รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 616 คุณปู่ลำเอียง
ตระกูลภูสิทธ์อุดมไปมาหาสู่ง่ายที่สุดแล้ว
นั่นคือครอบครัวฝ่ายแม่ของกนกอร ตระกูลภูสิทธ์อุดมไม่มีคนน่ารังเกียจที่มีความคิดชั่วร้าย สามารถดูแลกนกอรและลูกของเธอได้เป็นอย่างดี
“นฤ คฤหาสน์หลังที่แกซื้อให้เครือญาติ เข้าไปอยู่ได้ไหม? ไปบอกเครือญาติหน่อย พวกเขาอาจจะยอมรับคฤหาสน์ที่แกซื้อให้ ยอมย้ายเข้าไปอยู่เพื่อดูแลอรกับลูกดีๆ”
สินสอดทองหมั้นที่ตระกูลพวกเขามอบให้ตระกูลภูสิทธ์อุดม ตระกูลภูสิทธ์อุดมไม่เก็บไว้เลย ให้กนกอรไปเป็นสินเดิมทั้งหมด
นี่ทำให้บัณฑิตารู้สึกประทับใจ ยอมรับคนในตระกูลภูสิทธ์อุดมว่าไม่ได้ต้องการทรัพย์สินเงินทองของตระกูลเดชอุปพวกเขา ให้ลูกสาวแต่งงาน ไม่ได้เป็นการขายลูกสาว
“ปู่ครับ คฤหาสน์ที่ผมซื้อไว้เข้าไปอยู่ได้ทุกเมื่อ พวกแม่ยายของผมไม่ยอมย้ายเข้าไปอยู่”
นฤเบศวร์ก็หมดหนทางเช่นกัน บ้านหลังนี้ที่เขาแสดงถึงความกตัญญูของลูกเขยที่มีต่อแม่ยาย แม่ยายไม่ต้องการมันเลย อย่าว่าแต่ย้ายเข้าไปอยู่
“งั้นก็ดี ปู่จะไปคุยกับพวกเขา”
“ลุงเซน ไปแจ้งพวกเขาให้มากินข้าว แต่เรื่องอรท้องยังไม่ต้องบอก เรารู้กันไม่กี่คนก็พอแล้ว รอท้องครบสามเดือนเต็ม ให้ลูกในครรภ์มั่นคงก่อนค่อยบอก” คุณปู่สั่ง ไม่ลืมที่จะกำชับ
นฤเบศวร์กับภรรยาส่งสายตาให้กัน นฤเบศวร์ถามขึ้นเสียงเบา “ปู่ครับ พ่อแม่ผมก็ไม่บอกเหรอ?”
“รอลูกในครรภ์มั่นคงก่อนค่อยบอก คนทั่วไปรอสามเดือนเต็มถึงจะบอกคนอื่น”
ที่จริงสามเดือนแรกยังไม่คงที่ เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ถ้าท้องแล้วบอกคนทั้งโลก หากแท้งขึ้นมา คนดีๆ ก็จะสงสาร คนชั่วก็จะสะใจ มันต้องเป็นเรื่องกดดันจิตใจสำหรับหญิงตั้งครรภ์
คู่รักหนุ่มสาวไม่เคยมีประสบการณ์ แต่พวกเขาเชื่อใจคุณปู่เร็นมาก รู้ว่าชายชรารักพวกเขามากที่สุด จึงพยักหน้าอย่างโอนอ่อนผ่อนตาม แล้วพูดขึ้น “ปู่ครับ เราตามใจปู่”
คุณปู่เร็นตอบอืม
ในเวลานี้ บัณฑิตาและสามีก็ลงมาจากชั้นบน
ได้ยินเสียงหัวเราะภายในห้องโถงใหญ่ไม่หยุดหย่อน เธอพูดกับสามีว่า “ลูกชายกับลูกสะใภ้เรากลับมาแล้ว พ่อคุณถึงได้ยิ้มสุขใจแบบนั้น”
“หรือว่าเธอไม่สุขใจ?”
