รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 697 ได้กลิ่นยา
“ปากแกนี่พูดอะไรดี ๆ ออกมาไม่ได้เลยสินะ รีบลงมา”
เซทท์ก่นด่าน้องชายของเขาและเร่งให้ณภัทรลงมาจากเขา “มาซ้อนหลังพี่ก็จบ”
ณภัทรยิ้มและเห็นด้วย
เมื่อเขาเดินออกจากบ้าน เขาเห็นบอดี้การ์ดของพี่เซทท์กำลังจะขี่มอเตอร์ไซค์ลงจากเขา ณภัทรเรียกให้เขาหยุดและพูดว่า “พี่เซทท์เรียกให้ฉันไปขี่รถชมวิวด้วยกัน เอารถมาให้ฉันเลย ฉันจะขี่ลงไปให้พี่เซทท์เอง”
จากนั้นบอดี้การ์ดก็มอบกุญแจรถให้ณภัทร “รบกวนคุณณภัทรด้วยนะครับ”
ณภัทรหยิบกุญแจรถและขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ แต่เขาไม่ได้แตะต้องสิ่งนี้มากว่า 10 ปีแล้ว เมื่อก่อนตอนที่ยังเป็นวัยรุ่น เขามักจะขี่มอเตอร์ไซค์ไปไหนมาไหนกับพี่น้องและเพื่อน ๆ และโดนพ่อแม่ดุอยู่บ่อยครั้ง
เขาไม่ได้สัมผัสมันมานานกว่าสิบปี แต่เมื่อเขาสัมผัสมัน ณภัทรควบคุมมันได้ไม่ดีนัก เขาขับพุ่งตรงไปทางบอดี้การ์ด ซึ่งทำให้บอดี้การ์ดนั้นหลบหนีด้วยความตกใจ จากนั้น ณภัทรขี่มอเตอร์ไซค์อย่างกับคนเมา เซไปเซมา สุดท้ายชนเข้ากับขั้นบันไดหน้าบ้านหลัก ทั้งคนและรถล้มลงกับพื้น
“คุณณภัทร”
หลังจากที่บอดี้การ์ดของเซทท์รอดพ้นจากชะตากรรม เขาก็รีบตามมาดู เมื่อเขาเห็นณภัทรและรถของเขาล้มลงกับพื้น เขาก็ตะโกน และรีบไปช่วยพยุงตัวณภัทรกับมอเตอร์ไซค์ขึ้นมา
การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่เช่นนี้ ทำให้คุณย่าชนิศาที่อยู่ในบ้านตกใจ
คุณย่าชนิศาออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น
“เสียงโครมครามเมื่อกี้นั้นคือเสียงอะไร?”
คุณย่าชนิศาถามหลานชายคนที่สี่ของเธอ
“คุณย่า ไม่มีอะไรครับ พี่เซทท์ให้ผมช่วยขี่มอเตอร์ไซค์ลงไปให้ คุณชุติภามา พี่เซทท์เลยจะพาคุณชุติภาไปรับลมชมวิวครับ”
ณภัทรจะไม่พูดว่า เขาไม่ได้ขี่มอเตอร์ไซค์เป็นเวลานาน จึงไปชนขั้นบันไดและทำให้มอเตอร์ไซค์พลิกคว่ำอย่างแน่นอน
คุณย่าชนิศาเป็นคนเฉลียวฉลาด แค่เห็นภาพตรงหน้า เธอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแล้ว เธอยิ้มและพูดว่า “ลุกเร็วจริง ๆ เลย ย่ายังไม่เห็นภาพที่หลานรถล้มเลย”
ณภัทรรู้สึกอายเล็กน้อย
“คุณชุติภามาทั้งที ทำไมไม่เชิญขึ้นมานั่งล่ะ?”
คุณย่าชนิศารู้เรื่องคืนที่น่าตื่นเต้นที่เมืองซูเพร่าเช่นกัน และอยากเห็นชุติภากับกัญณิศาเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อรู้ว่าเจ้าเซทท์สนใจในตัวชุติภามาก คุณย่าชนิศาแอบหวังว่าเจ้าเซทท์จะได้แต่งงานกับศิษย์เอกของหมอเทวดา
“เจ้าเซทท์ไม่รู้กาลเทศะจริง ๆ ไม่รู้จักการดูแลแขก ให้พี่เซทท์ของหลานพาคุณชุติภาขึ้นมาก่อน เดี๋ยวค่อยไปขี่รถชมวิวก็ไม่สาย”
เมื่อมีโอกาสได้เห็นท่าทางสง่าของคนรุ่นหลัง คุณย่าชนิศาใช้ความเป็นย่าสั่งณภัทร และยังพูดทิ้งท้ายว่า “ตอนที่พี่ชายใหญ่ของหลานพาวิกากลับมา คู่หนุ่มสาวก็ไปรับลมชมวิวด้วยกัน”
วิธีการจีบกันของหนุ่มสาวสมัยนี้ คือการไปขับรถชมวิวเหรอ?
เธอล้าหลังแล้ว ตามหนุ่มสาวสมัยนี้ไม่ทันแล้ว
ภายใต้คำสั่งของคุณย่าชนิศา ณภัทรไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากโทรหาพี่เซทท์ และให้พี่เซทท์พาคุณชุติภาขึ้นมาพบผู้อาวุโส
หลังจากที่ชุติภารู้ เธอก็พูดว่า “ควรไปทักทายคุณย่าชนิศาก่อน ฉันนี่เสียมารยาทจริง ๆ”
เธอสวมหมวกกันน็อคอีกครั้ง และพูดกับเซทท์ว่า “คุณเซทท์ขึ้นมาสิ ฉันจะพาคุณขึ้นไปเอง”
เซทท์ไม่ปฏิเสธอีกต่อไป ขึ้นไปซ้อนท้ายรถของชุติภา และบอกชุติภาว่า “คุณชุติภา คุณไม่คุ้นชินกับถนนบนภูเขา ดังนั้น อย่าขับเร็วนะครับ”
ชุติภาขี้เกียจตอบเขา
ถนนทางขึ้นคฤหัสน์เมเปิลนั้นราบรื่นมาก ชุติภาสตาร์ทรถแล้วออกตัวทันที ทำให้เซทท์เกือบจะหงายหลังลงไปกองกับพื้น
เขา:……
คุณย่าชนิศาเชื่อว่าเจ้าเซทท์กำลังตามจีบคุณชุติภา แถมยังแจ้งลูกชายคนที่สามและลูกสะใภ้ให้มาที่ห้องโถงใหญ่ของบ้านหลัก เพื่อรอดูท่าทีที่สง่าของชุติภา
คุณทรอยและภรรยาของเขาได้ยินว่าชุติภามาที่นี่ พวกเขาก็ให้ความสำคัญกับการพบกันครั้งแรกมาก ในที่สุด ลูกชายก็เริ่มสนใจหญิงสาวแล้ว และอีกฝ่ายคือหมอเทวดาที่พวกเขาเคยได้ยินชื่อเสียง แต่ไม่เคยเห็นหน้า สองสามีภรรยารู้สึกมีความสุขมาก คิดว่าลูกชายของตัวเองตาถึงมาก
และทั้งคู่ก็เปลี่ยนเสื้อผ้า และแต่งหน้าก่อนจะไปที่บ้านหลัก เพื่อรอพบลูกสะใภ้ในอนาคต
นอกจากคุณทรอยและภรรยาของเขา คนอื่น ๆ ที่อยู่ในเมเปิล คุณย่าชนิศาก็ส่งคนไปแจ้งให้พวกเขามา
พ่อของณภัทรไม่อยู่บ้าน มีเพียงแม่ของเขาเท่านั้นที่อยู่ คุณนายปสุตาเองก็ไปที่บ้านหลัก เมื่อเห็นพี่สามและพี่สะใภ้กำลังมีความสุข ท่าทางที่กำลังจะเจอลูกสะใภ้นั้น คุณนายปสุตารู้สึกอิจฉาจริง ๆ
เธอจ้องมองไปที่ลูกชายของตัวเอง
ลูกชายคนนี้ ช่างไร้ประโยชน์ ไร้ความสามารถจริง ๆ ไปนอนกับคนอื่นแล้ว จนถึงป่านนี้ยังไม่รู้ว่าผู้หญิงที่นอนกับตัวเองคือใคร
เป็นผลให้เธอไม่มีโอกาสได้พบกับลูกสะใภ้ในอนาคตเลย
ตระกูลอริยชัยกุลรุ่นนี้มีลูกชายสิบคน ยกเว้นคนที่เก้าและสิบที่ยังเด็ก คนอื่น ๆ ก็พร้อมที่จะสร้างครอบครัวแล้ว ทว่า มีเพียงคนโตและคนที่สองเท่านั้นที่แต่งงานมีลูก ส่วนที่เหลือยังคงเป็นโสดอยู่
ข่าวการตั้งครรภ์ของเทวิกาถูกส่งมาที่เมเปิล คุณหญิงสามและคุณนายปสุตานั้นรู้สึกอิจฉามากเลย ในใจของพวกเธอยิ่งกังวลเกี่ยวกับการแต่งงานของลูกชายมากขึ้น
ณภัทรถูกแม่ของเขาจ้องมองจนำตัวไม่ถูก
เขาจึงไม่มองไปทางแม่ตัวเอง เพื่อไม่ให้ถูกจ้องเข้าไปในแววตาที่เหมือนรังแตน
จริง ๆ เลย พวกเขาพี่น้องอายุยังไม่ถึงสามสิบปีเลย รีบร้อนที่จะไล่พวกเขาออกจากบ้านเหรอ?
อืม ไม่สิ พวกเขาเป็นผู้ชาย ต้องเป็นการเพิ่มคนเข้ามาในครอบครัวสิ
ต้องเป็นเพราะเห็นว่าพี่สะใภ้ใหญ่และพี่สะใภ้รองกำลังตั้งครรภ์ พ่อแม่จึงเริ่มร้อนรน
ณภัทรถอนหายใจในใจ เขาคิดถึงวันที่พี่ชายใหญ่ของเขายังไม่ได้แต่งงาน ทันทีที่ผู้อาวุโสเร่งเรื่องแต่งงาน พวกเขาก็จะดึงพี่ชายใหญ่ของเขามาเป็นเกราะกำบังทันที
ตอนนี้ เขาไม่มีเกราะกำบัง
แม้ว่าพี่เซทท์จะบอกว่าไม่ได้จีบคุณชุติภา แต่ในสายตาของผู้อาวุโส พี่เซทท์นั้นสนใจคุณชุติภา
ชุติภาตามเซทท์เข้าไปในห้องโถงที่งดงาม และค่อนข้างประหลาดใจที่เห็นห้องเต็มไปด้วยผู้อาวุโส จนทำให้เธอรู้สึกเขินอาย เพราะเธอไม่ได้เตรียมของขวัญมา
“คุณชุติภา นี่คือคุณย่าของผม”
เซทท์แนะนำคุณย่าของเขาให้รู้จักกับชุติภาก่อน
ชุติภายิ้มและพูดว่า “คุณย่าชนิศา ฉันเสียมารยาทที่ไม่มากล่าวทักทายก่อน เดิมที ฉันไม่อยากรบกวนท่าน ถ้าท่านไม่รังเกียจ ฉันก็ขอรบกวนท่านหน่อยนะคะ”
คุณย่าชนิศามองเธอขึ้นและลง และยิ่งมองเธอ หล่อนก็ยิ่งชอบเธอ หล่อนจึงรีบพูดขึ้นว่า “ไม่ได้รบกวนเลย จะว่าไป เพราะฉันอายุเยอะแล้ว เลยให้เจ้าเซทท์พาคุณชุติภามาหา ฉันได้ยินมาว่าคุณชุติภาเป็นศิษย์เอกของคุณหมอเทวดา ตอนที่ฉันยังสาว เคยมีโอกาสเจอเขา ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาสบายดีไหม?”
“อาจารย์ของฉันสบายดีค่ะ ขอบคุณที่เป็นห่วงท่านนะคะ” คุณชุติภาช่วยพยุงคุณย่าชนิศาให้นั่งลง “คิดไม่ถึงว่า คุณย่าชนิศากับอาจารย์เคยรู้จักกันมาก่อน”
หลังจากช่วยพยุงคุณย่าชนิศาให้นั่งลง เซทท์ก็แนะนำผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ให้รู้จักกับชุติภา เมื่อทักทายทุกคนเสร็จ ชุติภาได้รับเชิญให้นั่งลง ปรากฎว่าคนข้าง ๆ เธอคือณภัทร
หลังจากที่เธอนั่งลง ณภัทรก็ได้กลิ่นยา
กลิ่นของยานี้ค่อนข้างคุ้นเคย
เขาจำสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นไม่ได้มากนัก แม้แต่รูปร่างหน้าตาของผู้หญิงคนนั้น สิ่งเดียวที่เขาจำได้คือกลิ่นยาที่อยู่บนตัวเธอ
เมื่อเขาตื่นขึ้น พบว่าตัวเองไปนอนกับคนอื่น นอกจากความโกรธแล้ว จำรายละเอียดอื่น ๆ ไม่ได้เลย เมื่อเขาเริ่มตามหาคน ๆ นั้น ในการค้นหา เขาใช้กลิ่นของยาเป็นหลัก ทว่า ผู้คนมากมายที่เรียนหมอ มักจะมีกลิ่นยาติดตัวเล็กน้อย การหาคนของเขานั้น ก็เหมือนกับการงมเข็มในมหาสมุทร
