ยงความคลางแคลงสร้างบรรยากาศที่เคยอบอุ่นให้ชวนอึดอัดขึ้นในทันที
ผู้พูดเป็นชายหนุ่มในชุดคลุมสีม่วงอันหรูหรา และมีท่าทีที่สง่างาม
“ก็คิดว่าเป็นใคร ที่แท้ก็เป็นคู่เหวยเฉินแห่งนิกายเทียนเฉิน”
“โอรสศักดิ์สิทธิ์คู่ แม้ข้าไม่ได้มีโอกาสเห็นความสง่างามของจอมจักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์ด้วยตัวเอง แต่ก็มีมนุษย์จํานวนมากที่ได้เห็นแล้วมันจะเป็นเท็จไปได้อย่างไร”
ภายในตําหนักลอยฟ้า ผู้ที่รู้จักชายหนุ่มชุดม่วงก็พูดขึ้นทันทีพร้อมด้วยความไม่พอใจเล็กน้อยอยู่ในน้ําเสียง
ทุกคนกําลังพูดเพื่อพยายามเพิ่มขวัญกําลังใจของเผ่าพันธุ์มนุษย์
แต่ก่เหวยเฉินผู้นี้กลับเทน้ําเย็นราดศีรษะ ปฏิเสธการมีอยู่ของจอมจักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์ จุดประสงค์ของการกระทําดังกล่าวคืออะไรกันแน่ ?
“หึหึ เจ้าเป็นพยานได้รึ? เป็นเจ้าหรือข้ากันที่มีกําลังสูงสุดในแดนร้างตะวันออก ?”
คู่เหวยเฉินส่ายหน้าอย่างเหยียดหยาม
“ตัวตนผู้สูงส่งที่ปรากฏตัวขึ้นและหายไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ชื่อของจักรพรรดินีเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่แพร่กระจายไปทั่วเมืองหิมะน้ําแข็งเมื่อก่อนหน้านั้น”
“ทั้งยังมีเก้ามังกรลากโลงอีก และนางยังเคลื่อนที่ไปกับโลงศพนั่น แล้วยังมีเรื่องเหลือเชื่ออย่างใช้ชีวิตถึงสี่ชาติอีกด้วย ทุกคนไม่คิดว่ามันน่าขันเลยรึ ?”
“แม้แต่จอมจักรพรรดิดึกดําบรรพ์ผู้ยิ่งใหญ่ ด้วยความช่วยเหลือจากโอสถเซียนก็ยังมีได้เพียงสองชีวิต”
“แล้วสิ่งที่เรียกว่าจักรพรรดินีเผ่าพันธุ์มนุษย์นี้ จู่ๆก็โผล่มาแล้วท้าทายฟ้าดินใช้ชีวิตถึงสิ่งั้นรึ ? เจ้าคิดว่ามันเป็นไปได้งั้นรึ ? ”
“หากเรื่องนี้มาจากกองกําลังเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่เป็นอันดับหนึ่งในแดนร้างตะวันออก ข่าวนี้ก็ยังพอน่าเชื่อถืออยู่บ้าง”
“แต่ข่าวนี้มาจากไหน? มาจากเมืองมนุษย์เล็กๆ แล้วจะเชื่อข่าวจากมนุษย์ที่อยู่หลังเขาเหล่านั้นได้อย่างไร?”