บัณฑิตายิ้ม แล้วพูดขึ้น “ฉันสุขใจอยู่แล้วสิ โดยเฉพาะเห็นท่าทางอิจฉาของครอบครัวลำดับที่สาม ฉันยิ่งสุขใจ”
เธอไม่สามารถเป็นคุณนายตระกูลเดชอุปได้ บ้านสามก็อย่าคิดจะนั่งตำแหน่งนี้ ยังไงกนกอรก็เป็นลูกสะใภ้ในบ้านใหญ่ ถึงจะตกอยู่ในบ้านใหญ่ บัณฑิตาก็รู้สึกหดหู่ไปชั่วขณะหนึ่ง รู้สึกว่าชายชราบ้าไปแล้ว
ต่อมาเห็นคุณหญิงสามอิจฉามากกว่าเดิม เธอก็อารมณ์ดีขึ้นมา
อย่างน้อยคุณหญิงสามก็ไม่ได้ผลประโยชน์
ชายชราลำเอียงก็จริง แต่ลำเอียงมาทางบ้านใหญ่อย่างพวกเขา มันก็เพียงพอแล้ว
“รอเบศวร์กับกนกอรจัดงานแต่ง รอให้พวกเขามีหลานจ้ำม่ำให้ฉันเร็วๆ ฉันจะได้มีความสุขกับหลานๆ ทำให้บ้านสามโกรธเจียนตายมากกว่าเดิม”
บัณฑิตานึกถึงลูกชายตัวเองที่คุณปู่เลี้ยงไว้ข้างกายมาตั้งแต่เด็ก ถึงจะอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน แต่ลูกชายถูกเลี้ยงโดยคุณปู่ กตัญญูกับคุณปู่มากกว่า สำหรับแม่แท้ๆ อย่างเธอนั้นไม่ได้สนิทกันมากพอ
เธอคิดว่าเดี๋ยวถ้ามีหลาน เธอจะเลียนแบบชายชรา เลี้ยงหลานไว้ข้างกายเธอ ต่อไปแก่ตัวจริงๆ หลานจะได้กตัญญูกับเธอ เธอจะได้กลายเป็นท่านยาย
“เรื่องลูก ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ เธออย่าไปสร้างแรงกดดันให้กนกอรเลย”
“ฉันแค่พูดเฉยๆ ไม่ได้พูดต่อหน้าพวกเขาสักหน่อย”
บัณฑิตาเบ้ปาก พูดขึ้นเสียงเบา “วันเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ประเดี๋ยวเปรมาก็ออกมาแล้ว ถ้ากนกอรมีลูกก่อนที่เธอออกมา คิดว่าเปรมาคงล้มเลิกความตั้งใจได้จริงๆ”
“จะพูดถึงหล่อนทำไม มันกระทบอารมณ์ ฉันบอกเธอแล้ว ไม่ว่าคุณณัฏฐาจะติดต่อเธอยังไง เธอก็อย่าไปสนใจหล่อน”
“หล่อนกลับบ้านไปนานแล้ว โทรศัพท์ ข้อความหล่อน ฉันไม่ตอบเลย โทรศัพท์ก็บล็อกไปแล้ว”
ในเมื่อยอมรับกนกอรเป็นลูกสะใภ้แล้ว บัณฑิตาก็ไม่ไปมาหาสู่กับคุณณัฏฐาอีก
ธารณ์ทำเสียงเฮอะ
ลงมาถึงข้างล่าง เขาก็รีบเปลี่ยนสีหน้า พวกคุณกำลังคุยอะไรกันอยู่ถึงได้ดีอกดีใจแบบนั้น พูดให้พ่อแม่ดีใจบ้างสิ”
“ไม่ได้คุยอะไร ปู่เห็นผมก็ดีใจแล้ว พ่อครับ พ่อน้อยหน้าผมแล้วนะ”
นฤเบศวร์ดีใจที่ได้เป็นพ่อคน วันนี้อารมณ์สุขใจเป็นพิเศษ เห็นใครก็ไม่ขัดหูขัดตา เขายิ้มแย้มขณะตบบ่าพ่อตัวเอง แล้วทำหน้าตาภูมิใจ
ธารณ์ยิ้มแล้วพูดขึ้น “พ่อสู้ลูกไม่ได้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ลูกเป็นแก้วตาดวงใจของปู่มาตั้งแต่เด็ก คนที่ปู่รักมากที่สุดก็คือลูก”
นี่คือความจริงที่สุด
ชายชรามีหลานเยอะมาก แต่เพราะนฤเบศวร์ถูกเลี้ยงดูข้างกายชายชรา จึงกลายเป็นผู้สืบทอดมาตั้งแต่เด็ก
