รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 559 เป็นพ่อที่ล้มเหลวจริงๆ
“คนที่มาคือพสธร ตระกูลเลิศธนโยธากับบริษัทของพวกเราความสัมพันธ์ดีมากไม่ใช่เหรอ?ทำไมประธานไซม่อนถึงไม่เจอประธานพสธรหล่ะ?”
เพื่อนร่วมงานเงียบไปสักพักแล้วพูดกับเขาว่า: “นายเพิ่งมาบริษัทได้เดือนกว่า……ช่างเหอะ ต่อไปนายเรียนรู้ดีๆ ก็แล้วกัน”
พูดจบ เพื่อนร่วมงานโทรสายภายใน หลังจากได้รับคำตอบกลับมาแล้ว ได้พูดขึ้นว่า: “เปิดประตูได้ ตอนนี้ประธานไซม่อนมีเวลาเจอประธานพสธรพอดี”
“ฉันว่าแล้วว่ายังไงประธานไซม่อนก็ต้องเจอหน้าประธานพสธร”
พนักงานรักษาความปลอดภัยคนนั้นบ่นพึมพำคนเดียว จากนั้นปฏิบัติการตามขั้นตอน แล้วปล่อยขบวนรถของพสธรขับรถเข้าไปในบริษัทโอเอ กรุ๊ป
หลังจากขบวนรถเข้าไปไกลแล้ว เขาได้พูดกับเพื่อนร่วมงานว่า: “พวกเราเปิดประตูช้าเกินไป ถ้าประธานพสธรโทษขึ้นมา พวกเราอาจต้องกินไม่หมดแอบห่อพากลับไปด้วย ฉันเคยได้ยินมานานแล้ว คนที่ทำให้ประธานพสธรโกรธ ไม่มีใครเจอจุดจบดีสักคน”
เพื่อนร่วมงานของเขาหัวเราะเคอะๆ ออกมาสองที ตอนแรกกะว่าจะแนะนำพนักงานใหม่คนนี้สักหน่อย ในเมื่ออีกฝ่ายกลัวพสธรขนานนั้น เขาไม่พูดดีกว่า เพราะพนักงานที่กลัวพสธร ทำงานที่บริษัทโอเอ กรุ๊ปได้ไม่นานหรอก
พนักงานที่ทำงานในบริษัทโอเอ กรุ๊ป พบว่าช่วงนี้มีการเปลี่ยนเปลี่ยนภายในเล็กน้อย เมื่อก่อนคุณประยสย์ชอบโดนคุณไซม่อนด่า แต่เดี๋ยวนี้โดนด่าน้อยมาก คุณเจนสันเนื่องจากทำผิดเล็กน้อย ทำให้บริษัทต้องสูญเสียสัญญาร้อยล้านไป ตามหลักแล้วบริษัทโอเอ กรุ๊ปเป็นบริษัทที่ร่ำรวยมหาศาล สูญเสียไปแล้วก็แล้วกันไป เป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้นเอง
แต่ครั้งนั้นคุณประยสย์กลับกัดเรื่องนี้ไม่ปล่อย ยืนยันจะลงโทษคุณชายเจนสัน สุดท้ายคุณไซม่อนเป็นคนออกหน้า ย้ายคุณชายเจนสันไปเป็นผู้จัดการของสาขาบริษัท พูดดูดี ก็คือทุกอย่างทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่คุณชายเจนสันตัดสินใจเองได้หมด
ความจริงแล้วผู้จัดการของสาขาบริษัททุกแห่ง ทุกไตรมาสต้องกลับมาประชุมที่สำนักงานใหญ่ เพื่อรายงานรายได้ประจำไตรมาส และทุกเดือนต้องส่งสถานการณ์ดำเนินงานของบริษัทไปยังสำนักงานใหญ่ ทุกความเคลื่อนไหวอยู่ในการกำกับของสำนักงานใหญ่หมด
ถ้ายอดขายไม่ดี แค่อีเมล์ของสำนักงานใหญ่หนึ่งฉบับ ก็สามารถดึงตำแหน่งผู้จัดการสาขาบริษัทหลุดออกจากตำแหน่งได้
อีกอย่าง หลังจากออกไปจากสำนักงานใหญ่แล้ว คุณชายเจนสันจะกลับมาอีก เป็นเรื่องที่ยากมาก โดยเฉพาะตอนนี้คุณประยสย์เริ่มควบคุมบริษัทโอเอ กรุ๊ปทีละนิดทีละน้อยแล้ว
ใครๆ ก็รู้ว่าภายในของตระกูลสาระทาไม่ถูกกันเท่าไหร่
คุณชายเจนสันกับคุณประยสย์แข่งขันกันทั้งต่อหน้าและลับหลัง ตอนนี้เป็นที่เด่นชัดแล้วว่าคุณชายเจนสันเป็นผู้พ่ายแพ้
ไม่เห็นเหรอว่าตอนนี้คุณชายจิรัตน์แกล้งทำเป็นเต่าหัวหดแล้ว?
