รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 449 คำเตือนแสนรุนแรง
“คุณปู่เดี๋ยวผมช่วยพยุงครับ”
นฤเบศวร์รีบเข้าไปช่วยพยุงคุณปู่
เขามองตรงไปที่กนกอรอีกครั้ง เพราะอยากจะให้กนกอรมาช่วยเขาพยุงคุณปู่ไปที่ห้องอาหาร
กนกอรนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง และเมื่อคุณปู่มองเธอด้วยสายตารักใคร่เอ็นดู เธอจึงลุกขึ้นแล้วเข้าไปช่วยนฤเบศวร์ท่านไปที่ห้องอาหารพร้อมกัน
เธอถือโอกาสตอนที่คุณปู่ไม่ทันสังเกตแอบหยิกนฤเบศวร์ไปหนึ่งที
นฤเบศวร์หัวเราะเบา ๆ แล้วไม่ได้โกรธเธอเลยสักนิด
คุณปู่ช่วยเขาได้มาก พอดีหลังจากทานอาหารเสร็จ เขาจะได้มีข้ออ้างพากนกอรไปดูวิลล่าที่Good Hi Villa
นั่นเป็นวิลล่าที่เขาซื้อไว้เพื่ออยู่หลังแต่งงาน
อันที่จริง เขาคิดเสมอว่าหลังจากแต่งงานเขาจะพาภรรยาที่น่ารักของเขาออกไปอยู่ข้างนอก แล้วค่อยพาภรรยากลับมาอยู่เป็นเพื่อนคุณปู่ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
ทว่าเมื่อก่อนเขาไม่ได้ซื้อวิลล่าที่Good Hi Villa เพราะตอนนั้นเขาเตรียมทุกอย่างไว้เพื่อเปรมา แต่หลังจากตัดใจจากเปรมาแล้ว เขาก็ซื้อวิลล่าหลังใหญ่หลังใหม่ที่Good Hi Villa และซื้อมันเพื่อกนกอร
ที่นั่นอยู่ค่อนข้างไกลจากคฤหาสน์ตระกูลเดชอุป เหมาะที่จะให้กนกอรได้รักษาระยะห่างจากแม่สามี
แต่ค่อนข้างใกล้กับ One Day In Coffee และบ้านตระกูลภูสิทธ์อุดม ซึ่งสะดวกเวลากนกอรไปทำงานและเผื่อจะกลับบ้านแม่
เมื่อเห็นลูกชายของตัวเองกับกนกอรช่วยกันพยุงคุณปู่เข้าห้องอาหารแล้ว ธารณ์ก็ลุกขึ้นยืนตาม ในขณะเดียวกันก็แอบกระซิบเตือนภรรยาตัวเองเบา ๆ “เมียจ๋า อีกเดี๋ยวคุณอย่าทำหน้าแบบนั้นนะ ไม่เห็นท่าทีของคุณพ่อที่ทำกับกนกอรหรือไง”
“ทำไมคุณถึงไม่เข้าใจสักทีนะ?”
บัณฑิตาพูดเสียงเบาอย่างไม่สบอารมณ์ “ฉันเข้าใจอะไร ฉันรู้แค่ว่าคุณพ่อจับคู่กนกอรให้เบศวร์ แถมไม่รู้ว่าเธอใช้วิธีไหนถึงทำให้แม้แต่เบศวร์ก็หลงใหลเธอไปด้วย”
“เมื่อกี้คุณบังเอิญเจอน้องสะใภ้สามมาใช่ไหม เธอพูดอะไรกับคุณบ้าง”
คนรับใช้จากบ้านสามเอาอาหารมาให้ ธารณ์พอจะเดาได้ว่าน้องสะใภ้สามต้องพูดอะไรบางอย่างกับภรรยาของเขาแน่ ๆ
บัณฑิตารู้สึกผิดเล็กน้อย “ก็ไม่ได้พูดอะไร”
“จริงสิ คุณคะ กนกอรกับน้องสะใภ้สามสนิทกันมากเลยนะ เธอไม่รู้หรือไง้ว่าบ้านใหญ่อย่างพวกเราไม่ลงรอยกับพวกบ้านรองแล้วก็บ้านสาม คริษฐ์ก็จ้องแต่จะยึดตำแหน่งลูกชายของเราอยู่”
“กนกอรไม่รู้เรื่องอะไรซะเลย”
บัณฑิตาบ่นพึมพำเสียงเบา
“นี่คุณโง่หรือเง่ากันแน่ เพราะน้องสะใภ้สามรู้ว่าคุณไม่ชอบกนกอรถึงได้จงใจทำเป็นสนิทสนมรักใคร่กับกนกอร เพราะอยากให้คุณโมโห และทำให้คุณเกลียดกนกอรมากกว่าเดิม ความคิดของเธอคุณมองไม่ออกเลยเหรอ”
ธารณ์เตือนสติภรรยาของตัวเองอย่างจนปัญญา “ผมว่าคุณพ่อคงจะชอบกนกอรมาก แถมตอนนี้เบศวร์ก็จริงใจกับกนกอรด้วย น้องสะใภ้สามคงจะกังวลว่าถ้ากนกอรแต่งงานเข้าบ้านเราอีกรอบ คุณพ่อจะยกตำแหน่งคุณนายผู้ดูแลบ้านให้กนกอรน่ะสิ เธอคงจะทำใจยอมรับไม่ได้ เลยอยากจะยุยงให้คุณไปขัดขวางเบศวร์ไง”
