รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 487 แสร้งทำ
“เฮ้ ไซม่อน นี่นายคงไม่ได้หัวกระแทกจนเอ๋อหรอกนะ?”
เมื่อเห็นว่าเขายังคงไม่ขยับหรือพูดอะไร ญาณินก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย
เพื่อที่จะได้อยู่กับลูกๆ เธอควรจะรีบโทรหาโรงพยาบาล แล้วให้รถพยาบาลมาพาเขาไปใช่ไหม?
งั้นก็โทรเลยละกัน
ญาณินหันหลังกลับและไปหยิบโทรศัพท์
หลังจากที่เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เธอก็หันศีรษะมองไปที่ไซม่อน และเมื่อเห็นว่าเขายังคงนอนอยู่บนพื้น พร้อมทั้งมองมาที่เธอตาแป๋ว ญาณินก็รีบกดโทรออก แต่เพราะเธอรีบมาก จึงกดโทรไปหาเทวิกา
หลังจากเธอรู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้โทรหาสายด่วนฉุกเฉิน เธอก็รีบตัดสายทันที
อย่างไรก็ตาม เทวิกานั้นโทรกลับมาหาเธออย่างรวดเร็ว
และเธอต้องรับสายของลูกสาวก่อน
“แม่คะ”
เทวิกาเพิ่งตื่นนอน เมื่อคืนนี้เป็นคืนแต่งงานของกษิดิกับลินท์ และแฟนของเธอก็คงตื่นเต้นกับมันมาก อาจเป็นเพราะเขาดื่มเหล้ามากเกินไป ก็เลยกวนเธอทั้งคืน ราวกับว่าเมื่อคืนนี้เป็นคืนแต่งงานของพวกเขาเอง
เมื่อเธอตื่นขึ้น เธอยังรู้สึกว่าปวดเอวและขาของเธอก็รู้สึกอ่อนแรง
เมื่อเธอเขียนนิยายก็เหมือนกับนักเขียนคนอื่น ๆ ที่ชอบเขียนว่าตัวเอกของเรื่องมีความแข็งแรงเป็นพิเศษ จนถึงกับทำให้ผู้หญิงต้องปวดเอวและขาอ่อนแรง เธอคิดว่าสิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องถูกแต่งขึ้นมาทั้งหมดโดยนักเขียน
แต่หลังจากที่เธอผ่านศึกหนักกับยศพัฒน์มาเมื่อคืน เธอรู้สึกถึงความเจ็บปวดเหล่านั้น
เธอนอนอยู่บนเตียง แทบไม่อยากลุกขึ้นด้วยซ้ำ
เมื่อคืนนี้ชายหนุ่มได้กลายเป็นหมาป่าหิวโหย จึงทำให้ในตอนนี้เขายังคงหลับสนิท และไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลย
“แม่ มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
เทวิกาถามด้วยความเป็นห่วง
“เทวิกา แม่ผลักพ่อของลูกจนล้ม และเขาล้มลง โดยที่หลังศีรษะกระแทกเข้ากับพื้น ตอนนี้เขานอนอยู่บนพื้นโดยไม่ขยับ ไม่พูด เอาแต่มองแม่ตาแป๋ว บอกแม่หน่อย พ่อของลูกคงจะไม่ได้หัวกระแทกพื้นจนเอ๋อหรอกใช่ไหม? แล้วแม่ต้องโทรหาโรงพยาบาลเรียกรถฉุกเฉินไหม?”
“แม่จะโทรหาโรงพยาบาลแต่แม่เผลอไปกดเบอร์ลูก”
ตอนนี้ลูกสาวของเธอโทรมา และญาณินก็พูดอย่างตรงไปตรงมา
เมื่อได้ยินสิ่งที่แม่ของเธอพูด เทวิกายังคงงุนงงและถามว่า: “แม่ เข้าๆแบบนี้ แม่ผลักพ่อล้มได้ยังไง พ่อทำอะไรแม่เหรอคะ?”
คงไม่ใช่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์เลยคิดจะทำอะไรแปลกๆ อย่างเช่นคิดจะไปจูบแม่หรอกนะ?
หากเป็นเช่นนั้นละก็ เธอคงไม่สามารถตำหนิแม่ของเธอที่ผลักพ่อของเธอลงไปกองกับพื้นได้ ถ้าเป็นตามความแค้นของแม่ที่มีต่อพ่อของเธอ แม่อาจจะลงไม้ลงมือกับพ่อก็ได้
พ่อของเธอซึ่งเป็นหัวหน้าผู้สง่างามของตระกูลสาระทา ถูกแม่ของเธอผลักล้มอย่างง่ายดาย?
