บทที่ 154 ใช้ทุกสรรพชีวิตเป็นหมากจักรวาลเป็นกระดานผลักดันการมาถึงของยุคทอง!
เขตต้องห้ามสุขาวดี
นี่คือชื่อใหม่ที่ทุกสรรพชีวิตมอบให้กับเกาะสุขาวดี
ในวันนี้มันได้ถูกลิขิตลงไปในประวัติศาสตร์ของทุกเผ่าพันธุ์ไปตลอดกาล
ตั้งแต่จักรพรรดินีก่อตั้งเขตต้องห้ามยุคแร้นแค้นก่อนหน้านี้จ้าวสุขาวดีได้เข้าครอบครองเขต
ต้องห้ามสุขาวดี และเฝ้ามองพิภพ!
ผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง ในเขตต้องห้ามสุขาวดี
ฉินมู่ยืนอยู่ที่นั่น มือของเขาไขว้อยู่ข้างหลังสีหน้าดูเรียบเฉย
ตั้งแต่วันนั้นที่เขาได้ทําลายเขตต้องห้ามหนึ่งไปกว่าครึ่งในทีเดียวและกําราบยอดยุทธ์สูงสุด
โบราณ และนําเกาะสุขาวดีกลับไปยังมิติดินแดนลับ
ในเวลาต่อมา เขาก็คิดว่าเขาเองก็ต้องการตั้งหลักปักฐานในพิภพ นอกจากนี้ด้วยเขตแดนพลัง
ยุทธ์ระดับเซียนส่องโลกาของเขาในตอนนี้ถึงแม้ว่าเขตต้องห้ามสุขาวดีจะปรากฏอยู่บนพิภพหากไม่ได้รับอนุญาตจากเขาก็ไม่มีผู้ใดสามารถค้นพบสถานที่แห่งนี้ได้
ดังนั้นฉินมู่จึงได้เผยเกาะสุขาวดีขึ้นมาอีกครั้งล่องลอยอยู่เหนือท้องฟ้าของแดนร้างตะวันออก
และปิดบังจนไม่อาจมองเห็นได้
และหลังจากวันนั้นฉินมู่ก็อยู่ในเขตต้องห้ามสุขาวดีและไม่ได้ออกมาสู่พิภพ
เพราะในสถานะปัจจุบันของเขานั้นไม่จําเป็นที่จะต้องออกมาด้วยตนเองแม้ว่าเขาจะอยู่ที่นี่การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดในพิภพหรือความลับทั้งหมดในจักรวาลใดๆก็ไม่อาจหลีกหนีจากสายตาของเขาได
“เผ่าพันธุ์หมื่นเซียนมีรากฐานที่แข็งแกร่งจริงๆ”
ฉินมู่ถอนหายใจเบาๆ หลายวันมานี้ เขามองลงมายังพิภพและสํารวจทุกอย่างในสายตาของ
เขาสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในพิภพรวมไปถึงเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนย่อมไม่สามารถหลบหนีการควบคุมของเขาได
และหลังจากการสืบค้น ฉินมู่ก็พบว่า
ทุกๆวันนี้พลังของเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนในพิภพนั้นเป็นเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น
ตัวตนที่ทรงอํานาจอย่างแท้จริงที่เหมือนกับยอดยุทธ์สูงสุดของเขตต้องห้ามเหล่านั้นยังคงหลับใหลอยู่และยังไม่ปรากฏตัวขึ้น
เช่นเดียวกับราชวงศ์หมื่นเซียนที่เคยให้กําเนิดจอมจักรพรรดิหมื่นเซี่ยนในอดีตพวกเขาแทบไม่ได้ปรากฏตัวในพิภพเลย
เรียกได้ว่า ราชวงศ์หมื่นเซียนนั้นมีมากมายในพิภพ และราชวงศ์หมื่นเซียนหลายราชวงศ์มักจะหลบซ่อนและไม่ปรากฏให้เห็นในพิภพนี้
และเหตุผลทั้งหมดนี้ จากการคาดเดาของฉินมู่ น่าจะเป็นเพราะฝีมือของบรรพบุรุษของเผ่าพันธุ์ซึ่งเป็นจอมจักรพรรดิระดับสุดยอดในอดีต
ยอดยุทธ์สูงสุดโบราณในเขตต้องห้ามใช้เวลาหลายแสนปี รอคอยอะไรอยู่น่ะรึ?