บัณฑิตามองสามีด้วยความตกตะลึง
“คุณนายผู้ดูแลทุกอย่างในบ้านของตระกูลเราไม่ควรจะเป็นฉันเหรอคะ”
เธอเป็นภรรยาของลูกชายคนโตของบ้าน แถมอายุก็ขึ้นเลยห้าแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอายุหรือตำแหน่งสถานะทุกอย่างก็สมควรจะเป็นเธอมากกว่า
สำหรับครอบครัวตระกูลเดชอุป การได้เป็นคุณนายที่ดูแลทุกอย่างในบ้านก็เท่ากับเป็นภรรยาที่ใหญ่ที่สุดในบ้านนี้ ในสมัยโบราณถือว่าเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติมากเลยนะ
ธารณ์เงียบไปสักพัก ก่อนจะถามภรรยากลับอย่างอดไม่ได้ “คุณคิดว่าคุณรับผิดชอบหน้าที่นี้ได้เหรอ”
พูดจบเขาก็ไม่ได้สนใจว่าภรรยาจะแสดงสีหน้าท่าทียังไง แต่เดินตรงไปที่ห้องอาหารทันที
บัณฑิตา “…”
ตอนทานอาหารด้วยกันนับว่ามีความสุขคึกครื้นไม่น้อยเลยทีเดียว
กนกอรครุ่นคิด ในเมื่อเธอตัดสินใจกลับมาทานข้าวกับนฤเบศวร์แล้ว ไม่ว่าอดีตแม่สามีจะแสดงท่าทีกับเธอยังไง ไม่ว่าคุณปู่เร็นจะเคยวางแผนเรื่องของเธอแบบไหน เธอก็จะไม่ปล่อยให้อารมณ์และความรู้สึกของตัวเองมากระทบกับความอยากอาหารของทุกคนแน่นอน อีกอย่างเรื่องพวกนั้นก็ผ่านไปหมดแล้ว
สิ่งที่เธอต้องให้ความสำคัญคืออนาคต
ดังนั้น กนกอรจึงให้ความร่วมมือกับนฤเบศวร์เป็นอย่างดี กว่าจะพูดให้คุณปู่มีความสุขได้ เธอเองก็ทานข้าวไปกว่าครึ่งชามแล้ว
ธารณ์กับภรรยายังคงได้แต่ยิ้มแย้ม แต่กลับไม่กล้าทำอะไร โดยเฉพาะบัณฑิตาที่ถูกเหมือนโดนระเบิดลูกใหญ่ลงยังไงอย่างนั้น
กนกอรแอบมองสีหน้าของอดีตแม่สามีหลายต่อหลายครั้ง พลางพยายามเดาว่าอดีตพ่อสามีไปพูดอะไรกับอดีตแม่สามีกันแน่ ทำไมท่าทางของบัณฑิตาถึงได้ดูเหมือนคนที่กำลังช็อกแบบนั้น
หลังทานอาหารเสร็จท้องฟ้าก็มืดแล้ว
คุณปู่ก็เร่งเร้าให้นฤเบศวร์พากนกอรไปดูของขวัญ
“คุณปู่เร็นคะ ถ้าอย่างนั้นไว้วันหลังถ้าหนูว่างแล้วจะมาเยี่ยมใหม่นะคะ”
กนกอรบอกกล่าวอย่างสุภาพ
คุณปู่ยิ้มและพูดว่า “ได้สิ บ้านหลังนี้เปิดประตูคอยต้อนรับหนูเสมอนะ”
“คุณปู่ ถ้าอย่างนั้นผมขอพาอรไปก่อนนะครับ”
คุณปู่พยักหน้า
นฤเบศวร์หันไปทักทายพ่อแม่อีกครั้ง หลังจากรอกนกอรกล่าวลาพ่อแม่ของเขาแล้ว เขาก็โอบไหล่กนกอรแล้วพาเดินออกไปข้างนอกอย่างอดใจรอไม่ไหว
กนกอรอยากจะแกะมือของเขาออกหลายต่อหลายครั้ง แต่เขาก็ยังเหมือนเดิม
ผู้ใหญ่ทั้งสามคน …
ผู้ใหญ่ทั้งสามคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น แม้กระทั่งไอคิวอย่างบัณฑิตายังมองออกเลยว่าความสัมพันธ์ระหว่างหนุ่มสาวทั้งสองคน นฤเบศวร์เป็นฝ่ายทุ่มเทมากกว่า ส่วนกนกอรเป็นฝ่ายที่ถูกตามจีบ
หลังจากนฤเบศวร์พากนกอรเดินออกไปแล้ว คุณปู่ก็เก็บสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดูและหันมองไปทางบัณฑิตา
บัณฑิตาที่จู่ ๆ ก็ถูกพ่อตาจ้องมองด้วยสายตาจริงจังดุดันเกิดอาการประหม่าขึ้นมาเล็กน้อย แม้แต่จะหายใจแรงก็ยังไม่กล้า
“บัณฑิตา”
“ค่ะ คุณพ่อ”
บัณฑิตารีบขานรับ “คุณพ่อว่ามาเลยค่ะ”
“ตัดการติดต่อกับณัฏฐาซะ!”