“แม่ตื่นมาแล้วรู้สึกว่ามีอะไรหนักๆ อยู่บนท้อง พอจับดูก็พบว่าเป็นศรีษะ แม่ก็เลยตกใจมาก แต่ใครจะไปรู้ว่าเป็นพ่อของแก แม่ไม่รู้ว่าเขาแอบเข้ามาในห้องแม่ตั้งแต่ไหน แม่ก็เลยผลักเขาออกไปด้วยความโกรธแล้วเขาก็ล้มลง ”
เทวิกา: “…..”
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง
พ่อเมาเพราะฤของแอลกอฮอล์ก็เลยทำเรื่องบางอย่างลงไปจนทำให้แม่โกรธ
“แม่คะ อย่าเพิ่งตกใจไปเลย แม่รีบไปดูสิว่าที่หลังศรีษะพ่อมีเลือดออกหรือเปล่า? เดี๋ยวหนูจะกลับไปเดี๋ยวนี้เลย”
มีเหตุผลว่าพ่อของเธอจะไม่ได้รับบาดเจ็บหากถูกผลักเช่นนี้
แต่ถ้าพูดตามความเป็นจริง พ่อโดนแม่ผลักแค่นี้คงยากที่จะได้รับบาดเจ็บ
ไม่ว่าจะเป็นการแกล้งทำหรือเป็นเรื่องจริง แต่พ่อแม่ของเธอกำลังทะเลาะกันอยู่ในเช้าวันนี้ และเธอต้องรีบกลับบ้าน เพื่อเกลี้ยกล่อมไม่ให้พวกเขาทะเลาะกัน
“ไม่มีของมีคมอยู่บนพื้น ดังนั้นคงจะไม่มีเลือดออก เดี๋ยวแม่จะไปดู เทวิกา ลูกคิดว่าแม่ควรโทรหาโรงพยาบาลเพื่อขอรถฉุกเฉินไหม? ถ้าพ่อของลูกตายเพราะถูกผลักละก็ ลูกกับพี่ของลูกคงจะเกลียดแม่ไปจนตายแน่ๆ”
เทวิกา: “…..แม่คะ พ่อหนูไม่ตายง่ายๆหรอก แม่ไม่ต้องตกใจ พ่อหนูจะต้องไม่เป็นไร แต่ถ้าแม่รู้สึกกังวลจริงๆ แม่ก็โทรไปที่เบอร์ฉุกเฉินก่อน”
เทวิกามีลางสังหรณ์ว่าพ่อของเธอแค่แกล้งทำ
ส่วนการนอนนิ่งบนพื้น ไม่พูด และเอาแต่มองแม่ตาแป๋ว เขาคงจะพยายามทำให้แม่กลัว ทำให้เธอตื่นตระหนกและกังวล จากนั้นก็ไปตรวจสอบอาการบาดเจ็บของเขา บางทีเขาอาจจะถือโอกาสนั้นเพื่อกอดแม่ของเธอ
หลังจากที่แม่และลูกสาวคุยโทรศัพท์กันเสร็จ เทวิกาก็ฝืนความเจ็บปวดที่เอวและขาของเธอ เพื่อพาตัวเองลุกขึ้นจากเตียง
“เทวิกา พ่อกับแม่เป็นอะไรหรือเปล่า?”
เสียงสามีของเธอดังมาจากด้านหลัง
เทวิกาหันศีรษะของเธอและเห็นยศพัฒน์ที่ลืมตาขึ้น อาจเป็นเพราะเสียงคุยโทรศัพท์ระหว่างเธอกับแม่ของเธอที่ปลุกให้เขาตื่น เขาเป็นคนตื่นตัวอยู่เสมอ และในตอนกลางคืนเขาก็ไม่ได้หลับเป็นตาย เพราะแค่มีการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย ถึงแม้เธอจะไม่รู้แต่เขารู้
“พ่อฉันแอบเข้าไปในห้องแม่เมื่อคืนนี้ แม่ฉันตื่นมาตอนเช้า และด้วยความตกใจเธอก็ผลักพ่อฉันล้มลงกับพื้น แม่บอกว่าพ่อฉันอาจจะบาดเจ็บ ยศพัฒน์ ฉันต้องกลับไปดู”
ยศพัฒน์ลุกขึ้นนั่ง และถามด้วยความเป็นห่วง: “พ่อเธอไม่เป็นไรมากใช่ไหม?”
