รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 713 ผู้ชนะ
เมืองแอคเซสซ์
ทันทีที่เข้ามาก็มีแต่เรื่องการแต่งงานของนฤเบศวร์คุณชายใหญ่ตระกูลเดชอุปกับกนกอรลือกันทั่วไปหมด
ใคร ๆ ในเมืองแอคเซสซ์ต่างก็รู้ว่าคุณชายใหญ่ตระกูลเดชอุปเคยหลงรักคุณหนูตระกูลไชยรัตน์หัวปรักหัวปรำ ตั้งแต่ตอนยังเป็นเด็กวัยรุ่นจนถึงตอนนี้ หลงรักมานานหลายปี
ตอนที่นฤเบศวร์กับกนกอรจดทะเบียนสมรสกันครั้งแรก ตอนนั้นนฤเบศวร์ยังรักเปรมามาก กับกนกอรก็เป็นแค่สามีภรรยาในนามเท่านั้น ได้ยินว่าคุณปู่เร็นเป็นคนบังคับให้นฤเบศวร์แต่งงานกับกนกอร
ตอนทั้งสองคนแตกงานกันครั้งแรก นฤเบศวร์ไม่ให้อะไรกนกอรเลย แถมยังปิดบังเรื่องแต่งงานด้วย ไม่ยุติธรรมกับกนกอรเลย และทำให้กนกอรต้องเสียใจ
แถมทั้งสองคนยังทะเลาะกันบ่อย ๆ ด้วย เป็นคู่กัดกันเลยก็ว่าได้
ไม่รู้ว่านฤเบศวร์เริ่มหวงแหนภรรยาในนามคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
หลังจากนั้นเป็นเพราะเปรมาเกลียดชังและทำร้ายเทวิกา ทำให้เธอถูยศพัฒน์แก้แค้น เธอไม่เพียงแต่ไม่ได้รับความรักจากยศพัฒน์ แต่ยังสูญเสียอัศวินผู้ที่คอยปกป้องเธออย่างนฤเบศวร์ไปด้วย และเป็นการผลักนฤเบศวร์ให้กนกอรทันที
ถึงแม้ว่านฤเบศวร์กับกนกอรจะหย่ากันมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่นฤเบศวร์รู้จักทะนุถนอมกนกอร ทันทีที่ได้รับใบหย่า เขาก็เริ่มตามจีบกนกอรใหม่ทันที และหลังจากการตามจีบอย่างกระตือรือร้นของเขาจึงทำให้กนกอรยอมจำนน และคู่สามีภรรยาก็แต่งงานกับใหม่อีกครั้ง
และกลายเป็นคู่สามีภรรยาจริง ๆ
เดิมที นฤเบศวร์ก็เป็นคนคลั่งรักอยู่แล้ว หลังจากเขาตกหลุมรักกนกอร ได้ลิ้มรสความหวานและความอบอุ่นของความรักจากกนกอรแล้วก็ยิ่งทำให้คนบ้าคลั่งภรรยามาจุติในตัวเขาทันที ระดับความคลั่งไคล้ในตัวภรรยาของเขา ทำให้ยศพัฒน์ที่เป็นคนคลั่งภรรยาอีกคนเทียบไม่ติดเลย
และกนกอรก็กลายเป็นซินเดอเรลล่าตัวจริงที่ทุกคนต่างยอมรับ
เพราะเทวิกาไม่ใช่ซินเดอเรลล่าแล้ว หลังจากที่เธอได้กลับสู่ตระกูลที่ให้กำเนิดเธอแล้ว เธอสามารถรับมรดกนับหมื่นล้านและกลายเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยไปเลยทันที
ดังนั้น กนกอรจึงกลายเป็นเป้าของความอิจฉาริษยาของทุกคนแทน
ตำแหน่งของนฤเบศวร์ในเมืองแอคเซสซ์เป็นที่สองรองจากยศพัฒน์ เขายังหนุ่ม แถมทั้งหล่อทั้งรวย ได้แต่งงานกับเขาไม่เพียงแต่มีหน้ามีตาและมีเงินทองใช้ไม่มีวันหมดเท่านั้น แต่ยังได้รับความรักความหลงใหลจากเขาไม่รู้จบสิ้นเลยด้วย
กนกอรคือผู้ชนะในชิวิตจริง
ทุกคนต่างเฝ้ารองานแต่งงานในอีกสองวันข้างหน้า อยากรู้ว่างานแต่งงานกับภรรยาสุดที่รักของนฤเบศวร์จะอลังการมากแค่ไหน
เพราะเหลือเวลาอีกแค่สองวันจะถึงวันแต่งงานแล้ว
