รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 683 เข้าคุก
“วิกา”
ยศพัฒน์ดึงภรรยาเอาไว้ พูดขึ้น: “เชื่อใจพี่คุณเถอะ รออยู่ที่นี่ พ่อยังต้องการให้พวกเราคอยดูแลนะ”
เขากลัวภรรยาจะออกไป จึงยัดพิรัตน์ที่กำลังหลับปุ๋ยเข้าไปในอ้อมอกของเธอ
จากนั้นจึงดึงเทวิกาให้นั่งลง ปลอบใจเธอ: “ไม่ต้องกังวล พี่ไม่เป็นไรหรอก ก่อนพี่จะออกไปจากโรงพยาบาลก็มอบคุณกับพ่อให้ผมดูแล ผมไม่มีทางยอมให้คุณพาคนออกไปเสี่ยงอันตรายเด็ดขาด”
“พัฒน์ ฉันวางใจไม่ได้หรอก ตอนนี้พ่อฉันยังไม่ฟื้น แม่ฉันก็ยังมาไม่ถึง พี่ฉันออกไปตั้งนานแล้วก็ยังไม่กลับมาสักที ต่อให้ฉันจะนั่งอยู่ที่นี่ ฉันก็ไม่สบายใจอยู่ดี ถ้าพี่ฉันเป็นอะไรไป ฉันคงไม่ให้อภัยตัวเองไปตลอดชีวิต”
“ฉันไม่มีทักษะการป้องกันตัว แต่ฉันสามารถพาพวกเขาไปช่วยพี่ฉันได้นี่นา”
วินาทีนี้ สิ่งที่เทวิกาเสียใจที่สุดก็คือเมื่อตอนเด็กๆตนเองไม่ได้เรียนศิลปะป้องกันตัวเอาไว้
“ตระกูลกิจวณิชกุล ไหนจะตระกูลอริยชัยกุลของพวกเรารวมไปถึงนฤเบศวร์ต่างก็ส่งคนไปช่วยพี่คุณอย่างลับๆแล้ว วางใจเถอะ ไม่มีอะไรหรอก”
แน่นอนว่า ยังมีจอมยุทธ์หญิงที่เข้าไปประสมโรงอยู่ด้วยอีกสองคน
แต่ทว่าที่กัญณิศากับชุติภามานั้น พวกยศพัฒน์ไม่รู้
“พวกคุณส่งคนเข้าไปตั้งแต่เมื่อไหร่?”
ยศพัฒน์พูดอย่างเคร่งขรึม: “เรื่องอย่างนี้ยิ่งเป็นความลับยิ่งดี ต้องทำอย่างนี้แหละถึงจะฆ่าอีกฝ่ายที่ตั้งรับไม่ทันได้”
บนตัวของประยสย์มีเครื่องติดตามอยู่ คนที่ทั้งสามตระกูลส่งไปก็แอบติดตาม แอบปกป้องผ่านเครื่องติดตามบนตัวของประยสย์นี่แหละ
“วิกา เชื่อผม เชื่อพี่คุณนะ ไม่มีเรื่องอะไรแน่นอน ภารกิจสำคัญของพวกเราก็คือต้องคุ้มครองพ่อให้ดี”
ถึงจะรู้ว่ามีคนคอยช่วยเหลือพี่ชายอยู่ลับๆ เทวิกาก็ยังคงกังวลใจมากอยู่ดี แต่ที่ยศพัฒน์พูดก็ถูก ภารกิจหลักของสองสามีภรรยาคือการดูแลพ่อที่ยังไม่ฟื้นให้ดี อย่าปล่อยให้พสธรหาโอกาสมาทำร้ายได้
หลังจากปลอบใจเทวิกาได้แล้ว ยศพัฒน์จึงโทรไปหาอินทัช
เช้าวันนี้อินทัชเพิ่งมาถึงเมืองซูเพร่า เขามาพร้อมกับคนของตระกูลกิจวณิชกุล ที่คนของตระกูลกิจวณิชกุลยินยอมเข้ามายุ่งเรื่องนี้ เพราะทนคำอ้อนวอนจากเจ้าหญิงน้อยของตระกูลพวกเขาไม่ได้ จึงต้องช่วยเหลืออย่างจำใจ อินทัชล่อลวงหัวใจของนลินีไป คนตระกูลกิจวณิชกุลได้แต่เก็บความหงุดหงิดเอาไว้ในใจ ถึงได้พาอินทัชมาด้วยกัน
อินทัชที่ไปมาหาสู่กับตระกูลกิจวณิชกุลอยู่ตลอด การที่เขาตามกลับมาด้วยมันก็จำเป็นอย่างยิ่ง
อินทัชไม่ได้รับสายเจ้านายของเขา เพราะพวกเขากำลังทะเลาะกับสองพ่อลูกตระกูลกิจวณิชกุลอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่
คนที่ตระกูลกิจวณิชกุล ตระกูลอริยชัยกุลรวมถึงตระกูลเดชอุปส่งมา มาถึงที่เกิดเหตุพร้อมๆกัน ตอนที่พวกเขามาถึง บรรดาบอดี้การ์ดข้างกายของประยสย์บาดเจ็บสาหัสกันถ้วนหน้า ประเด็นก็คือตระกูลสาระทาไม่มีปืน ส่วนตระกูลเลิศธนโยธาที่เป็นมาเฟีย มีปืน