การกลับมาของคุณหนูใหญ่ และคุณผู้หญิงหายบ้าแล้ว ไม่เพียงแต่ฟ้าของคฤหาสน์ตระกูลสาระทาเปลี่ยนสี แม้แต่ฟ้าของบริษัทโอเอ กรุ๊ปก็เปลี่ยนแปลงเหมือนกัน
คุณประยสย์เกลียดพสธรอยู่แล้ว ต่อไปถ้าบริษัทโอเอ กรุ๊ปตกไปอยู่ในมือของคุณประยสย์ คาดว่าต้องปะทะกับตระกูลเลิศธนโยธาแน่นอน ตอนนี้คนที่ยังกล้าประจบตระกูลเลิศธนโยธาอยู่ คิดว่าไม่ช้าหรือเร็วต้องถูกคุณประยสย์จัดการแน่
ความคิดในใจของพนักงานรักษาความปลอดภัยทั้งสองคน พสธรไม่รู้ และไม่สนใจ
หลังจากที่เขาลงจากรถแล้ว หันหน้าและมองไปที่ประตูของห้องรักษาความปลอดภัย บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างกายเขาก็เข้าใจความหมายของเขาทันที
พสธรโทษพนักงานรักษาความปลอดภัยเปิดประตูช้าจริง ก็เขาฐานะอะไรหล่ะ?
มาถึงแล้วยังต้องให้รอสักพักถึงเข้ามาได้
คุณพสธรถูกรายล้อมด้วยบอดี้การ์ด เดินมาถึงสำนักงานอย่าง ยิ่งใหญ่เอิกเกริก และสง่างาม
“ประธานพสธร”
พนักงานต้อนรับได้รับแจ้งจากข้างบนตั้งนานแล้ว ต้อนรับ คุณพสธรด้วยรอยยิ้มอย่างมืออาชีพ นำพาเขาเดินไปถึงหน้าประตูลิฟต์ หน้าประตูลิฟต์มีผู้ชายใส่สูทรแต่งตัวเรียบร้อยอยู่รออยู่แล้ว
เขาคือเลขาอีกคนหนึ่งของไซม่อน หน้าที่รับผิดชอบหลักคือพาลูกค้าใหญ่ขึ้นไปชั้นบนเพื่อพบเจอไซม่อน
“ประธานพสธร”
เลขาผู้ชายคนนั้นทักทายออกมาอย่างมีมารยาท
นี่คือหนึ่งในเลขาของไซม่อน คุณพสธรถือว่ายังให้เกียรติอยู่ พยักหน้าให้ ถือว่าเป็นการตอบรับการทักทายของเลขาแล้ว
เลขาผู้ชายหยิบการ์ดใบหนึ่งออกมา รูดไปที่ลิฟต์ ประตูได้เปิดออกมาทันที
ออฟฟิศของประธานบริษัทอยู่ชั้นสูงสุดของตึก มีแค่ลิฟต์สองตัวเท่านั้นที่สามารถขึ้นถึงชั้นสูงสุดได้โดยตรง แต่ว่าต้องมีรูดคีย์การ์ดถึงจะขึ้นไปได้
ถ้าไม่ได้รับการอนุญาตจากไซม่อน ถึงแม้จะบุกมาถึงอาคารสำนักงาน ก็ไม่สามารถเจอเขาได้
เลขาเชิญคุณพสธรเข้าไปในลิฟต์ บอดี้การ์ดที่คุณพสธรพามา ได้ตามเข้าไปแค่คนเดียวเท่านั้น
ส่วนบอดี้การ์ดคนอื่นๆ ของตระกูลเลิศธนโยธาต้องรออยู่ชั้นล่าง
หลังจากที่รอคุณพสธรพาลูกน้องที่เชื่อใจที่สุดและพึ่งพาได้เข้าไปในลิฟต์แล้ว เลขาส่งสัญญาณให้พนักงานต้องรับหน้าเคาน์เตอร์ให้พาบอดี้การ์ดไปที่ห้องรับรอง เพราะกลัวยืนอยู่ที่นี่จะทำให้พนักงานของบริษัทตกใจได้
บอดี้การ์ดที่คุณพสธรเลือกล้วนหน้าตาดุดันกันทั้งนั้น สิบกว่าคนยืนอยู่ที่นี่ อาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ง่ายว่าเป็นสังคมอิทธิพลมืดก็ได้
ห้องประธานชั้นบนสุด ไซม่อนเก็บเอกสารสำคัญไว้ชั้นล่างสุด แล้วพูดกับลูกชายว่า: “คุณพสธรมาแล้ว ถ้าลูกไม่อยากเจอหน้าเขา ก็ออกไปทำธุระก่อน”
ประยสย์พูดออกมาอย่างเกียจคร้านว่า: “เขากลับมาก็ตรงดิ่งมาที่บริษัทของพวกเราเลย แสดงอย่างเห็นได้ชัดว่าต้องการมาหาเรื่อง ไม่ค่อยเห็นอดีตพ่อตาของพ่อมาหาเรื่องเท่าไหร่ ถึงผมจะเกลียดเขามากแค่ไหน ก็ต้องอยู่ที่นี่เพื่อดูว่าจะมีเรื่องสนุกอะไรเกิดขึ้น”
