จอมบงการเทพยุทธ์ – บทที่ 140

จอมบงการเทพยุทธ์ - บทที่ 140

บทที่ 140

ด้านนอกท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว มีเรือโบราณอันมืดมิดซึ่งบรรทุกสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนโบราณซึ่งจะมาถึงภาคกลางในไม่ช้า! สิ่งมีชีวิตทั้งหมดคือตัวตนเหนือเขตแดนจักรพรรดิ

แม้แต่สิ่งมีชีวิตเขตแดนจักรพรรดิสูงสุดยังมีมากกว่าหนึ่ง

ยิ่งไปกว่านั้น… สิ่งมีชีวิตโบราณที่มาจากอดีตนับพันปีเหล่านี้ ถูกผนึกอยู่ในต้นกําเนิดพลังศักดิ์สิทธิ์และได้มาถึงจุดที่พลังงานหมดลงแล้วและต้องชโลมเลือดของเผ่าพันธุ์มนุษย์นับล้านๆเพื่อฟื้นฟูพลังชีวิตขึ้นใหม่!

ข่าวนี้ แพร่กระจายจากราชวงศ์ต้าเซียในภาคกลางและกระจายไปทั่วพิภพภายในเวลาไม่ถึงวัน!

ข่าวนี้มาจากปากของจักรพรรดิโบราณแห่งราชวงศ์ต้าเซีย

เขาเป็นยอดฝีมือเผ่าพันธุ์มนุษย์ผู้มีสัมผัสวิญญาณอันโดดเด่นที่อยู่ในบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวจักรพรรดิสูงสุดโบราณเผ่าพันธุ์มนุษย์!

ไม่มีผู้สงสัยในความถูกต้องของข่าวนี้

เพราะมันมาจากปากของจักรพรรดิสูงสุดโบราณแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ เขาไม่ได้ปรากฏตัวในพิภพมาหลายพันปีแล้วผู้คนต่างกันคิดว่าเขาสิ้นลมไปแล้ว

ในตอนนี้ เขากลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง ซึ่งเพียงพอที่จะทําให้ผู้คนรู้ว่าเรื่องนี้ใหญ่หลวงเพียง

สิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนกว่าห้าสิบตน ที่มีพลังยุทธ์เขตแดนจักรพรรดิขึ้นไป!และในหมู่พวกเขายังมีเขตแดนจักรพรรดิสูงสุดอีกหลายตนด้วย!นี่คือกองกําลังที่สามารถล้มล้างกําลังใดๆก็ได้ในพิภพเทียบเท่าได้กับความแข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนทั้งพิภพแล้วตอนนี้เผ่าพันธุ์มนุษย์จะต่อต้านได้เยี่ยงไร?

หลังจากข่าวแพร่กระจายไปทั่วพิภพเผ่าพันธุ์มนุษย์มากมายในภาคกลางตกอยู่ในความตื่นตระหนกและสิ้นหวังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

“หลีกหนีออกจากภาคกลาง ไม่แน่ว่าอาจยังมีโอกาสรอดชีวิต!”

“ข้าอยากมีชีวิตอยู่ ข้ายังไม่อยากตาย!”

ผู้ฝึกยุทธ์เผ่ามนุษย์ที่สามารถเดินทางข้ามดินแดนเพื่อหนีจากชะตากรรมอันมืดมนนี้ได้หลบหนีไปยังดินแดนอื่นพวกเขาต้องการหลีกหนีจากการกลายเป็นอาหารเลือดเพื่อฟื้นฟูสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์หมื่นเซียน

“โยกย้ายถิ่น! หลบออกจากภาคกลาง!”

“ออกไปจากที่นี่ชั่วคราว รอจนกว่าทุกอย่างจบลงแล้วค่อยกลับมาใหม่!”

นอกจาก เพื่อหลีกเลี่ยงภัยพิบัติที่กําลังจะเกิดขึ้น ยอดฝีมือเผ่าพันธุ์มนุษย์ในดินแดนภาคกลางได้คัดเลือกลูกศิษย์ชั้นยอดเพื่อเดินไปบนเส้นทางการหลบหนี

ส่วนผู้ฝึกยุทธ์ที่มีพลังน้อยนิดและมนุษย์ที่ไม่ได้ฝึกฝนวิชาใดๆ เลย ต่างจากบรรดาผู้ที่สามารถหลบหนี้ได้

พวกเขาไม่อาจออกจากดินแดนไปได้เลย สิ่งที่พวกเขาทําได้ในตอนนี้คือรอคอยอย่างสิ้นหวัง

