คุณสามีพันล้าน – บทที่ 552 ธนภรณ์

รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 552 ธนภรณ์

เมื่อนึกถึงว่าลุงรองก็เป็นคนแบบนี้เหมือนกัน ทำให้เทวิกาไม่กล้ามองข้ามน้องสาวลูกพี่ลูกน้องคนนี้ สุนัขที่ไม่เห่ามักกัดคนตาย ในตระกูลสาระทา นอกจากพ่อแม่และพี่ชายตัวเองแล้ว เทวิกาไม่กล้าเชื่อใจใครทั้งนั้น

“ภรณ์เหรอ”

เทวิกายิ้มให้ธนภรณ์ที่เดินเข้ามาหา

เมื่อธนภรณ์เห็นยศพัฒน์ ได้ยิ้มให้กับยศพัฒน์ แล้วพูดทักทายออกมาว่า： “พี่เขย”

ยศพัฒน์เก็บความอ่อนโยนกลับไป ใบหน้าตึงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ถึงกับเย็นชามาก และไม่ได้อ่อนโยนเท่าไหร่ ธนภรณ์ทักทายเขา เขาก็แค่พยักหน้าทักทายกลับเท่านั้น

แม้แต่อืมสักคำก็ไม่มี

“ภรณ์ เธอมาเยี่ยมคุณย่าสินะ คุณย่าเล่นหมากรุกกับคุณปู่อยู่ด้านใน”

เมื่อได้ยินแบบนั้น ธนภรณ์ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า： “ถ้างั้นหนูไม่เข้าไปละ เวลาที่คุณปู่กับคุณย่าเล่นหมากรุกด้วยกันเหมือนสงครามโลกระเบิด หนูกลัวจะโดนลูกหลง”

เทวิกากะพริบตา เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าสามีภรรยาอาวุโสคู่นั้นเวลาเล่นหมากรุกชอบทะเลาะกัน นับตั้งแต่เธอกลับมา ถึงแม้คุณหญิงจะไม่พอใจ แต่ก็ยังคงยิ้มแย้มให้เธออยู่ ส่วนท่าทีของคุณปู่ที่มีต่อเธอไม่ได้ชดเชยเธออย่างเอาอกเอาใจเหมือนคุณหญิงย่า แต่ว่าก็ดีกว่าคนอื่นๆ หน่อยเล็กน้อย

“เป็นเพราะว่าคุณย่าเล่นหมากรุกไม่เก่งเหรอ？”

“เป็นเพราะว่าเวลาที่คุณปู่กับคุณย่าเล่นหมากรุกด้วยกันชอบเบี้ยว ชอบทำตัวงี่เง่า แถมขี้โกงเวลาเล่นหมากรุก จึงทำให้เวลาเล่น ชอบทะเลาะกัน”

เทวิกาหัวเราะออกมา “เป็นแบบนี้นี่เอง”

แต่คุณปู่ก็ยังคงเอ็นดูคุณหญิงย่ามากเหมือนเดิมเช่นกัน

คงเป็นเพราะถูกทะนุถนอมมาโดยตลอดสินะ เวลาเล่นหมากรุกถึงงี่เง่า

ตัวเองถูกสามีรักและเอ็นดูมาทั้งชีวิต แต่กลับเห็นไม่ได้ที่ลูกชายตัวเองรักและเอ็นดูลูกสะใภ้

พฤติกรรมของคุณย่าที่ห้ามคนอื่นทำแต่ตัวเองทำได้คนเดียว ทำให้เทวิกาไม่พอใจเป็นอย่างมาก

ถ้าเธอได้รับการปฏิบัติเหมือนแม่ของเธอ เธอจะส่งหญิงสาวเอาะๆ ให้คุณปู่สักสามสี่คน เพื่อทำให้คุณยายของเธออิจฉา จะได้ไม่มีกะจิตกะใจไปทรมานลูกสะใภ้

“พี่ใหญ่ เมื่อกี้หนูมองจากไกลๆ เห็นคุณลุงใหญ่เอามีดแทงล้อของพี่ชาย พี่ชายทะเลาะกับคุณลุงใหญ่อีกแล้วเหรอ？”

“ไกลขนาดนั้น เธอก็มองเห็นเหรอ”

ธนภรณ์ยิ้มออกมาย่างเขินอาย “หนูสายตายาวเล็กน้อยค่ะ ระยะไกลยิ่งมองเห็นได้ชัด”

“ก็ไม่ถือว่าทะเลาะกันหรอก พี่ชายฉันจะออกไป แต่คุณพ่อไม่ให้เขาออก สองพ่อลูกเถียงกันเล็กน้อย คุณพ่อโมโหเลยแทงยางล้อของพี่ชายจนทะลุ”

เทวิกาไม่ได้บอกที่พ่อแทงยางล้อของพี่ชายทะลุเพราะอยากไปรับแม่

ใบหน้าของธนภรณ์ไร้เดียงสา และยังไปนักเรียนม.ปลายอยู่ เธอไม่ชอบคนของบ้านรองกับบ้านสาม เรื่องของบ้านตัวเองไม่ต้องอธิบายอย่างละเอียด การโกหก เป็นการปกป้องตัวเอง