คุณปู่พูดด้วยน้ำเสียงออกคำสั่ง
“เบศวร์ต้องเหนื่อยเพราะเปรมามานานหลายปี เธอในฐานะคนเป็นแม่มองไม่เห็นหรือไง ทำไม่รู้จักสงสารลูกบ้าง ฉันในฐานะปู่คอยดูอยู่ห่าง ๆ ยังรู้เรื่องทุกอย่างและสงสารหลานมาก ไม่ง่ายเลยกว่าเบศวร์จะยอมปล่อยวางเรื่องเปรมา ตอนนี้เขาก็อรก็ไปกันได้ดี ถ้าพวกเขาต้องเลิกกันเพราะเธอ…”
คุณปู่เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงเฉยเมยว่า “แล้วอย่ามาโทษฉันที่บังคับให้ธารณ์หย่ากับเธอ เพราะถ้าธารณ์ไม่หย่า ฉันจะไล่พวกแกสองสามีภรรยาและตัดความสัมพันธ์กับพวกแกทั้งสองคนซะ!”
“เบศวร์เองก็ไม่ต้องการแม่ที่คอยเป็นตัวถ่วงชีวิตลูกอย่างเธอ!”
บัณฑิตาหน้าซีด
เธอมองพ่อตาอย่างตกตะลึง
คิดไม่ถึงว่าพ่อตาจะพูดเตือนเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชาและคำพูดที่เด็ดขาดรุนแรงขนาดนี้
“เรื่องบ้านสามฉันก็จะเตือนหล่อนด้วยเหมือนกัน”
คูณปู่รู้เรื่องทุกอย่างดี
“ฉันเตือนไว้ตรงนี้เลยนะว่า ถ้าใครกล้าทำลายความสุขของหลานชายฉัน ฉันจะไล่คนคนนั้นออกไปจากบ้านหลังนี้ซะ ทรัพย์สินหมื่นล้านของตระกูลเดชอุปก็จะไม่ได้แม้แต่สตางค์แดงเดียว”
ที่คุณปู่ยังสามารถยื่นคำขาดได้เพราะเขายังเป็นท่านประธานของ RA กรุ๊ปอยู่ และเขายังถือครองทรัพย์สินหลายหมื่นล้านของตระกูลเดชอุปอยู่ด้วย
ถ้าใครทำให้เขาโกรธ เขาสามารถไล่คนคนนั้นออกจากบ้านโดยไม่แบ่งทรัพย์สินให้แม้แต่นิดเดียวได้จริง ๆ แน่
เพราะไม่ว่ายังไงทรัพย์สินของครอบครัวก็ยังอยู่ในมือของเขาอยู่ เขาอยากจะให้ใครเขาก็ให้คนนั้น
ถ้าหากทุกคนยอมเชื่อฟังเขา ถึงแม้ว่าเขาจะค่อนข้างลำเอียงให้บ้านใหญ่ แต่บ้านรองบ้านสามก็ไม่มีทางเสียเปรียบไปกว่ากันแน่นอน
เพราะนี่คือหลานชายคนเดียวที่เขาเลี้ยงดูมากับมือ แล้วท่านคาดหวังอยากให้นฤเบศวร์มีความสุข
แน่นอนว่าผู้หญิงที่นฤเบศวร์ชอบอยู่ตอนนี้เขายอมรับ
แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นเปรมา ท่านไม่ชอบใจแบบนั้น
ธารณ์ก็ตกใจกับการยื่นคำขาดอย่างกะทันหันของพ่อด้วยเหมือนกัน
เมื่อนึกถึงน้ำเสียงของลูกชายตอนที่โทรมาเร่งเร้าให้เขารีบไปรับภรรยาออกมาจากร้าน One Day In Coffee แล้ว เขาก็รีบกระทุ้งภรรยาเบา ๆ แล้วตอบแทนภรรยาด้วยรอยยิ้มว่า “คุณพ่อครับ คุณพ่อสบายใจได้เลย ผมจะดูแลบัณฑิตาอย่างดี จะไม่ให้เธอติดต่อกับคุณณัฏฐาอีก”