
“คุณปู่ หลานไม่กตัญญู ตอนนี้หลานคุกเข่าขอลาคุณปู่ ต่อไปไม่สามารถกตัญญูอยู่ข้างกายของปู่ได้แล้ว คุณปู่ก็ถือว่าไม่มีหลานอย่างผมแล้วกัน เรื่องของบริษัท อำนาจของผมขอมอบให้กับคริษฐ์จัดการ ผมจะไปบวชเป็นพระแล้ว !”
ผู้คน:……
“เบศวร์!”
บัณฑิตาตะโกนเสียงดัง “นี่แกโทษแม่ของแกเหรอ?แกไปบวช!แกอยากให้แม่โมโหตาย”
คริษฐ์ประคองพี่ชายขึ้นมา พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ : “พี่ใหญ่ สู้ๆ!”
พี่ชายของเขาคนนี้เพื่อความรัก มักจะไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
เป็นผู้ชายที่เห็นความรักสำคัญ
มีทั้งข้อดีและข้อเสีย
แต่ว่า พี่ชายพูดว่าจะปล่อยวางทุกอย่างและออกบวชเพื่อกนกอรได้ กล้าที่จะต่อต้าน ทำให้เขาเปิดโลกทัศน์แล้ว
ต่อไป ถ้าหากเขาเจอเด็กสาวที่ชอบและก็ไม่รับการยินยอมจากคนในครอบครัว ก็เรียนรู้จากพี่ชายคนโตได้
ผู้ใหญ่ไม่มีทางให้พวกเขาไปบวชเป็นพระได้หรอก เพราะงั้น นี่อุบายนี้แหละ
“แม่ไม่ชอบกนกอร ไม่สามารถยอมรับกนกอรเป็นลึกสะใภ้ของแม่ได้ แม่เป็นแม่แท้ๆของผม ผมจะทำยังไงได้?งั้นก็ไม่เอาอะไรทั้งนั้นเลย บวชเป็นพระ ถึงยังไงผมก็ไม่สามารถแต่งงานกับผู้หญิงที่รักได้ ยังจะมีความหมายอะไรอีก ?ไปบวชเป็นพระดีกว่า”
บัณฑิตาโมโหจนหน้าเขียวคล้ำ “นฤเบศวร์ แกปีกกล้าขาแข็งแล้ว แกข่มขู่ฉันที่เป็นแม่ของแก กนกอรมีอะไรดี ?แกจะต้องการเธอให้ได้?แม่ไม่ชอบเธอก็คือไม่ชอบ แกยังจะบีบบังคับให้แม่ชอบเธองั้นเหรอ?”
เธอมองไปยังพ่อตาอีกครั้ง ทั้งหมดนี้เป็นหายนะที่พ่อต่อเป็นคนก่อให้เกิดขึ้นมา
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าตอนแรกพ่อตาบีบบังคับให้ลูชายแต่งงานกับกนกอร จะมีเรื่องมากมายเช่นนี้เหรอ?
“พ่อ พ่อไม่สนใจหน่อยเหรอ?เบศวร์บอกว่าจะออกบวชแล้ว ตอนแรกพ่อไม่ควรให้เบศวร์แต่งงานกับกนกอร แม้ว่าเปรม์จะวุ่นวายอยู่ที่เมืองนอกเล็กน้อย นั่นเป็นเพราะว่าต่างประเทศเปิด ขอเพียงแค่หลังจากกลับมาเธอไม่ซี้ซั้วทำอีก งั้นก็ดีกว่ากนกอรเยอะเลย”
เปรมาไปมอบตัวแล้ว
ช่วงนี้คุณณัฏฐาทำตัวอ่อนน้อมประจบต่อหน้าเธอ พยายามที่จะปลอบเธออย่างมาก
บัณฑิตาและคุณณัฏฐามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาหลายปี ถูกอีกฝ่ายปลอบโยน หลังจากที่หายโมโห ก็รู้สึกว่าเปรมา เหมาะสมกับลูกชาย
ถ้าไม่ใช่เพราะว่ากนกอรปรากฏตัวออกมา ลูกชายจะต้องให้อภัยเปรมาแน่