“ฉันมีลางสังหรณ์ว่าพ่อแค่แกล้ง แต่ก็ต้องกลับไปอยู่ดี ถ้าแม่รู้ว่าพ่อแกล้งเธอคงโกรธมากแน่ๆ ไม่รู้ว่าทั้งสองคนจะมีปากเสียงกันหนักแค่ไหน เดี๋ยวฉันต้องเรียกพี่ไปด้วย ถ้ามีพวกเราสองพี่น้องอยู่ละก็แม่อาจจะไว้หน้าพ่อบ้าง และคงจะไม่ทำอะไรให้พ่อฉันดูแน่”
ขณะที่พูดเทวิกาก็ลุกขึ้นจากเตียงเพื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
“ยศพัฒน์ เมื่อคืนคุณดื่มไวน์ไปเยอะมาก คุณไม่ต้องตามฉันกลับไปหีอก คุณนอนพักที่นี่ให้หายเหนื่อยเถอะ ฉันจะให้คนพาฉันกลับไปส่งเอง”
เมื่อคืนเธอเองก็ดื่มเหล้าเช่นกัน และตอนนี้เธอยังรู้สึกสับสนเล็กน้อย จึงไม่กล้าที่จะขับรถเอง
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจะพาคุณกลับเอง”
ยศพัฒน์รีบพลิกตัวและลุกขึ้นจากเตียง
เขารู้สึกว่าถ้าเขาอยู่ด้วย พ่อตาและแม่ยายคงจะไม่ทะเลาะกัน เพราะกลัวว่าจะทำให้เทวิกาต้องขายหน้า
แม้ว่าคู่สามีภรรยาจะมีความเข้าใจผิดและความขัดแย้งกันมากมาย แต่พวกเขาก็รักเทวิกาและพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อชดเชยให้กับเทวิกา สิ่งที่พวกเขาไม่ต้องการเห็นเลยก็คือการทำให้เทวิกาต้องขายหน้าต่อหน้าตระกูลอริยชัยกุล ดังนั้นการที่เขากลับไปที่บ้านด้วยจึงมีประโยชน์มากกว่าเทวิกา
เทวิกาไม่ปฏิเสธอีกต่อไป เธอแค่ขอให้เขารีบเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว
ในขณะเดียวกัน เทวิกาก็โทรหาพี่ชายของเธอและอธิบายเรื่องนี้ให้เขาฟังเพียงสั้น ๆ
หลังจากนั้นไม่นาน เทวิกากับยศพัฒน์พร้อมด้วยประยสย์ รีบนั่งรถกลับไปที่คฤหัสน์เมเปิลอย่างเร่งรีบ
ญาณินซึ่งอยู่ที่นั่น หลังจากคุยโทรศัพท์กับลูกสาวของเธอเสร็จแล้ว ก็กลับมาอยู่ข้างๆไซม่อน พลางคุกเข่าลง และยกหัวของเขาขึ้น เพื่อดูที่ด้านหลังศีรษะของเขา แต่ก็ไม่มีเลือดไหล เธอพยายามตรวจสอบอย่างละเอียด แต่ก็ไม่พบว่ามีสีแดงบนศรีษะเลย
ทันใดนั้นเธอก็สังเกตเห็นว่ามีมือโอบรอบเอวของเธอ ญาณินรู้สึกได้ว่าไม่มีอะไรผิดปกติกับผู้ชายคนนี้
เธอจึงรีบปล่อยมือทันที แต่น่าเสียดายที่ชายคนนั้นจับเอวเธอเอาไว้แน่น และถึงแม้ว่าเธอจะปล่อยมือ แต่หัวของเขสก็ไม่ได้กระแทกพื้น
“ญาณิน ขอกอดหน่อย”
ไซม่อนกอดเธอแน่น
ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ยังคงหลงเหลืออยู่
และเธอสามารถทำอะไรที่บ้าคลั่งกับเขาได้
ถึงอย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้สนใจ ถ้าเขามีโอกาสได้กอดเธอ เขาก็จะกอดเธอ
ร่างกายของเธอยังคงนุ่มนวลเหมือนในความทรงจำ ยังคงเป็นกลิ่นหอมที่เขาคุ้นเคย จึงทำให้เขายิ่งกอดเธอแน่นขึ้น เขาสูดกลิ่นหอมจากร่างกายของเธออย่างตะกละตะกลาม
คิดถึงมากๆ
ตอนที่ยังวัยรุ่น เวลาสามีภรรยาอยู่ด้วยกันตามลำพัง เขาจะชอบกอดเธออย่างตอนนี้ และเวลานอนก็ชอบนอนเอาหัวหนุนแขนเธอ
ในเวลานั้นพวกเขารักกันมากจนเป็นที่อิจฉาของทุกคน
“ไซม่อน ปล่อยฉันนะ คุณโกหกฉันเหรอ? คุณไม่มีอะไรทำสินะ ไอ้สารเลว!”
ยังมีบางสิ่งที่ไซม่อนไม่เข้าใจ
เธอพูดเอาเองทั้งนั้น แม้ว่าเธอจะผลักเขาออกอย่างแรง แต่ก็คงจะไม่ถึงกับทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ
เขาแค่แสร้งทำ
ทำให้เธอตกใจจนเกือบตาย
เขามันสารเลว!
และยังฉวยโอกาสจากเธออีก!
สารเลวจริงๆ!