คู่เหวยเฉินพูดจาฉะฉาน ทําเอาทุกคนในตําหนักลอยฟ้าได้แต่เงียบเป็นเป่าสาก
แน่นอน อย่างที่เขาพูด มีข้อกังขามากมายเกี่ยวกับตัวตนของจักรพรรดินีที่ปรากฏตัวเมื่อไม่กี่วันก่อน
สิ่งที่สําคัญคือไม่มีผู้ที่มีความแข็งแกร่งมากพอมาเป็นพยานในเรื่องนี้
คนส่วนใหญ่ที่เห็นเรื่องทั้งหมดนี้เป็นปุถุชนที่ไร้วิทยายุทธ์ และถึงแม้ว่าจะมีผู้ฝึกยุทธ์อยู่บ้าง แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ต่ํามาก
เรื่องราวที่เล่าต่อกันมาโดยพวกเขา บางทีมันอาจจะเป็นความจริงที่ถูกเสริมแต่งจนไม่อาจเป็นจริงได้
อันที่จริงแล้วเผ่าวิหคและเผ่าราชสีห์เก้าเศียรสามารถเป็นพยานในเรื่องนี้ได้
แต่คนที่พวกเขาส่งไปสืบสวนที่เมืองหิมะน้ําแข็งก็ถูกบดขยี้โดยพละกําลังอันยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิก่อนที่จะหายตัวไป
และเพราะว่าผู้ที่เสียชีวิตภายใต้พละกําลังอันยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิเผ่าพันธุ์ทั้งสองนั้น เป็นราชันบรรพบุรุษของเผ่าวิหคและเผ่าราชสีห์เก้าเศียร มันจึงเป็นเรื่องที่อ่อนไหวอย่างมาก และไม่กล้าที่จะเปิดเผย
เพราะฉะนั้น ข่าวส่วนใหญ่เกี่ยวกับจักรพรรดินีจากแดนร้างตะวันออกจึงมาจากปากของผู้ฝึกยุทธ์แถวล่างและปุถุชนที่อยู่ใกล้เมืองหิมะน้ําแข็ง
จึงเป็นธรรมดาที่ระดับความน่าเชื่อถือจะไม่สูง
เช่นนี้ เหวยเฉินจึงตั้งข้อสงสัยออกมาโดยที่คนอื่นๆ ได้แต่เงียบกริบ
“แล้วเจ้าจะอธิบายเรื่องที่เกี่ยวกับผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิเมื่อไม่กี่วันก่อนได้อย่างไร?”
มีบางคนไม่เห็นด้วยและยกเหตุการณ์เมื่อไม่กี่วันก่อนขึ้นมา
ผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิปรากฏตัว สันสะเทือนเผ่าพันธุ์โบราณทั้งแดนางตะวันออก สิ่งมีชีวิตทั่วทั้งแดนร้างตะวันออกสัมผัสได้ถึงกระแสพลังที่วุ่นวาย สิ่งนี้ไม่อาจปลอมแปลงได้เลย
“เรื่องของกายาจักรพรรดิ อาจมีความลับบางอย่าง…”
คู่เหวยเฉินเหลือบมองผู้ฟังและลดเสียงลง
“ข้าก็เพิ่งรู้เมื่อได้ฟังการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของผู้นํานิกายเทียนเฉินของข้ากับผู้อาวุโสระดับสูง
“ท่านเจ้าสํานักของข้าคาดเดาว่าผู้ยิ่งใหญ่ที่ปรากฏในวันนั้นน่าจะเป็นกิ่งจักรพรรดิโบราณเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่เกิดมาเมื่อหลายพันปีก่อน”
“เพียงแค่ว่าอายุขัยกําลังจะสิ้นลงกลับคืนสู่เต๋ ไม่อยากโดดเดี่ยวและอยากแสดงความรุ่งโรจน์ในช่วงสุดท้ายของชีวิต”
“ดังนั้น สถานการณ์นี้จึงได้เกิดขึ้น และหลังจากสั่นคลอนเผ่าพันธุ์โบราณแล้วก็ได้หายตัวกลับคืนสู่พื้นพิภพ”
“สําหรับตํานานกายาจักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์ แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง”
“ทุกคนคิดว่าจอมจักรพรรดิดึกดําบรรพ์เป็นสิ่งมีชีวิตแบบไหนกัน? แน่นอนว่าเขาอยู่ยงคงกระพันไร้ที่สิ้นสุดในฟ้าดิน ! แม้คนทั่วสวรรค์ทั้งเก้าดินแดนทั้งสิบก็ยากหาผู้ต่อกร !”
“มีสิ่งมีชีวิตระดับสูงเช่นนี้มีได้เพียงหนึ่ง และจักรพรรดิโบราณผู้มีพลังยุทธ์ระดับสูงนี้ก็สามารถกวาดล้างผู้อยู่เบื้องล่างได้ทั้งหมด นี่เป็นกฎเหล็กของโลก ! ”
“แต่ตอนนี้ สิ่งใดที่กําลังถูกเผยแพร่ไปในโลกนี้ ? เผ่าพันธุ์มนุษย์มีผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิ และเขายังสามารถต่อกรกับจอมจักรพรรดิดึกดําบรรพ์ได้แม่ไม่ได้อยู่เขตแดนสูงสุดในวิถียุทธ์
“หึหึ ทุกคน มันไม่น่าขันงั้นรึ?”
“หากไม่ใช่ระดับยุทธ์สูงสุด แม้จะอยู่จุดสูงสุดของกิ่งจักรพรรดิก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจอมจักรพรรดิดึกดําบรรพ์
“มันจะมีสายเลือดดังกล่าวบนโลกได้อย่างไร ตราบใดที่สําเร็จวิชาก็สามารถเป็นศัตรูของจักรพรรดิโบราณได้แม่ไม่ได้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับสูงสุดงั้นรึ? ไร้สาระสิ้นดี !”
“ผู้นํานิกายยังคาดว่า มีความเป็นไปได้อย่างมากที่กิ่งจักรพรรดิโบราณนั้นคุยโวโอ้อวดพละกําลังของเขาเป็นจริง”
“อย่างไรก็ตาม แม้เขาไม่ได้ก้าวเข้าสู่เขตแดนยุทธ์ระดับสูง แต่เขาก็เป็นกิ่งจักรพรรดิ แน่นอนว่าร่างของเขาย่อมมีกระแสพลังแห่งจักรพรรดิ
“ในแดนร้างตะวันออกมีใครเคยเห็นจักรพรรดิโบราณตัวจริงบ้าง ? ไม่แม้แต่คนเดียว !”
“แม้แต่บรรพบุรุษเผ่าพันธุ์โบราณเหล่านั้น เกรงว่าก็ไม่เคยเห็น !”
“เพราะฉะนั้น กิ่งจักรพรรดิโบราณเผ่าพันธุ์มนุษย์ผู้ที่สั่นสะเทือนไปทั่วแดนร้างตะวันออกและมีความแข็งแกร่งที่ไร้ผู้เทียบเคียง เมื่อเห็นโดยสิ่งมีชีวิตในแดนร้างตะวันออกที่ไม่มีใครเคยเห็นจอมจักรพรรดิ์ดึกดําบรรพ์ตัวจริง”
“ย่อมคิดว่าเขามีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับจักรพรรดิ
“และไม่สําคัญว่าเขาจะถูกมองออกไม่ อย่างไรก็ตามเขาก็ได้รวบรวมเหตุผลที่น่าเชื่อถือสำหรับที่มาของเขา”
“ผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิไม่ได้อยู่เป็นจอมยุทธ์ระดับสูงแต่สามารถต่อกรกับจอมจักรพรรดิดึกดําบรรพ์ได้…”
“เช่นนี้ แผนของเขาก็สมบูรณ์ และไม่มีใครสามารถมองออกได้”
“ยิ่งกว่านั้น ผู้นํานิกายยังคาดว่าว่านิมิตใกล้ๆ เมืองหิมะน้ําแข็ง ตํานานของสิ่งที่เรียกว่าจักรพรรดินีเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็น่าจะเป็นสิ่งที่กิ่งจักรพรรดิโบราณสร้างขึ้น…”
ก่เหวยเฉินเผยภูมิอยู่ในมืออย่างคล่องแคล่ว
หลังจากวิเคราะห์เสร็จสิ้น ทุกคนในตําหนักลอยฟ้าก็ตัวสั่น
สิ่งที่ก่เหวยเฉินพูดนั้นสมเหตุสมผลร์ไม่?
มันสมเหตุสมผลอย่างมาก
และทุกอย่างสามารถพิสูจน์ได้
เมื่อฝึกฝนถึงเขตแดนกิ่งจักรพรรดิแน่นอนว่าย่อมมีกระแสพลังเช่นจอมจักรพรรดิ์ดึกดําบรรพ์ได้บ้าง
ไม่มีสิ่งมีชีวิตในโลกนี้เคยเห็นจอมจักรพรรดิดึกดําบรรพ์ตัวเป็นๆ
ดังนั้น ก็เข้าใจได้ไม่ยากว่าอาจมีการเข้าใจผิดว่ากิ่งจักรพรรดิเป็นจักรพรรดิโบราณระดับสูง
แต่ทว่าไม่มีใครอยากเชื่อสิ่งที่เขาพูด
หากยอมรับว่าสิ่งที่ก่เหวยเฉินพูดเป็นความจริง
ก็เท่ากับยอมรับว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่เคยมีจอมยุทธ์ระดับสูงสุด
ไม่มีจอมจักรพรรดิโบราณ
ไม่มีผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิเช่นกัน
เผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นไร้ซึ่งจอมยุทธ์ระดับสูงสุด !
PS: วันนี้ได้ตอนเดียวนะครับ ศัพท์จีนยากฉิบ บทต่อๆไปจุกยังไม่ออกมา