“พี่วิกาไม่เกลี้ยกล่อมพี่ใหญ่กับคุณลุงใหญ่หน่อยเหรอ แต่ว่าพวกเขาก็ทะเลาะกันบ่อย ลุงใหญ่ปฏิบัติต่อพี่ใหญ่ไม่ดี ปฏิบัติต่อพี่ชายของหนูดีกว่าพี่ใหญ่เสียอีก”

ธนภรณ์แสดงท่าทางสียใจแทนประยสย์ออกมา

สรรพนามที่เรียกเทวิกาก็เปลี่ยนแปลงไปเหมือนกัน

“ให้ฉันเกลี้ยกล่อมพี่ชาย”

ธนภรณ์ตอบอืมออกมา “พี่วิกาลองเกลี้ยกล่อมพี่ใหญ่ดู พี่วิกา ในเมื่อคุณปู่กับคุณย่าเล่นหมากรุกกันอยู่ หนูไม่เข้าไปแล้วนะคะ ขอกลับบ้านไปทำการบ้านก่อน”

“ใช่แล้ว ได้ยินมาว่าเดี๋ยวเพื่อนพี่วิกาจะมาเป็นแขกที่นี่ ถ้าพวกเขามาแล้ว หนูมาได้ไหม？”

ธนภรณ์รู้ว่าเพื่อนของพี่สาวลูกพี่ลูกน้องเป็นนักธุรกิจใหญ่ในเมืองแอคเซสซ์กันทั้งนั้น เธออยากแสดงตัวตนให้พวกเขารู้จัก

เทวิกาแสดงท่วงทีของพี่สาวคนโตออกมา “ถ้าไม่กระทบต่อการเรียนของเธอ เธอสามารถมาได้ตลอด เพื่อนของพี่พูดง่ายกันหมดทุกคน”

ธนภรณ์ดีใจมาก พูดขอบคุณเทวิกาออกมา จากนั้นพูดกับยศพัฒน์ขึ้นมาว่า： “พี่เขย หนูกลับก่อนนะคะ”

ยศพัฒน์ยังคงเย็นชาเหมือนเดิม ไม่พูดอะไร แค่พยักหน้าตอบกลับเท่านั้น

ธนภรณ์โบกมืออำลาสองสามีภรรยา จากนั้นเดินไปคฤหาสน์ของบ้านรองทันที

“ที่รัก พวกเรากลับเข้าบ้านกัน”

เทวิกาคล้องแขนของสามีไว้ ทั้งสองคนคิดเหมือนกันโดยไม่พูดคุยอะไรเกี่ยวกับธนภรณ์ออกมา

กนกอรและเพื่อนมาถึงคฤหาสน์ใหญ่ของตระกูลสาระทาประมาณสิบโมง

ก่อนที่พวกเขาจะถึง ไซม่อนได้รับญาณินกลับมาถึงคฤหาสน์ใหญ่ของตระกูลสาระทาแล้ว เพียงแต่ว่าหลังจากที่สองสามีภรรยาถึงบ้านแล้ว สีหน้าไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะญาณิน ดูก็รู้ว่าสามีภรรยาคู่นี้ทะเลาะโกรธกันอีกแล้ว

โชคดี ที่ญาณินยังกลับมากับไซม่อน

“วิกา”

เมื่อกนกอรลงมาจากเครื่องบิน ก็วิ่งเขาไปหาเพื่อนรักทันที

นฤเบศวร์เบ้ปาก บ่นพึมพำออกมาว่า： “เห็นผม ยังไม่เห็นดีใจขนาดนี้เลย”

เซทท์ที่อยู่ห่างจากเขาไม่ไกลมากนักได้ขึ้นมาว่า： “คุณจะเปรียบเทียบกับพี่สะใภ้ผมได้ยังไง ก็ไม่ลองคิดดูว่าคุณกับคุณกนกอรรู้จากกันนานแค่ไหน และความสัมพันธ์ระหว่างพี่สะใภ้ผมกับคุณกนกอรเป็นแบบไหน”

ณภัทรพูดเสริมขึ้นมาอีกว่า： “ก็ใช่！แม้แต่พี่สะใภ้ผม คุณก็หึง คุณนฤเบศวร์ คุณมันอกตัญญูจริงๆ คนเนรคุณชัดๆ”

นฤเบศวร์หน้าดำดิ่ง： “เซทท์ ณภัทร พวกคุณคิดว่าตัวเองคนเยอะใช่ไหม？ผมอกตัญญูตรงไหน เนรคุณตรงไหน？”

“ถ้าไม่มีพี่สะใภ้ผม คุณสามารถรู้จักคุณกนกอรเหรอ？พี่สะใภ้ผมเป็นแม่สื่อระหว่างพวกคุณ คุณควรขอบคุณพี่สะใภ้ผมถึงจะถูก ไม่ใช่มาหึงพี่สะใภ้ผมแบบนี้”

เมื่อถูกณภัทรพูดแบบนี้ ทำให้นฤเบศวร์พูดอะไรไม่ออก

ผ่านไปสักพัก เขาพูดออกมาด้วยความโกรธเคืองเล็กน้อยว่า： “รอให้พวกคุณมีผู้หญิงที่ชอบก่อนเถอะ ถ้าแฟนคุณเห็นคนอื่นสำคัญกว่า พวกคุณก็จะเข้าใจความรู้สึกตอนนี้ของผมเอง”

“ไม่อธิบายกับคนโสดหรอก”

เซทท์ ณภัทร：……

หลังจากที่นฤเบศวร์กับกนกอรแต่งงานกันใหม่แล้ว เมื่อสละความเป็นโสดสำเร็จแล้ว ชอบแสดงท่าทีโอ้อวดเวลาอยู่ต่อหน้าคนโสดชั้นสูงอย่างพวก

ช่างน่าโมโหจริงๆ ！

คนที่มาเป็นคนรุ่นหลังทั้งหมด ดังนั้นจึงมีแต่เทวิกาสามี และประยสย์มารับ และจิรัตน์ของบ้านรองกับเจนสันของบ้านสาม

ประยสย์แนะนำนฤเบศวร์และคนอื่นๆ ให้จิรัตน์กับเจนสันได้รู้จัก

“คุณนฤเบศวร์ ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว”

จิรัตน์กับเจนสันจับมือกับนฤเบศวร์ตามลำดับ และพูดทักทายออกมาตามมารยาท จากนั้นเหลือบไปมองสามีของพี่สาวลูกพี่ลูกน้องอีกครั้ง

สถานการณ์บางอย่างในเมืองแอคเซสซ์พวกเขาพอจะรู้อยู่บ้าง

นฤเบศวร์กับสามีพี่สาวลูกพี่ลูกน้องเป็นคูอริกันไม่ใช่เหรอ？

ทั้งสองคนแข่งขันกันตั้งแต่เด็กจนอายุใกล้สามสิบ แข่งขันกันเป็นเวลานานมาก คิดไม่ถึงว่าเพื่อผู้หญิงของตัวเองแล้ว คู่อริสามารถอยู่ร่วมกันได้ กลายเป็นเพื่อนกันได้

แถมนฤเบศวร์ยังมาเยี่ยมเยียนแต่ไกล

เซทท์กับณภัทร พวกเขารู้จักกันอยู่ และสนิทกับคุณชายทั้งสองคนดี

ถ้าไม่พูดถึงความทะเยอทะยานของพวกเขาแล้ว ลูกชายของตระกูลอริยชัยกุลคือบุคคลที่พวกเขาอยากรู้จัก

เพียงแต่ว่าตอนนี้ยศพัฒน์กลายเป็นพี่เขยของพวกเขาแล้ว ผู้ชายของตระกูลอริยชัยกุลดีแค่ไหน พวกเขาก็ไม่สามารถรู้จักกันลึกซึ้งได้ ในอนาคต อาจกลายเป็นศัตรูกันก็ได้

นี่เป็นครั้งแรกที่คนของตระกูลสาระทาได้เจอกับกิติยาสองพี่น้อง

กิติยาดูเป็นคนสุขุมเยือกเย็น ส่วนกัญณิศางดงามดั่งนางฟ้า สองพี่น้องคนหนึ่งแข็งแกร่งคนหนึ่งอ่อนโยน โดดเด่นกว่าคนอื่นเป็นพิเศษ

ตอนที่จิรัตน์กับเจนสันเห็นกัญณิศานั้น สายตาเหมือนโดนกาวติด ติดอยู่บนตัวของกัญณิศา ละสายตาไปไหนไม่ได้เลย

ด้วยสถานะของพวกเขาสองคนแล้ว ไม่ใช่ไม่เคยเห็นหญิงงามมาก่อน เคยเห็นมาเยอะมากเหมือนกัน แต่งดงามดั่งนางฟ้าอย่างกัญณิศา เคยเห็นน้อยมาก

ประยสย์เห็นว่าน้องชายลูกพี่ลูกน้องทั้งสองตกตะลึงเมื่อเห็นกัญณิศามองจนตาเกือบตาถลนออกมา เขาได้ด่าในใจไปสองสามคำ แต่ใบหน้าเย็นชาขึ้นเรื่อย ๆ

ทำให้เขาจงใจเย็นชาใส่กัญณิศา ไม่อยากทักทายกับกัญณิศา

หลังจากที่เทวิกาและกนกอรกอดกันเรียบร้อยแล้ว ไม่ลืมที่จะดูแลทุกคน รีบเชิญทุกคนให้เข้าไปในคฤหาสน์พร้อมกัน

ท่าทีของพี่ชายที่เย็นชาต่อกัญณิศา เทวิกาเห็นจนชินแล้ว

แต่กลับไม่รู้ว่าเป็นการสร้างโอกาสให้ประยสย์เรื่องการแต่งงาน