ตอนที่ 261 บ้าคลั่ง
จนใจที่แผนการสู้ความเปลี่ยนแปลงไม่ได้ วันนี้ดวงไม่ดีเลย เผชิญเหตุเหนือความคาดหมายอย่างต่อเนื่อง
เดิมคิดว่าด้วยความสามารถของตนที่สามารถหลบหนีในทะเลทรายได้ แม้ว่าจะมาตามนัดตัวคนเดียวก็ยังสามารถหลบหนีได้อยู่ ใครจะไปคิดว่าจะเผชิญยอดฝีมือที่แท้จริงเข้า ดำดินตามลงมาไล่ล่าได้ บีบให้เขาต้องหนีอย่างทุลักทุเล
ตอนนี้พอคิดว่าตนเลือกเส้นทางหลบหนีที่เหมาะสมแล้ว ผู้ใดจะไปคิดถึงว่าจะเจอปัญหาเข้าอีก
ตอนนี้เขาอยู่ในโถงใต้ดินขนาดใหญ่ห้องหนึ่ง ถูกฝูงแมงป่องทรายขวางทางเอาไว้ แมงป่องทรายยั้วเยี้ยจำนวนนับไม่ถ้วนไต่คลานซ้อนกันเป็นชั้นๆ ส่ายก้ามไปมา ชูเข็มพิษที่หาง มองแล้วชวนขนหัวลุก ผีเสื้อจันทราหวาดกลัวจนไม่กล้าบินต่ำ กระพือปีกอยู่ใต้เพดานโถง
รอบข้างมีพระพุทธรูปองค์เล็กองค์ใหญ่ที่บ้างนั่งบ้างยืนตั้งเรียงรายอยู่ หน้าตาของรูปปั้นบ้างก็เคร่งขรึม บ้างก็เมตตา บ้างก็ดุดัน
โถงพุทธรูปที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ หนิวโหย่วเต้าเดาว่าน่าจะเป็นซากโบราณสถานในยุคสมัยก่อนราชวงศ์อู่ที่เล่าขานกันว่าพุทธศาสนามีความรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก
เพียงแต่ยามนี้ดูเหมือนพุทธศาสนสถานแห่งนี้ได้กลายเป็นรังของแมงป่องทรายไปเสียแล้ว แมงป่องทรายมีทั้งเล็กทั้งใหญ่เต็มไปหมด ที่เล็กสุดก็มีขนาดเท่ากระต่ายเท่านั้น คลานยั้วเยี้ยเต็มพื้น ดูเหมือนตนจะบุกเข้ามาในรังของแมงป่องทรายโดยไม่ตั้งใจเข้าเสียแล้ว
รังถูกมนุษย์บุกรุก แมงป่องทรายแตกตื่นกันทันที เริ่มปีนป่ายไต่ซ้อนกันเป็นชั้นๆ ขวางอุโมงค์เส้นหนึ่งที่อยู่ด้านหลังห้องโถงเอาไว้ โบกก้ามไปมาเพื่อขู่ขวัญ ราวกับมีสิ่งสำคัญอันใดอยู่ด้านหลังนั้น คล้ายต้องการจะป้องกันไม่ให้ศัตรูล่วงล้ำเข้าไปได้
ในเวลาเดียวกันนี่เอง แมงป่องทรายฝูงใหญ่ได้พุ่งออกมาจากเส้นทางต่างๆ ดีดตัวโผเข้ามาโจมตี
เดิมทีหนิวโหย่วเต้าคิดจะถอยกลับไปในทางเดิมทันที ทว่าพอนึกถึงว่ามือสังหารอาจจะไล่ตามหลังมาแล้ว หากถอยกลับไปตอนนี้เท่ากับไปหาความตาย เขาจึงเหินกายขึ้น ตวัดมือฟันปราณกระบี่ออกไปอย่างต่อเนื่อง ปราณกระบี่สะบั้นออกไป ฟันแมงป่องทรายที่โอบล้อมเข้ามาจนขาดเป็นท่อนๆ กระจัดกระจาย
จากนั้นก็พุ่งไปยังด้านข้างห้องโถงอย่างรวดเร็ว ชกหมัดใส่ผนังคราหนึ่ง ก้อนศิลาแตกกระจาย ผลคือพบว่าด้านหลังก้อนศิลาคือชั้นดินแข็ง ไม่สามารถมุดดำหลบหนีไปได้เหมือนทราย
เขาตีลังกาเหินฝ่าวงล้อมของแมงป่องทราย ตัวคนหลุดพ้นจากความวุ่นวายอีกครั้ง ทะยานขึ้นสู่เพดานโถง ร่อนลงบนคานหินที่อยู่สูงขึ้นไป