ไซม่อนหน้าดำดิ่ง จ้องมองไปที่ลูกชาย แล้วแก้ไขคำพูดของลูกชายว่า: “พ่อไม่เคยเห็นเขาเป็นพ่อตามาก่อนเลย พ่อตาของฉันมีแค่ปู่ของแกคนเดียว และเขาก็ตายไปตั้งนานแล้ว เรื่องงานศพก็เป็นฉันที่เป็นคนจัดการเรื่องทั้งหมด”
“เวลาอยู่ต่อหน้าแม่แก ห้าพูดคำพูดแบบนี้เด็ดขาด แกกับวิกาไม่ช่วยพ่อก็แย่พอแล้ว แต่อย่ามาขัดขาพ่อลับหลังอีก”
ประยสย์ยิ้มเคอะๆ รอยยิ้มนั้นเมื่อตกอยู่ในสายตาของไซม่อนเหมือนเป็นรอยยิ้มประชด
เมื่อถูกลูกชายประชด ไซม่อนรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองเริ่มร้อนฉ่าเล็กน้อย
“ผมคิดว่า พ่อจะเปลี่ยนพ่อตาใหม่เสียอีก เมื่อก่อนพ่อกับพลอยไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นคู่ สนิทกันอย่างกับสามีภรรยาที่ร่างติดกัน ถ้าไม่ใช่พลอยถูกลุงสามล่วงละเมิด พ่อ พ่อสามารถสลัดทิ้งได้ไหม?แล้วยังมาโทษแม่ว่าจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สนใจพ่ออีก โทษพวกเราไม่ช่วยพ่อ ถ้าไม่ใช่เพราะลุงสามล่วงละเมิดพลอยแทนพ่อ ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าตอนนี้พ่อจะทำยังไง?”
ไซม่อน: “……”
เลี้ยงลูกชายเพื่อมายั่วโมโหเขาจริงๆ !
เมื่อนึกถึงลูกสาวก็ชอบประชดเหมือนกัน ทำให้ไซม่อนรู้สึกว่าเขาเป็นพ่อที่ล้มเหลวจริงๆ ลูกทั้งสองคนต่างพากันเข้าข้างญาณิน
เสียงเคาะประตูดังขึ้นมา
“เดี๋ยวผมไปช่วยพ่อเปิดประตู เพราะคนที่เกือบเป็นพ่อตาของพ่อเห็นผมเป็นหนามยอกอก เมื่อเห็นผมอยู่ที่นี่ ประกายไฟของความโกรธก็จะถูกจุดขึ้นมาทันที แบบนี้เวลาเขาถามหาความผิดกับพ่อจะได้รุนแรงพอ และจะได้มีสีสันพอ”
ในขณะที่ประยสย์พูดอยู่นั้นได้ลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูด้วย
ไซม่อนด่าไอ้เด็กบ้าเสียงต่ำออกมา อยากห้ามลูกชายไม่ต้องไปเปิดประตูด้วยตัวเองก็ห้ามไม่ทันแล้ว
สองพ่อลูกไม่ได้ตอบกลับเสียงเคาะประตูข้างนอก เลขาจึงเคาะประตูต่ออีก ส่วนคุณพสธรที่ใบหน้าที่บึ้งตึงอยู่แล้วยิ่งโกรธขึ้นไปอีก
โชคดี ที่ประตูออฟฟิศเปิดออกอย่างรวดเร็ว
ประยสย์ที่หน้าบึ้งตึงเช่นเดียวกัน แต่หล่อกว่าคุณพสธร และหนุ่มกว่าปรากฏตัวขึ้นมาอยู่ตรงหน้า
“คุณประยสย์”
เลขาเรียกออกมาอย่างเคารพ “ประธานพสธรมาแล้ว ท่านประธานบอกว่าจะเจอประธานพสธร”
ประยสย์มองไปที่คุณพสธร คุณพสธรก็มองเขาเช่นกัน สายตาสี่ดวงประสบตากัน ความน่าเกรงขามใกล้เคียงกัน ไม่มีใครยอมใคร
คุณพสธรคิดในใจ ถึงแม้ความสัมพันธ์ของไซม่อนกับลูกชายจะไม่ดี แต่ก็ต้องยอมรับว่าประยสย์เด็กคนนี้ยอดเยี่ยมมาก อายุแค่ยี่สิบสี่ปี ก็สามารถนั่งตำแหน่งรองประธานของบริษัทโอเอ กรุ๊ปได้อย่างมั่งคง สามารถมองออกได้ว่าประยสย์เก่งกว่าลูกชายของเขาเยอะเลย