รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 600 รักษาเอาไว้ไม่ได้
ไซม่อนตอบตามสัญชาตญาณว่า “ผมไม่ได้มีลูกนอกสมรส ไม่มีทางให้เขาเรียกผมว่าคุณพ่อ จะได้ไม่ทำให้ผู้คนเข้าใจผิด ณิน ผมพูดแบบนี้ก็เพราะหวังดีกับคุณ ไม่อยากให้คุณถูกคนเข้าใจผิด แม้ว่าพวกเราสองคนจะยังเป็นหนุ่มสาว ถ้าคุณยินยอมก็สามารถคลอดเด็กเล็กขนาดนี้ออกมาเล่นด้วยคนหนึ่งได้ แต่ผมสงสารสุขภาพคุณ ไม่อยากให้คุณท้องแล้ว”
“คุณฝันไปเถอะ! ถึงฉันจะมีลูกได้ ก็ไม่มีทางมีกับคุณอีก!”
ไซม่อนหัวเราะเสียงเบา “คุณไม่มีกับผม คุณจะมีกับใคร? ใครกล้ามีกับคุณ? คุณลองมีกับคนอื่นสักคนดูสิ”
ภรรยาของเขา ใครกล้าสอดมือเข้ามายุ่ง
เธอกล้ามีลูกกับคนอื่น เขาจะทำลายครอบครัวคนคนนั้นทิ้งซะ!
หึ!
ญาณินถลึงตาดุร้ายใส่เขา แล้วเร่งเข็นพิรัตน์จากไป คิดจะสลัดเขาทิ้ง
“ณิน”
ไซม่อนเร่งเท้าตามไป “ณิน วันนี้อากาศดี พวกเราพาเจ้าหนูไปเดินเตร่ที่อื่นกันเถอะ”
ญาณินสีหน้าทะมึน ไม่สนใจเขา
“ผมล่วงเกินอะไรคุณอีกล่ะณิน คุณบอกผมสิ ด่าผมก็ได้ อย่าทำเหมือนในตอนนี้ ไม่พูดอะไรสักคำ สวรรค์รู้ว่าการที่คุณไม่สนใจผมนั้น ผมอึดอัดมากขนาดไหน”
ญาณิน : “…”
พระผู้เป็นเจ้ารีบส่งสายฟ้าฟาดลงมาผ่าตาเฒ่าที่น่ารังเกียจคนนี้ทีเถอะค่ะ
ญาณินยังคงไม่สนใจสามี เข็นเด็กชายกลับเข้าไปในบ้าน ไซม่อนถามมาตลอดทาง พูดคำพูดดีๆ ต่างๆ นาๆ จนหมดก็ยังไม่มีประโยชน์ หลังกลับเข้าไปในตัวบ้าน ญาณินก็ส่งเด็กชายให้กับสองสามีภรรยาเทวิกา ส่วนเธอก็ตรงขึ้นไปข้างบน
เห็นมารดาหน้าตึง เทวิกาก็มองคุณพ่อแล้วมองเงาร่างของมารดา พลางถามอย่างเป็นห่วงว่า “พ่อคะ พ่อออกไปเดินเล่นแล้วทำไมกลับมาเร็วขนาดนี้ล่ะคะ พ่อไปล่วงเกินอะไรแม่หนูอีกแล้วหรอ แม่หนูถึงได้มีสีหน้าโมโหแบบนี้”
“พ่อก็ไม่รู้ว่าไปล่วงเกินเธอตรงไหน แค่พูดสองสามประโยคเท่านั้นเอง”
ไซม่อนมีสีหน้าท่าทางมึนงง ทำให้เทวิกาจนปัญญา ไม่ไหวจะเคลียร์
เธอถามพ่อเธอเสียงเบาว่า “พ่อคะ ตอนหนุ่มๆ พ่อจีบแม่หนูยังไง ตอนนี้ก็จีบอย่างนั้นสิคะ”
“ตอนวัยรุ่น แม่หนูไร้เดียงสามาก จีบง่าย ตอนนี้แม่หนูพบเจอเรื่องราวมาอย่างโชกโชน วิธีที่ใช้ตอนยังเป็นวัยรุ่นพวกนั้น ใช้กับเธอไม่ได้แล้ว”
เทวิกา : “…”
ในไม่ช้าญาณินก็ลงมาจากชั้นบน เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว
“ณิน คุณจะไปไหนหรอ”
ไซม่อนเด้งตัวลุกขึ้น แล้วรีบถาม
ญาณินไม่สนใจเขา
เทวิกาอุ้มพิรัตน์ลุกขึ้น หันไปทางมารดา พลางถามอย่างเป็นห่วง “แม่คะ แม่จะออกไปข้างนอกหรอ ไปที่ไหนคะ หนูไปเป็นเพื่อนแม่นะ”
เผชิญหน้ากับคำถามของไซม่อน ญาณินไม่ตอบ แต่คำถามของลูกสาว เธอตอบ เธอลูบศีรษะพิรัตน์ แล้วพูดกับลูกสาวว่า “แม่อยากกลับบ้านแม่สักรอบ เมื่อคืนลูกพี่ลูกน้องลูกดื่มเหล้าเยอะไป ในบ้านเขาก็ไม่มีคนคอยดูแล แม่จะไปดูหน่อยว่าเขาสร่างเมารึยัง”
บ้านแม่มีหลานชายอาศัยอยู่แค่คนเดียว ญาณินให้ความสำคัญกับธนัท หลานชายคนนี้มาก
พูดว่าเธอเป็นกังวลเรื่องงานแต่งงานของลูกชาย ความจริงแล้วเธอเป็นห่วงเรื่องงานแต่งงานของหลานชายยิ่งกว่า หวังให้ธนัทแต่งงานมีลูก ทำให้ฐานะวงศ์ตระกูลธวัชพลังกรยิ่งใหญ่
“แม่คะ หนูจะไปเป็นเพื่อนแม่”
ญาณินมองไปสองสองพี่น้องกัญณิศา แล้วพูดกับลูกสาวว่า “วิกา ลูกอยู่บ้านเป็นเพื่อนพวกณิศา ตอนบ่ายพวกเขาจะกลับเมืองแอคเซสซ์แล้ว
เทวิกา : “…” ก็ใช่ เธอไม่สามารถทิ้งเพื่อนไว้โดยไม่สนใจได้
“ณิน ผมจะไปเป็นเพื่อนคุณ”
“ไม่ต้องหรอก ฉันยังอยากมีชีวิตอีกสองปี”
ญาณินบอกปัดประโยคหนึ่งแล้วเดินออกไป
คนในบ้านล้วนมองกันไปมองกันมา พัฒน์เห็นพ่อตายืนนิ่ง ก็เตือนพ่อตาอย่างอดไม่ได้ว่า “คุณพ่อครับ คุณพ่อไม่ได้พูดว่าจะกลับบ้านแม่เป็นเพื่อนคุณแม่หรอครับ รีบเตรียมของขวัญสิครับ”
“ณินไม่ต้องการให้พ่อไปเป็นเพื่อนเธอ”
ทั้งยังพูดอีกว่าอยู่กับเขาแล้วจะมีอันตราย
หากไม่มีครึ่งประโยคหลัง ไซม่อนจะต้องหน้าด้านตามไปแน่นอน
เขานั่งลงอย่างเศร้าหมอง ในไม่ช้าก็ลุกขึ้นมาอีก แล้วพูดกับทุกคนว่า “พ่อจะไปห้องหนังสือ ไม่มีเรื่องอะไรก็อย่ารบกวนพ่อ”
เห็นคุณพ่อจากไปอย่างโดดเดี่ยวแล้ว เทวิกาก็รู้สึกแย่
ทำได้เพียงแค่โทรศัพท์หาธนัท ไหว้วานให้ธนัทพูดคุยเป็นเพื่อนมารดาของเธอ
…
พลอยไพลินปวดท้อง ปวดจนเธอทรมาน เธอนึกว่าตัวเองกำลังฝัน ตื่นขึ้นมา อาการปวดท้องก็ชัดเจนกว่าเดิม ถึงได้รู้ว่าตัวเองไม่ได้ฝันอยู่ เธอปวดท้องจริงๆ
ทำไมถึงได้ปวดท้องกัน
เธอกินของไม่ดีหรอ
เมื่อวานที่คฤหาสน์ตระกูลสาระทา เธอไม่ได้กินอะไร แค่ดื่มไวน์ไปสองแก้ว
ไม่ถูก ไม่ได้กินของผิดสำแดงแล้วทำให้ปวดท้อง
พลอยไพลินจำได้แล้วว่าตัวเองเป็นหญิงตั้งครรภ์คนหนึ่ง ลูกในท้องเธอยังไม่เป็นตัวเลย ตอนนี้เธอปวดท้องจนยากจะทนได้ หรือว่าจะแท้งกัน?
พลอยไพลินไม่กล้าประมาท ทนต่อความปวด คลำหาโทรศัพท์มือถือโทรหามารดา คุณแก้วรับสายโทรศัพท์ พลางบ่นเธอว่า “พลอย เป็นอะไรลูก แม่อยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปข้างนอก ไม่จำเป็นต้องโทรศัพท์”
“แม่คะ หนูปวดท้อง”
พลอยไพลินครางออกมาด้วยความเจ็บปวด
ได้ยินเช่นนั้น โทรศัพท์มือถือของคุณแก้วก็เกือบจะร่วงลงพื้น เธอไม่สนใจจะตอบคำถาม รีบวิ่งขึ้นมาชั้นบน คนที่ตามมาด้วยยังมีคุณพสธร
ผ่านงานเลี้ยงตระกูลสาระทาไป วันนี้คาดว่าคนส่วนใหญ่จะนอนชดเชย พักผ่อนอยู่บ้าน
คุณพสธรก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น แต่เขาส่งคนไปถามเรื่องเมื่อคืนของชลว่าเป็นมายังไงกันแน่ รวมไปถึงเรื่องที่ คุณหญิงรองของตระกูลสาระทาด้วยว่าถูกใครตีสลบกันแน่
“พลอย”
สองสามีภรรยา หนึ่งหน้าหนึ่งหลังพากันวิ่งเข้าไปในห้องของพลอยไพลิน
“แม่คะ หนูปวดท้องมาก ปวดมากเลย”
พลอยไพลินปวดจนหน้าเปลี่ยนสี เธอยังรู้สึกได้ว่ามีของเหลวอุ่นร้อนไหลออกมาจากภายในร่างกาย เมื่อเห็นมารดา เธอก็เอ่ยอย่างเจ็บปวดว่า “แม่คะ เร็วค่ะ พาหนูไปโรงพยาบาล”
คุณแก้วเห็นผ้าปูเตียงใต้ลูกสาวอาบย้อมไปด้วยเลือด ก็ตกใจสะดุ้ง รีบร้องเสียงดังว่า “เตรียมรถ รีบเตรียมรถ ไม่ โทรเบอร์ฉุกเฉิน”
คุณพสธรก็เห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้านี้เช่นกัน เขาก้าวเข้าไป ก้มตัวอุ้มลูกสาวที่อยู่บนเตียงด้วยตัวเอง แล้วหมุนตัววิ่งออกไปข้างนอก คุณแก้วก็ตามไปด้วย
แม้จะโทรเบอร์ฉุกเฉินแล้ว แต่คุณพสธรก็ยังคงขับรถไปส่งลูกสาวที่โรงพยาบาลด้วยตัวเอง
ตลอดทาง พลอยไพลินครางด้วยความเจ็บปวดไม่หยุด คุณแก้วก็สงสารจนน้ำตาไหลพรากคุณพสธรกลับหน้านิ่งขรึม ท่าทางเย็นชาจนทำให้คนตกใจตายได้
ถึงโรงพยาบาล พลอยไพลินก็หมดสติไป เพราะทนต่อความเจ็บปวดไม่ไหว
ผ่านการรักษาให้รอดพ้นจากอันตรายแล้ว ลูกในท้องพลอยไพลินก็รักษาเอาไว้ไม่ได้
คุณแก้วนั่งอยู่หน้าเตียงผู้ป่วย มองลูกสาวที่สลบอยู่ พลางร้องไห้สะอึกสะอื้น “บาปกรรมจริงๆ ก่อเวรก่อกรรมจริงๆ”
คุณพสธรยืนอยู่หน้าบานหน้าต่างอยู่นาน ได้ยินเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของภรรยาแล้ว เขาก็หันกลับมาเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “จะร้องไห้ทำไม เด็กคนนั้น พลอยไม่เคยคิดจะเก็บเอาไว้ ตั้งท้อง อะไรที่ควรทำไม่ควรทำ เธอก็ทำหมด เธอทำเอง ก็ต้องรับผลกรรมที่ก่อไว้ หาเหาใส่หัวเอง”
เมื่อวานยังระเริงรักกับชลบนรถ เด็กในท้องจะดวงแข็งยังไงก็รับการทรมานจากเธอไม่ไหว
เธอยังสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า กินยามั่วซั่ว แม้ว่าเด็กจะไม่ได้ถูกความเจ้าชู้ของเธอทำให้แท้ง แต่ทารกก็จะเติบโตมาอย่างผิดปกติเพราะเธอกินยามั่วซั่ว จนทำให้ไม่สามารถคลอดออกมาได้เหมือนกัน
แต่ทำเรื่องพวกนี้แล้วมีประโยชน์อะไรกับเธอกัน