ตูม! เขาซัดหมัดใส่เพดานอีกครั้ง ก้อนศิลาที่หนาและหนักบนเพดานแตกร่วงลงมา ทว่าไม่ทราบว่าเป็นโครงสร้างแบบใด เหนือก้อนศิลายังมีโครงสร้างก้อนศิลาเรียงไขว้ซ้อนกันอยู่ ไม่ทราบว่าซ้อนไว้หนาและสูงขนาดไหน
“เวรเอ้ย…” หนิวโหย่วเต้าสบถงึมงำ
แมงป่องทรายที่ดีดตัวอยู่ด้านล่างกระโดดสูงขนาดนั้นไม่ได้ แต่กลับไต่ขึ้นมาตามผนังหรือไม่ก็เสาหินที่อยู่รอบๆ ต้องการปิดล้อมโจมตีจากโครงสร้างด้านบน
สถานการณ์ไม่อนุญาตให้เขาชักช้ารีรอ หนิวโหย่วเต้าสังเกตสภาพแวดล้อมรอบข้างอย่างรวดเร็ว ตัวคนร่อนลงมาจากบนคาน เหินกลับไปยังด้านบนของปากทางเข้าตอนที่เข้ามา เรียกผีเสื้อจันทราเข้ามา เก็บผีเสื้อจันทราไปอย่างรวดเร็ว
ภายในห้องโถงพลันตกอยู่ในความมืดมิดอีกครั้ง แมงป่องทรายจำนวนมหาศาลกรูกันเข้ามาทางนี้ ปิดกั้นทางเข้าด้านนี้ไว้ ไต่ขึ้นมาด้านบนอีกครั้ง
หนิวโหย่วเต้าขดตัวอยู่ที่มุมผนังบนคานอย่างเงียบเชียบ รับรู้ได้ว่าแมงป่องทรายไต่เข้าใกล้มาอย่างรวดเร็ว เตรียมพร้อมโคจรลมปราณเพื่อปกป้องร่างกายเอาไว้โดยไม่ตอบโต้
ในเวลานี้เอง เกิดเสียง ‘ตู้ม’ ดังสนั่นขึ้น ปราณกระบี่รุนแรงสายหนึ่งทะลวงเข้ามาจากบริเวณปากทางเข้า ฟันฝูงแมงป่องทรายที่ออขวางทางอยู่จนกระเด็นออกไป
จากนั้นมีแสงสว่างของผีเสื้อจันทราส่องลอดออกมาจากบริเวณทางเข้า เงาร่างผอมสูงร่างหนึ่งพุ่งตามเข้ามา แมงป่องทรายจำนวนมหาศาลโผเข้าโจมตีใส่เขาอย่างรวดเร็ว ผีเสื้อจันทราเกาะนิ่งอยู่บนไหล่เขา
ชายผอมสูงพลันขยับกาย ปราณกระบี่ฟันสะเปะสะปะออกไป สะบั้นแข้งขาของแมงป่องทรายที่โอบล้อมโจมตีเข้ามาจนขาดกระเด็นกระดอน ยิ่งดึงดูดแมงป่องทรายให้เข้ามาปิดล้อมโจมตีมากกว่าเดิม
หนิวโหย่วเต้าฉวยโอกาสที่ชายผอมสูงล่อแมงป่องทรายจำนวนมากไป แล้วก็ฉวยโอกาสจากสถานการณ์โกลาหลนี้ปกปิดอำพราง ร่อนลงไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มุดออกไปจากปากทางที่ชายผอมสูงโจมตีแมงป่องทรายเปิดทางไว้แล้ว หนีออกไปตามเส้นทางเดิมกับตอนขามาอย่างว่องไว
เขาเชื่อว่าในเมื่อที่นี่มีแมงป่องทรายมารวมตัวกันมากมายขนาดนี้ได้ อย่างนั้นก็ต้องมีเส้นทางที่แมงป่องทรายใช้เข้าออกทะเลทรายอยู่แน่นอน
ทว่าในระยะเวลาสั้นๆ เพียงเท่านี้ใครมันจะไปรู้ได้ล่ะว่าตำแหน่งทางเข้าออกอยู่ตรงไหน ที่สำคัญคือมีมือสังหารตามไล่ล่าอยู่ด้านหลัง เขาไม่มีเวลามากพอจะร่อนไปร่อนมาเพื่อค้นหาทางออก ประกอบกับเสียงที่แมงป่องทรายเหล่านี้สร้างขึ้นมา ไปเป็นได้ยากที่มือสังหารจะไม่สังเกตเห็น การที่ถูกตามล่าไม่ยอมปล่อยเช่นนี้อันตรายเป็นอย่างมาก
