รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 577 เหมือนลอบเป็นชู้กันเลย
“ฉันคิดว่าคนเยอะก็ยิ่งมีอำนาจมาก ฉันเชื่อใจความสามารถของสำนักงานนักสืบ XX มาก นี่เป็นสำนักงานที่ทางด้านคุณเบศวร์แนะนำให้ฉันเองเลย ได้รับการแนะนำจากเขาได้ แสดงว่าพวกคุณมีความสามารถมาก ถ้ามีคนช่วยเหลือเพิ่มอีกคน ก็จะตรวจสอบรู้เรื่องได้เร็วยิ่งขึ้น”
คำพูดประยสย์แทบจะทำให้ณิศาสำลักขนม
นายคนนี้เซ้าซี้เกินไปแล้ว ไม่ว่าจะพูดยังไง ก็ไม่ยอมยกเลิกคำสั่ง
“ฉันสืบเองมาหกปียังควบคุมได้ไม่กี่หลักฐาน รู้ว่าหลักฐานมากพอที่ต้องควบคุมนั้นเป็นเรื่องที่ยาก ฉันเลยบอกกับเธอว่า ฉันไม่ได้ขอให้เธอช่วยฉันสืบชัดเจนเป็นเวลานานแค่ไหน ค่อยๆ สืบไป เธอสามารถช่วยฉันขุดหลักฐานได้แค่ไหนก็แค่นั้น จริงๆ แล้วก็ไม่ได้ขุดหลักฐานที่เป็นประโยชน์หรอก”
“พวกเธอใช้กำลังคนและกำลังทรัพย์ไปแล้ว ให้ค่าตอบแทนเธอนิดหน่อยก็สมควรแล้ว เงินมัดจำที่ฉันจ่ายไป จะไม่ขอคืนพวกเธอเด็ดขาด เธอไม่ต้องสร้างแรงกดดันให้ตัวเองมากเกินไป ตอนนี้วิกากลับมาอย่างปลอดภัย เรื่องราวในอดีต เราแค่อยากสืบหาเพื่อความปลอดภัยในอนาคตเท่านั้น”
ไม่ว่าจะเป็นเขาหรือวิกา ต่อไปจะต้องมีลูก เขาไม่อยากให้ความเคราะห์ร้ายของวิกาในตอนนั้นเกิดขึ้นกับเขาหรือลูกของวิกาอีก
ณิศา:……
เธอเกิดความสงสัยอย่างรุนแรงที่ประยสย์ว่าจ้างสำนักงานนักสืบ XX ของเธอ ไม่ใช่เพื่อสืบเรื่องราวในตอนนั้น แต่เพื่อหาข้ออ้างบีบบังคับให้เธอมาเจอเขา
นึกถึงที่ประยสย์รักษาระยะห่างสามเมตรกับวัยรุ่นหญิง ไม่ใช่คนหื่นกาม วิกายังเคยอยากจับคู่เธอกับประยสย์ ประยสย์ไม่ไว้หน้าเธอเลย รังเกียจมากด้วย ณิศารู้สึกอีกครั้งว่าตัวเองคิดมากไป
อาจจะเป็นเพราะประยสย์คิดจริงๆ ว่าเธอสามารถช่วยเหลือเขาได้ อีกอย่างเธอก็เคยช่วยชีวิตเขาเอาไว้ เขาคิดว่าเธอมีทักษะที่สุดยอด จึงเลือกเธอให้มาช่วยเหลือ
“ฉันเชื่อมั่นในความสามารถสำนักงานของพวกเธอ!”
ประยสย์ยังคงทำท่าทางเชื่อใจณิศาอย่างมาก ราวกับว่าในสายตาเขา ไม่มีอะไรที่ณิศาทำไม่ได้ ไร้คู่ต่อกร
ณิศาไม่อยากรับการเยินยอที่เขาบังคับมอบให้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ ทำได้เพียงกัดฟัน หวังว่าการเยินยอของเขาจะไม่หักคอเธอ
“ในเมื่อคุณชายประยสย์เชื่อใจฉัน เชื่อใจสำนักงานของเราขนาดนั้น งั้นฉันก็จะช่วยเหลือคุณอย่างสุดความสามารถ ดึกมากแล้ว ฉันไม่รบกวนเวลาพักผ่อนของคุณชายประยสย์แล้วค่ะ”
ขณะที่พูด ณิศาก็หยัดกายขึ้นจะเดินออกไป
ครั้งนี้ เธอไม่เดินออกไปทางประตูอีก เพราะห้องข้างๆ คือห้องของเทวิกากับสามีเธอ เธอไม่อยากบุกรุกเข้าห้องสามีภรรยาที่ชอบอวดความรักโดยไม่ได้ตั้งใจอีก
ยังดีที่คราวก่อนตอนบุกเข้าไป วิกากับสามีไม่ได้ทำอะไรที่ไม่เหมาะสมกับเด็ก ไม่งั้นเธอต้องกระอักกระอ่วนตายแน่
เป็นโจร อ่อ ไม่สิ เป็นนักสืบมาหลายปี เป็นครั้งแรกที่เธอเจอกับเหตุการณ์กระอักกระอ่วนแบบนั้น
“ไม่นั่งอีกสักพักเหรอ?”
ประยสย์ไม่อยากให้ณิศามาแบบรีบๆ ไปแบบรีบๆ
หลังจากคุยเรื่องสำคัญแล้ว พวกเขาก็ไม่มีเรื่องอื่นให้พูดคุยแล้วนี่หน่า?
“คุณชายประยสย์ต้องพักผ่อน ฉันไม่นั่งต่อแล้วค่ะ”
ไม่รู้ว่าตัวเองคิดมากไปไหม ณิศารู้สึกว่าประยสย์ไม่อยากให้เธอออกไปเร็วนัก
เทวิกาเห็นใบหน้าภายใต้หน้ากากเธอแล้ว มั่นใจว่าเทวิกาคงเคยบอกประยสย์ ประยสย์ไม่รังเกียจเหรอ? ยังคงแสดงอากัปกิริยากับเธอเหมือนเดิม ดูเหมือนผู้ชายคนนี้จะเป็นลูกผู้ชายตัวจริง ไม่ตัดสินคนจากภายนอก
พูดตามตรง ยิ่งพบเจอมากขึ้น ณิศาก็ยิ่งเข้าใจประยสย์มากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเข้าใจก็ยิ่งรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เหมือนเพชรเปรอะฝุ่น ไม่ถูกค้นพบโดยเหล่าผู้หญิงที่รู้จักเพชร
สักวันหนึ่งเขาจะกลายเป็นเพชรที่เจิดจรัส
“พรุ่งนี้วันเสาร์ ฉันไม่ต้องกลับบริษัท ตอนเย็นที่บ้านฉันจะจัดงานเลี้ยง แนะนำน้องสาวฉันให้ทุกคนรู้จัก ตอนเย็นฉันต้องช่วยต้อนรับแขกที่มา แต่ตอนกลางวันฉันว่างมาก งีบชดเชยได้”
หยุดไปสักพัก ประยสย์ก็พูดขึ้นอย่างเอาใจใส่ “ถ้าฉันรบกวนเวลาพักผ่อนเธอ งั้นฉันไปส่งเธอดีกว่า”
พรุ่งนี้เขางีบชดเชยได้ แต่เธออาจจะทำไม่ได้
จากเมืองแอคเซสซ์มาถึงเมืองซูเพร่า ไกลขนาดนั้น นั่งเครื่องใช้เวลาสองสามชั่วโมง ทุกครั้งที่เธอมาเดาว่าจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า รีบมาแล้วก็ต้องรีบกลับ ไปกลับแบบนี้ เธอต้องพักผ่อนไม่เพียงพอแน่ๆ
เมื่อก่อนประยสย์ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องนี้
ตอนนี้เขาคำนึงถึงแล้ว
คิดไตร่ตรองเพื่อเธอ
ประยสย์ห่อขนมพวกนั้นเรียบร้อย บรรจุใส่ถุงขนาดใหญ่เต็มถุงยื่นให้ณิศา แล้วพูดขึ้น “ฉันเห็นเธอชอบกินมาก ปกติฉันไม่กินของพวกนี้ นานๆ เธอมาที กลัวเก็บไว้แล้วหมดอายุ ให้เธอเอากลับไปกินดีกว่า จะได้ไม่หมดอายุเสียของ”
ณิศาแก้ตัวอย่างเป็นธรรมชาติ
ตอนนี้เธอเป็นแขกตระกูลสาระทานะ ถ้ารับขนมถุงใหญ่ถุงนี้ไป จะโป๊ะแตกเอาง่ายๆ โอเคไหม
“ขอบคุณในความหวังดีของคุณชายประยสย์นะคะ ขนมพวกนี้ถ้าฉันเอาไปด้วยจะไม่สะดวก ฉันรู้ว่าทุกครั้งที่ฉันเข้ามามันเหมือนโจรมาก ต้องระมัดระวังถึงจะหลบหลีกระบบป้องกันของบ้านพวกคุณได้ เอาขนมถุงใหญ่ถุงนี้ไปด้วย จะถูกเปิดโปงเอาง่ายๆ ถ้าถูกเปิดโปง ก็จะกลายเป็นยุ่งยาก”
“ถ้าคุณชายประยสย์กลัวหมดอายุ ก็เอาไปให้น้องสาวคุณกินก็ได้นี่คะ คุณชายประยสย์บอกว่าน้องสาวคุณชอบกินขนมไม่ใช่เหรอ?”
ประยสย์คิด รู้สึกว่าสิ่งที่เธอพูดก็มีเหตุผล จึงหดมือกลับมาแล้วพูดขึ้น “งั้นก่อนเธอมาในครั้งหน้าช่วยโทรหาฉันก่อนได้ไหม? ฉันจะได้เตรียมขนมที่เธอชอบกินเอาไว้”
เขาทิ้งเบอร์โทรศัพท์ที่บรรดาผู้มีอิทธิพลสังคมชนชั้นสูงในเมืองซูเพร่ารู้กันหมดไว้กับสำนักงานนักสืบ XX แล้ว
ณิศาคือหัวหน้าสำนักงาน ต้องรู้วิธีการติดต่อเขาอย่างแน่นอน
ณิศายิ้มแล้วพูดขึ้น “พูดเหมือนทุกครั้งที่ฉันมาแล้วต้องกิน ได้ค่ะ คราวหน้าก่อนฉันมาจะโทรหาคุณ จะได้ไม่ล่วงเกินคุณชายประยสย์”
“ไม่ล่วงเกินหรอก”
ตื่นเต้นดีใจต่างหาก
ประยสย์ไปส่งณิศาที่ข้างหน้าต่าง เขาเปิดผ้าม่าน ดันหน้าต่างออก บอดี้การ์ดหลายคนที่ซ่อนตัวบนต้นไม้แต่ละคนกำลังจ้องมองคุณชายของตนกับหญิงสาวสวมหน้ากากที่ลักลอบหนีด้วยความสามารถที่เหนือชั้น
รู้สึกตลอดเลยว่าคุณชายกับหญิงสาวสวมหน้ากากคนนี้เหมือนลักลอบเป็นชู้กัน
“คุณชายประยสย์ งั้นฉันไปก่อนนะคะ”
“ระวังด้วยนะ”
ณิศาหัวเราะ “คราวก่อนถ้าไม่ใช่เพราะน้องสาวกับสามีเธอของคุณชาย ฉันก็คงไม่โดนจับได้หรอกค่ะ”
ด้วยความสามารถ “สาวนักย่องเบา” ของตัวเอง ณิศามั่นใจในตัวเองมาก
นอกจากอาจารย์เธอที่อายุเพิ่งห้าสิบแต่โวยวายอยากเกษียณ ถอนตัวจากวงการต่อสู้ ให้เธอเลี้ยงดูยามเกษียณ ในด้านนี้ก็ไม่มีใครอยู่เหนือเธอ
ณิศากระโดดขึ้นไปบนขอบหน้าต่าง เครื่องมือที่เพิ่งแกว่งเข้ามา เธอไม่ได้เก็บมัน ตอนนี้คว้าเชือกไว้อีกครั้ง แล้วแกว่งไปด้วยการจ้องมองของประยสย์ จากนั้นก็คว้ากิ่งไม้อย่างสบายใจ
บอดี้การ์ดพวกนั้นมองดูเงียบๆ ไม่มีใครกล้าเคลื่อนไหว
“ขอโทษที่รบกวนค่ะ”
ณิศายังโบกมือขอโทษขอโพยบอดี้การ์ดหลายคนที่ซ่อนตัวบนต้นไม้ จากนั้นก็หนีไป
เหล่าบอดี้การ์ด: ……
ประยสย์ยืนข้างหน้าต่าง มองดูเป็นเวลานาน อาจจะรู้สึกได้ว่าถูกบอดี้การ์ดตนจ้องมองอยู่ เขาจึงหันตัวไปปิดผ้าม่าน
ไม่ยอมรับว่าตัวเองอาลัยอาวรณ์
หลังจากแยกกันคราวนี้ คราวหน้าอยากเจอ ก็ไม่รู้อีกว่าเมื่อไร
เธอเอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้
ไปที่สำนักงานนักสืบ XX ก็ไม่เจอเธอ นอกจากคนของเธอ พวกลูกค้าอย่างพวกเขาก็ไม่มีทางติดต่อเธอได้ ทำได้แค่รอเธอมาหาก่อนเท่านั้น
ประยสย์รู้สึกว่าเธอรักษาความเป็นตัวของตัวเองได้ยอดเยี่ยมมาก