ในยามวิกฤติเช่นนี้ มีผู้หลบหนีอย่างไม่ขาดสาย แน่นอนว่ายังมีผู้ที่สวนทางเดินไปข้างหน้าอย่างเร่งรีบเพื่อปกป้องชะตากรรมของเผ่าพันธุ์มนุษย์

ดินแดนภาคกลาง ราชวงศ์ต้าเซีย

ในพระราชวังอันโบราณและสง่างาม ชายชราผมขาวยืนอยู่ในพระราชวังดวงตาของเขามองออกไปนอกวัง แววตาเปี่ยมไปด้วยความผันผวนแห่งชีวิต

ด้านหลังเขา จักรพรรดิแห่งราชวงศ์ต้าเซียในชุดคลุมมังกร ผู้องอาจและสง่างามและกล้าหาญยืนอยู่ด้วยท่าทางอันนอบน้อม

ชายชราผู้นี้คือบรรพบุรุษที่เก่าแก่ที่สุดแห่งราชวงศ์ต้าเซียที่มีชีวิตอยู่! “ปู่ทวดท่านต้องทําเช่นนั้นจริงงั้นรึ?”เสียงของจักรพรรดิต้าเซี่ยเป็นกังวล

“ในตอนนี้ ไร้ซึ่งเหตุผลที่จะถอยกลับ ชายชราผู้นี้อยู่มานานมากพอแล้ว ครั้งนี้ต่อให้ต้องตายเขาก็จะรั้งสิ่งมีชีวิตโบราณเหล่านี้เอาไว้

หากสามารถช่วยเผ่าพันธุ์มนุษย์เพิ่มได้ ก็ช่วยเพิ่มขึ้นอีก!”

จักรพรรดิเฒ่าถอนหายใจอย่างแผ่วเบา

ศัตรูนั้นแข็งแกร่งเกินไปอย่างยิ่ง ตอนนี้เขาแก่มากแล้ว เลือดและพลังการต่อสู้ของเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแม้ว่าจะใช้ชีวิตของชายชราคนนี้ก็ยากที่จะหยุดศัตรูได้

“หากจัดการได้หนึ่ง ก็จะมีราชันหมื่นเซียนน้อยลงไปอีกหนึ่ง เผ่าพันธุ์มนุษย์ก็จะรอดไปได้อีกหลายชีวิต”

จักรพรรดิเฒ่าพึมพํากับตัวเอง เสียงของเขาดูผันผวนและเดียวดาย

จักพรรดิต้าเซียที่อยู่ด้านหลัง เมื่อได้ยินเช่นนี้ก็ได้แต่ร่ําไห้ออกมา

เขารู้ดีว่าปู่ทวดของเขาตั้งใจที่จะสละชีพอยู่แล้ว และจะเผาชีวิตเฮือกสุดท้ายเข้าต่อสู้ด้วยทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อหยุดยั้งศัตรู

“ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ร่วมต่อสู้ด้วยกัน! ราชวงศ์ต้าเซี่ยจะปักหลักที่นี้ พิทักษ์เผ่าพันธุ์มนุษย์!สู้จนตัวตายไปกับเจ้าพวกสัตว์ร้ายเหล่านั้น!”

จักรพรรดิต้าเซียกู่ร้อง เขาได้ตัดสินใจแล้ว ครั้งนี้ ราชวงศ์ต้าเซียไม่ถอยหนีและจะร่วมต่อสู้กับปู่ทวด!

ภาคกลาง ราชวงศ์หยาง

ภายในพระราชวัง ตั้งแต่ที่ได้ทราบข่าวเรื่องความมืดมนที่กําลังคืบคลานเข้ามาจักรพรรดินีหยางเริ่มเก็บตัวฝึกยุทธตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

นางกําลังทําความเข้าใจในคัมภีร์โบราณของปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์

โดยที่หวังว่าจะสามารถเพิ่มพลังการต่อสู้ของให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ในเวลาที่สั้นที่สุดเพื่อที่จะได้มีส่วนร่วมมากขึ้นในการต่อสู้อันเด็ดขาดครั้งต่อไป

นางไม่เคยคิดเกี่ยวกับการหลบหนี

ในอาณาเขตหลายล้านลี้ของราชวงศ์หยางมีปุถุชนเผ่าพันธุ์มนุษย์มากมายอาศัยอยู่

หากนางหลบหนี แล้วใครจะปกป้องพวกเขา?

จนถึงขณะนี้ จักรพรรดินีชี้หยางยังคงจําคําที่จักรพรรดิองค์ก่อนสั่งสอนนางขณะที่เขามอบบัลลังก์ให้กับนาง

ราชวงศ์ชีหยางเป็นของเผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่ใช่ของราชวงศ์ชีหยาง!

การสืบราชสมบัติเป็นทั้งเกียรติยศและความรับผิดชอบ!

ในฐานะจักรพรรดิ เจ้าต้องสู้เพื่อปกป้องเผ่าพันธุ์มนุษย์!

ถึงแม้ศัตรูจะมากล้น แม้จะรู้ว่าไม่อาจชนะได้ เจ้าจะถอยแม้แต่ครึ่งก้าวก็ไม่ได้!

หากหลบหนี เจ้าก็จะไม่ใช่ประมุขแห่งราชวงศ์หยางอีกต่อไป ไม่คู่ควรกับตําแหน่งจักรพรรดิ!

แดนร้างตะวันออก ตระกูล

“ท่านประมุข! พวกเราจะไปภาคกลาง!”

“ไปที่ภาคกลางเพื่อหยุดพวกสัตว์ร้ายเหล่านั้น!”

พร้อมด้วยสีหน้าอันหนักแน่น ผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลจีจํานวนมาก แสดงความประสงค์ที่จะไปต่อสู้ต่อประมุขจีต้าวชางอย่างต่อเนื่อง

แม้ว่าศัตรูกําลังไปที่ภาคกลาง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับแดนร้างตะวันออก พวกเขาก็ไม่นิ่งเฉยต้องการไปที่ภาคกลาง ต่อสู้เพื่อเผ่าพันธุ์มนุษย์!

นี่คือความปรารถนาและความรุ่งโรจน์ที่ไหลเวียนอยู่ในสายเลือดตระกูลจี!

“ปู่ทวดฉางเฉอได้นํากระจกฟ้าว่าง เทพธิดาฮั่วหยุน และจักรพรรดิโบราณจีต้าวชไปยังภาคกลางแล้ว ”

จีต้าวชางมองไปยังผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลจีผู้ซึ่งร้องขอไปต่อสู้จํานวนมากเบื้องหน้าแล้วก็พูดออกมา

“ก่อนจะไป ปู่ทวดก็ได้บอกกับข้าไว้ว่า แค่พวกเขาก็เพียงพอแล้วที่จะต่อสู้ในภาคกลางผู้ฝึกยุทธตระกูลจีที่เหลืออยู่จะประจําการอยู่ที่นี่และปกป้องเผ่าพันธุ์มนุษย์จากเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนในแดนร้างตะวันออก

สนามรบของพวกเราอยู่ในแดนร้างตะวันออก! มันมีความสําคัญไม่แพ้กันในการรักษาแนวป้องกันของเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่นี่!”

แดนร้างตะวันออกเขตต้องห้ามยุคแร้นแค้น

เย่หลิงเสวียยืนอยู่นอกเขตต้องห้ามยุคแร้นแค้น มองดูเขตต้องห้ามซึ่งปกคลุมไปด้วยหมอกหนาเบื้องหน้าพร้อมด้วยแววตาอันหนักแน่นจากนั้นนางก็ก้าวเข้าไปในเขตต้องห้ามเดินลึกเข้าไปโดยไม่ลังเล

นางได้รู้ข่าวจากดินแดนภาคกลางแล้ว

นางยังไม่กล้าแกร่งพอ และไม่อาจเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้ได้

แต่นางก็ยังต้องการสนับสนุนเผ่าพันธุ์มนุษย์

นางเข้าไปในเขตต้องห้ามเพื่อไปพบกับจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญ หวังให้จอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญช่วยบรรเทาความโกลาหล!

แดนางตะวันออก ภูเขาหยวน หยุนรั่วซีเดินทางขึ้นไปยังภูเขาศักดิ์สิทธิ์นี้

เช่นเดียวกับเย่หลิงเสวี่ย พลังในปัจจุบันของนางนั้นยังไม่เพียงพอที่จะเข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งใหญ่นี้

แต่นางก็ไม่เต็มใจที่จะนิ่งเฉยรอเพียงผลลัพธ์

“ข้าคือกายาจักรพรรดิแห่งพิภพนี้ สายเลือดของจอมจักรพรรดิอู่จื่อ บางทีข้าอาจพบบางสิ่งในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ซึ่งถูกทิ้งไว้โดยจอมจักรพรรดิอู่จื่อในอดีตที่จะช่วยเหลือเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้

หยุนรั่วซีพึมพํา ดวงตาของนางเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น

ด้วยเหตุนี้นางจึงกลับไปที่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อสํารวจแท่นบูชาที่ทิ้งไว้โดยจอมจักรพรรดิอู่จื่อ พื่อค้นหาระฆังของจอมจักรพรรดิอู่จื่อที่เคยสังหารราชันบรรพบุรุษในอดีตเพื่อนํามาช่วยเผ่าพันธุ์มนุษย์จากอันตราย!

ภาคกลาง ในซากอารยะธรรมรกร้างโบราณ

นักพรตเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่เปื้อนไปด้วยดินและฝนที่กําลังกระหืดกระหอบอยู่ เขาคือตัวนหยนเชิง

ในขณะนี้ เขาถือเข็มทิศแสวงสมบัติไว้ในมือ พลางพึมพําอะไรบางอย่างในปาก

“เชีย เทพยดาฟ้าดิน เจ้าพวกหมื่นเซียนนี้หลอกลวงเผ่าพันธุ์มนุษย์มากเกินไปแล้ว!

จอมจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่ามนุษย์ รีบปรากฏตัวเร็วเข้า!

นักพรตผู้นี้ไม่ได้แสวงหาสมบัติใดๆ ในครั้งนี้ เพียงแค่พยายามหาร่องรอยจอมจักรพรรดิของเผ่าพันธุ์มนุษย์!

มันจะดีไม่น้อยหากขุดเจอตัวตนอย่างผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิหรือจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญเพื่อทําลายเจ้าพวกน่ารังเกียจให้สิ้นซาก!”

ในตอนนี้ ผู้คนจํานวนมากพยายามปกป้องเผ่าพันธุ์มนุษย์ด้วยวิธีการของพวกเขาเอง!

เหตุนี้เองที่เผ่าพันธุ์มนุษย์สามารถอยู่รอดมาได้อย่างแข็งแกร่งในจักรวาล แม้จะตกอยู่ในสภาพสิ้นหวังหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยสูญสิ้น

เพราะว่ามักจะมีผู้ที่ยืนขึ้นท่ามกลางความมืดมิดและสิ้นหวัง ไม่ย่อท้อทําทุกอย่างที่ทําได้แม้จะต้องใช้เลือดและเนื้อของตนสละชีวิตเพื่อให้มนุษยชาติก้าวต่อไปได้!

นี่คือการช่วยเหลือตนเองของเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งปวง

เป็นความหวังในความสิ้นหวัง

จอมบงการเทพยุทธ์

จอมบงการเทพยุทธ์

Status: Ongoing
ฉินมู่เดินทางเข้าสู่โลกแฟนตาซี และได้รับระบบจอมบงการ ซึ่งสามารถเปิด ดินแดนพิศวงหลากหลายและเปลี่ยนความคิดฝันในใจของเขาให้กลายเป็นความจริงในยุคนี้ ได้มีเผ่าพันธุ์มากมายนับพัน เผ่ามนุษย์นั้นอ่อนแอและไม่เคยได้มีผู้แข็งแกร่งถือกำเนิดขึ้นมาแม้แต่คนเดียวในประวัติศาสตร์ที่ถูกรังแกกดขี่ข่มเหงตามอำเภอใจเป็นเพราะว่าโลกอันกว้างใหญ่นี้ได้เปลี่ยนแปลงมาหลายร้อยชั่วอายุคน ทำให้ประวัติศาสตร์เมื่อหลายล้านปีก่อนได้ถูกลืมเลือนไปจากสิ่งมีชีวิตทั้งมวล ฉินมู่จึงได้กล่าวว่า ข้าจะสร้างประวัติศาสตร์ของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดขึ้นมาใหม่ และจะสร้างร้อนฝนหนาวอันรุ่งเรืองให้กับมนุษยชาติในประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยหมอกอันพร่าเลือน โดยมีฉินมู่คอยบงการอยู่ด้านหลัง จัดวางดินแดนพิศวงทีละดินแดน และเปิดเผยมุมมืดอันเร้นลับของพวกมันออกมาเมื่อตำนานของเผ่าพันธุ์ได้ก้าวผ่านยุคดึกดำบรรพ์มาสู่โลกนี้ จะมีใครบ้างไหมที่หาญกล้าพอที่จะออกมาต่อสู้กับทุกเผ่าพันธุ์ในโลกนี้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท