รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 708 ทำความผิด ก็ต้องชดใช้!
เทวิกาส่งพี่ชายออกจากบ้าน มองดูพี่ชายขึ้นรถ ออกไปจากคฤหาสน์
คฤหาสน์หลังใหญ่ขนาดนี้ คนก็ยังน้อยไปหน่อย รอหลังจากพี่ชายแต่งงานแล้ว ก็จะมีสมาชิกเพิ่มขึ้น
ประยสย์ไม่ได้ไปบ้านตระกูลธวัชพลังกร ระหว่างทางบอดี้การ์ดคนหนึ่งโทรมา บอกเขาว่า “นายท่านกับคุณผู้หญิงกลับมาแล้วครับ”
“พ่อฉันบอกว่าออกจากโรงพยาบาลพรุ่งนี้ไม่ใช่เหรอ”
ประยสย์แปลกใจเล็กน้อย
“นายน้อย นายท่านกับคุณผู้หญิงไม่เพียงแค่กลับบ้าน แต่ยังพาตำรวจกลุ่มใหญ่กลับมาด้วยครับ”
ประยสย์รีบสั่งคนขับรถทันทีว่า “กลับคฤหาสน์”
จากนั้นก็พูดกับบอดี้การ์ดที่อยู่ปลายสายนั้นว่า “ฉันจะกลับไปเดี๋ยวนี้”
เขาบอกกับพ่อแล้ว คิดไม่ถึงว่าพ่อจะรอจัดการพรุ่งนี้ไม่ไหว แม้แต่เวลากลางคืนแล้วก็ยังจะกำจัดอาทั้งสองของเขา
เขาต้องกลับไปอยู่ข้างพ่อของเขา
ตอนที่ประยสย์ได้ข่าว ยศพัฒน์เองก็ได้รับข่าวที่พ่อตาออกจากโรงพยาบาลกลับบ้านก่อนกำหนดอย่างรวดเร็วมากเช่นกัน รู้ว่านี่เป็นเวลาที่ตระกูลสาระทาจะจัดการกับปัญหาภายในตระกูลให้เรียบร้อย เขาก็อยากจะกลับไปที่คฤหาสน์เดี๋ยวนี้ เป็นห่วงเทวิกา เพราะเทวิกาตั้งท้องอยู่ด้วย
เป็นห่วงว่าถ้าเทวิการู้ความจริงที่มันโหดร้ายทารุณ จะเสียความรู้สึก มีผลกระทบต่อลูกในท้อง
ยศพัฒน์จึงปิดบังเทวิกาไว้ ไม่ให้เทวิการู้เรื่องที่พ่อตาออกจากโรงพยาบาลก่อนกำหนด หลังจากทานอาหารเย็นแล้ว สองสามีภรรยาก็เดินเล่นอยู่ในลานบ้าน นึกถึงชีวิตในอนาคตที่มีความสุข
เพราะอากาศที่หนาวเย็นด้านนอก สองสามีภรรยาเติบโตทางภาคใต้ ทนความหนาวเย็นแบบนี้ไม่ไหว ก็กลับเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว
“วิกา ผมไปเก็บของหน่อย พรุ่งนี้เช้าจะต้องนั่งเครื่องบินกลับเมืองแอคเซสซ์”
คุณปู่จัดเครื่องบินส่วนตัวมารับสองสามีภรรยากลับเมืองแอคเซสซ์ ขอแค่คืนเรื่องราวจบสิ้นลง พรุ่งนี้ก็ยิ่งเช้าขึ้นอีกได้ ขอแค่จัดเก็บสัมภาระเสร็จเร็ว
“พวกเราก็ไม่ได้มีสัมภาระอะไร หลักๆก็มีของขวัญที่จะให้ทุกคน”
เธอเตรียมของขวัญไว้ให้ครอบครัว แล้วก็ครอบครัวบุญธรรมของตน เพื่อนสนิท ล้วนมีของขวัญหมด
เสื้อผ้าของสองสามีภรรยาไม่ต้องจัดเก็บอะไร ในบ้านยังมีเสื้อผ้าของพวกเขาอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นเมืองแอคเซสซ์ตอนนี้แม้จะบอกว่าเป็นฤดูหนาว แต่อุณหภูมิในตอนกลางวันประมาณยี่สิบองศา กลางคืนลดลงมาเป็นสิบกว่าองศา ยังไม่ได้เข้าฤดูหนาวอย่างเป็นทางการเลย
“ผมเก็บของเอง คุณไปอาบน้ำนอนเถอะ พักผ่อนเยอะๆหน่อย พรุ่งนี้กลับไปบ้านแล้ว ถูกทุกคนห้อมล้อม ต่อให้คุณอยากหลับ ก็คงนอนไม่หลับแล้ว”
เทวิกาตั้งท้อง ญาติผู้ใหญ่ในบ้านต่างก็ดีใจ พอรู้ว่าเป็นลูกแฝด ก็ยิ่งดีใจเข้าไปอีก
“อืม งั้นคุณค่อยๆเก็บนะคะ”
หลังจากเทวิกาตั้งท้องก็รู้สึกเหนื่อยง่าย ชอบนอน นอนแต่หัวค่ำทุกวัน เช้าวันต่อมาตะวันโด่งแล้วถึงจะตื่น เธอเองยังบอกว่าตนเองกลายเป็นเทพแห่งการนอนแล้ว
กนกอรตั้งท้องสบายกว่าเธอมาก
ตอนนี้กนกอรไม่ค่อยง่วงหงาวหาวนอน ไม่ค่อยอาเจียน กินได้นอนหลับ คนจำนวนมากยังดูไม่ออกว่าเธอตั้งครรภ์แล้ว อย่างมากก็แค่รู้สึกว่ากนกอรมีน้ำมีนวลขึ้น
นฤเบศวร์ตัดสินใจว่าจะประกาศให้คนภายนอกรู้เรื่องกนกอรตั้งครรภ์ในงานแต่งงาน จะได้รับคำอวยพรจากทุกคนสองชั้นเลย
และก็ทำให้หลังจากแต่งงานแล้ว พ่อแม่เขาจะได้ดีต่อกนกอรมากขึ้น
พิรัตน์นอนหลับสนิทมาก
เทวิกานอนลงข้างๆเขา นอนตะแคงมองดูท่านอนที่น่ารักของเขา มองดูแล้ว เธอเองก็นอนหลับไปเลย
ยศพัฒน์เก็บของไปพลางก็สังเกตภรรยาไปพลาง เหมือนว่าเทวิกาจะหลับไปแล้ว เขาก็เดินมา มองเห็นว่าเทวิกาหลับไปแล้วจริงๆ เขาก็ช่วยห่มผ้าให้เธอ ก้มลงไปหอมแก้มเธอ
จากนั้น ก็ค่อยๆย่องออกจากห้องนอน หลังจากลงมาชั้นล่าง ก็สั่งให้คนรับใช้ดูแลเทวิกากับพิรัตน์ให้ดี
เขาขับรถ คิดจะกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลสาระทาเพียงลำพัง พ่อบ้านอดเป็นห่วงบ้านไม่ได้ ต้องสั่งบอดี้การ์สองคนตามไปด้วย ไม่ยอมให้ยศพัฒน์ขับรถไปเอง สั่งให้คนขับขับรถไป
ตอนที่ยศพัฒน์กลับมาถึงคฤหาสน์ตระกูลสาระทา มองเห็นด้านนอกห้องโถงหลังของบ้านมีตำรวจอยู่มากมาย เขาก็ไม่ได้เข้าไปข้างใน แต่รออยู่ด้านนอก
ครอบครัวลูกชายคนรองและครอบครัวลูกชายคนเล็ก รวมทั้งสมาชิกในตระกูลสาระทา ถ้าทำผิดกฎหมาย คืนนี้ก็อย่าคิดว่าจะหนีรอด
มองเห็นยศพัฒน์ ตำรวจก็พยักหน้าให้ทางยศพัฒน์
ยศพัฒน์ก็พยักหน้าให้เขา ถือเป็นการทักทายกัน เขาก็รีบเข้าไปข้างในบ้าน
ข้างในมีคนเต็มไปหมด ยศกรกับภรรยาแล้วก็ชล ต่างก็คุกเข่าร้องไห้อยู่ตรงหน้าสองผู้เฒ่า
คุณนายสามณิชกานต์กลับนิ่งเฉยมาก
ตอนที่เธอมอบหลักฐานที่เธอสองคนสามีภรรยาทำความผิดมาตลอดสองปีที่ผ่านมาให้พี่ชายของสามี เธอก็เตรียมใจที่จะต้องติดคุก
ตอนที่พี่ชายสามีสลบไม่ได้สติอยู่นั้น ก็ถือว่าเธอโชคดี แต่หลังจากที่พี่ชายสามีฟื้นขึ้นมาแล้ว เธอก็ทำใจแล้ว
ทำเขาไว้ ก็ต้องชดใช้
เธอมองทั้งสามคนร้องไห้อย่างเยือกเย็น ลูกสาวของเธอก็มองเธอ
พอไซม่อนกลับมา ก็นำหลักฐานที่เขารวบรวมได้ รวมทั้งหลักฐานที่ณิชกานต์ให้เขา โยนลงไปตรงหน้าน้องชายทั้งสอง ให้พวกเขาดูให้ดี และก็ให้พ่อแม่ดูด้วย
ตอนนี้ พวกเขาสองคนสามีภรรยานั่งอยู่บนโซฟาสองที่นั่งที่อยู่ตรงกลาง สีหน้าทั้งสองเคร่งเครียดเย็นชา
“พ่อ แม่ พวกเราสำนึกผิดแล้วครับ พวกเราสำนึกผิดจริงๆครับ พวกเรารับรองว่าจะไม่ยุ่งกับทรัพย์สินส่วนตัวของพี่ใหญ่อีกแล้ว จะไม่ทำเรื่องที่ทำให้คนคนอื่นเดือดร้อนบาดเจ็บอีกแล้ว พ่อ แม่ ช่วยพวกเราด้วยนะครับ”
ยศกรกับชลสองคนพี่น้องคู่นี้ร้องไห้ขี้มูกโป่งจริงๆ
คุณนายรองก็พูดด้วยน้ำตานองว่า :“พ่อ แม่ ขอร้องพวกท่านได้โปรดเห็นแก่หลานๆ ช่วยพวกเราด้วยนะคะ”
ลูกชายและลูกสาวของยศกรก็อยู่ด้วย ส่วนชลมีแค่เจนสันกับแดนสองคนพี่น้อง ลินน์ยังเด็กเกินไป ณิชกานต์จึงกล่อนให้นอนไปนานแล้ว ไม่อยากให้ลูกสาวมาเห็นภาพที่พ่อแม่ถูกตำรวจจับใส่กุญแจมือ พาไปขึ้นรถตำรวจ
หัวใจหญิงชราเจ็บปวดราวกับถูกมีดทิ่มแทง
เธอลำเอียง แต่ก็รู้สึกว่าลูกชายคนเล็กทั้งสองทำเกินไป
ยิ่งคิดไม่ถึงว่าตอนนั้นที่วิกาถูกวรันธรอุ้มไป จะเป็นลูกชายคนรองแอบช่วยวรันธร จึงทำให้วรันธรอุ้มวิกาหนีออกจากคฤหาสน์ตระกูลสาระทาไปได้สำเร็จ
หลับลังแม่ พวกเขาก็ลงมือทำร้ายครอบครัวทั้งสี่คนของพี่ชายที่เกิดจากท้องเดียวกัน
เมื่อนึกถึงชีวิตของครอบครัวลูกชายคนโตช่วงยี่สิบกว่าปีมานี้ จะให้หญิงชราขอร้องอ้อนวอนแทนลูกชายลนเล็กทั้งสองคน เธอก็พูดไม่ออก เอาแต่ร้องไห้
ชายชรากลับโกรธจนหน้าดำหน้าแดง รำคาญที่ทั้งสองคนร้องห่มร้องไห้ ตบหน้าพวกเขาทั้งสามคนอย่างแรง ด่าว่า “ร้องๆๆ ร้องตอนนี้แล้วมันได้ประโยชน์อะไร กลัวติดคุก ตอนนั้นจะทำเรื่องพวกนี้ทำไม”
“ตอนที่พวกแกทำเรื่องพวกนี้ เคยคิดถึงผลลัพธ์มั้ย”
ตอนนี้ร้องไห้ ก็สายไปแล้ว
เขามองไปทางลูกชายคนโตกับภรรยา อยากจะพูดอ้าปากพูดอะไรบางอย่างหลายครั้ง แต่กลับพูดไม่ออกสักคำ
ไซม่อนกลับลุกขึ้นมาในตอนนี้ พอเขาลุกขึ้น ทุกคนในห้องต่างก็มองเขา
“พี่ใหญ่ พี่ใหญ่ พวกเราสำนึกผิดแล้ว ผมรู้ว่าผมทำผิดกับพวกพี่ ผมสมควรตาย พี่ใหญ่ เห็นแก่ความเป็นพี่น้องของเรา ครั้งนี้ไว้ชีวิตผมสักครั้งนะ ผมรับรองว่าต่อไปผมยอมทำตามรับใช้พี่ทุกอย่าง”
ชลหันไปคุกเข่าที่แทบเท้าไซม่อน
สองมือกอดขาทั้งสองข้างของไซม่อนแน่น ไม่ยอมให้ไซม่อนออกไป