รอคอยการเปิดของเส้นทางนิรันดร์ รอโอกาสที่จะกลายเป็นเซียนนิรันดร์
และอดีตจอมจักรพรรดิบางส่วน เพื่อที่จะทําให้เผ่าพันธุ์และเครือญาติของพวกเขาขึ้นสู่ความเป็นนิรันดร์ ก็ได้จงใจผนึกคนใกล้ชิดไว้ในต้นกําเนิดพลังศักดิ์สิทธิ์
รอคอยโอกาสที่เป็นนิรันดร์ และจะตื่นขึ้นจากต้นกําเนิดพลังศักดิ์สิทธิ์แล้วขึ้นไปเป็นนิรันดร์ไปด้วยกัน
ราชวงศ์โบราณเหล่านี้ที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นสู่รุ่นและหลับใหลมาจนถึงตอนนี้ก็คือมรดกและแก่นแท้ของเผ่าพันธุ์หมื่นเซียน
“เจ้าจะหลบซ่อนกันทําไม? หากต้องการความยิ่งใหญ่และกลายเป็นเซียนนิรันดร์เช่นนั้นข้าก็จะให้โอกาสนี้กับเจ้า
ทุกสรรพสัตว์ที่หลบซ่อนอยู่จงปรากฏออกมาและมีชีวิตชีวา ไม่เช่นนั้นข้าจะเก็บเกี่ยวแต้มตกใจได้อย่างไร?”
ฉินมู่พิมพากับตนเองพร้อมด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
ก่อนหน้านี้ เมื่อท่าลานพันธนาการแห่งเจตจํานงฟ้าดินเพื่อเผ่าพันธุ์มนุษย์เขาได้ถือโอกาส
กระตุ้นวิถีนับหมื่นด้วยวิธีการอันท้าทายสวรรค์ ซึ่งทําให้ความมีชีวิตชีวากลับมาสู่จักรวาลอีกครั้งจักรวาลนี้ไม่ได้ไร้การเปลี่ยนแปลงอีกต่อไป
นี่จะเป็นประโยชน์ต่อโลกแห่งการฝึกฝนอย่างใหญ่ยิ่ง แน่นอนว่าย่อมมีบางครั้งที่วิถีแห่งโลกนั้นไม่ชัดเจนและฝึกฝนได้ยาก
สิ่งที่ฉินมู่ท่านั้นคือการกระตุ้นวิถีนับหมื่นแห่งจักรวาลและทําให้ปรากฏขึ้นของการเอื้อประโยชน์ต่อการฝึกฝน
กล่าวอีกนัยหนึ่ง เขากําลังทําการผลักดันการมาถึงของยุคทอง!
เฉพาะเมื่อยุคทองมาถึง สิ่งมีชีวิตและยอดฝีมือที่หลับใหลเหล่านี้จะปรากฏขึ้นทีละคนๆด้วยวิธีนี้โลกจะมีชีวิตชีวาและจะมีสิ่งมีชีวิตอีกมากมายที่สามารถมอบแต้มตกใจให้กับฉินมู่ได้ตอนนี้ก็ผ่านไปเป็นเวลาหลายเดือนแล้วจากตอนที่ฉินมู่กระตุ้นวิถีและทําลายพันธนาการแห่งเจตจํานงฟ้าดิน
สัญญาณบางอย่างเริ่มปรากฏในจักรวาลแล้ว คาดว่าวันที่สิ่งมีชีวิตและเผ่าพันธุ์ที่ต่างหลับใหลเหล่านี้จะตื่นขึ้นจะอยู่ไม่ไกลนัก!
สรรพชีวิตทั้งหลายนั้นไม่รู้ว่าทุกสิ่งในพิภพนี้เป็นผลมาจากมืออันใหญ่โตที่มองไม่เห็นผลักดันอยู่เบื้องหลัง
แต่สิ่งมีชีวิตทั้งหลายก็สามารถรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกินขึ้นได้อย่างชัดเจน
ผู้ฝึกยุทธ์บางคนที่ติดอยู่ที่ระดับยุทธ์หนึ่งมาช้านาน ไม่กี่เดือนมานี้ก็ได้มีก้าวข้ามออกจาก
ระดับเดิม
ผู้ฝึกยุทธ์ทุกเผ่าพันธุ์ยังรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงความเร็วในการฝึกฝนและการเข้าใจของพวกเขาเพิ่มขึ้นกว่าเดิมถึงสิบเท่า
และยังมีสิ่งมีชีวิตปถุชนธรรมดานับไม่ถ้วน ก็ได้เกิดความเข้าใจในทันใดในช่วงเวลานี้และเปิด
ประตูสู่การฝึกฝนก้าวเข้าสู่การฝึกยุทธ์
เรื่องเหล่านี้ไม่เคยเป็นไปได้มาก่อน
“สัญญาณเหล่านี้… หรือว่ายุคทองกําลังจะมางั้นรึ?”
สิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนที่คุ้นเคยกับประวัติศาสตร์โบราณได้ตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพิภพและอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
“ข้ารู้สึกได้ว่าวิถีฟ้าดินนับหมื่นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ และความเข้มข้นของกระแสพลังในจักรวาลก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน
จํานวนอัจฉริยะที่เกิดจากเผ่าพันธุ์ต่างก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นเช่นกัน ดูเหมือนว่ายุคทองกําลังจะมา!”
เมื่อยุคทองมาถึง ทุกเผ่าพันธุ์จะได้รับประโยชน์จากมัน
และผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นพวกผู้ที่มีความหวังในการเดินไปบนเส้นทางที่แท้จริงของพิภพนี้
พวกเขาจะตื่นขึ้นในช่วงเวลานี้และการมาถึงของยุคทองจะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในชีวิตที่พวกเขาจะเข้าสู่เขตแดนพลังยุทธ์ระดับสุดยอด!
ช้า!”
“ข้าเกรงว่ายอดฝีมือผู้อยู่ยงคงกระพันที่ถูกผนึกมาจนถึงทุกวันนี้จะปรากฏตัวขึ้นสู่พิภพในไม่ราชันบรรพบุรุษเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนถอนหายใจ
ในอดีต เมื่อจอมจักรพรรดิหมื่นเซียนปกครองพิภพ เนื่องจากจอมจักรพรรดิยังมีชีวิตอยู่จึงไม่อาจเดินบนเส้นทางที่แท้จริงได้
ดังนั้นพวกเขาจึงให้ทายาทที่แข็งแกร่งที่สุดผู้ซึ่งคาดว่าจะเดินบนเส้นทางที่แท้จริงถูกผนึกในต้นกําเนิดพลังศักดิ์สิทธิ์รอให้ยุคทองที่จะเป็นประโยชน์ปรากฏขึ้นในอนาคตแล้วจึงปลุกพวกเขา
ปกครองฟ้าดินและสืบตําแหน่งจอมยุทธ์ระดับสุดยอด
ในตอนนี้ยุคทองกําลังจะมาถึงและราชันผู้กําแหงเหล่านี้ซึ่งผนึกมาจนถึงทุกวันนี้มีสายเลือดราชวงศ์อันบริสุทธิ์ไหลเวียนอยู่ในร่างของพวกเขาเกรงว่าพวกเขาจะตื่นขึ้นทั้งหมด
ต่อสู้และแย่งชิงเพื่อครองตําแหน่งจอมยุทธ์ระดับสุดยอดในพิภพนี้!
ทุกชีวิตต่างถอนหายใจและตั้งตารอคอยการมาของยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ของโลกนี้
มีแม้กระทั่งเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนที่กําลังเคลื่อนไหว เตรียมพร้อมที่จะตื่นขึ้นทุกเมื่อแต่เกรงว่าพวกเขาจะคาดไม่ถึง
ทุกอย่างเป็นผลมาจากฉินมู่ที่อยู่เบื้องหลัง
ทุกสรรพชีวิตตอบสนองการเคลื่อนไหวของยอดฝีมือโบราณเหล่านั้นเป็นเหมือนตัวหมากที่
วางบนกระดานโดยฉินมู่และทุกการเคลื่อนไหวทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา!
PS: เรียกเขาว่าจอมบงการได้จริงๆ