รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 610 ขีดนึง
พี่กอล์ฟรู้นิสัยของน้องสะใภ้ และรู้สึกว่าน้องสาวของเขาคิดรอบคอบมาก ดังนั้นเขาจึงพูดว่า: “ก็ดี ทุกอย่างควรมีเหตุผล เธอต้องมีหลักฐานว่ามีคนต้องการทำร้ายเธอจริงๆ ถึงสามารถบอกนฤเบศวร์ได้”
“อย่างไรก็ตาม แม้ว่านี่จะเป็นการคิดมากของเธอ แต่เธอควรระวังตัวให้มากขึ้น ทางที่ดีควรปรึกษากับนฤเบศวร์ และเปลี่ยนคนรับใช้ทั้งหมดในบ้าน”
กนกอรยิ้มและพูดว่า: “พี่คะ พี่วางใจได้ หนูไม่เป็นอะไรหรอก หนูไม่ใช่คนที่ถูกคนอื่นมารังแกได้ง่ายๆ”
“เธอฉลาดนิดหน่อยก็จริง แต่เธอสะเพร่า ไม่ละเอียดอ่อนเหมือนเทวิกา ไม่มีตระกูลที่ยิ่งใหญ่คอยสนับสนุนเหมือนเทวิกา และตระกูลเดชอุปสู้ตระกูลอริยชัยกุลไม่ได้ ซึ่งตอนอาศัยอยู่ตระกูลเดชอุป เธอควรระวังตัวให้มากๆ”
“ถ้าเธออาศัยอยู่ข้างนอกกับเบศวร์ตลอดเวลา และไม่ไปยุ่งกับผู้อาวุโสในตระกูลเดชอุป พี่ก็จะไม่กังวลเธอเลย เธอเป็นเจ้าของเอง และตอนนี้เบศวร์ยังรักและตามใจเธออยู่ ใช้ชีวิตน้อยๆของเธอที่หวานชื่นกันไปวันๆ แต่ถ้ากลับไปที่คฤหาสน์ของตระกูลเดชอุป บ้านสามของพวกเขาไม่ใช่แม่เดียวกันกับบ้านใหญ่ของพวกเธอ ดังนั้นต้องระวังตัวไว้บ้าง”
กนกอรฟังพี่ชายของเธอจู้จี้ และไม่กล้าพูดอะไรอีก ไม่เช่นนั้นพี่ชายของเธอคงจุกจิกข้างหูเธอไปหลายวัน
ในที่สุดเมื่อพี่ชายจู้จี้เสร็จ กนกอรก็หัวเราะและแกล้งพี่ชายว่า: “พี่คะ เมื่อไหร่พี่จะพาพี่สะใภ้กลับบ้านมาให้หนู มีพี่สะใภ้คอยดูพี่อยู่ บางทีพี่อาจไม่จุกจิกจู้จี้แบบนี้อีก”
หลังจากพูดจบ พี่กอล์ฟก็ตบหน้าผากของเธอและพูดกับเธอว่า: “พี่เป็นห่วงเธอถึงได้จุกจิกนู่นนี่นั่น เธอคิดว่าพี่อยากเป็นคนปากมากเหรอ ก็เพราะพี่ไร้ความสามารถ ถ้าพี่เหมือนคุณประยสย์ ใครก็ตามที่กล้าแตะต้องน้องสาวของพี่ พี่จะเผาพวกมันทั้งหมดให้ราบเป็นหน้ากลองเลย!”
กนกอรรีบยกยอเขา “พี่ชายของฉันก็ดีมากเช่นกัน ฉันไม่อิจฉาวิกาที่มีพี่ชายสองคนหรอก ถ้าพี่ดี คนเดียวก็เพียงพอ แต่ถ้าไม่ดี สิบคนก็ไร้ประโยชน์”
“ตกแต่งร้านเป็นอย่างไรบ้างแล้ว”
“ใกล้จบล่ะค่ะ ทีมตกแต่งที่เบศวร์จัดการให้หนูทำงานเร็วมาก และหนูจ่ายเงินให้พวกเขาทุกๆสองสามวัน พวกเขาก็ทำงานหนักขึ้นและงานเสร็จเร็วขึ้น”
“ถ้าต้องใช้พี่ก็บอกพี่ได้”
กนกอรยิ้มและพูดว่า: “พี่วางจได้ ถ้าหนูมีโอกาสที่ใช้พี่ หนูจะไม่มีวันปล่อยให้พี่ผ่อนคลายแน่”
พี่กอล์ฟตีเธออีกครั้ง
หลังจากที่พี่น้องทั้งสองพูดคุยกันอยู่พักหนึ่ง พี่กอล์ฟก็หยิบถุงผลไม้แล้วออกไป มองหาคนช่วยน้องสาวตรวจว่ามียาในผลไม้หรือไม่
หลังจากพี่ชายของเธอจากไป เธอก็ดื่มกาแฟอีกแก้ว เพื่อชิมว่ากาแฟที่อาจพูดได้ว่าเป็นคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกันนั้นดีกว่ากาแฟในร้านของพวกเธอหรือไม่ หลังจากที่เธอรู้สึกว่ากาแฟในร้านของเธอเองดีกว่า เธอค่อยจ่ายบิลด้วยความพึงพอใจ ลา
วันที่วุ่นวายผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ตระกูลเดชอุปมาส่งมอบสินสอดมา ก็เป็นการสรุปวันแต่งงานอย่างเป็นทางการ
ต้นเดือนธันวาคมตามปฏิทินจันทรคติยังมีเวลาอีกกว่าหนึ่งเดือนในการเตรียมตัวสำหรับงานแต่งงาน
วันนี้เป็นวันเสาร์ กนกอรไม่ได้กลับไปที่ร้านและหลังจากโทรคุยกับน้องพนักงานแล้ว เธอก็เอนหลังลงบนเตียงและเตรียมที่จะนอน พลิกตัว และมองไปที่สามีสุดหล่อข้างเธอ กนกอรรู้สึกนอนไม่หลับเลย เธออดไม่ได้ที่จะสัมผัสนฤเบศวร์สองสามที
ในที่สุดก็เล็งไปที่ริมฝีปากของเขา กนกอรเอนตัวไปและกัดริมฝีปากของเธอเบาๆ เมื่อเธอกำลังจะดึงออกมือที่แข็งแรงของเขาก็กอดเอวของเธอและเธอก็ล้มลงบนร่างกายของเขา
ทันทีที่เขาพลิกตัว เขากดเธอไว้ใต้ตัวเขา เปลี่ยนจากเฉยเมยเป็นรุก คว้าริมฝีปากของเธอและจูบเธออย่างแนบแน่น
ตั้งแต่ตุนแท่งตรวจครรภ์จำนวนมากและตื่นตระหนกกับคำพูดของกนกอร นฤเบศวร์จงใจให้ร่างกายของกนกอรได้พักผ่อน จนเป็นเวลาหลายคืนติดต่อกันที่เขานอนกอดภรรยาเฉยๆ แต่ไม่กินเนื้อ ซึ่งการทำแบบนี้ราวกับสามารถยืดเยื้อ เพื่อใช่ชีวิตสองต่อสองอยู่ยาวต่อไปได้
สำหรับคู่หนุ่มสาว เมื่อความสัมพันธ์ของพวกเขาแรงกล้าถึงที่สุด ชีวิตมังสวิรัติแบบนี้เป็นการทรมานสำหรับนฤเบศวร์
ในขณะนี้ หลังจากจูบที่อ้อยอิ่ง เขาก็อดไม่ได้ที่จะก้าวไปอีกขั้น
กนกอรไม่ได้หยุดเขา
หลังจากเหลิงระเริงเสร็จ นฤเบศวร์กอดภรรยาของเขาอย่างพึงพอใจ “ที่รัก เธอลองตรวจดูไหมล่ะ แบบนั้นฉันจะได้วางใจได้ และพระเจ้ารู้ดีว่ามันอึดอัดแค่ไหนที่เฝ้าดูทุกคืนแต่ไม่ได้กิน ถ้าท้องแล้วถือว่าฉันแกว่งเท้าหาเสี้ยน แต่ถ้ายังไม่ท้อง คราวหน้าเราป้องกันๆบ้าง พอปีหน้าเราค่อยมีลูกกัน”
อย่างไรก็ตาม คู่แข่งตัวฉกาจของเขาไม่คิดจะมีลูกเป็นเวลาสองปี
เขาไม่รู้เลยว่าเทวิกาเปลี่ยนใจแล้ว ตอนนี้เธอต้องการมีลูก และเธอกับยศพันฒ์พยายามกำลังเพื่อให้ตั้งท้อง
“จริงด้วย”
กนกอรลุกขึ้นนั่งทันที “ประจำเดือนของฉันมาสายหลายวันแล้ว ครั้งก่อนที่ฉันถามมิลินท์ว่าเธอรู้ว่าตัวเองท้องได้อย่างไร เธอบอกว่าเพราะประจำเดือนมาสาย เธอเลยใช้แท่งตรวจครรภ์ตรวจออกมา แล้วท้องจริงๆ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้นฤเบศวร์ก็ลุกขึ้นนั่ง กระโดดลงจากเตียงอย่างกระวนกระวาย และไปหาถุงแท่งตรวจครรภ์ที่เขาตุนไว้
ในไม่ช้า เขาก็นำแท่งตรวจครรภ์มาแล้วเปิดห่อออก
“ที่รัก ไปเข้าตรวจในห้องน้ำก่อน”
กนกอรก็กังวลว่าเธอกำลังตั้งครรภ์แล้วจริงๆ ดังนั้นเธอจึงหยิบแท่งตรวจครรภ์เข้าไปในห้องน้ำภายใต้ความกังวลใจของนฤเบศวร์
นฤเบศวร์เดินไปรอบๆข้างนอกโดยหวังว่ากนกอรจะตั้งครรภ์ลูกของพวกเขา แต่ก็หวังว่าจะไม่เป็นอะไร
อย่างไรก็ตาม อารมณ์ของเขาขัดแย้งกันเป็นพิเศษ
“กริ๊ง กริ๊ง……”
ในขณะที่เขากำลังรอผล โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น และเห็นว่าเป็นสายของคุณปู่ นฤเบศวร์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรับสาย
“นฤเบศวร์ หลานสารเลว แต่งงานมีภรรยาก็ไม่เอาปู่แล้ว หลานไม่ได้พาหลานสะใภ้ของฉันกลับไปทานอาหารเย็นมาหลายสุดสัปดาห์แล้ว วันนี้ก็วางแผนที่จะไม่กลับมาอีกใช่ไหม หลานไม่ต้องกลับมาหรอก เรียกอรกลับมาคนเดียวก็ได้ ปู่ให้ครัวเขาทำอาหารอร่อยๆให้อรไว้เพียบ อย่างไรก็ตามปู่เห็นหน้าหลานมาสามปีแล้วเบื่อแล้ว ตอนนี้ปู่เป็นห่วงอรมากกว่า”
มีหลานสะใภ้ ไม่เอาหลานช่ายหลานชาย
“คุณปู่ครับ เมื่อคืนผมโทรหาลุงเซนและบอกว่าวันนี้เราจะกลับบ้านไปทานอาหารกลางวันตอนเที่ยงแล้ว ลุงเซนไม่ได้บอกคุณปู่เหรอ?”
คุณปู่เร็น: “……เหมือนจะพูดแล้ว โอ้ ปู่ลืมไปชั่วขณะน่ะ ไม่เป็นไร หลานหนังหนาถูกปู่ต่อว่าทุกวันก็เป็นไร”
นฤเบศวร์: “……”
ใครบอกกัน เขาก็ที่รักศักดิ์ศรีอยู่นะ
“นฤเบศวร์ ขีดนึง”
กนกอรออกมาจากห้องน้ำ ถือแท่งตรวจครรภ์ และพูดกับนฤเบศวร์
คุณปู่เร็นมีหูที่แหลมคม และได้ยินจากทางโทรศัพท์ จึงถามหลานชายที่รักของเขา: “ปู่ได้ยินอรพูดว่าอะไรขีดนึง ขีดหนึงอะไรกัน”
ความกังวลใจที่คาดหมายและขัดแย้งกันของนฤเบศวร์รู้สึกโล่งใจในทันที แต่เขาค่อนข้างผิดหวังและพูดว่า: “คุณปู่ เหลินปู่ถูกปู่ด่าจนไปแล้ว”
“หลานสารเลวรังแกปู่อายุเยอะ แล้วไม่เข้าใจชีววิทยาใช่ไหม”