แต่ยังดี ที่ตำรวจมาถึงทันเวลา
รอจนกระทั่งปืนในมือของฝั่งตระกูลเลิศธนโยธาหลุดมือไป หรือไม่มีกระสุนแล้ว นั่นเป็นเวลาที่พวกประยสย์จะเริ่มลงมือได้
คนของประยสย์บาดเจ็บหนัก เมื่อรู้ว่าปืนของศัตรูไม่มีกระสุนแล้ว เขาจึงไปท้าทายพสธรด้วยตัวเอง
พสธรอายุมากแล้ว ไม่ได้แข็งแกร่ง มีพละกำลังเท่าคนวัยหนุ่มอย่างประยสย์ แต่ถึงยังไงเขาก็เป็นถึงผู้นำของตระกูล ผ่านร้อนผ่านหนาวมาตั้งมากมาย ฝีมือก็ดีมาก การที่ประยสย์มาต่อกรกับเขา ไม่ได้เป็นฝ่ายที่ได้เปรียบเลย
ตอนที่ประยสย์เกือบจะเอาตัวไม่รอดแล้ว กัญณิศาก็ขี่มอเตอร์ไซค์ พาชุติภาบุกเข้าไปท่ามกลางสงครามที่โกลาหล
แค่หยุดรถ เธอก็ถอดหมวกกันน็อกแล้วทุบไปที่พสธร ดึงประยสย์ออกมาจากภายใต้หมัดหนักๆของเขา
ชุติภาก็เอาหมวกกันน็อกกระแทกไปที่พสธรเช่นกัน หลังจากที่กัญณิศาดึงประยสย์ออกมา เธอจึงเข้าไปเผชิญหน้ากับพสธร
ประยสย์บาดเจ็บ ทั่วทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด
หลังจากที่กัญณิศาดึงประยสย์ออกมาจากภายใต้หมัดหนักๆของพสธรแล้ว จึงพูดขึ้น: “อยู่ตรงนี้นะ ฉันจะไปแก้แค้นให้คุณเอง”
ประยสย์: “……”
คุณชายของตระกูลสาระทาที่น่าเกรงขามอย่างเขา ต้องมาหลบอยู่ข้างหลังผู้หญิงงั้นเหรอ?
ไม่ได้อยู่แล้ว
ถึงประยสย์จะบาดเจ็บ แต่ก็ไม่ยินยอมให้กัญณิศาไปเผชิญหน้ากับพสธรหรอก ตาเฒ่านั่นเก่งกาจจริงๆ สมแล้วที่เป็นผู้นำตระกูลเลิศธนโยธา
เขาที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาตั้งแต่เด็กๆ ทั้งยังมีประสบการณ์ได้ประลองฝีมือจริงๆ ยังสู้พสธรไม่ได้เลย แล้วตัวเองยังเจ็บตัวอีกต่างหาก ถ้าไม่ใช่ว่ากัญณิศามาได้ทัน เขาอาจจะโดนต่อยจนตายก็ได้ ส่วนคนอื่นๆก็จนปัญญาที่จะหาโอกาสมาช่วยเขาอยู่แล้ว
ฝีมือของกัญณิศา เขาเคยเห็นแค่ครั้งเดียว เป็นครั้งนั้นที่เธอช่วยเหลือเขาไว้ ครั้งอื่นๆเคยเห็นแต่ความสามารถในการหลบหนีของเธอ คราวก่อนที่โดนพบเข้าในคฤหัสน์สาระทา บอดี้การ์ดตั้งมากมายก็จับเธอเอาไว้ไม่ได้ ลื่นไหลราวกับปลาเลนเลย
ในไม่ช้า ประยสย์ก็พบว่าตนเองหมดหนทางที่จะกลับเข้าสู่สนามรบอีกครั้งแล้ว
เพราะผู้หญิงแปลกหน้าคนนั้นที่กัญณิศาพามาด้วย เหมือนกับองค์หญิงพัดเหล็กที่กลับมาเกิดใหม่จริงๆ ฝีมือของเธอ ดีกว่าสายลับเสียอีก
อีกอย่างบนตัวของผู้หญิงคนนั้นราวกับมีผงแป้งมากมายซ่อนเอาไว้ สาดใส่พสธรอยู่หลายครั้ง ผงแป้งพวกนั้นยังฉุนจมูกเป็นพิเศษด้วย ตอนที่พสธรหลบไม่ทัน จึงแสบไปทั้งตา ทั้งจมูก
ในทันทีเขาก็ลืมตาไม่ขึ้นแล้ว
เมื่อมองไม่เห็น ก็ตกอยู่ในฐานะที่เสียเปรียบน่ะสิ โดนกัญณิศากับชุติภาหญิงสาวสองคนจัดการจนหมดท่า
ประยสย์: “……”
คนอื่นๆ: “……”
นี่มันเทพระดับไหนกันนะ?
สู้เก่งขนาดนี้
พลอยไพลินเห็นพ่อของตนเองโดนตีจนเกือบตายแล้ว จึงทิ้งอินทัช รีบมาช่วยพ่อ ตอนนี้ถึงประยสย์จะเข้าไปจัดการพสธรไม่ได้ แต่จะจัดการพลอยไพลินน่ะยังทำได้อยู่
หลังจากผ่านการตะลุมบอนที่โกลาหลไป
คนที่พสธรพามา ต้องเข้าคุกทั้งหมด พสธรและลูกสาวของเขาก็หนีไปพ้นคุกเช่นกัน ไม่เพียงหนีไม่รอด แต่ยังเจ็บตัวอีก พสธรโดนหญิงสาวสองคนร่วมมือกันจัดการ สุดท้ายก็ร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้นลุกไม่ขึ้น
ตอนที่ตำรวจใส่กุญแจมือเขา ไม่นึกว่าเขาจะรู้สึกขอบคุณ
ถ้าไม่ได้มีตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ เขาสงสัยว่าตนเองคงโดนตีตายคาที่แน่ๆ
แต่ทว่าตอนที่โดนตำรวจหิ้วปีกขึ้นรถ พสธรกลับอดไม่ได้ที่จะถามชุติภา: “เธอเป็นใครมาจากไหน?”
ค่ำคืนนี้ชุติภาสนุกถึงใจสุดๆ ได้ยินพสธรถามว่าเธอเป็นใครมาจากไหน เธอจึงยิ้มๆ พูดขึ้น: “ฉันเป็นผู้น้อยนิรนาม ไม่ได้มีภูมิหลังยิ่งใหญ่อย่างคุณพสธรหรอก”
พสธรโดนตอกกลับ จึงโมโหเธอแทบตาย
“คุณไม่ต้องถามแล้วแหละ ถามไป คุณก็ไม่มีโอกาสมาตามหาแก้แค้นฉันอีกอยู่ดี อีกอย่างลูกน้องของคุณพ่ายแพ้ฉันไปแล้ว คราวนี้แพ้ฉัน คราวหน้ามาตามหาฉัน ก็คงแพ้ให้ฉันเหมือนเดิม ปู่ฉันบอกว่า คนรุ่นราวคราวเดียวกับฉันน่ะ มีไม่กี่คนหรอกที่จะเอาชนะฉันได้”
แม้ปู่ของเธอจะเป็นหมอเทวดา แต่เนื่องจากคนรุ่นพวกเขาล้วนแต่เป็นยอดฝีมือที่อยู่ท่ามกลางยอดฝีมือ จึงมีทักษะกังฟูติดตัวอยู่ด้วย และถ่ายทอดวิชาความรู้ให้เธอเอาไว้
ตาเฒ่าบอกว่าตอนเด็กๆเธอสุขภาพไม่แข็งแรง จึงจำเป็นต้องเรียนกังฟูเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย
ไม่ต้องพูดถึงที่ตาเฒ่าถ่ายทอดวิชาความรู้ซึ่งสั่งสมมาตลอดชีวิตให้เธอหรอก แต่ยังพาเธอไปขโมยความรู้จากปรมาจารย์ทั่วสารทิศอีกด้วย แม้กระทั่งความสามารถของพวกลุงอินทรีเงิน จิ้งจอกเงิน หมาป่าเงิน ก็โดนเธอลักลอบเรียนรู้ไปไม่น้อยเลย
เธอที่สะสมความรู้มาจากแต่ละวงศ์ตระกูล หากคิดจะจัดการผู้เฒ่าคนหนึ่ง ชุติภารู้สึกว่าตนเองเอาชนะได้ง่ายมากๆ
พสธรกระอักเลือดออกมา
คนรุ่นใหม่มีความสามารถมากกว่าคนรุ่นเก่าจริงๆ ส่วนคนเฒ่าคนแก่ก็ได้แต่โรยราไป
แต่ทว่าหญิงสาวที่อายุยี่สิบต้นๆ หลังจากอัดเขาจนเละ กลับยังคงสงบนิ่งอยู่ได้
ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนฝึกฝนลูกศิษย์ที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ออกมา!
พลอยไพลินกับพ่อติดคุก หลังจากที่ฟ้าสว่าง ทางฝั่งตระกูลสาระทาก็ได้รับข่าวว่าคุณแก้วกระโดดตึกฆ่าตัวตาย
ดังนั้น เรื่องราวของตระกูลเลิศธนโยธา จึงปิดฉากลง นี่ก็เป็นผลกำไรก้อนใหญ่ที่สุดของตำรวจเมืองซูเพร่าที่ได้กวาดล้างสิ่งชั่วร้ายออกไป