กนกอรได้ย้ายออกจากวิลลาส่วนตัวของนฤเบศวร์กลับมาอยู่ที่บ้านตระกูลภูสิทธ์อุดมก่อนแล้ว วันแต่งงานนฤเบศวร์ถึงจะมารับเธอที่บ้านตระกูลภูสิทธ์อุดมไปที่คฤหาสน์ตระกูลเดชอุป
ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะเป็นคู่สามีภรรยากันมานานแล้ว แต่ต้องมาแยกกันแม้ไม่กี่วัน นฤเบศวร์ก็ทนความทรมานนี้แทบไม่ไหว จนต้องไปที่บ้านตระกูลภูสิทธ์อุดมวันละแปดร้อยหน
ยิ่งงานแต่งงานใกล้เข้ามา กนกอรก็ไม่ได้กลับไปที่ร้านกาแฟเลย กิจการที่ร้านกาแฟจึงมีน้อง ๆ ช่วยกันดูแลไปก่อน
เทวิกากับสามีกลับจากเมืองซูเพร่าวันนี้ กนกอรรีบไปที่คฤหัสน์เมเปิลแต่เช้า เพื่อรอต้อนรับการกลับมาของเพื่อนรัก
กนกอรไปที่คฤหัสน์เมเปิล นฤเบศวร์ก็ทำหน้าด้านตามไปด้วย
เมื่อก่อนตอนที่เขากับยศพัฒน์เป็นคู่แข่งกัน เขาไม่อยากแม้แต่จะย่างกรายเข้าประตูคฤหัสน์เมเปิลเลย
แต่ตอนนี้เพื่อจะตามภรรยาของเขา เขาต้องไปที่คฤหัสน์เมเปิล ปากเขาหวานปานน้ำผึ้ง หวานจนคุณปู่ภูธิปอดไม่ได้ที่จะโทรศัพท์ไปหาคุณปู่เร็นว่าคู่แข่งเก่าของตัวเอง “คนตระกูลเดชอุปเลี้ยงหลานยังไง ถึงได้เลี้ยงออกมารู้จักวิธีประจบสอพลอ เลียแข้งเลียขาคนอื่นขนาดนี้ นี่ฉันถูกเขาเลียแข้งเลียขาจนขนจะร่วมหมดแล้ว”
ที่แรกคุณปู่เร็นไม่เข้าใจจึงถามคุณปู่ภูธิปว่า “หมายถึงเบศวร์เหรอ เบศวร์จำเป็นต้องเลียแข้งเลียขาใครด้วยเหรอไง ภูธิป นายไม่ค่อยคิดจะโทรหาฉันก่อน แต่พอโทรมาทำไมฉันฟังแล้วเหมือนโทรมาบ่นมาฟ้องมากกว่า”
“ก็นฤเบศวร์หลานชายสุดที่รักของนายนั่นแหละ หน้าหนาเข้ามาที่บ้านฉัน ปากหวานปานน้ำผึ้ง ออดอ้อนจนเมียฉันแทบจะไม่มีเวลาหันมามองหน้าฉันเลย ตอนนายสั่งสอนผู้สืบทอด ตั้งใจสอนให้ประจบประแจงโดยเฉพาะเลยใช่ไหม ไม่น่าล่ะถึงสู้พัฒน์ของตระกูลเราไม่ได้”
“ในสายตาของนายพัฒน์ดีที่สุด แต่ในสายตาของฉันเบศวร์คือคนที่เก่งที่สุด ฉันก็นึกว่าเรื่องอะไร ที่แท้นายหึงแค่นั้นเองเหรอ อายุปูนนี้แล้ว ฟันจะร่วงหมดปากอยู่แล้ว ยังชอบหึงไม่เข้าเรื่องอีก นายนี่นิสัยไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ”
คุณปู่ภูธิปพึมพำอย่างอารมณ์ไม่ดี “พูดอย่างกับนายเปลี่ยนนิสัยอย่างนั้นแหละ เร็ว ๆ เลย รีบโทรเรียกนฤเบศวร์กลับไปเลยนะ มากินมาดื่มฟรีที่นี่ยังไม่พอ ยังมาพูดหยอกเมียฉันจนหัวเราะเสียงดังลั่นไปหมด ถ้าเมียฉันหัวเราะจนปวดท้องขึ้นมา ฉันเอาเรื่องนายแน่”
“ยิ้มบ้างหัวเราะบ้างจะดูเด็กลงสิบปีนะ นายไม่มีปัญญาพูดหยอกล้อให้เมียหัวเราะ แต่เบศวร์เขาเก่งเรื่องนี้ นายควรจะขอบคุณเบศวร์ถึงจะถูกะ เอาเรื่องก็เอาเรื่องเลย พวกเราดีกันเมื่อไหร่ล่ะ อีกสองวันก็ถึงวันมงคลของเบศวร์กับอรแล้ว ตาเฒ่ามาดื่มกันสักแก้วสองแก้วไหม”
คุณปู่ภูธิปยังคงฮึดฮัดอารมณ์ไม่ดี “ทำอย่างกับใครเขาชอบดื่มเหล้ามงคลอย่างนั้นแหล นายมาเชิญฉันด้วยตัวเอง แล้วฉันจะให้รางวัลไปดื่มด้วยสักสองแก้วก็ได้”
คุณปู่เร็นหัวเราะ “นายจะมาไม่มาก็ตามใจ ไม่มาก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันจะไปเชิญพี่สะใภ้มาดื่มเหล้ามงคลในงานแต่งงานสักแก้วสองแกว เพราะยังไงพัฒน์กับภรรยาก็ต้องมาอยู่แล้ว เด็กคนนี้นะฉันชอบมากเลย แทบอยากจะเอามาเป็นหลานตัวเองให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย”
“นายก็ได้แต่อิจฉาริษยาไปเถอะ พัฒน์เป็นหลานชายของฉัน หลานทั้งสิบคนของฉันโดดเด่นเก่งกาจกันทุกคน นายก็ทำได้แค่อิจฉาเท่านั้นแหละ”
คุณปู่เร็น: “…”
ตาแก่คนนี้ไม่มีวาทะศิลป์เลย
“พัฒน์และเทวิกากลับมาวันนี้ใช่ไหม อรไปรอเทวิกา เบศวร์ก็แค่ไปเป็นเพื่อนภรรยาเขา ไม่ได้ตั้งใจจะไปหาตาเฒ่าอย่างนายซะหน่อย พูดเอาดีเข้าตัวให้น้อย ๆ หน่อย”
คุณปู่ภูธิปกดวางสายทันที
พอเห็นนฤเบศวร์กับภรรยานั่งคุยเล่นกับเมียตัวเอง พูดหยอกจนเมียตัวเองหัวเราะลั่นไม่หยุด คุณปู่ภูธิปได้แต่บ่นพึมพำว่า “นฤเบศวร์เป็นพวกประจบสอพลอของแท้เลย”
“อร หนูแพ้ท้องบ้างหรือเปล่า”
ข่าวการตั้งครรภ์ของกนกอรยังไม่ได้เปิดเผยต่อประชาชน นฤเบศวร์วางแผนไว้ว่าจะประกาศเรื่องนี้ในวันแต่งงาน คุณย่าเป็นผู้มีประสบการณ์และมีสายตาเฉียบแหลม ท่านดูออกว่ากนกอรกำลังตั้งครรภ์ถึงได้ถามขึ้นมา
กนกอรยิ้ม “เด็กคนนี้รู้ความมากค่ะ ไม่ทรมานหนูเลย หนูสามารถทานอาหารนอนหลับได้สบายเลยค่ะ ตอนนี้อ้วนขึ้นเยอะเลย”
“อ้วนตรงไหน แบบนี้เรียกว่าเอิบอิ่มขึ้นมาหน่อต่างหาก” นฤเบศวร์รีบพูดต่อ เพราะกลัวว่าภรรยาจะกังวลเรื่องความอ้วนจนทำให้ลดปริมาณอาหารลง
กนกอรอยากทานอาหารให้น้อยลง แต่เพราะเดิมทีเธอเป็นคนชอบกินอยู่แล้ว พอตั้งท้องยิ่งกินเก่งมากกว่าเดิมอีก และควบคุมปากตัวเองไม่ได้ เลยทำเพียงพยายามเดินให้มากขึ้น จะได้ไม่ทำให้ตัวเองอ้วนมากจนเกินไป
จนเธอเริ่มแอบกังวลว่าชุดแต่งงานที่นฤเบศวร์ตัดให้เธอจะยังพอดีตัวอยู่หรือเปล่า
นฤเบศวร์บอกว่าก่อนหน้านี้เคยลองแล้ว พอดีตัว แถมตอนนี้เพิ่งจะผ่านมาไม่นานเธอยังไม่ได้อ้วนขึ้นยังไงก็ใส่ได้แน่นอน
“เป็นบุญจริง ๆ เลย ตั้งแต่วิกาตั้งท้องก็เอาแต่นอนหลับ แพ้ท้องหนัก แถมยังเป็นลูกแฝดอีก” ในคำพูดของคุณย่าเต็มไปด้วยความสงสารเทวิกา แต่ก็ดีใจมากไม่น้อยเหมือนกัน
หลานสะใภ้ทั้งสองคนกำลังตั้งท้องลูกแผด
ท้องของมิลินมองเห็นชัดมานานแล้ว เพราะท้องลูกแฝด ทำให้ขนาดท้องของเธอดูใหญ่มากกว่าคนอื่น ๆ มาก หลังจากผ่านช่วงแพ้ท้อง เธอก็อยากอาหารมากขึ้น ตอนนี้ก็กินได้หลับสบาย ท้องของเอก็ดูโตขึ้นมาก
กษิดิกลัวว่าท้องจะใหญ่เกินไป ก็เลยไม่ให้เธอทานอาหารมากเกินไป แต่ก็กลัวว่าลูกจะไม่ได้รับสารอาหาร