คุณสามีพันล้าน – บทที่ 467 เสนอตัวมาเยี่ยมเยียนถึงเรือนชาน

คุณสามีพันล้าน - บทที่ 467 เสนอตัวมาเยี่ยมเยียนถึงเรือนชาน

รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 467 เสนอตัวมาเยี่ยมเยียนถึงเรือนชาน

“เรื่องในบริษัทไม่ต้องกังวล ผมยังมีน้องชายยาวเป็นหางแถว หาคนเก่งๆ สักคน ก็สามารถประคับประคองต่อได้ ถึงแม้ว่าจะอยู่ที่เมืองซูเพร่ากับคุณไปทั้งปี บริษัทก็สามารถดำเนินการได้อย่างปกติ”

ยศพัฒน์เชื่อมั่นในตัวบรรดาน้องชาย และมั่นใจในความสามารถของพวกเขา

“อย่าดูถูกว่าตอนนี้พวกเขาต่างแยกกันบริหารคนละภาคส่วน ความจริงพวกเขาต่างรับรู้สภาพการดำเนินกิจการของทั้งบริษัท งานแต่งงานของกษิดิ สามารถยกเว้นเขาสักคนเจ้าสิบกำลังเรียนอยู่ สามารถยกเว้นได้ ตั้งแต่เจ้าสามยาวไปถึงเจ้าเก้าใช้งานได้หมด”

บรรดาคุณชายทั้งหลาย: … พี่ใหญ่ อย่าเลือกผมนะ

ยศพัฒน์: หรือ พวกแกโอน้อยออก จับฉลาก ใครแพ้ก็มารับหน้าที่ผู้สืบทอดไป

ทุกคน …….

“บริษัทใหญ่โตถึงเพียงนี้ ตั้งแต่เจ้าเจ็ดเป็นต้นไป พวกนั้นก็ยังเด็กเกิน แม้ว่าพวกเขารับผิดชอบคนละด้าน แต่ในเส้นทางธุรกิจแล้วยังต้องมีผู้มีประการณ์กำกับ เจ้าสามเจ้าสี่ก็ไม่เลว ความสามารถทางด้านการรับมือของเจ้าห้าแย่ที่สุด ให้เขาแบกรับผิดชอบอันหนักอึ้ง เขาอาจอยากเหมือนนฤเบศวร์ก็ได้ เวลาไปไหนมาไหนก็ต้องมีบอดี้การ์ดคอยคุ้มกันตลอด คงไม่สามารถให้ต่ำต้อยเหมือนพวกคุณนี่คะ”

เทวิกาเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของเหล่าคุณชายมาสักระยะ จึงค่อนข้างเข้าใจบรรดาคุณชายทั้งเก้าท่านพอประมาณ

ยศพัฒน์ยิ้มตอบ “ผมก็เป็นพวกเดียวกับเจ้าสามกับเจ้าสี่ ให้พวกเขาสองคนแบ่งสันปันส่วนแล้วกัน เพื่อจะได้ยกเว้นหาว่าผมลำเอียง”

เซทท์กับณภัทร: …

เทวิกาหาว พลันหลับตาลง แต่ปากก็ยังพูดต่อ “ที่รัก ฉันง่วงแล้ว เจอกันในห้วงความฝันนะ”

ยศพัฒน์จูบเธออย่างอ่อนโยน พลันพูดเสียงนุ่มนวล “นอนสิครับ เดี๋ยวผมคอยดูคุณนอนหลับเอง”

เทวิกาไม่ได้พูดต่อ

ทุกครั้งหลังจากที่สุขสมภิรมย์หมายเรียบร้อยแล้ว เธอมักรู้สึกเหนื่อยมาก นอนหลับสนิทมาก

เรื่องระหว่างหนุ่มสาว ทั้งๆ ที่คนที่ออกแรงไม่ใช่เธอ ทำไมคนที่เหนื่อยล้าถึงเป็นเธอล่ะ

ไม่เข้าใจจริงๆ

……

เมืองซูเพร่า

ตีหนึ่ง

ทั่วทั้งเมืองนี้ต่างสงบเงียบ

แต่กลับมีขบวนรถยนต์หนึ่งแถวกลับมาที่คฤหาสน์สาระทาท่ามกลางแสงจันทร์

บอดี้การ์ดที่เข้าเวรอยู่หน้าประตูใหญ่ของคฤหาสน์ ต่างง่วงเหงาหาวนอน จึงอ้าปากหาววอดอยู่เรื่อยๆ แต่พวกเขายังไม่กล้านอน เพราะนายน้อยยังไม่กลับมา

ยามเมื่อแสงไฟรถยนต์ส่อง ความง่วงเหงาหาวนอนของบอดี้การ์ดเวรยามหายวับไปทันที พร้อมทั้งลุกพรวดเพื่อปลดล็อกประตู จากนั้นจึงเดินออกจากห้องบอดี้การ์ด พลางยื่นหน้าประตู และแสดงท่าทางแววตาเคารพให้กับรถยนต์บอดี้การ์ดที่คอยคุ้มกันให้ประยสย์โดยเฉพาะเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างช้าๆ

ครู่เดียว ประตูคฤหาสน์ปิดลงทันที

บอดี้การ์ดที่เข้าเวรยามอยู่กลับมายังห้องพักบอดี้การ์ด พลางถอดหมวก ในที่สุดก็สามารถพาดตัวนอนได้แล้ว

รถยนต์พิเศษเฉพาะประยสย์จอดตรงประตูของทางเข้าตึกหลักของคฤหาสน์

“ไปพักผ่อนกันเถอะ”

หลังจากประยสย์ลงจากรถแล้ว พลันพูดเสียงเข้ม บรรดาบอดี้การ์ดต่างกล่าวพร้อมเพรียงกัน “ราตรีสวัสดิ์ครับนายน้อย”

ประยสย์เดินเข้าบ้านตึกหลักโดยไม่หันหน้ากลับมามองด้วยซ้ำ

หลังจากบรรดาบอดี้การ์ดสงบนิ่งสักพัก จึงกลับมาขึ้นรถ เพื่อขับรถยนต์มาจอดที่ลานจอดรถ จากนั้นก็กลับไปที่ห้องของพวกเขา ส่วนคนที่ทำหน้าที่คุ้มกันนายน้อยในคืนนี้ไปเข้าเวรยาม จำต้องเฝ้าให้ถึงฟ้าสาง รอจนบอดี้การ์ดอีกทีมมาเปลี่ยนเวร

หลังจากประยสย์ขึ้นรถแล้ว เมื่อเห็นว่าห้องของมารดายังเปิดไฟสว่างอยู่ เขาชะงักและเดินไปดู

ซึ่งไม่ได้มีความผิดแปลกสักนิด พ่อของเขานอนหลับกรนอยู่บนเตียงมารดาของเขา เมื่อเดินเข้าห้อง เขาได้กลิ่นเหล้าคละคลุ้ง ไม่ต้องเอ่ยถาม ก็รู้ว่าคืนนี้พ่อเขาดื่มเหล้าในงานเลี้ยงไปไม่น้อย แถมยังเมามากด้วย

ดังนั้นจึงบุกเข้ามานอนหลับสนิทในห้องนอนของมารดาของเขา

ประยสย์เดินมาหยุดหน้าเตียง จึงมองเห็นแอร์เปิดอยู่ แต่พ่อของเขาไม่ได้ห่มผ้าห่ม แต่ยังกอดหมอนใบนั้นที่มารดาของเขาหนุนนอนตามปกติอยู่ตลอดเพียงเท่านั้น

เขาจึงคลี่ผ้านวมออก เพื่อห่มผ้าให้แก่บิดา จากนั้นถอดถุงเท้าออก ปรับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสม ถึงยอมออกจากห้อง และล็อกกลอนประตูห้อง เพื่อหลีกเลี่ยงคนที่มีจิตใจมุ่งมั่นใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้

ห้องของประยสย์อยู่ห่างจากห้องนอนใหญ่มาก นั่นเป็นเพราะว่าความสัมพันธ์สองพ่อลูกไม่ดี ดังนั้นจึงเลือกห้องที่อยู่ไกลจากห้องของบิดาให้มาก และย่อมอยู่ให้ห่างห้องนอนรับแขกเหล่านั้นเช่นกัน

เขาเดินมาหยุดยังด้านหน้าของห้องที่แสนไกลบนชั้นสอง คนอื่นไม่รู้เหตุผลที่เขาเลือกห้องนี้ ต่างคิดว่าเขาไม่ได้เป็นลูกหัวแก้วหัวแหวน จึงถูกจัดให้มาพักยังห้องที่ห่างไกลที่สุด

แสงสว่างในห้องของเขาแย่ที่สุด เพราะว่าระเบียงกับนอกหน้าต่างมันมีต้นไม้ใหญ่หลายคนบดบังอยู่พอดี

ต้นไม้ใหญ่หลายต้นนั้นกิ่งก้านแตกสาขาใบเขียวชอุ่ม ช่วงหน้าร้อน สามารถบดบังแสงแดด ยิ่งทำให้ห้องของเขาเย็นสบายมากขึ้น แต่ในเวลาเดียวกันทำให้แสงที่ส่องเข้าห้องไม่เพียงพอ

ประยสย์ไม่เคยคิดจะตัดต้นไม้ใหญ่หลายต้นเหล่านั้นออกตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว เหล่าบอดี้การ์ดที่เข้าเวรยามกะดึกต่างซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ใหญ่เหล่านั้น ถ้าตัดออก จะให้พวกเขาไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหนล่ะ?

ประยสย์ผลักประตู ย่างเท้าเข้าห้อง เพิ่งเดินได้สองก้าว พลันหยุดฝีเท้าทันที

มีคนบุกรุกห้องของเขา

แต่บอดี้การ์ดกะกลางคืนไม่ทราบเรื่อง

ใครกันที่เก่งกาจถึงเพียงนี้ กล้าซ่อนเร้นอยู่ในห้องของเขา ที่ทำให้บอดี้การ์ดของเขาไม่รู้เรื่องสักคน

ถ้าเป็นคนที่เขามาลอบสังหารเขา…

ประยสย์รู้สึกว่าเขาต้องเปลี่ยนทีมบอดี้การ์ดแล้ว

เขาแสดงอาการเคร่งขรึม แสร้งทำเป็นเหมือนไม่รู้อะไร พลันเดินไปเปิดไฟในห้องทำทีไม่มีเรื่องอื่น ปิดประตูห้อง แถมยังสัมผัสปุ่มตรงบนบานประตู เพื่อแจ้งเหตุให้เหล่าบอดี้การ์ด ภายในห้องของเขาเกิดเรื่องขึ้น

แต่ตอนที่เขามองเห็นคนที่นั่งเอกเขนกอยู่บนโซฟาในห้องของเขานั้น เขารีบกดปุ่มบนบานประตูเล็กน้อยทันที

เพื่อส่งสัญญาณให้เหล่าบอดี้การ์ดไม่จำเป็นต้องเข้ามาแล้ว

คนที่นั่งอยู่บนโซฟาใส่ชุดสีดำรัดติ้ว จนขับให้เห็นรูปร่างอันงดงามของเธอได้สมบูรณ์แบบ

เธอจัดการมัดผมยาวให้เป็นทรงหางม้า ใบหน้ายังคงมีหน้ากากผี้เสื้อสีเงินเหมือนเดิม

ประยสย์ไม่ติดใจว่าจะเป็นตัวปลอม

เขามองแวบเดียวก็มองออก หน้ากากสาวคนนี้ก็คือหญิงสาวลึกลับคนนั้นที่เข้ามาช่วยตนเอง

เขาเดินตรงเข้ามาหา

“กินอาหารมื้อดึกสักหน่อยมั้ยล่ะ?”

“ถ้าสะดวก ก็กินค่ะ ฉันตาลีตาเหลือกมา หิวอยู่เนี่ย”

“ชอบกินอะไรล่ะ?”

“คุณกินอะไรฉันก็กินอันนั้นแหละ”

หลังจากประยสย์เงียบสักพัก จึงกล่าวตอบ “ผมจะรินน้ำอุ่นให้คุณก่อน แล้วจะไปเตรียมมื้อดึกให้คุณ”

เขาพูด พร้อมทั้งหันหลังเดินจากไป พริบตาเดียวก็เดินกลับมา และยังถือน้ำอุ่นมาหนึ่งแก้วพลางวางไว้ด้านหน้าหญิงสาว

“ผมไม่ชอบกินพวกขนม ในห้องก็ไม่มีของขบเคี้ยว แต่คราวหน้าถ้าคุณจะมาแล้วล่ะก็ ผมจะเตรียมขนมขบเคี้ยวที่พวกสาวๆ อย่างพวกคุณชอบกินเอาไว้ให้บ้างนะ”

เวลาที่น้องสาวไม่ได้ทำงาน ก็มักชอบกินขนม

เขารู้ว่าผู้หญิงชอบกินอะไร

“การเดินทางมาแต่ละครั้งช่างเปลืองเวลามาก ไม่ดีเลยที่นายน้อยประยสย์อุปถัมภ์ แต่ ไมตรีจิตของคุณ ฉันรับไว้จากใจ”

คิดไม่ถึงเลยว่าเปลือกนอกอันเย็นชาของประยสย์ยังซ่อนเร้นดวงใจที่คอยใส่ใจถึงรายละเอียด รอบคอบเช่นนี้

วิกาช่างมีความสุขจริงๆ พี่ชายสองคนดีมากๆ

สามีที่แต่งงานด้วยก็เอาอกเอาใจเธออย่างเต็มที่

หน้ากากสาว ก็คือ กัญณิศา เธอได้แต่อิจฉาเทวิกาอยู่ในใจ

เทวิกาพูดอย่างเปิดเผยมาก: ฉันจะยกพี่ชายของฉันคนหนึ่งให้เป็นสามีของแก

กัญณิศา: ……

พี่ชายคนโตของเทวิกาคบหากับพี่สาวของเธอแล้ว เทวิกายังอยากจะยกเธอให้ประยสย์ นี่มันเป็นความคิดที่จะให้พี่ชายทั้งสองคนแต่งงานกับสองสาวพี่น้องเลยใช่มั้ย?

“คุณรอประเดี๋ยวนะ ผมจะไปเตรียมมื้อดึกให้”

ประยสย์พูดเสียงเข้ม โดยหันหลังเดินออกไป ทั้งที่ไม่รอให้กัญณิศาตอบคำถาม

แม้ว่าห้องของเขาไม่ใช่ห้องนอนใหญ่ แต่ก็กว้างขวางมาก มีห้องครัวเล็กๆ อยู่ภายในแยกอีกห้อง ถ้าหิวในเวลากลางคืน ก็สามารถทำอะไรกินได้ภายในห้องของตนเอง ไม่อยากไปรบกวรห้องครัวใหญ่ และก็กลัวว่าคนในห้องครัวหลักจะถูกคนซื้อตัว และฉวยจังหวะใส่ยาพิษให้เขาในอาหารมื้อดึก

คุณสามีพันล้าน

คุณสามีพันล้าน

Status: Ongoing
รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้านเป็นเรื่องราวความรักเกี่ยวกับการเดินทางที่ยากลำบากของตัวเอกชายและหญิง รู้จักกัน ตกหลุมรัก ผ่านเหตุการณ์และความยากลำบากมากมาย แต่สุดท้ายก็กลับมารวมกัน?เทวิกาถูกบังคับแต่งงานซ้ำๆจนบ้านก็ไม่กล้ากลับ เพื่อที่จะใช้ชีวิตอย่างสงบ เช่าพี่ชายเพื่อนอย่างยศพัฒน์มาเป็นสามี นึกว่าเค้านั้นจะเป็นแค่ผู้ชายที่เกิดในครอบครัวธรรมดาๆ ใครจะรู้ว่าครอบครัวเค้าเป็นตระกูลร่ำรวยเชียว ……พันธะสัญญาของเทวิกาเป็นโมฆะ ยศพัฒน์:คุณภรรยา อย่างอแงสิครับ เด็กดี กลับบ้านกลับสามีเถอะ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท