รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 612 นี่มันคือการอวด รู้ไหม!
ถ้าเป็นลูกสาว เขาจะส่งไปให้ยศพัฒน์เลี้ยงดู ยังไงก็ให้เป็นลูกสะใภ้ยศพัฒน์อยู่แล้ว แค่ดูเหมือนเขาไม่ค่อยยินยอม!
ไม่ได้ ถ้าเป็นลูกสาว เขาจะต้องปกป้องสุดชีวิต ไม่ให้หมูในครอบครัวยศพัฒน์มาล้อมรอบผักกาดขาวที่เขาปกป้องสุดจิตสุดใจเด็ดขาด!
ถึงแม้ตอนนี้ยศพัฒน์ยังไม่ได้เป็นพ่อ นฤเบศวร์ป้องกันไว้ก่อน คิดว่าอนาคตยศพัฒน์กับภรรยาเขาจะต้องมีลูกชายแน่ๆ หลายรุ่นของตระกูลอริยชัยกุลผู้ชายแข็งแกร่งกว่าผู้หญิง
“ยศพัฒน์ ล้อนายเล่น นายอยู่ที่เมืองซูเพร่าเป็นไงบ้าง? มีอะไรให้ช่วยบอกได้เสมอนะ”
“จริงอ่ะ? จะเก็บเงินเปล่า?”
นฤเบศวร์สำลัก ถามขึ้นทันทีอย่างไม่สบอารมณ์ “ยศพัฒน์นายขาดเงินหรือไง? ถามแบบนี้ดูนายใจแคบนะ”
“ทำไม มีเรื่องให้ฉันช่วยจริงเหรอ?”
ยศพัฒน์ยิ้มแล้วพูดขึ้น “นายออกตัวจะช่วยเหลือฉัน ถ้าไม่มีอะไรให้นายช่วย ฉันจะรู้สึกเกรงใจ รู้สึกผิดต่อน้ำใจของนาย”
นฤเบศวร์หัวเราะฮ่าๆ “เป็นไปไม่ได้หน่า ยศพัฒน์มีเรื่องให้ฉันช่วยด้วยสินะ ว่ามาสิ เห็นแก่ที่ภรรยาเราเป็นเพื่อนสนิทกัน ฉันจะไม่คิดเล็กคิดน้อยกับนาย แค่ไม่ใช่ให้ไปฆ่าคนหรือวางเพลิง ฉันช่วยนายแก้ปัญหาได้หมด”
“ดูแลครอบครัวฝ่ายแม่ของภรรยานายให้ดี คุ้มครองความปลอดภัยของพวกเขาก็เป็นการช่วยฉันมากที่สุดแล้ว”
ได้ยินดังนั้น นฤเบศวร์ก็หุบยิ้ม ถามยศพัฒน์ว่า “ครอบครัวภรรยานายจะเปิดฉากสงครามเหรอ”
“พูดว่าเปิดฉากสงครามจะแรงเกินไป แค่เตรียมพร้อมล่วงหน้า ไม่ให้ใครจับจุดอ่อนได้ ไม่ใช่แค่ทำให้ผู้บริสุทธิ์เดือดร้อนนะ แต่ยังเป็นฝ่ายถูกกระทำด้วย”
นฤเบศวร์ก็ไม่กล้าประมาท เขารู้ว่าศัตรูตัวฉกาจที่สุดของตระกูลสาระทาคือตระกูลเลิศธนโยธาที่รู้หน้าไม่รู้ใจ บรรพบุรุษตระกูลเลิศธนโยธาก่อตั้งกิจการในแวดวงมาเฟีย ถึงแม้จะชดใช้บาปไปแล้ว ความป่าเถื่อนในกระดูกก็ยังมีอยู่ ตระกูลเลิศธนโยธาในปัจจุบันยังทำธุรกิจสกปรกด้วย
ถ้าหลักฐานแน่นหนา สมาชิกในตระกูลเลิศธนโยธาส่วนใหญ่จะต้องเข้าคุก
“นายไม่ต้องห่วง อรเป็นภรรยาฉัน ตระกูลภูสิทธ์อุดมคือครอบครัวแม่เธอ ฉันจะต้องปกป้องภรรยาฉันให้ดี ตระกูลวาชัยยุงนั่นแหละต้องการความช่วยเหลือจากฉันหรือเปล่า?”
นฤเบศวร์รู้ว่าบ้านตระกูลวาชัยยุงมีตระกูลอริยชัยกุลคุ้มครองอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องการเขา แต่ก็ยังถามด้วยความเป็นห่วง บ้านตระกูลวาชัยยุงไม่ใช่แค่ครอบครัวฝ่ายแม่ของเทวิกา ยังเป็นครอบครัวของชเนนทร์เพื่อนร่วมห้องเก่าของเขาด้วย ถือว่าเขาช่วยเหลือเพื่อนร่วมชั้นเก่าแล้วกัน
“ขอบคุณ บ้านตระกูลวาชัยยุงเป็นหน้าที่ฉันเอง ฉันบอกพวกน้องชายนายไปแล้ว ว่าจะปกป้องทุกคนในตระกูลวาชัยยุงให้ดี แค่นายปกป้องตระกูลภูสิทธ์อุดมเป็นอย่างดี ฉันกับวิกาที่อยู่เมืองซูเพร่าก็จะไม่มีอะไรให้เป็นห่วง”
ตระกูลเลิศธนโยธาไม่กล้าทำอะไรสมาชิกในตระกูลวาชัยยุงและตระกูลอริยชัยกุล แต่ตระกูลภูสิทธ์อุดม พวกเขากล้าทำ
พูดตามตรง สมาชิกในตระกูลภูสิทธ์อุดมเป็นอันตรายกว่าสมาชิกในตระกูลวาชัยยุงอีก
มิตรภาพของกนกอรและเทวิกา คนทั้งเมืองแอคเซสซ์รู้กันหมด คนในตระกูลเลิศธนโยธาที่อยู่ในเมืองซูเพร่าก็ต้องรู้อยู่แล้ว สำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับมิตรภาพ ถ้าหากเพื่อนเกิดเรื่องเพราะตัวเอง นั่นจะเป็นความรู้สึกผิดบาปตลอดชีวิต
ถ้าคนในตระกูลภูสิทธ์อุดมตกอยู่ในเงื้อมมือคนแซ่เลิศธนโยธา ไม่มีทางที่เทวิกาจะเพิกเฉยไม่สนใจ
ถึงแม้นฤเบศวร์จะหน้าหนาไร้ยางอายตอนจีบภรรยา บางครั้งทำอะไรเป็นเด็กๆ แต่ก็ไม่ได้โง่ เขารู้ได้ถึงความสามารถของคนในตระกูลภูสิทธ์อุดมว่าเป็นมรสุมอันตรายอย่างแท้จริง สุดท้ายเขาก็กล่าวขอบคุณยศพัฒน์
“นฤเบศวร์ ยินดีด้วยที่นายจะได้เป็นพ่อคนแล้ว”
นฤเบศวร์ยิ้มกว้างอีกครั้งโดยทันที “ขอบคุณ นายกับเทวิกาก็ลองใคร่ครวญดู นายแต่งงานก่อนฉัน อย่าให้ลูกสาวฉันเข้าโรงเรียนอนุบาลแล้ว แต่ลูกชายนายยังไม่เกิดล่ะ ไม่งั้นพวกขี้นินทาจะหาว่าสุขภาพสองสามีภรรยามีปัญหา มีลูกไม่ได้”
“ตอนนี้เราลิ้มรสชาติเป็นพ่อแม่แล้ว ไม่รีบร้อน”
ถึงแม้เทวิกาจะอยากมีลูก ยศพัฒน์ก็คงไม่บอกเรื่องลับส่วนตัวของสามีภรรยาให้นฤเบศวร์ฟังหรอก เขาไม่ใช่คนที่ชอบพูดเสียงดังเหมือนนฤเบศวร์ มีข่าวดีอะไรนิดหน่อย ก็บอกเขาทันที
บอกว่าทั้งคู่เป็นศัตรูคู่แค้นกัน ตอนนี้แม้แต่ยศพัฒน์เองก็ไม่เชื่อว่าที่ผ่านมาพวกเขาต่อสู้กันขนาดนั้นได้ยังไง?
ทั้งๆ ที่พวกเขาสนิทกันมากกว่าเพื่อนสมัยเด็ก แถมยังเข้าใจอีกฝ่าย ทุกครั้งที่นฤเบศวร์มีเรื่องน่ายินดีอะไร ก็มักจะแชร์กับเขาก่อนเสมอ
นฤเบศวร์: ……เฮ้ยใครแชร์กับนายกัน นั่นมันการอวด อวดน่ะ รู้จักไหม!
“เด็กที่เก็บมา ไม่ใช่ลูกที่พวกนายสองสามีคลอดเองสักหน่อย พอเด็กโตขึ้นอีกหน่อย รู้ว่าพวกนายไม่ใช่พ่อแม่ของเขา เขาก็จะไม่เรียกพวกนายว่าพ่อแม่อีกแล้ว เด็กน่ะ คลอดเองดีกว่าอยู่แล้ว ถึงจะไม่เชื่อฟัง แต่ยังไงคลอดเองก็ดีกว่า”
ยศพัฒน์ยิ้ม “พิรัตน์ก็เป็นเด็กดีมาก วิกาชอบเขาสุดๆ”
“ถึงตอนนั้นนายถึงจะรู้สึกเสียดายทีหลัง สรุปแล้วนายรีบๆ มีลูกของตัวเองซะ ครอบครัวกับบริษัทของพวกนายใหญ่โต มีลูกคนเดียวไม่พอหรอก ต้องมีสักสองสามคน การช่วงชิงมรดกจะได้ครึกครื้นหน่อย”
“เด็กในครอบครัวเราไม่ชอบช่วงชิงมรดกกันหรอก กลัวมรดกครอบครัวจะตกอยู่ที่ตัวเองด้วยซ้ำ พวกเขาชอบสร้างมันด้วยตัวเอง พึ่งพาความสามารถตัวเองเพื่อประคับประคองความสำเร็จที่เป็นของพวกเขา”
นฤเบศวร์: ……แทงใจมาก!
พวกพี่น้องในตระกูลเดชอุปของเขา ต้องการช่วงชิงมรดกกันแบบลับๆ ไม่งั้นใครจะทนปู่ด่าได้ทั้งวัน?
คุณปู่เร็น: ……ความรักระหว่างปู่หลาน เทียบเงินมรดกไม่ได้!
“ไม่คุยกับนายแล้ว ฉันยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย สุดสัปดาห์กว่าจะได้พักผ่อนอยู่บ้าน ตอนแรกอยากพาอรของฉันไปนั่งรถเล่น ปู่ดันโทรมาด่าฉันแต่เช้า ให้ฉันพาหลานสะใภ้เขากลับบ้านไปกินข้าว เฮ้อ พอมีหลานสะใภ้ หลานชายอย่างฉันก็เหมือนถูกเก็บมาเลี้ยง พัฒน์ ปู่บ้านนายทำแบบนี้หรือเปล่า?”
“ไม่นะ เพราะปู่ฉันมีย่าอยู่เป็นเพื่อน สำหรับปู่ฉัน ย่าสำคัญกว่าลูกหลานอย่างเราทุกคน เขามีย่าอยู่ด้วยทุกอย่างก็เพียงพอแล้ว”
นฤเบศวร์สำลักทันที
นั่นสินะ คุณปู่ภูธิปกับภรรยาเขาเพียบพร้อมกันทั้งคู่ บรรลุเป้าหมายดูแลกันในยามแก่เฒ่าได้อย่างแท้จริง ไม่เหมือนย่าของเขา ที่ทิ้งปู่เขากลับขึ้นสวรรค์ไปนานแล้ว ย่าที่ปู่แต่งงานในภายหลังก็อายุสั้นอีก เขานึกสงสัยตลอดว่าปู่ทำให้ภรรยาอายุสั้น……
เอ้ย!
อย่าพูดเสียงดังขนาดนั้น เดี๋ยวปู่ได้ยินเข้า แล้วจะโดนด่าอีกยก
นฤเบศวร์ที่ตอนแรกจะอวดยศพัฒน์ที่เขาดีใจได้เป็นพ่อคน จึงคุยกันสักพัก พบว่าตัวเองไม่ได้มีเงื่อนไขและสภาพแวดล้อมดีเท่ายศพัฒน์เลย ความสบายใจนั้น เขากลายเป็นกลัดกลุ้มอีกครั้ง วางสายยศพัฒน์ไปอย่างเซ็งๆ
เขากลัวว่าถ้าคุยต่อไป จะทำลายอารมณ์ดีที่เขาได้เป็นพ่อไปหมด
ยศพัฒน์ที่ถูกนฤเบศวร์วางสายก็ไม่โกรธ เขาไม่เคยใส่ใจสิ่งที่นฤเบศวร์ทำลงไป ไม่งั้นเขาคงโกรธนฤเบศวร์จนขาดใจตายไปตั้งแต่แปดร้อยปีก่อนแล้ว
นฤเบศวร์ปรับอารมณ์ให้ดีอย่างรวดเร็ว ถือแท่งตรวจปัสสาวะที่ขึ้นสองขีดชัดเจนแล้วลงไปชั้นล่าง
“อร อร”
เขาตะโกนเรียกเสียงดัง ไม่ใช่เพียงแค่เรียกอร แต่ยังทำให้เหล่าพ่อบ้านและคนใช้ตกใจกันหมด พากันเข้ามาในห้องเพื่อดู
นึกว่าเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้น
คนใช้ที่ใส่ยาคุมไว้ในถาดผลไม้เครียดกว่าเดิมโดยทันที นึกขึ้นได้ว่าถึงแม้คุณนายน้อยจะทานผลไม้พวกนั้นไป ก็จะไม่เป็นอะไรเร็วขนาดนี้ เธอถึงได้วางใจ