ดังนั้น ในช่วงเวลาที่กำลังเร่งรีบเขาจึงรีบสงบใจเพื่อทำการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ย้อนกลับไปตามเส้นทางเดิมง่ายกว่า คาดว่าจะต้องมียอดฝีมือจากทั้งสามสำนักคอยสกัดอยู่ด้านนอกอย่างแน่นอน เพียงพอจะยื้อเวลาให้เขาหลบหนีไปได้
สิ่งที่เขาต้องการคือระยะห่างระหว่างช่วงเวลาที่เขาและมือสังหารคนนั้นเข้าออกห้องโถงแห่งนี้
ทันทีที่เขาพุ่งเข้าสู่เส้นทางเดิม แมงป่องทรายส่วนหนึ่งที่ยังไม่สลายตัวไปจากปากทางเข้าก็พุ่งเข้ามาโจมตีทันที
ชายผอมสูงที่กำลังสกัดต้านแมงป่องทรายพร้อมกับกวาดตามองหาร่องรอยของหนิวโหย่วเต้าไปด้วยได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวในทันใด เขาหันขวับไปทันที แม้ว่าจะมองไม่เห็นเงาร่างของหนิวโหย่วเต้า แต่ก็ตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่างแล้ว อดไม่ได้ที่จะหัวเราะหยัน รู้สึกทั้งฉุนทั้งขัน
คิดไม่ถึงว่าจะกล้าเล่นลูกไม้นี้ต่อหน้าต่อตาเขา นี่แสดงให้เห็นว่ายามที่เผชิญปัญหา เป้าหมายที่เขาต้องการสังหารคนนี้ทั้งสุขุมเยือกเย็นและไม่มีการตื่นตระหนกเลย ความกล้าหาญระดับนี้มิใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะเทียบได้เลยจริงๆ
พลังปราณรอบกายพลันระเบิดออกมา หมุนวนอย่างรุนแรง ชายผอมสูงเองก็ไม่พัวพันอยู่กับแมงป่องทรายเหล่านี้อีกเช่นกัน พุ่งฝ่าออกไปตรงๆ
ผัวะๆๆๆ! เขาพุ่งออกมา แมงป่องทรายที่ถูกชนต่างกระเด็นกระดอนออกไป เงาร่างผอมสูงพุ่งเข้าไปในอุโมงค์เส้นเดิมกับที่เข้ามา รีบไล่ตามไปติดๆ
หนิวโหย่วเต้ากำลังเร่งพุ่งทะยานไปในความมืด รับรู้ได้จากพลังปราณว่าในอุโมงค์ที่อยู่ทางเบื้องหน้ามีกองทรายทับถมอยู่จากตอนที่พังถล่มลงมา เขาซัดฝ่ามือออกไป กระแทกใส่กองทรายจนระเบิดกระจาย ทำให้ทรายจำนวนมากไหลลงมาอีกครั้ง เขาฉวยโอกาสนี้พุ่งเข้าไปในกองทราย
แทบจะในเวลาเดียวกันกับที่เขามุดออกไปยังรอยแยกด้านบน แสงสว่างสายหนึ่งพลันส่องวาบขึ้นมาในอุโมงค์
ชายร่างผอมสูงที่มีผีเสื้อจันทราเกาะอยู่บนไหล่ไล่ตามมาทันแล้ว เขาสะบั้นกระบี่ออกไปทีหนึ่งท่ามกลางเม็ดทรายที่ปลิวว่อน ไม่ว่าหนิวโหย่วเต้าจะออกไปแล้วหรือไม่ ฟันไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน เผื่อจะมีการซุ่มโจมตีอยู่
กองทรายระเบิดอีกครั้ง ชายผอมสูงจับผีเสื้อจันทราที่เกาะอยู่บนไหล่ใส่เข้าไปในกล่องที่พกติดตัว ตัวคนมุดเข้าไปในกองทราย รีบไล่ตามเสียงหลบหนีที่ดังมาจากในกองทรายไปอย่างรวดเร็ว
เขารับรู้ได้แล้วว่าหนิวโหย่วเต้ามีเจตนาจะย้อนกลับไปตามทางเดิม เพราะคิดจะให้พรรคพวกสกัดเขาไว้ เพื่อซื้อเวลาให้ตัวเองได้หลบหนี
เขาไหนเลยจะปล่อยให้หนิวโหย่วเต้าสมปรารถนาได้ พลังปราณที่สะสมอยู่รอบกายพลันหมุนวนขึ้นมาอย่างพลุ่งพล่าน ตามไล่ล่าอย่างเต็มกำลัง!
หนิวโหย่วเต้าที่สังเกตเห็นระดับความเร็วที่ไล่ตามมาจากทางด้านหลังลอบโอดครวญอยู่ในใจ รอบนี้ดันเจอยอดฝีมือตัวจริงเข้าแล้ว เจอคนมีฝีมือแล้ว!
พริบตาที่เข้าใกล้เป้าหมาย ชายผอมสูงก็ฟันกระบี่ออกไปอีกครั้ง
เมื่อถึงเวลาที่ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอด หนิวโหย่วเต้าก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน เขากระตุ้นยันต์ถ่ายทอดธรรมคุ้มกายภายในร่าง ซัดฝ่ามือปล่อยแสงสีแดงสายหนึ่งออกไป
ปราณกระบี่อันทรงพลังและพลังงานอันคลุ้มคลั่งที่รวมตัวขึ้นมาจากสภาวะของผู้บำเพ็ญเพียรระดับโอสถทองปะทะเข้าด้วยกันอย่างรุนแรง
ตูม! แรงระเบิดอันทรงพลังจากการปะทะสั่นสะเทือนรอบข้าง รสหวานเฝื่อนเอ่อขึ้นมาในคอของหนิวโหย่วเต้า ขณะเดียวกันก็โคจรเคล็ดเคลื่อนย้ายมหาจักรวาลอย่างรวดเร็ว มือข้างหนึ่งซัดพลังของยันต์ถ่ายทอดธรรมคุ้มกายสายหนึ่งโจมตีออกไปอีกครั้ง จากนั้นก็หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ทว่าสำหรับชายผอมสูงแล้ว ฝ่ามือนี้กลับไม่ต่างไปจากหายนะวันสิ้นโลก
แรงปะทะจากระเบิดครั้งแรกไม่แตกต่างไปจากสถานการณ์ตอนไล่ล่ากันก่อนหน้านี้ ช่องว่างรอบกายที่ชายผอมสูงสร้างขึ้นมาพังทลายลงอย่างรวดเร็ว
สถานการณ์นี้ทำให้เขาสะดุ้งโหยง นึกแปลกใจ ไอ้เดรัจฉานตัวนี้มี ‘ยันต์ระเบิด’ ติดตัวอยู่มากแค่ไหนกันแน่ ถึงใช้ฟุ่มเฟือยได้ขนาดนี้?
โชคดีที่มีประสบการณ์จากครั้งแรกแล้ว จึงรีบโคจรพลังรับมือ ต้านทานแรงดันมหาศาลในใต้ดิน
ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็คือจะมีเสียงคำรามที่ดังสนั่นอย่างรุนแรงตามเข้ามาอีก เขาเพิ่งจะทุ่มพลังทั้งหมดในการต้านแรงดันมหาศาลไป การโจมตีนี้ทำให้เขาตกใจจนวิญญาณแทบกระเจิง
เวลานี้เขาติดอยู่ในกองทรายขยับเขยื้อนไม่ได้ จะหลบก็หลบไม่ได้ ทั้งยังต้องใช้พลังต้านรับแรงดันมหาศาล ซ้ำยังต้องตั้งรับการโจมตีที่อันตรายถึงชีวิตนี้ด้วย!
ด้วยความอับจนหนทาง เขาจึงทำได้เพียงตั้งรับการโจมตีอันรุนแรงนี้ไปก่อนค่อยว่ากัน ทุ่มพลังทั้งหมดในร่างเพื่อต้านรับ!
ตูม! เขาสกัดการโจมตีไว้ ตัวคนถูกกระแทกจนแทบมึนงง แรงดันมหาศาลที่ตามมาแทบจะบดขยี้เขาจนเละเป็นเนื้อบด
แล้วก็เป็นเพราะพลังของเขาแข็งแกร่งจริงๆ เขาถึงได้ต้านการโจมตีนั้นเอาไว้ได้
เขามีสีหน้าทรมาน สั่นสะท้านไปทั้งตัว พยายามใช้พลังทั้งหมดฝืนเปิดช่องว่างรอบกายขึ้นมาอีกครั้งในทันที ลำคอพลันหวานเฝื่อน กระอักโลหิตออกมา
เขาพยายามพุ่งขึ้นไปด้านบนอย่างสุดกำลัง!
เขารู้ดีว่าร่างกายได้รับบาดเจ็บหนักแล้ว หากยังไม่ออกไปอีก เกรงว่าคงถูกฝังอยู่ในทะเลทรายแห่งนี้ไปตลอดกาล
……
บนพื้นดิน การต่อสู้ได้จบลงแล้ว ศิษย์ของสามสำนักปลิดชีพมือสังหารไปสองในสาม จับกุมผู้บาดเจ็บไว้หนึ่งคน!
ทางนี้ก็จดจำคำสั่งของหนิวโหย่วเต้าได้เช่นกัน ต้องจับเป็นมาให้ได้หนึ่งคน!
กระทั่งผู้บำเพ็ญเพียรอีกสามคนจากทั้งสามสำนักที่เพิ่งจัดการทางเถ้าแก่พานเสร็จตามมาถึง การต่อสู้ก็จบลงแล้ว ไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมอีก กลับกลายเป็นว่าต้องช่วยคนทางนี้ต่อกรกับแมงป่องทรายจำนวนมากที่บุกมา
แมงป่องทรายมารวมตัวกันทวีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาก็ไม่ทราบเช่นกันว่าควรออกไปจากที่นี่หรือไม่ เพราะหนิวโหย่วเต้าหายตัวไป ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นหรือตาย!
ถ้าจากไปตอนนี้ หากว่าหนิวโหย่วเต้าต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขาจะทำอย่างไร?
เรื่องนี้ยากจะตัดสินใจได้ในชั่วขณะ จึงทำได้เพียงต่อสู้กับแมงป่องทรายรอคอยไปก่อน
ทันใดนั้นพลันมีเสียงทึบๆ แว่วมาจากใต้พื้น จากนั้นก็มีเสียงอีกเสียงหนึ่งตามมา
ผู้บำเพ็ญเพียรจากสามสำนักที่ต่อสู้กับแมงป่องทรายอยู่มองหน้าหัน ทั้งตกใจและดีใจ ตกใจเพราะไม่รู้ว่าสถานการณ์ด้านล่างเป็นอย่างไรกันแน่ ดีใจเพราะยังมีเสียงความเคลื่อนไหวอยู่ แปลว่าหนิวโหย่วเต้ายังมีชีวิตอยู่
ตูม! ในพื้นทรายที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลระเบิดกระจายออกมาดั่งสายฝน เงาร่างคนผู้หนึ่งพุ่งทะยานขึ้นมาจากพื้นทราย ผ้าคลุมสีดำที่อยู่บนร่างปลิวสะบัดอยู่ภายใต้แสงจันทร์
“หนิวโหย่วเต้า…” มีคนอุทานขึ้นมาด้วยความยินดี
แมงป่องทรายหลายตัวดีดตัวกระโจนเข้าไป ล้อมวงโจมตีหนิวโหย่วเต้าที่ร่วงลงมาจากบนอากาศ
หนิวโหย่วเต้ารีบตวัดกระบี่ตัดหางแมงป่องทรายตัวหนึ่งที่โจมตีเข้ามา เท้าเหยียบไปบนร่างแมงป่องทรายตัวนั้น หยิบยืมแรงดีดตัวออกมา ทะยานเข้ามาหากลุ่มคนของสามสำนักที่อยู่ทางด้านนี้
แทบจะในเวลาเดียวกันนี้เอง บนพื้นทรายเกิดการระเบิดขึ้นมาอีกครั้ง ฝนทรายร่วงโปรยปรายลงมา ชายผอมสูงเองก็พุ่งออกมาจากในพื้นทรายเช่นเดียวกัน
หนิวโหย่วเต้าตะโกนว่า “ขวางเขาไว้!”
ผู้บำเพ็ญเพียรสิบกว่าคนจากสามสำนักเหินทะยานเข้าไป
ชายผอมสูงที่อยู่กลางอากาศซัดฝ่ามือใส่ฝูงแมงป่องที่พุ่งขึ้นมาจากทางด้านล่างแล้วร่วงลงสู่พื้น มุมปากมีคราบโลหิตไหลซึมออกมา
เขามองกลุ่มผู้บำเพ็ญเพียรระดับโอสถทองที่พุ่งเข้ามา สีหน้าโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างยิ่ง ทันใดนั้นพลันกางแขนทั้งสองข้าง ระเบิดพลังทั้งหมดในร่างออกมา ผืนทะเลทรายสั่นสะเทือนเป็นวงกว้างโดยมีเขาเป็นจุดศูนย์กลาง
“อ๊าก!” ชายผอมสูงพลันสะบัดแขน เงยหน้าส่งเสียงคำรามอย่างดุร้าย มีเลือดไหลทะลักออกมาจากจมูกและปาก
ตู้ม! พื้นทรายระเบิดพุ่งขึ้นสู่อากาศเป็นวงกว้าง เม็ดทรายรวมถึงแมงป่องทรายถูกแรงระเบิดฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ ระเบิดขึ้นไปพร้อมกัน ผู้บำเพ็ญเพียรสิบกว่าคนที่พุ่งเข้ามาก็จมหายไปในวงระเบิดเช่นกัน
ชายร่างผอมสูงที่อยู่ท่ามกลางพื้นทรายที่ระเบิดอย่างคลุ้มคลั่งตวัดกระบี่ฟันปราณกระบี่อันรุนแรงออกมาอย่างต่อเนื่อง
เม็ดทรายร่วงลงตกลงมาด้านล่าง ซากแมงป่องทรายหล่นเกลื่อนพื้น ผู้บำเพ็ญเพียรทั้งสิบสามคนที่ถูกโจมตีก็ทยอยร่วงลงสู่พื้น ร่างกายส่ายโงนเงน มีสองคนที่ถูกปราณกระบี่อันรุนแรงผ่าครึ่งท่อนสิ้นชีพไป
สีหน้าของผู้โชคดีที่รอดพ้นจากการโจมตีอย่างบ้าคลั่งมาได้ล้วนมีสีหน้าซีดเผือด มองชายผอมสูงที่ถือกระบี่อยู่ในมือด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความพรั่นพรึง
หนิวโหย่วเต้าที่เตรียมตัวจะหลบหนีหันกลับไปมอง ตะลึงไปเช่นกัน หากว่าคนมากขนาดนี้แล้วยังสกัดการโจมตีของคนผู้นี้ไว้ไม่ได้ เขาจะยังหนีได้อีกหรือ!
ทว่าหลังจากนั้น ร่างของชายผอมสูงคนนั้นพลันซวนเซ โลหิตไหลทะลักออกมาจากปากและจมูก
ฟุ่บ! หนิวโหย่วเต้าตัดสินใจลงมือ กระบี่ในมือถูกขว้างออกไปในทันใด กลายเป็นลำแสงพุ่งฉิวออกไป ขณะเดียวกันก็เหวี่ยงหมัดเท้าเตะต่อย โจมตีแมงป่องทรายที่รุมล้อมโจมตีเข้ามาเพื่อเปิดทาง
ชายผอมสูงยกแขนสะบัดกระบี่ต้านรับลำแสงที่พุ่งเข้ามา ทว่าแขนของเขากลับไร้เรี่ยวแรงจะสกัดกั้น ในตอนที่กระบี่ของเขาถูกกระแทกเปิดออก เขาอ่อนแอขนาดไหน เพียงคิดดูก็รู้แล้ว
เสียง ‘สวบ’ ดังขึ้น ลำแสงพุ่งปักอกเขา เหลือเพียงด้ามกระบี่ โลหิตไหลทะลักออกมาจากแผ่นหลัง แล้วก็ยังมีตัวกระบี่ที่ส่องประกายวาววับ
……………………………………………………………………….