สมาชิกในบ้านสองและลำดับสามก็ทยอยกันมาถึง
ทุกครั้งที่กนกอรและสามีกลับมาคฤหาสน์หลังเก่า ชายชราจะเรียกทุกคนให้มาทานอาหารด้วยกัน มีชายชราอย่างเขาบัญชาการด้วยตัวเอง พวกลูกหลานก็ไม่กล้าทำอะไร
อิจฉาธรรมเนียมศัตรูคู่แค้นอย่างตระกูลอริยชัยกุล คุณปู่เร็นก็พยายามจะเปลี่ยนแปลงธรรมเนียมครอบครัวตัวเองบ้าง
บ้านสองและบ้านใหญ่คือพี่น้องแท้ๆ ที่เกิดจากแม่คนเดียวกัน สนิทสนมกันมาโดยตลอด บ้านสามเป็นมิตรกับบ้านสองแบบผิวเผินแต่ไม่ลงรอยกันในใจ ลูกสาวสองคนที่เกิดจากเมียน้อยคุณปู่ใจตรงกับบ้านสาม วางแผนร้ายเพื่อพี่น้องตัวเองอยู่บ่อยๆ แต่หัวใจคุณปู่ก็ยังรักลำเอียงไปทางนฤเบศวร์อยู่เสมอ
ต้องโทษเปรมานั่นแหละ ถ้าเธอทำให้นฤเบศวร์หลงใหลอย่างสุดใจต่อไปได้ ทำให้คุณปู่ผิดหวังในตัวนฤเบศวร์ คริษฐ์ก็จะได้ตำแหน่งผู้สืบทอดแทนที่นฤเบศวร์อย่างแน่นอน
เปรมาก็ไม่ค่อยมีประโยชน์ ถูกนฤเบศวร์หลงรักมาสิบกว่าปี สุดท้ายก็สู้ความรักกนกอรเพียงไม่กี่เดือนไม่ได้
สมาชิกในบ้านสาม นอกจากคริษฐ์แล้ว ในใจก็อาฆาตแค้นกับการปรากฏตัวของกนกอรกันทั้งนั้น โทษที่เธอช่วยชีวิตนฤเบศวร์เอาไว้
ส่วนคริษฐ์รู้สึกว่าจิตใจตัวเองไม่เหี้ยมพอ นึกถึงความเป็นพี่น้องกันอยู่บ้าง รวมถึงความลำเอียงของคุณปู่ สุดท้ายการแย่งชิงอำนาจอย่างลับๆ ของเขาก็จะล้มเหลว
ในปัจจุบันพี่ใหญ่แต่งกับพี่สะใภ้แล้ว พี่สะใภ้เป็นคนที่ปู่เลือกมาเอง ตำแหน่งสืบทอดของพี่ใหญ่มั่นคงแล้ว นอกเสียจากว่าในอนาคตพี่ใหญ่จะทำอะไรที่คุณปู่ผิดหวัง อาทิเช่นกลับไปคืนดีกับเปรมาหลังจากเปรมาออกมาแล้ว แล้วหย่ากับกนกอร……
คริษฐ์คิดว่าความหวังแบบนี้เกิดขึ้นได้น้อย เขาน่ะ ก็แค่ฝันกลางวัน
เห็นคุณปู่ขำขันอย่างมีความสุขเพราะนฤเบศวร์และภรรยาเขา คุณหญิงสามเข้าบ้านมาก็เบ้ปาก พูดกับลูกชายเสียงเบา “ดูปู่ของลูกสิว่าลำเอียงแค่ไหน ทุกครั้งที่พวกมันกลับมา ก็ทำเหมือนมีแขกคนสำคัญมาบ้าน ต้องเรียกพวกเรามากินข้าวด้วย”
“ปกติพวกลูกก็กตัญญูต่อหน้าปู่บ่อยๆ แต่ใจเขาลำเอียงไปไกลแล้ว”
คริษฐ์พูดกับแม่เสียงเบา “แม่ แม่พูดเบาหน่อย อย่าให้คุณปู่ได้ยิน”
คุณหญิงสามทำเสียงเฮอะไม่พอใจ “ได้ยินก็ได้ยินไป เขากล้าลำเอียงขนาดนี้ยังกลัวคนในครอบครัวได้ยินเขาอีกเหรอ? คนนอกมีใครไม่รู้บ้างว่าคุณปู่ลูกลำเอียง แม่ไม่ได้บังคับให้เขาลำเอียงสักหน่อย”
แม่สามีที่ถูกต้องชอบธรรมของเธอถึงแม้จะเป็นเมียน้อย แต่ก็เป็นคนที่พ่อสามีแต่งงานด้วยอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่พวกเมียเก็บ ทำไมบ้านสามอย่างพวกเขาถึงได้มีระดับต่ำกว่าบ้านใหญ่กับบ้านสอง?