สำนักหิมะน้ำแข็ง ยอดวิหารโบราณ
“คัมภีร์จอมจักรพรรดิเล่มนี้ ช่างล้ำลึกยิ่งนัก แม้ว่าจะมันเหมาะสำหรับเขตแดนเสริมโลหิตถึงสวรรค์นิมิตเท่านั้น แต่ข้าก็ได้ประโยชน์ไม่น้อย”
เสวี่ยหรูเยียนค่อยๆลืมตาขึ้น ดวงตาของนางเปี่ยมไปด้วยความประหลาดใจ
แม้มรดกของจักรพรรดินีจะถูกมอบให้กับเย่หลิงเสวี่ย ทว่าตั้งแต่กลับมาจากดินแดนลับ เสวี่ยหรูเยียนก็ได้ข้อคิดจากคัมภีร์เช่นกัน
หลังจากศึกษาอยู่สองสามวัน นางเองก็ได้ประโยชน์ไปไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม ม้วนคัมภีร์โบราณไม่ได้มีเพียงแนวทางการฝึกวิชาเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความรู้ความเข้าใจอันเลอค่าเกี่ยวกับวิถีนับแสนโดยจอมจักรพรรดิและยังมีวิชาลับอันยอดเยี่ยมอีกด้วย
เช่นนี้ แม้แต่เสวี่ยหรูเยียนก็ได้รับประโยชน์อย่างมาก
อย่างไรก็ตาม หลังจากตื่นตาอยู่กับคัมภีร์ คิ้วของเสวี่ยหรูเยียนก็ขมวดเล็กน้อย
เพราะว่านางสัมผัสได้ถึงกระแสพลังที่กดดันและข่มเหงจากในเมืองหิมะน้ำแข็ง
“เกิดอะไรขึ้นงั้นรึ❓”
เสวี่ยหรูเยียนขมวดคิ้ว ส่งกระแสวิญญาณสัมผัสออกไปตรวจสอบ
เมื่อตรวจสอบ ความโกรธเกรี้ยวก็ปรากฏบนใบหน้าอันงดงามของนาง
เนื่องจากนางรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเมืองหิมะน้ำแข็งแล้ว
“เผ่าวิหค เผ่าราชสีห์เก้าเศียร พวกบัดซบ❗️”
เสวี่ยหรูเยียนลุกขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย เมื่อนางก้าวออกไปก็ได้หายไปจากโถงโบราณแล้ว และรีบพุ่งตรงไปที่เมืองหิมะน้ำแข็ง
เผ่าพันธุ์โบราณพวกนี้น่ารังเกียจยิ่งนัก แม้แต่ชายชราเผ่ามนุษย์ก็ไม่ยกเว้น❗️ ถึงเวลาต้องลงมือแล้ว❗️
เผ่าพันธุ์โบราณกำลังมา ชีวิตของมนุษย์ในเมืองหิมะน้ำแข็งกำลังตกอยู่ในอันตราย
ถึงตอนนี้ แม้ว่าจะต้องเปิดเผยตนเองและไม่อาจหลีกเลี่ยงกับการขัดแย้งกับเผ่าพันธุ์โบราณ เสวี่ยหรูเยียนก็ไม่สนใจแม้แต่น้อย
ไม่ว่าอย่างไร นางก็ต้องรีบไปที่เมืองหิมะน้ำแข็งเพื่อหยุดพวกเผ่าพันธุ์ที่โหดเหี้ยม❗️
…………
“จอมจักรพรรดิโบราณงั้นรึ❓ น่าขันสิ้นดี”
หยู่โยวมองไปที่ชายชราผู้ที่ได้คำรามก้องและยิ้มอย่างเย้ยหยัน
“พวกมดปลวกก็ควรรู้ตัวว่าเป็นมดปลวก ถึงตอนนี้ก็บอกพวกข้าทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองหิมะน้ำแข็งเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้ซะ มิเช่นนั้นพวกข้าจะสังหารมนุษย์ทั้งหมดในเมืองหิมะน้ำแข็งนี้❗️”
“ก็แค่กลุ่มพวกมด จะมีเรื่องอะไรต้องพูด? ก็แค่ฆ่าพวกมันซะ เดี๋ยวพวกมันก็หัวหดยอมบอกทุกเรื่องเอง”
ชือขวงส่ายหัวใหญ่โตทั้งสาม เสียงของเขาไม่แยแสใดๆทั้งสิ้น
“จริงสิ ในเมืองนี้ยังมีเด็กๆ เผ่ามนุษย์ ซึ่งสามารถมาเป็นอาหารให้พอเคี้ยวเล่นได้”
ในเมืองหิมะน้ำแข็ง เมื่อได้ยินหยู่โยวและชือขวงคุยกันโดยไม่สนใจอะไร มนุษย์ทั้งเมืองก็สิ้นหวัง
เผ่าพันธุ์โบราณผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองต้องการที่ทำการสังหารในเมืองหิมะน้ำแข็งนี้ แล้วเผ่าพันธุ์มนุษย์จะต่อต้านเยี่ยงไรได้❓
แม้เผ่าพันธุ์มนุษย์จะเคยมีจอมจักรพรรดิ แต่มันก็เมื่อนานนับพันๆ ปีมาแล้ว ในวันนี้ จะมีใครที่จะสามารถหยุดหยู่โยวและชือขวงรวมไปถึงต่อต้านเผ่าวิหคและเผ่าราชสีห์เก้าเศียรได้❓
ในขณะที่ทุกคนกำลังสิ้นหวัง ก็มีกระแสพลังอันทรงอำนาจพร้อมกับเรือนร่างในชุดสีขาวดุจหิมะปรากฏขึ้น ขวางหน้าของเผ่าวิหคและเผ่าราชสีห์เก้าเศียร
เสวี่ยหรูเยียนนั่นเอง
“เจ้าทั้งสอง มาเยือนเมืองมนุษย์ของข้า แต่กลับโอหังและอวดดี มันมากเกินไปแล้ว❗️”
เสวี่ยหรูเยียนเหลือบมองหยู่โยวแลซือขวง
‘นางคือเจ้าสำนักหิมะน้ำแข็ง❗️’
‘สำนักหิมะน้ำแข็งมาช่วยพวกเราแล้ว❗️’
เมื่อเสวี่ยหรูเยียนปรากฏตัวขึ้น มนุษย์ในเมืองหิมะน้ำแข็งก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
แต่ปฏิกิริยาของเผ่าพันธุ์โบราณทั้งสองก็กลับทำให้ทุกคนเป็นกังวลอีกครั้ง
“โอ้ เจ้าสำนักหิมะน้ำแข็งเองรึ❓”
ซือขวงมองไปที่การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเสวี่ยหรูเยียนอย่างไม่แยแส
“เจ้ากล้าที่จะหยุดพวกเรางั้นรึ❓ ถ้าเจ้ากล้า เช่นนั้นสำนักหิมะน้ำแข็งจะถูกสังหารไปพร้อมกันเลย งั้นก็ดีเลย เลือดเนื้อของผู้ฝึกยุทธ์นั้นเยี่ยมกว่าสามัญชนพวกนี้มาก”
“ถ้าพวกเขาไม่พูด เช่นนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับเจ้า บอกพวกข้ามาว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อน แล้วพวกข้าจะปล่อยเจ้าไป”
ดวงตาทั้งสามของหยู่โยวจ้องไปที่เสวี่ยหรูเยียนพร้อมกับกระพือปีกของนาง
จะเห็นได้ว่านางมองไปที่เสวี่ยหรูเยียนด้วยสายตาที่ฉายแววความเคร่งขรึม
เห็นได้ชัดว่าหยู่โยวรู้สึกอิจฉาเสวี่ยหรูเยียนอยู่เล็กน้อย
เสวี่ยหรูเยียนลงไปหาชายชราเผ่ามนุษย์ที่นอนแผ่อยู่ด้านล่าง มอบโอสถให้ เพื่อช่วยชีวิต จากนั้นกระแสพลังอันทรงอำนาจก็ได้เพิ่มขึ้นในร่างกายของนาง และโต้ตอบไปอย่างเด็ดขาด
“ออกจากเมืองหิมะน้ำแข็งซะ มิเช่นนั้นจะมาโทษข้าว่าหยาบคายมิได้”
“เจ้ากล้าทำอะไรพวกเรางั้นรึ? หึหึ ข้าไม่คิดเช่นนั้นหรอก”
“ถ้าเจ้าคิดจะยั่วยุบรรพบุรุษของเผ่าพันธุ์ข้า ก็เชิญเลย”
ชือขวงเย้ยหยัน แม้ว่าเสวี่ยหรูเยียนนั้นจะแข็งแกร่งมาก แต่เขาไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายจะกล้าโจมตีเขา
“หึหึ เรื่องมันไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนี้ ตราบใดที่เจ้ายอมรับว่าเรื่องเมื่อไม่กี่วันก่อนเป็นแค่เรื่องเหลวไหล เผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่เคยมีผู้ที่แข็งแกร่งเยี่ยงจอมจักรพรรดิ เรื่องนี้จบแล้ว”
หยู่โยวพูดตามไปติดๆ
“เผ่าพันธุ์มนุษย์ของข้าเคยมีจอมจักรพรรดิอยู่จริง”
เสวี่ยหรูเยียนตอบอย่างใจเย็น
นางไม่อาจปฏิเสธได้
เพราะหากนางยอมรับว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่เคยผู้ที่แข็งแกร่งเยี่ยงจอมจักรพรรดิก็เท่ากับปฏิเสธมนุษย์ทั้งหมดที่ได้เห็นการปรากฏของจอมจักรพรรดินีในวันนั้น
มนุษย์เหล่านั้นสามารถยืดอกขึ้นมาได้ นางเกรงว่าพวกเขาจะก้มลงไปอีกเพราะคำพูดของนาง
ดังงั้นนางจึงไม่อาจปฏิเสธได้❗️
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ในวันนี้ดูเหมือนไร้หนทางที่จะทำให้ดีขึ้นได้
เสวี่ยหรูเยียนถอนหายใจ จากนั้นจิตสังหารก็แล่นเข้ามาในดวงตาของนาง
ถึงต้องต่อกรกับเผ่าพันธุ์โบราณ ก็ไม่อาจเลี่ยงได้❗️
อย่างไรก็ตาม ภายในเมืองแห่งน้ำแข็งและหิมะ กระบี่ถูกชักออกมา สงครามกำลังจะอุบัติ
ลึกไปในเทือกเขาเทียนตวน จู่ๆก็เกิดความแปรปรวนอันน่าสะพรึงกลัวอย่างหาที่เปรียบมิได้ ได้ทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้าและสาดไปทั่วทั้งสิบทิศ❗️
ที่นั่น แสงอันศักดิ์สิทธิ์ได้ส่องสว่าง เจิดจ้าไปทั่ว❗️
แสงอันศักดิ์สิทธิ์ส่องขึ้นไป ทะลวงผ่านฟ้าดิน
พลังพุ่งออกมาอย่างไม่หยุด แสงอันงดงามนี้ราวกับคลื่นยักษ์ถาโถมไปทุกทิศทางทั่วฟ้าดิน
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทำให้ทุกคนในเมืองหิมะน้ำแข็งตื่นตกใจในทันที
“กระแสพลังจอมจักรพรรดิดึกดำบรรพ์❗️”
หยู่โยวมองไปทางกระแสพลังด้วยความตื่นตกใจ
ภายในแสงอันไร้ขอบเขตและงดงามนั้น นางรู้สึกได้ถึงกระแสพลังแห่งวิถีจักรพรรดิ❗️
ใกล้ๆเมืองหิมะน้ำแข็ง จะมีกระแสพลังแห่งวิถีจักรพรรดิระเบิดออกได้อย่างไร❓
หยู่โยว ชือขวง และบรรดาเผ่าพันธุ์ที่พวกเขานำมาด้วย ดวงตาของพวกเขานั้นเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ
…………
เทือกเขาเทียนตวน
บนยอดเขาสูง
วิหารโบราณที่มีแสงศักดิ์สิทธิ์อันตระการตา ตั้งอยู่บนยอดเขา แรงกดดันจักรพรรดิอันทรงอำนาจซึ่งแผ่ออกมาจากวิหารโบราณได้แผ่ออกไป สั่นสะเทือนไปทั้งสิบทิศ
ในตอนนี้ ฉินมู่ยืนอยู่หน้าวิหารโบราณแห่งนี้พร้อมด้วยใบหน้าอันเย็นชา
สองสามวันมานี้ เขาได้สร้างและปรับปรุงดินแดนลับที่สามนี้ให้สมบูรณ์
เขาเพิ่งออกมาจากดินแดนลับ
ผลงานของเขาเสร็จพอดีกับการมาถึงของเผ่าพันธุ์โบราณที่ลงมารังแกมนุษย์
“เผ่าพันธุ์โบราณ พอดีเลย ดินแดนลับนี้ถูกเตรียมการเพื่อพวกเจ้าแล้ว อย่าได้ไปไหน❗️”
ฉินมู่ใจพูดอย่างใจเย็น
ดินแดนลับเป็นแผนที่เขาเตรียมไว้รับมือเผ่าพันธุ์โบราณ
สิ่งที่อยู่ในดินแดนลับก่อนหน้านี้คือโอกาสและโชคลา�
ส่วนดินแดนลับนี้ มันเป็นการสังหาร❗️
ในเมื่อเผ่าวิหคและเผ่าราชสีห์เก้าเศียรช่างอุกอาจ รังแกเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่อ่อนแอ
ฉินมู่ก็ไม่เกี่ยงที่จะให้อีกฝ่ายรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผู้ที่ล่วงเกินเผ่าพันธุ์มนุษย์